เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique - AST บทที่ 232 - ต้นอโศก1000ปี
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่ 232 – ต้นอโศก1000ปี
"นายน้องผัง ข้าขายให้ท่านได้ในราคา10,000 เท่านั้น ข้าไม่สามารถลดให้ท่านได้มากกว่านี้ ๆแล้วนี่เป็นทั้งหมดที่ข้าให้ได้จริงๆครั้งนี้นับว่าเป็นการสูญเสียอันใหญ่หลวงสำหรับครอบครัวของข้าแล้ว! "ชายชราที่มีผมสีขาวยาว ได้ร้องอ้อนวอนออกมาด้วยใบหน้าที่แสนเจ็บปวด
ชายชราจับลงไปบนแท่งไม้สีดำอย่างแน่น ชิงสุ่ยสามารถคาดเดาได้ว่า " แท่งไม้สีดำที่อยู่ในมือชายคนนั้นต้องเป็นของที่มูลค่า 10,000 เหรียญอย่างแน่นอน?"
กิ่งของไม้ชนิดนี้ยังไม่เป็นสิ่งที่รู้จักรอาณาจักรของเขา มันเป็นสิงของที่ค่าอย่างมหาศาล และเต็มด้วยปริศนาอีกมากมาย เมื่อเขามองไปที่มันขณะอยู่ในมือชายชรา เขาไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดทั้งหมดของมันได้ แต่ก็พอจะบอกรูปร่างคราวๆของมันได้ขนาดของมันหนาพอ ๆ กับแขนของเขา
“เจ้ารู้ไหม ข้าคือนายน้อยผัง เมื่อข้าต้องการสิ่งใดข้าต้องได้มัน ไม่มีสิ่งใดที่ข้าไม่เคยไม่ได้ ” หัวที่กลมและใหญ่ของเขาได้เงยขึ้นเล็กน้อย แต่มันก็ไม่มากพอที่จะให้เห็นคอของเขา
ชิงสุ่ยรู้สึกอยากหัวเราะออกมากับทีที่หยิ่งยโสของนายน้อยผังผู้นี้ การกระทำของเขาเหมือนกับกว่า ตัวเขานั้นเป็นคนที่มีหล่อเหลา และอำนาจมากมาย แถมยังเป็นคนที่รำรวยมหาศาล แต่ในสิ่งที่เขาเป็นในความจริงมันทำให้ภาพพจน์ของเขาดูแย่ และเป็นคนที่ใจแคบอย่างมาก
" นายน้อยผัง ข้าแค่ทำการค้าขายเล็กๆเท่านั้น ทั้งชีวิตข้า ไม่แน่ข้าอาจไม่สามารถหาเงิน จำนวนมากมาได้ นี้เป็นเพียงของเพียงสิ่งเดียวที่เพื่อนของข้าให้ยืมมาขายเท่านั้น อย่าบีบบังคับกันเลยได้ไหม "ชายชราเริ่มร้องไห้ออกมา
"เจ้าแก่ เจ้าเลิกทำตัวน่าสงสารวะเถอะ เจ้าคิดว่าวิธีนี้จะสามารถทำราคาของมันสูงขึ้นใช่หรือไม่? เจ้ากำลังแสดงละครหลอกทุกคนๆใช่มั้ย "เจ้าอ้วนพอใจกับคำพูดของตัวเองเป็นอย่างมาก เขาได้ได้กล่าวออกไปด้วยเสียงที่ดังเพื่อให้คนแถวนั้นได้ยิน อย่างต่อเนื่อง
"เจ้ามันเป็นคนที่เลวจริงๆ เจ้ามันแค่ขยะสังคม เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นคนที่ฉลาดอย่างมากสินะที่เปิดเผยเรื่องนี้ให้คนอื่นรู้?มีใครบังคับเจ้าให้ซื้อมันหรือไม่ มีใครใช้ มีดจ่อที่คอของเจ้าและบังคับให้เจ้าซื้อจากชายชราคนนั้น? "
