หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique - บทที่ 53 - ค้นพบสมบัติ

  1. หน้าแรก
  2. เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique
  3. บทที่ 53 - ค้นพบสมบัติ
Prev
Next

บทที่ 53 – ค้นพบสมบัติ

 

 

 

คืนนั้นหลังจากที่ ชิงสุ่ย เข้าสู่ดินแดนหยกยุพราชอมตะ ใบหน้าของเขาปรากฎรอยยิ้มขณะที่เขาพบว่าความพยายามในการปลูกสมุนไพรของเขาในช่วงบ่ายได้รับผลตอนแทนแล้ว จากเดิมที่เคยเป็นพื้นที่ที่โล่งเตียมตอนนี้กลับเต็มไปด้วยสมุนไพรนาๆชนิดที่งอกขึ้นมาใหม่ภายในพื้นที่นั้น มันดูสุดแสนร่มรื่นให้บรรยากาศที่เมเปี่ยมไปด้วยพลังในดินแดนแห่งนี้เมื่อเปรียบกับเมื่อก่อน

 

 

 

มองพื่นที่อันกว้างใหญ่ของดินแดนหยกยุพราชอมตะ ชิงสุ่ยเดินไปที่ใจกลางของดินแดนที่ที่มีทะเลสาปคริสตัลตั้งอยู่ พลังงานที่ปล่อยออกมาจากแม่น้ำนั้นอุดมสมบูรณ์มาก ชิงสุ่ยสงสัย “ อืม บางทีข้าอาจจะนำปลาและเต่าบางชนิดเข้ามาเลี้ยงที่นี่ได้ ช้าสามารถนำมันมาทำอาหารหลังจากที่มันเติบโตเต็มที่ อาหารที่ข้ากินก่อนหน้านั้นที่โรงเตี้ยมอวี้เหออร่อยอย่างมาก

 

 

 

 

 

“ ซุปเต่าจัดได้ว่าเป็นอาหารบำรุงชั้นดี มันช่วยบำรุงอวัยวะที่สำคัญที่สุดของเพศชาย แต่ทำไมอวี้เหอถึงสั่งจานนี้ให้ข้า รึว่าบางทีอาจจะเป็นลุงสาม ชิงอู้” ชิงสุ่ย เกาหัวของเขาด้วยความสับสนขณะที่เริ่มคาดเดาอย่าเอาเป็นเอาตาย ตั้งแต่ตอนนั้นมา อวี้เหอ ที่มีเสน่ห์จริงๆแล้วอาจจะชื่นชอบเด็กหนุ่มไฟแรง แต่ถึงอย่างนั้น ชิงสุ่ยก็ไม่สามารถคาดเดาเจตนารมณ์ที่แท้จริงของเธอได้

 

 

 

 

 

“ความคิดของลุงสามช่างดูชั่วร้าย ภายนอกดูเป็นคนซื่อๆแต่ภายในนั้นอย่างกับนักล่าผู้หิวโหย ภายใต้สายตาของป้า หยานหยิง ชายคนนี้ดูเหมือนจะปิดบังความตั้งใจของเขา”

 

 

 

ยิ่ง ชิงสุ่ย คิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกได้มากขึ้นเท่านั้น ในวันวันนั้นบนโตะอาหาร ชิงสุ่ยสังเกตเห็นว่าลุงสาม ได้ดื่มซุปเต่าเป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่า ชิงสุ่ยจะดื่มมันมากเท่าไหร่ อวี้เหอก็คงไม่สนใจเขา เหตุผลที่เขาดื่มมันก็เพราะว่ามันอร่อย ในปัจจุบัน ชิงสุ่ยยังไม่มีคูครองที่จะปลดปล่อยไฟราคะที่อยู่ในตัวของเขาดังนั้นทำไมเขาต้องบำรุงมันด้วยคงจะไม่ดีถ้าดื่มมากเกินไป อาจจมีปัญหาในภายหลังเพราะไม่สามารถหาทางปลดปล่อยไฟราคะของเขาได้

 

 

 

ขั้นแรก ชิงสุ่ย ต้องการนำปลาสักเล็กน้อยลงทะเทสาบผลึกเพื่อทดลอง แต่หลังจากคิดไปซักพักเขาก็ตัดสินใจวางแนวคิดนี้ไว้ชั่วคราว

 

 

 

“ไม่ต้องรีบร้อน ไว้เมื่อไหร่ที่ได้ปลาสดมาค่อยทดลอง ”

 

 

 

เขาส่ายหัวลบความคิดที่น่ารำคาญออกไป ชิงสุ่ย นั่งลงและเริ่มหมุนเวียนเคล็ดวิชากายาบรรพกาล หลังจากที่เขาประสบความสำเร็จในเทคนิคโบราณนี้ เส้นทางในอนาคตของเขาต้องเป็นไปได้สวยอย่างแน่นอน หมุนเวียนปราณรอบที่หนึ่ง หมุนเวียนรอบที่สอง………เมื่อเวลาผ่านไป ชิงสุ่ยพบอุปสรรคในรอบที่ 48 เขาพยายามรวบรวมปราณทั้งหมดหมุนเวียนเพื่อพยายามทำลายกำแพงอุปสรรคด้วยพลังทั้งหมดของเขา และผลลัพธ์ที่ได้คือ ล้มเหลว เขาไม่สามารถทำลายอุปสรรคขวางกันได้เลยแม้แต่น้อย

