เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique - AST บทที่ 238 - ช่างตีเหล็กที่หยิ่งยโส ชิงห่าน ยี่ จากนิกายสราญรมย์!
- หน้าแรก
- เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique
- AST บทที่ 238 - ช่างตีเหล็กที่หยิ่งยโส ชิงห่าน ยี่ จากนิกายสราญรมย์!
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่ 238 – ช่างตีเหล็กที่หยิ่งยโส ชิงห่าน ยี่ จากนิกายสราญรมย์!
คำพูดของชิงสุ่ยที่กล่าวออกมา ทำให้ชายหนุ่มคนนั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขาจ้องมองไปที่ชิงสุ่ย ด้วยสายตาที่มั่นใจว่าเขาจะต้องได้รับชัยชนะเป็นแน่ เขาได้พูดเสริมออกไปว่า "ถ้าเจ้าพ่ายแพ้ให้กับข้า เจ้าต้องตามข้ากลับไปที่ตระกูลของข้า และต้องเป็นช่างตีเหล็กของข้า และเจ้าต้องเป็นฟังขำสั่งของข้าแต่เพียงผู้เดียว! "
"แน่นอน แต่ถ้าเจ้าพ่ายแพ้ ข้าต้องการให้เจ้าถือป้ายของร้านข้า และเดินไปบนท้องถนนเป็นเวลาสามวัน" ชิงสุ่ยหัวเราะขณะที่เขาชี้ไปที่ป้ายที่พึ่งสร้างขึ้นใหม่
ในช่วงเวลานั้นได้เกิดเสียงที่อึกทึกครึกโครมดังขึ้นจากกลุ่มคนภายนอกร้าน "นายน้อยผัง" ร้านนี้ไง คือร้านที่ข้ากำลังพูดถึง! "
ชิงสุ่ยหรี่ตาเล็กน้อย เพราะเขาเห็นกลุ่มชายที่สวมใส่ชุดสีขาวและพบกระบี่ยาวที่กำลังเข้ามาในร้านของเขา ขณะที่ลูกค้ารายอื่น ๆ เมื่อเห็นเครื่องแบบของพวก ลูกค้าคนอื่นๆได้หลีกทางให้และออกไปยืนอยู่ข้างๆ ไม่มีใครที่กล้าที่จะขัดขวางเส้นทางของพวกเขา
เมื่อเห็นชุดเครื่องแบบของนิกายกระบี่อมตะ, ไม่สามารถหยุดหัวเราะด้วยความขมขื่น เมื่อเขาเจ้าอ้วนใหญ่เดินเข้ามา ชิงสุ่ยรู้สึกได้ทันทีว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้
"เจ้าอ้วนน้อยนี่เป็นคนที่ทำให้ท่านเสียหน้าก่อนหน้านี้" ชายวัย 30 ปีกำลังมองไปที่เจ้าอ้วนที่อยู่ข้างๆเขา
"เจ้าอ้วนน้อย" ชิงสุ่ยเกือบจะถ่มน้ำลายออกมาเล็กๆ? นั้นน้อยมารดาเจ้าสิ! ชิงสุ่ยจ้องมองที่ดวงตาของชายฉกรรจ์ที่อยู่ด้านข้างของเจ้าอ้วน เขาสามารถมองเห็นได้ถึงความประสงค์ร้ายในสายตาของชายคนนั้น
"พี่น้องทั้งหลายเขาคือคนที่ทำให้ข้าอับอาย และไม่เพียงแค่นั้นเขายังทำให้นิกายของเราต้องอับอายอีกด้วย "เจ้าอ้วนตอบกลับไปด้วยท่าทางคับข้องใจมีได้แสดงออกมาจากในดวงตาของเขา
"ข้าไม่เข้าใจเลยว่าว่าทำไมท่านปู่ถึงไม่ต้องการให้ข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเขา” “ น้องชายไม่ต้องกังวล พี่ชายคนนี้ของเจ้าจะแก้แค้นให้เจ้า จะจัดการกับปัญหาและความทนทุกข์ทรมานที่เจ้าได้รับมาเอง "ชายหนุ่มหัวเราะออกมา ใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจ เมื่อมองไปเจ้าอ้วน
"ไม่ต้องเป็นห่วงพี่ชายของข้า ข้าจะจัดเตรียมสาวงามที่อยู่บนชั้นบนสุดของ คฤหาสน์โบตั๋น ให้ท่าน เพื่อความเพลิดเพลินและสนุกสนานกับท่าน" เจ้าอ้วนพูดออกมาเบาๆ แต่ชิงสุ่ยได้ยินคำพูดของเขาชัดเจน ราวกับว่าเจ้าอ้วนได้ยืนอยู่ข้างๆเขา .