ประโยคดังกล่าวนั้นได้ถูกพูดออกมาโดยชิงสุ่ย เขาไม่สามารถมองดูชายชราถูกกดขี้ได้อีกต่อไป และเขาก็รู้ว่าชายชรานั้นไม่ได้แกล้งแสดงออกมา ตั้งแต่แรกเห็นจิตใจของชิงสุ่ยสามารถบ่งบอกได้ว่าสิ่งที่ชายชรากล่าวนั้นคือความจริง
"ใคร … ใครกล่าวออกมา? ออกมาสิ ถ้าเจ้ามีความกล้า ทำไมต้องหลบซ่อน? ข้าจะทำให้เจ้าต้องชดใช้กับสิ่งที่เจ้าพูดด "เจ้าอ้วนกล่าวออกมาด้วยความโกรธและท่าทางที่ดุดัน
ชางห่าย หมิงเยวี่ย และ ห่าวหยุน ลิ่วลี่ ยิ้มและมองดูไปที่ ชิงสุ่ย สิ่งที่ชิงสุ่ยกล่าวออกมาทำให้พวกเธอเกือบที่จะหัวเราะออกมา
"มองไปที่การกระทำที่ขี้ขลาดของเจ้าสิ ข้าไม่คิดเลยว่าจะได้ยินขำพูดของเดรัจฉานออกมาจากปากสุกรอย่างนี้?" ชิงสุ่ย ยิ้มเยาะและเดินออกไปหาเจ้าอ้วน
คำพูดของชิงสุ่ยได้จี้ลงไปที่ใจดำของเขา คำพูดนั้นทำฝูงชนหัวเราะเยาะเย้ยออกมา เมื่อได้เห็นฉากดังกล่าวใบหน้าที่คล้ายหมูของเขาได้เปลี่ยนเป็นสีแดง ดวงตาของเขามีขนาดเล็กเกินคนทั่วไปจะมองเห็น กำลังจับจ้องมองไปที่ชิงสุ่ยด้วยความอาฆาต แต่ชิงสุ่ยกลับคิดว่ามันเป็นเพี้ยงการแสดงของตัวตลกเท่านั้น
"ฆ่ามัน, ตีมันให้ตาย ตีมันให้มันพิการ !" เจ้าอ้วนตะโกนใส่ลูกน้องที่ใส่ชุดสีขาวรอบ ๆ ตัวเขา พวกเขาได้จู่โจมมาที่ชิงสุ่ยโดยใช้ดาบยาวฟาดมาที่ชิงสุ่ยโดยทันที
ชิงสุ่ยคิดว่าคำพูดของเจ้าอ้วน ที่ได้กล่าวที่ว่า "ฆ่ามัน ตีมันให้ตาย ตีมันให้มันพิการ " คำพูดดังกล่าวเป็นคำพูดที่หน้าเกรงขามอย่างมากแต่พอหลุดออกมาจากปากของ เจ้าอ้วนกลับทำให้ความเกรงขาดนั้นหมดไปไม่หลงเหลืออยู่เลย
เขามองไปที่คนเหล่านั้นที่พุ่งเข้ามาหาเขา เนื่องจากความต้องของเจ้าอ้วนที่ต้องการจะฆ่าเขา เขาจึงตัดสินใจจะที่จะทำให้เจ้าอ้วนนั้นได้เห็นกับนรกที่แท้จริง
เขาได้หลบหลีกการโจมตีอย่างช้าๆครั้งแล้วครั้งเล่า และกำลังเข้ามาใกล้เจ้าอ้วนอย่างรวดเร็ว เมื่อเจ้าเห็นว่าชิงสุ่ยสามารถผ่านการโจมที่ต่างมาได้และกำลังมุ่งเข้ามาหาเขา เขาได้ตกใจอย่างมาก
"ปิดกั้นเขาและฆ่ามันให้ตาย ฟันมันให้ตาย และเราจะไป คฤหาสน์โบตั๋น เพื่อสร้างความสนุกกันในคืนนี้ "เจ้าอ้วนตะโกนออกมาอย่างดัง
ด้วยความเร็วของชิงสุย เขาอยู่ห่างจากเจ้าอ้วนเพียง 5 เมตรเท่านั้น เมื่อเห็นภาพดังกล่าวใบหน้าที่เคยแดงกล้ำของเจ้าอ้วนได้เปลี่ยนเป็นซีดขาวในทันที่ถึงแม้รอบการเขาจะมีคนคุ้มกันนับสิบคนก็ตาม
