เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique - AST บทที่ 247 - ส่วนผสมของการปรุงยา? ระดับที่ 1 ของระฆังสะท้านจิต
- หน้าแรก
- เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique
- AST บทที่ 247 - ส่วนผสมของการปรุงยา? ระดับที่ 1 ของระฆังสะท้านจิต
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่ 247 – ส่วนผสมของการปรุงยา? ระดับที่ 1 ของระฆังสะท้านจิต
ชิงสุ่ยจ้องมองใบหน้าที่งดงามของหญิงสาว ถึงแม้ความงดงามของเธอนั้นยังคงไม่อาจเปรียบเทียบได้กับชางห่ายหมิงเยวี่ยและแม้ว่าเสน่ห์ของเธอก็ยังไม่อาจเปรียบเทียบกับห่าวหยุนลิ่วลี่ได้ แต่อย่างน้อยรูปลักษณ์ของเธอยังคงดูงดงามและมีระดับ
"ฮ่าๆๆๆ ใบส่วนผสมนี่ก็ไม่เลวนะ ที่คนอื่นไม่อาจใช้ประโยชน์จากมันได้อาจเป็นเพราะว่าส่วนผสมของมันนั้นหายากเกินไป เจ้าดูนี่สิ ถ้าหากเจ้ารู้สึกว่ามันคุ้มค่าถ้า ข้าจะมอบมันให้แก่เจ้า แต่ถ้าหากว่าไม่ พวกเราคงจะต้องพูดคุยกันอีกครั้ง เจ้าว่าอย่างไรล่ะ?"
ชิงสุ่ยรับเอากระดาษเงินที่หญิงสาวส่งมาให้ ก่อนที่จะอึ้นตะลึงกับคำ 5 คำที่อยู่ด้านบนสุด
ยาเม็ดวิศิษฐ์โฉม!!!
ชิงสุ่ยรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่ายาเม็ดถัดไปที่จะถูกปลดผนึกภายในทะเลแห่งปัญญานั้นจะต้องไม่ใช่สิ่งอื่นไกลนอกเสียจาก ยาเม็ดวิศิษฐ์โฉม
เขาจึงรีบมองดูส่วนของข้อมูลที่ถูกบันทึกเอาไว้ ส่วนผสมที่จำเป็น "ผลวิศิษฐ์โฉม ไผ่หยก เง็กเต็ก แก่นแท้สกัดพสุธา 1000 ปี กลิ่นชะมด โลหิตมังกรหัวไก่ 1000 ปี และโลหิตเต่า 5000 ปี
ขณะที่เขามองดูข้อมูลเหล่านี้ เขาก็รู้สึกแปลว่าส่วนผสมที่ถูกผนึกเอาไว้ในทะเลแห่งปัญญากำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง ราวกับว่ามีข้อมูลบางอย่างกำลังเข้ามาเพิ่มเติม แถบค่าประสบการณ์ที่มีประมาณครึ่งนึงก่อนหน้านี้ซึ่งเตรียมไว้สำหรับการปลดผนึกสูตรยาเม็ดวิศิษฐ์โฉม กลายเป็นความว่างเปล่า และต้องใช้คะแนนถึง 500000 หน่วยเพื่อเติมเต็มมัน
ยาเม็ดวายุธราพื้นฐาน!!!!
นี่เป็นยาเม็ดอีก 1 ชนิดที่ชิงสุ่ยความรู้สึกคุ้นเคย มันช่างคล้ายคลึงกับยาเม็ดที่อยู่ในเกมส์ที่เขาเคยเล่นจากชีวิตของโลกก่อนหน้านี้ เขาไม่แน่ใจว่าผลลัพธ์มันจะเป็นอย่างไร เพราะว่าทั้งยาเม็ด 5 มังกรและยาเม็ดฟื้นฟูขนาดใหญ่นั้นช่างแตกต่างจากความทรงจำที่เขาเคยมี
ชิงสุ่ยอยากจะดูสูตรการปรุงยาต่อ แต่เนื่องจากหญิงสาวคนนั้นยังคงอยู่ที่เดิม เขาจึงตัดสินใจละทิ้งเรื่องของสูตรส่วนผสม เพราะมันคงไม่ดีนะถ้าหากเขาสนใจสิ่งอื่นและมาทำการที่โง่เขลาโดยการเมินเฉยๆหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า
"ตั้งแต่ที่ข้าได้เห็นส่วนผสมของเจ้า ข้าก็ยอมรับการแลกเปลี่ยนนี้ อย่างไรก็ตามผลของมันนั้นจะสามารถรักษารูปลักษณ์ได้อีก 30 ปี มันช่างน่า………แล้วมังกรหัวไก่ 1000 ปีจะมีจริงๆหรือ"ชิงสุ่ยกล่าวด้วยความหงุดหงิด
"เป็นนักปรุงยาด้วยอย่างนั้นหรือ?"หญิงสาวรู้สึกประหลาดใจในคำพูดของชิงสุ่ยเธอจึงถามกลับ