คฤหาสน์โบตั๋น เขากล่าวถึงมันอีกครั้งแล้ว? ชั้นบนสุดมันมีอะไร … มีความแตกต่างกันยังไง? ชิงสุ่ยต้องการถาม หมิงเหวี่ย เกี่ยวกับคฤหาสน์โบตั๋น แต่เขาก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาเขาได้ทำให้เธอโกรธเขาอยู่ ด้วยอารมในตอนนี้เธอไม่มีทางตอบคำถามเขาเป็นแน่
เขารู้สึกกังวลและกระวนกระวายใจ ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าเขานั้นทำให้หมิงเหวี่ยโกรธได้อย่างไร ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้คนบอกว่าผู้หญิงที่สวยๆ ทุกคนนั้นเอาใจยาก
"เด็กน้อยเจ้ารู้หรือไม่ว่าเรามาจากนิกายกระบี่อมตะ?" เสียงที่หนักแน่นและหยาบกระด้านได้กึกก้องออกมา ชิงสุ่ยได้ออกจาภวังค์ของเขา เจ้าของเสียงนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากชายหนุ่มที่มีรูปร่างอ้วนพี
"แน่นอนข้ารู้" ตรงกันข้ามชิงสุ่ยไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย เขายังคงยิ้มแย้มขณะที่ตอบออกไป
"น้องชายเจ้านั้นไม่ได้ดูจะเป็นคนโง่เลย แต่ทำไมเจ้าถึงได้กระทำสิ่งที่โง่เขลาลงไป? ข้าละไม่เข้าใจเจ้าจริงๆ "ชายฉกรรจ์คนหนึ่งหัวเราะเยาและส่ายหัว
"ที่เจ้าไม่เข้าใจเพราะเจ้านั้นโง่เหมือนหมูไง "ชิงสุ่ยตอบอย่างไม่แยแส แต่น้ำเสียงของเขา ทำให้ความโกรธของชายคนก่อนหน้าเพิ่มขึ้นมาจนเกิดขีดจำกัด
"เจ้าลูกโสเภณี เจ้าอยากตายใช่มั้ย? "ชายฉกรรจ์ได้ฟาดกระบี่ของเขาไปยังชิงสุ่ยทันที!
จุดอ่อนของชิงสุ่ยไม่ใช่ใครอื่นนอกจากแม่ของเขา ไม่ว่าคำจะเป็นพูดหรือการกระทำใด ๆชิงสุ่ยมักจะให้ความสำคัญกับแม่ของเขาเป็นสิ่งแรก แต่ชายคนนั้นกลับดูถูกแม่ของชิงสุ่ยออกมาในตอนนี้
ตาของชิงสุ่ยหรี่ลง สายตาของเขาเปลี่ยนไปคมชัดเหมือนคมกระบี่ เขาคว้าค้อนขนาดใหญ่ไว้ในมือของเขาและฟาดไปข้างหน้าด้วยทำให้เกิดเสียงที่ดังเหมือนฟาร้อง
โครม โครมม!
ในขณะนั้นชิงสุ่ย ได้โจมตีออกเป็นสองครั้งในช่วงเวลาเพียงพริบตา เสียงคำรามดังได้ดังกึกก้องสะท้อนออกมาท่ามกลางกองเลือด ด้วยความโกรธชิงสุ่ยได้ฟาดลงที่ศีรษะของเป้าหมายจนไม่เหลือชิ้นดี เศษเล็กเศษน้อยได้กระจายไปทั่ว สภาพตอนนี้มันดูคล้ายแค่เศษเนื้อเท่านั้น
"ใครก็ตามที่บังอาจดูถูกแม่ของข้า มันต้องตาย" ชิงสุ่ยพูดออกมาเบาๆ ขณะที่เขาหันไปจ้องมองฝูงชนที่ตกตะลึง
หยิ่งยโส! นี่คือความเย่อหยิ่งที่แท้จริง!