ชิงสุ่ยที่กำลังหลบกระบี่ที่มีความเร็วเท่าหอยทาก มองไปที่เจ้าอ้วนสวมใส่เสื้อผ้าบาง ๆ เนื่องจากฤดูร้อนใกล้เข้ามา เขาได้เกิดความคิดๆหนึ่งเข้ามาในจิตใจของเขา เขายื่นมือออกไปและเขาได้ส่งกระบี่มากมายออกไป
นักกระบี่นับสิบถูกจัดการโดยชิงสุ่ยในพริบตา และนั่นยังไม่เพียงพอ กระบี่เหล่านั้นได้พุ่งตรงไปหาเจ้าอ้วนอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นฉากที่น่าตกใจก็ปรากฏขึ้นมา
บรรดากระบี่ยาวที่ถูกส่งออกไปได้ตัดขาดเสื้อผ้าของเจ้าอ้วน, ชุดของเขาได้ถูกตัดขาดอย่างรวดเร็ว ภายในพริบตาร่างกายที่เปลือยเปล่าของเจ้าอ้วนได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าฝูงชน
ทันใดนั้นฝูงชนในบริเวณนั้นตกใจอย่างเป็นอย่างมาก ไม่มีใครคาดว่าจะเกิดเหตุดังกล่าว เจ้าอ้วนที่ยืนอยู่ตรงกลางกำลังตกใจกับกระบี่นับสิบที่บินมาที่เขาอย่างมาก
ชิงสุ่ยได้มองลงไปที่เจ้าอ้วนที่หน้าขยะแขยง เป็นเรื่องที่หน้าเสียดายอย่างมากที่ของลับของมันไม่ได้เปิดเผยออกมา เพราะร่างกายกายที่เต็มไปด้วยไขมันจำนวนมากของเขาได้ย้อยลงมาปิดของลับของเขาเอาไว้จนเกือบหมด ส่วนที่เหลือถูกปกคลุมไปด้วยเส้นสีดำๆจำนวนมากจนไม่สามารถมองเห็นได้ มันเป็นภาพที่หน้าสังเวชเป็นอย่างมาก
หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆกายเขา ไม่มีใครแม้จะขยับไปแตะต้องร่างของเขา ใบหน้าของพวกเธอเปลี่ยนไปเป็นสีขาวซีดด้วยความกลัว!
หลังจากนั้นสักครู่ เกิดเสียงหัวเราะตามมาอย่างบ้าคลั่ง คนที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างพากันหัวเราะกับภาพที่เกิดขึ้นมา เสียงของการสนทนาได้ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เจ้าอ้วนได้ร้องไห้ออกมาอย่างขมขื่น เมื่อเขามองลงไปที่ตัวเองในตอนนี้
"ท่านแม่ทำไมหนอนของเขามันคล้ายกับของข้าเลย แต่ต่างที่เขาถึงได้มีผมสีดำเป็นจำนวนมากละ ?" เด็กชายตัวเล็ก ๆ ถามอย่างอย่างจริงจัง หญิงสาวที่สวยงามที่เป็นแม่ของเขา
"เด็กๆไม่ควรถามมากนัก เรารีบกลับบ้านกันดีกว่าถึงเวลาเตรียมอาหารเย็นแล้ว "เธอได้หันหลังออกมาด้วยความเขินอาย เธอได้จูงเด็กเล็ก ๆ และเดินออกไปอย่างรวดเร็ว เสียงหัวเราะดังขึ้นรอบๆตัวของเธอ ทำให้เธอต้องเดินเร็วขึ้นกว่าเก่า
หญิงสาววัยกลางหลากหลายคนมองไปที่เจ้าอ้วนด้วยความตลก บางคนรวมตัวกันเพื่อเยาะเย้ยและหัวเราะอย่างสะใจ