"ข้าเพียงแค่พิจารณา แต่ก็อาจจะกลั่นมันออกมาได้ ช่างน่าเสียดายที่ส่วนผสมของมันนั้น เป็นส่วนผสมที่แทบจะไม่มีโอกาสรวบรวมมาได้เลย"ชิงสุ่ยตอบกลับพร้อมเสียงถอนหายใจ มันช่างเหมือนกับข้อจำกัดขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นแบบเดียวกับยาเม็ด 5 มังกร และยาเม็ดฟื้นฟูขนาดใหญ่
"ถ้าหากเจ้าสามารถกลั่นยาเม็ดวิศิษฐ์โฉม ได้สำเร็จในอนาคต ไม่ทราบว่าเจ้าจะขายมันให้กับข้าได้หรือไม่?"หญิงสาวกระพริบตามองไปที่ชิงสุ่ยอย่างมีความหวัง
"เจ้าคิดว่าข้าจะทำสำเร็จจริงๆอย่างนั้นหรือ?"ชิงสุ่ย เหลือบมองดูหญิงสาวคนนี้ ทั้งที่เขาบอกว่าส่วนผสมของมันนั้นแทบจะเป็นสิ่งที่หาไม่ได้
หญิงสาวส่ายหน้าเบาๆขณะที่เธอยิ้ม "ข้าพูดจริงๆ แม้ว่าเหตุผลทั้งหมดจะบ่งบอกว่ามันไม่อาจจะเป็นไปได้ ตามสัญชาตญาณของข้านั้นกลับบอกอีกอย่างหนึ่ง ไม่เพียงแต่ข้าจะเชื่อเจ้า แต่ข้ายังเชื่ออีกว่าเจ้าจะใช้เวลาเพียงไม่นานเท่านั้นในการกลั่นมันจนสำเร็จ "
ชิงสุ่ยต้องมองหญิงสาวขณะที่เขาครุ่นคิด สัญชาตญาณของหญิงสาวเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลก
"เจ้ารู้จักผลวิศิษฐ์โฉมหรือเปล่า? แล้วเจ้าเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพวกมัน?"
"มันเป็นชื่อที่แปลกมาก แม้ว่าข้าจะอ่านหนังสือมากว่า 100000 เล่มแล้วก็ตาม ข้าก็ยังไม่เคยได้ยินชื่อของมันเลยไม่ว่าที่ใดก็ตาม "หญิงสาวคนนั้นตัดสินใจตอบด้วยความจริง เธอไม่กลัวว่าชิงสุ่ยจะเปลี่ยนความคิดในการซื้อขายกับเธอ
"บางทีผู้คนบนโลกนี้อาจจะไม่ได้เรียกมันว่าผลวิศิษฐ์โฉม?"ชิงสุ่ยขมวดคิ้ว
"ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าถ้าหากถ้าสามารถกลั่นมันได้สำเร็จ ข้าจะมอบมันเป็นของขวัญแต่เจ้า แต่ก่อนอื่นเจ้าจะต้องเลี้ยงอาหารมื้อเย็นแก่ข้า"ชิงสุ่ยยิ้มและก้าวเดิน
หญิงสาวคนนั้นขมวดคิวเล็กน้อยก่อนที่จะตัดสินใจเดินตาม
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจทั้งหมด เมื่อชิงสุ่ยกลับมาถึงที่พักสิ่งแรกที่เขาทำคือการเข้าสู่ดินแดนห้วงมิติและเริ่มทบทวนสิ่งที่อยู่ในทะเลแห่งปัญญา
ส่วนผสมสำหรับยาเม็ดวิศิษฐ์โฉมมีการปรับปรุงใหม่ ส่วนผสมต้องใช้คือ " ผลวิศิษฐ์โฉม ผลเสริมปราณ ผลเสริมความว่องไว ผลเสริมปราการ ผลเสริมปราการ ไผ่หยก เง็กเต็ก แก่นแท้สกัดพสุธา 1000 ปี กลิ่นชะมด โลหิตมังกรหัวไก่ 1000 ปี โลหิตเต่า 5000 ปี เห็ดหลินจือ 1000 ปี โสม 1000 ปี รากห่อสิ่วโอว 1000 ปี
"ทำไมส่วนผสมที่ปรากฏในความคิดของข้านั้นถึงได้มากกว่าสิ่งที่ถูกจัดอยู่ในบันทึกที่ข้าได้รับ?"ชิงสุ่ยเต็มไปด้วยคำถามนะความสับสน
รูปรักจะคงอยู่อีก 30 ปี และความแข็งแกร่งจะเพิ่มขึ้นอีก 20%
ชิงสุ่ยต้องการที่จะหัวเราะเพราะส่วนผสมที่หายากต่างๆนั้น มันอยู่ในดินแดนห้วงมิติของเขาแทบทั้งหมด เพียงแต่พวกมันนั้นยังคงมีอายุเพียง 300 ปี และหากผนวกกับดอกไม้แห่งชีวิตที่เขาเพิ่งได้รับ มันคงช่วยลดเวลาให้เขาได้อย่างน้อยตอนนี้ 10%