"เจ้าอ้วน ข้าเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้นิ ถ้าข้าเห็นหน้าเจ้าอีกครั้ง ข้าจะทำให้เจาสูญพันธ์ เจ้าลืมไปแล้วเหรอ? " ชิงสุ่ยได้จ้องมองที่เจ้าอ้วน หลังจากนั้นค้อนในมือของเขาทุบออกไปที่ท่อนล่างของร่างกายของเจ้าอ้วนมันทันที
"ไม่, มะ…ไม่นะ” เจ้าอ้วนกรีดร้องออกมา แต่ทุกอย่างมันสายเกินไปแล้ว
“ไปให้พ้น ถ้าเจ้ายังต้องกลับมาที่นี้อีก ก็หาคนที่มีความเข็มแข็งมากเพียงพอมาด้วย "ชิงสุ่ยหันหน้ากลับไป ขณะที่เขายิ้มและพูดกับสมาชิกคนอื่นๆของนิกายกระบี่อมตะผู้ซึ่งเปียกโชกด้วยเลือด
ตั้งแต่เริ่มแรก ชิงสุ่ยไม่ได้มีความรู้สึกที่ดีกับสมาชิกของนิกานนกระบี่อมตะ เขามีข้อพิพาทกับ คุณชายเฟิง, ตาแก่เฟิง และผู้อาวุโสอีกสองสามคน แต่ตอนนี้เขาได้มีปัญหาขนาดใหญ่กับเจ้าอ้วนอีกเพิ่มขึ้นมา
สาวกของนิกายกระบี่อมตะได้นำร่างของเจ้าอ้วนที่หมดสติออกไปขณะ แต่ในขณะนั้นเกิดภาพที่แปลกประหลาด เหงื่อจำนวนมากได้ไหลหยดลงอย่างไม่หยุดยั้งบนใบหน้าของชายหนุ่มที่อยู่ในเทียนเซียนระดับหนึ่ง เขาได้สังเกตเห็นพลังปราณที่ทรงพลังของชิงสุ่ย ทำให้เขารู้ตัวแล้วว่าเขาได้ทำสิ่งที่ผิดพลาดที่เขาไม่ควรกระทำออกไป
"ช่างตีเหล็กคนนี้แข็งแกร่งอย่างมากมาก!" ชายหนุ่มอีกคน ตั้งข้อสังเกต
"ตอนนี้ข้าประจักรแล้วว่าทักษะของช่างตีเหล็กนอกจากใช้ในการสร้างยุทธภัณฑ์ต่าง มันยังสามารถใช้เพื่อฆ่าคนได้ ค้อนของพวกเขาเป็นอาวุธที่ทรงพลังอย่างมากของ… "ชายคนหนึ่งกล่าว
"ข้าอยากแต่งงานกับช่างตีเหล็กจริงๆ!" หญิงสาวที่ดูธรรมดาถูกสะกดด้วยการกระทำนั้น ขณะที่เธอพึมพำออกมา
"ทำไมข้าถึงไม่คิดที่จะเรียนรู้ทักษะช่างตีเหล็ก ตอนที่ข้ายังเล็กอยู่?" ชายที่อายุมากเสียใจ
ชิงสุ่ยได้เปลี่ยนมุมมองของ ชายหนุ่มที่มีความความมั่นใจก่อนหน้านี้ ชิงสุ่ยได้หันพูดว่า “การประลองระหว่างพวกเขายังไม่เริ่มต้นขึ้นเลย”
"อย่าสู้กันอีก ข้ายอมแพ้ ข้าจะถือป้ายนั้นไว้สามวัน!" ชายหนุ่มรีบตอบด้วยด้วยความร้อนรน
ชิงสุ่ย ไม่สามารถยับยั้งรอยยิ้มที่เกิดขึ้นมาได้ ความกลัวไม่เพียงพอที่จะอธิบายถึงความรู้สึกที่ลูกค้ารายคนอื่นๆในขณะนี้ พวกเขาได้รู้ซึ้งถึงความน่ากลัวของชิงสุ่ย หลังจากที่พวกเขาได้เห็นการกระทำที่นองเลือดของชิงสุ่ย ตอนนี้พวกเขาได้เห็นรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของชิงสุ่ยอีกครั้งอีกครั้ง พวกเขาคิกว่าชิงสุ่ยนั้นเหมือนปิศาจที่ร้ายกาจอย่างมาก แต่ทำไมเขาถึงน่าสนใจอย่างนี้?
หลังจากฝูงชนได้กระจายออกไป มือซ้ายของชิงสุ่ยก็ยังคงถือกระบี่นภาสัมฤทธิ์ มันไม่มีคราบเลือดติดอยู่แม้แต่น้อย เพราะ ชิงสุ่ยได้ตัดสินใจมอบมันเป็นของขวัญให้กับลิ่วลี่และนี่เป็นอีกเหตุผลที่เขาเลือกที่จะใช้ค้อนก่อนหน้านี้ แทนการใช้กระบี่ของเขา
เมื่อความวุ่นวายนั้นช่วงบ่ายผ่านพ้นไปแล้ว ชิงสุ่ยได้คว้าค้อนที่เต็มไปด้วยเลือกและล้างมันออก ต่อจากนั้นเขาเตรียมที่จะขึ้นรูปยุทธภัณฑ์อีกครั้ง มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้าไปในร้านของเขา เธอมีความงามอย่างมาก ทุกๆการเคลื่อนไหวของเธอเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ไม่น่าเชื่อ ภาพในอดีตได้ปรากฏขึ้นมาในใจของชิงสุ่ย เขารู้ว่าภาพเหล่านั้นเป็นของเธออย่างแน่นอน มันได้ถูกบันทึกไว้ในความทรงจำของเขา และในอนาคตหากเขาได้พบกับเธออีกครั้งเขาไม่มีทางลืมเธอไปแน่ ภาพความทรงจำที่เขาพบเจอเธอครั้งแรกมันจะคอยย้ำเตือนเขาอยู่เสมอ
เธอมีดวงตาสีเดียวกับดอกเหมย มีจมูกที่โด่ง และริมฝีปากสีชมพู ริมฝีกปากเธอนั้นโค้งงออย่างสวยงาม เธอได้ยิ้มอย่างนุ่มนวลขณะที่เธอจ้องมองไปที่ชิงสุ่ย
ชิงห่านยี่ จากนิกายสราญรมย์