"ในที่สุดข้าก็พบคนที่ไร้น้ำยาว่าตาแก่ที่บ้าน ฮ่าฮ่า" ผู้หญิงที่มีรูปร่างอวบอ้วนหัวเราะออกมา
"น้องสาวหลิน แสดงว่าพี่ชายหลินไม่ค่อยมีน้ำยาสินะ" ชายหนุ่มอายุยี่สิบปีล้อเลียน
"นางหันไปจ้องที่ชายคนนั้นด้วยความโกรธ พี่ชายหลินั้นเป็นชาติชายที่แท้จริงเขานั้นมีพละกำลังที่มหาศาล สามครั้งต่อคืนก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเขา "เธอหันไปยิ้มอย่างเหี้ยมโหดกับชายหนุ่ม
“ใครก็ตามนอนอยู่ข้างๆกายของเจ้าอ้วนนี้ คงหวาดระแวงตลอดเป็นแน่ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเจ้าอ้วนนั้นเกิดกลิ้งมาทับร่างของพวกเรา พวกเราคงต้องตายเป็นแน่ ถ้าเกิดเจ้าอ้วนนั้นทับลงมา” หญิงสาววัยกลางคนที่มีรูปร่างที่ดี กล่าวออกมาพร้อมยิ้ม
"ฮ่าฮ่า จริงด้วย ถ้าเกิดเจ้าสัตว์ร้ายนั้นเกิดทับลงมาจริง พวกเราคงได้แบนเป็นใบไม้เป็นแน่ เพียงแค่นึกมัน ก็อะไรที่ก็น่ากลัวเป็นอย่างมากมาก " น้องสาวหลินหัวเราะออกมา
"ข้าอยากรู้จริงๆว่าเขาจะสามารถให้ความสนุกสนานกับผู้หญิงได้หรือไม่ แม้ว่าสิ่งนั้นของเขาจะตั้งอยู่ แต่ข้าก็ไม่สามารถมองเห็นมันได้จริงๆ "มีหญิงสาวที่ยืนอยู่อย่างเงียบ ได้แสดงความคิดเห็นที่แปลกประหลาดออกมา
คำพูดของเธอทำให้เกิดเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นมากกว่าเก่า ที่ดังมาจากหญิงสาวที่ชื่อหลินและหญิงสาวที่ถูกเรียกว่าเยียนหง!
"เจ้าถอดชุดของเจ้าออกมาให้ข้า" เจ้าอ้วนที่กำลังโกรธอยู่ ตะหวาดคนที่อยู่ข้างๆตัวเขา
"อา, นายท่านข้าคิดว่ามันคงจะไม่พอดีกับท่าน!" คนเหล่านั้นตอบออกมา
"ข้าบอกให้ถอดก็ถอดสิวะ ใครใช้ให้เจ้าแสดงความคิดเห็น " เจ้าอ้วนตะโกนด้วยความโกรธ
เขาได้ถอดเสื้อออกและส่งมันให้กับเขา เจ้าอ้วนรีบคว้าไว้เอาไว้อย่างเร็ว เขาพยายามที่จะผูกมันกับรอบเอวของเขา แต่พบว่ามันจะสั้นเกินไปที่จะผูก
"เอามาอีก!" ไขมันตะโกนออกมาอีกครั้ง หลังจากที่คาดด้วยเสื้อสองตัวที่เอวของเขา มันช่วยปกปิดร่างกายที่น่าเกลียดของเขาไว้ได้ และเตรียมตัวหันหลังหนี
"พี่อ้วนข้าบอกเจ้าว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปหรอ ?" เสียงที่ชั่วร้ายของชิงสุ่ยดังออกมา ทำให้ร่างกายของเจ้าไขมันอ้วนทรุดลงไปกองอยู่ที่พื้น เขาหันกลับมองชายที่ทำให้เขาอับอาย น้ำตาของเขาได้ไหลออกมาจากตาทั้งสองข้างด้วยความกลัว