ข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือดินแดนหยกยุพราชอมตะ นอกจากเขาจะสามารถเพิ่มเพลินกับผลกระทบด้านเวลาที่เกิดขึ้น เขายังได้รับต้นไม้และผลไม้แปลกๆในทุกๆครั้งที่เขาสามารถยกระดับดินแดนแห่งนี้ได้
เขาไม่ค่อยใส่ใจมากนักกับการดูแลรักษารูปร่างหน้าตา แต่เมื่อเห็นคำว่าความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น 20% หัวใจของเขาเหมือนถูกจุดประกายด้วยประโยชน์ เขาเพียงแค่ต้องตามหาผลวิศิษฐ์โฉมที่ไม่มีผู้ใดรู้จักให้เจอ ซึ่งยาเม็ดนี้คงจะเป็นยาเม็ดระดับราชันย์ขั้นที่ 2 อย่างแน่นอน
หลังจากที่เขาออกจากทะเลแห่งปัญญา ชิงสุ่ยค่อนข้างหดหู่ใจในขณะที่มองดูใบส่วนผสมต่างๆที่อยู่ในมือ มันจะไม่ให้เขาหดหู่ใจได้อย่างไร ในตอนนี้ยาเม็ด 5 มังกรหากเพียงหญ้าจันทรา ส่วนยาเม็ดฟื้นฟูขนาดใหญ่ขาดเพียงหางนกหงส์เพลิง ส่วนยาเม็ดวิศิษฐ์โฉมก็ขาดเพียงผลวิศิษฐ์โฉม
เขาละทิ้งความรู้สึกทั้งหมดและกลับไปเข้าสู่การฝึกฝนพลังเพื่อยกระดับเคล็ดวิชากายาบรรพกาล และตอนนี้เขาติดอยู่ที่ การโคจรพลังปราณรอบที่ 89 แม้ว่าเขาจะหาวิธีฝึกฝนทุกวิธีทางในตอนนี้เขาก็ยังไม่อาจก้าวข้ามขึ้นไปสู่รอบที่ 90 ได้ จู่ๆเขาก็นึกถึงเรื่องของระฆังสะท้านจิตที่เขาได้รับมาก่อนหน้านี้
ชิงสุ่ยจึงหยิบระฆังสะท้านจิตขึ้นมาทดสอบกับวิหคเพลิงของเขา แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเพราะถ้าหากเกิดเหตุผิดพลาดมันจะสายเกินกว่าจะเสียใจ
แต่เขาก็ยังคงคิดที่จะลองมัน เขาจับระฆังขึ้นมาพร้อมทั้งถ่ายเทพลังปราณจากเคล็ดวิชากายาบรรพกาลเข้าไปและเริ่มสั่นระฆังเบาๆ
"แกร่ง แกร่ง" เสียงดังออกมาเจาะทะลุผ่านแก้วหูไป
…………….มันไร้ผล?
ชิงสุ่ยมองเห็นวิหคเพลิงที่อยู่ห่างไกล ยังคงไร้ปฏิกิริยาใดๆ หลังจากที่เขาสั่นระฆัง และแล้วพลังปราณที่อยู่ในระฆังก็หมดลงหลังจากที่เขาสั่นมัน ถ้าหากเขาต้องการใช้งานมันอีกครั้ง เขาก็จะต้องถ่ายเทพลังปราณมากกว่าครั้งที่แล้ว
ในครั้งนี้เมื่อเขาถ่ายเทพลังปราณเข้าไปในระฆัง ระฆังก็แปรเปลี่ยนเป็นสีม่วง ชิงสุ่ยจึงรีบใช้เนตรสวรรค์ของเขามองดูระฆังในทันที
ในระดับที่ 1 หลังจากที่สั่นระฆัง มันจะทำให้สัตว์อสูรที่อยู่รอบ 200 เมตร เข้าสู่สภาวะบ้าคลั่งไม่อาจแยกแยะความแตกต่างระหว่างมิตรและศัตรูได้ มันจะทำการโจมตีทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆอาณาบริเวณนั้น
ชิงสุ่ยจำได้อย่างชัดเจนว่าในครั้งแรกที่เขาได้ใช้เนตรสวรรค์ในการตรวจสอบนั้น ภายในระฆังเขาไม่ได้พบสิ่งใดๆเลย
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เขาเริ่มสั่นระฆัง ความรุนแรงของมันในครั้งนี้เจาะทะลวงลึกเข้าผ่านรูหูที่พร้อมจะฉีกกระชากด้วยความดังที่มากกว่าครั้งก่อน ในครั้งนี้เขาไม่ได้มุ่งเป้าไปที่วิหคเพลิงขอเขา เพราะเขารู้ดีว่าครั้งนี้มันคือหายนะที่แท้จริงของสัตว์อสูร ถ้าหากว่าเขาสามารถสั่นระฆังเพื่อแสดงระดับขั้นพลังที่ 9 หรือ 10 ออกมา พลังอำนาจแห่งระฆังคงจะทำให้สัตว์อสูรถูกแย่งชิงจิตวิญญาณ หรืออาจทำให้ผู้มันตายได้ในทันที