เขานั้นเป็นคนอ้วนที่มีความยโสอย่างมาก ครอบครัวของเขาเป็นคนที่มีฐานะอย่างมากในนิกายกระบี่นภา เขามักจะเดินไปรอบ ๆ กับกลุ่มของคนที่แต่งชุดสีขาวที่มักพกดาบยาวไว้ข้างกาย และมักใช้กำลังข่มขู่ผู้ที่อ่อนแออยู่เสมอ
"เจ้าได้ลงโทษข้าแล้ว ได้สร้างความอับอายให้ข้าเป็นอย่างมาก เจ้ายังต้องการอะไรอีกหรือ " เจ้าอ้วนกล่าวออกมาด้วยความสลดใจ ขณะที่มองไปที่ชิงสุ่ย
คนที่แข็งแกร่งจะไปใช้กำลังกดขี่คนที่อ่อนแอ และไม่ใช่กำลังกับคนที่ยอมแพ้ไปแล้ว สิ่งที่เจ้าอ้วน กล่าวออกมา ทำให้เขาได้รับความอัปยศมายิ่งขึ้น แต่เขารู้ว่าถ้าไม่ทำเช่นนี้เขาคงจะไม่มีชิตรอดออกไป
ชิงสุ่ย รู้สึกว่ามีคนกำลังดึงแขนของเขา เขาหันไปรอบ ๆ และเจอกับใบหน้าที่น่ารักกับแก้มสีชมพู ของห่าวหยุน ลิ่วลี่ ที่กำลังจ้องมาที่ชิงสุ่ย
"เอาล่ะชิงสุ่ยไปเถอะ เจ้าอ้วนก็อับอายมากแล้ว ข้าคิดว่าเขาคงไม่กล้ามาที่นี่อีกครั้งแน่ "ห่าวหยุน ลิ่วลี่ กระซิบไปที่ชิงสุ่ย การกระทำของเธอช่างน่าหลงใหลเป็นอย่างยิ่ง
ชิงสุ่ยได้จับไปที่มือที่ละเอียดอ่อนและนุ่มนวล นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจับมือของเธอ "ในที่สาธารณะ"
"ถ้าข้าจับได้ว่าเจ้าไปรังแกผู้อื่นอีก ข้าจะทำลายสิ่งอยู่ระหว่างขาของเจ้า ข้าจะซื้อของสิ่งนั้นเอง ถ้าเจ้าต้องการมัน ก็มาเอาไปจากข้าในครั้งต่อไป! "ชิงสุ่ยรู้สึกไม่ดีที่จะปล่อยขยะเช่นนี้ไป แต่เขาก็ยอมรับในความสามารถในการปรับตัวของคนผู้นี้ เป็นอย่างมาก
"ท่านผู้อาวุโสขายให้ข้าได้ไหม ข้าจะได้ช่วยแก่ปัญหาเล็กน้อยนี้ให้กับท่าน ไม่ต้องกังวลข้าจะจ่ายเงินในราคาที่ท่านต้องการ "ชิงสุ่ย กล่าวกับชายชราคนนั้นหลังจากไขมันและคนของเขาหนี ไป
"ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของท่านในวันนี้ ข้าไม่ควรต้องการเงินของท่าน … "
" ท่านผู้อาวุโสคนบางคนไม่สามารถมีชีวิตอยู่ถ้าปราศจากเงินทอง วันนี้ข้าช่วยเหลือท่าน ไม่ได้ต้องการอะไร และข้าก็ไม่ได้ใช้มันเพื่อต่อรองราคาเหมือนเจ้าอ้วนเมื่อกี่?ข้าได้ยินท่านบอกท่านจะขายมันในราคา10,000 เงิน งั้นข้าจะขอซื้อมันในราคานี้? "
ชิงสุ่ยได้ใช้เงินจำนวน 12,000 เหรียญ สำหรับซื้อไม้ชิ้นนั้น
ชิงสุ่ย ซื้อมันเพราะชื่อที่สลักอยู่บนไม้นั้น มันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้น เมื่อมองคำที่เขียนว่าต้นอโศก1000!
ต้นอโศก1000 ปีเป็นหนึ่งในส่วนผสมในการสร้างอาวุธวิเศษ ยังมีส่วนประกอบอื่นๆเช่น เมล็ดแก่นแท้อสูร เส้นเอ็นมังกร ไหมสวรรค์ กระดองเต่าดำ เลือดยูนิคอร์น ขนวิหกอัคคีทองคำ และศิลาสมานสวรรค์
เมล็ดแก่นแท้อสูร สามารถสร้างขึ้นหลังจากกายาสัตว์อสูรมีอายุมากกว่าพันปี แต่ เอ็นมังกร เลือดยูนิคอร์น ขนวิหกอัคคีทองคำ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้ ชิงสุ่ยปวดหัวอย่างมากเมื่อมองไปที่ชื่อเหล่านั้น เขาจะสามารถหาวัสดุในตำนานเหล่านั้นได้จากที่ไหน? ไหมสวรรค์เป็นของหายากอย่างมากแต่ก็ยังสมารถหาได้แต่สามารถหาได้ ในขณะที่ กระดองเด่าดำนั้นเขาเพียงรอให้มันมีอายุ 3000 ปีขึ้นไป ศิลาสมานสวรรค์ถูกตัดออกจากความคิดเขาในทันที เขาแทบไม่เคยได้ยินเรื่องของมันเลย นี้มันไม่ใช่เรื่องตลกหรือ เมื่อเขานึกถึงวัดสุเหล่านั้นมันเป็นวัสดุที่แทบจะไม่มีอยู่จริงเลย?
ชิงสุ่ย คิดว่าแม้ว่าเขาจะมีส่วนผสมหลักสำหรับการสร้างศาสตร์ตราวิเศษอยู่ แต่เขาจะหาเตาหลอมแปดทิศได้ที่ไหน? มันมีอยู่จริง ในเก้าทวีปหรือ!?
แต่เมื่อเขาคิดถึงศาสตร์ตราวิเศษก็ทำให้ชิงสุ่ยรู้มีกำลังใจขึ้นเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามในเก้าทวีปสิ่งของเหล่านี้กับเป็นสิ่งของลึกลับกว่าอัญมณีในตำนานซะอีก
ชิงสุ่ย ไม่แน่ใจว่าการเพิ่มคุณสมบัติให้กับสิ่งของนั้นทำได้จริงหรือไม่ แต่ถ้ามันเป็นเช่นนั้นจริง ศาสตร์ตราวิเศษอาจมีอยู่จริงก็เป็นไปได้ หลังจากที่เขาได้รับอัญมณีในตำนานต่างและสิ่งของอื่นๆเพิ่มขึ้น ทำให้ชิงสุ่ยมีความหวังสูง
'การรวบรวมสิงของเหล่านี้เป็นขั้นแรกของการค้นพวกมัน มันจะทำให้ข้าสามารถสืบหาข้อมูลได้ต่อไปเรื่อย ๆ เมื่อข้าไปถึงทวีปอื่นที่มั่งคั่งและรุ่งเรืองหรือไปถึงทวีปที่แพร่หลายด้สนการบ่มเพาะของพลังปราณ ข้าอาจจะพบเจอพวกมัน'
ชิงสุ่ย ระงับความคิดเกี่ยวกับศาสตร์ตราวิเศษชั่วคราว เนื่องจากมันอาจจะไม่มีอยู่จริง ที่สำคัญเขาควรฝึกเคล็ดเสริมกายาบรรพกาลของเขา
เขาได้มุ่งความคิดทั้งหมดไปที่เคล็ดเสริมกายาบรรพกาลๆของชิงสุ่ยนั้นถือว่าเป็นรากฐานสำหรับทุกสิ่งทุกในการบ่มเพาะของเขามันแทบจะเป็นส่วนเดียวกับร่างกายของเขา ตอนนี้ชิงสุ่ยได้ตั้งสติกลับมา ปรากฏว่าตอนนี้เขาได้เดินมาไกลมาเกือบครึ่งของเดินทางแล้ว
เขาหันมองและพบเห็นว่าเขาถูกดึงให้เดินตามไปโดยห่าวหยุน ลิ่วลี่ตลอดเส้นทาง เขากล่าวกับตัวเองในใจว่าทำไมถึงพลาดโอกาสที่ดีเช่นนี้ ทำไมเขาถึงได้เหม่อลอยไปไกลขณะที่เขาได้จับมือของห่าวหยุน ลิ่วลี่อยู่
เมื่อเธอรู้สึกว่าชิงสถ่ยได้สติกลับมา เธอรู้สึกเขินอายเล็กน้อยแล้วพยายามดึงมือของเธอกลับมาสองสามครั้ง แต่ชิงสุ่ยนั้นไม่ยอมปล่อยมือเธอ จึงทำเธอเหลือบไปมองที่ ชิงสุ่ย ด้วยดวงตาที่น่ารักและสดใส กับรูปลักษณ์ที่ดูเย้ายวนทำให้ ชิงสุ่ยค่อยๆจับมือของเธอไว้แน่นยิ่งขึ้น
มือของห่าวหยุน ลิ่วลี่ที่ถูกจับโดยมือที่แสนคุ้นเคยของชิงสุ่ย ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นภายในหัวใจอย่างลึกๆ ที่จริงเธอนั้นมีความรู้สึกบางอย่างต่อชิงสุ่ยอยู่ในหัวใจ
"ลิ่วลี่ ทำไมเจ้าต้องหลบเลี่ยงด้วยละ? สร้อยคอสีทองที่ข้าสวมไว้บนคอของเจ้า ได้เป็นเป็นโซ่ตรวนที่พันทนาการเจ้าไว้กับข้าแล้ว "ชิงสุย จับไปที่มือลิ่วลี่ไว้อย่างแน่น
คำพูดของชิงสุ่ย ทำให้เธอเกิดความเขินอายอย่างมาก มันได้ปรากฏออกมาทางใบหน้าของเธอ คำพูดนี้มันช่างดึงดูดและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก หรือนี่อาจเป็นคำสารภาพรักของเขา?
มันเป็นภาพที่น่ารักอย่างยิ่งเมื่อชิงสุ่ยจับมือของลิ่วลี่และเดินเข้าไปท้ามกลางฝูงชน มันทำให้ผู้ชายและผู้หญิงที่พบเห็นเกิดความอิจฉา เป็นเพราะความงามและกลิ่นหอมห้วนที่อยู่รายล้อมรอบตัวลิ่วลี่
ชิงสุ่ย ชอบการแสดงของผู้ชายเหล่านั้นที่แสดงถึงอิจฉาที่มีต่อเขา เขาชอบการที่เขาแสดงความหึงหวงให้ชายหนุ่มเหล่านั้น เห็นมันทำให้เขาสนุกอย่างมากมาก!
"ชิงสุ่ยเมื่อเจ้าออกเดินทางไปสำรวจทวีปทั้งเก้า มันจะทำให้เจ้าต้องห่างเหินกับคนรอบตัว ดังนั้นเจ้าอย่าได้จมลึกลงไปในห่วงแห่งความรัก ไม่ฉะนั้นเจ้าอาจจะได้รับบาดเจ็บในบาดแผลที่แสนสาหัส เจ้าต้องรู้ว่าความรักนั้นเป็นดาบสองคม เป็นคมดาบที่ร้ายกาจที่สุดเมื่อฟาดฟันลงไป จะทิ้งบาดแผลไว้ในหัวใจโดยไม่ที่สามารถรักษาได้มันได้ " ลิ่วลี่กล่าวออกมาอย่างเบาเบา ๆ ฟันสีขาวที่มีเสน่ห์ชวยหลงใหล มันเป็นสิ่งที่หน้าประทับใจอย่างหนึ่งที่ชิงสุ่ยเคยพบเจอมา
"สาวน้อยเจ้าเคยได้ยินจากประสบการณ์เหล่านั้นจากที่ใด" ชิงสุ่ย หัวเราะและจ้องมองที่ใบหน้าที่กำลังเปลี่ยนเป็นสีแดงสด