 

 

 

“ อะไรกัน ทำไมถึงไม่ได้ผล แท้จริงแล้วศักยภาพของข้าอ่อนแออย่างนั้นเหรอ “ ชิงสุ่ย ถอนหายใจด้วยอาการซึมเศร้า เขาลูกขึ้นยืน ถึงแม้จะมีสมบัติที่พระเจ้าส่งมาให้เขาก่อนหน้านี้ แต่ ชิงสุ่ย ที่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ก็ยังไม่สามารถทะลวงผ่าน ระดับ 4 ชั้นฟ้าไปได้ ความสิ้นหวังที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนก่อเกิดขึ้นในจิตใจ ถ้าเขาไม่สามารถบรรลุผ่านคลื่นสวรรค์ชั้นที่ 4 ของเคล็ดวิชากายาบรรพกาลไปได้เขาคงจะเป็นใส้เดือนตากแห้งที่น่าสมเพชนอนอยู่บนพื้น ไม่ต้องพูดถึงตระกูลหยางแม้แต่ตระกูลเล็กๆในเมืองร้อยไมล์เขาก็ยังไม่สามารถรุกรานได้

 

 

 

เคล็ดวิชาอิไอโด้(ดาบซามูไร) เขาเริ่มที่จะเข้าใจบ้างแล้ว เพื่อที่จะยกระดับความแข็งแกร่งของเขาในช่วงเวลาสั้นๆ ชิงสุ่ยได้ตัดสินใจมุ่นเน้นไปที่การฝึก “ทะลวง” ของวิชาดาบ โดยใช้ 3 รูปแบบ ว่องไว แม่นยำ เด็ดขาด เขาต้องทำความเข้ารูปแบบทั้ง 3 และรวบรวมสมาธิทั้งหมดไปที่ปลายดาบ

 

 

 

พูดง่ายแต่ทำยาก ถึงแม้จะมีอุปสรรค ชิงสุ่ยยังคงใช้ ดาบไม้ตะเคียน ของเขากวัดแกว่งไปในอากาศ จากนั้นเขาก็ส่ายหัว ความรู้บอกว่ามันไม่ถูกต้อง อีกครั้งอีกครั้งและอีกครั้ง ชิงสุ่ยพยายามพิจารณาการเคลื่อนไหวของดาบที่เขาเฉือนไปเพื่อหาจุดที่สมบูรณ์ที่สุด

 

 

 

วันรุ่งขึ้น ชิงสุ่ย ตื่นขึ้นมาตรงเวลาเหมือนอย่างเคย เป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ดี ชิงสุ่ยหายใจลึกๆสูดอากาศที่สดชื่นในยามเช้า

 

 

 

หลังจากนั้นเขาก็ลงไปชั้นหนึ่งของบ้านพัก เขามองเห็นเงาร่างหนึ่งกำลังฝึก หมัดอสูรสันโดด อย่างมุ่งมั่น

 

 

 

“โอ้ เขามีความมุ่งมั่นมากกว่าข้าซะอีก” ชิงสุ่ย เห็น ชิงสือ กำลังพยายามเข้าใจแนวคิดของ หมัดอสูรสันโดด แม้ความมุ่งมั่นจะสำคัญ แต่ท้ายที่สุด พรสวรรค์ก็เป็นส่วนสำคัญสำหรับการบ่มเพาะ

 

 

 

“ ชิงสือ เจ้าตื่นแล้ว “ ชิงสุ่ย ยิ้มขณะทักทาย ชิงสือ

 

 

 

“อิอิ ชิงสุ่ย เจ้าเองก็ตื่นแล้วเหมือนกัน จะให้ทำไงได้ล่ะพรสวรรค์ของข้าไม่ดีเท่าที่ควรเพราะงั้นข้าต้องพยายามมากกว่าเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ นั่นเป็นวิธีเดียวที่ข้าหวังว่าจะตามคนอื่นได้ทัน “ ชิงสือ มองโลกในแง่ดีมาก รอยยิ้มอันใสซื่อของเขาช่างแตกต่างจากพ่อของ ชองหู่ เหลือเกิน

 

 

 

เพียงแค่ชำเลืองมอง ชิงสุ่ยสามารถบอกได้ว่า หมัดอสูรสันโดด ที่ปล่อยออกมาโดย ชิงสือ เต็มไปด้วยช่องว่างและมีข้อบกพร่อง ชิงสุ่ยเริ่ม ปรับปรุงแก้ไขท่าทางของ ชิงสือ และสั่งสอนชี้แนะความเหมาะสมในเรื่องของพลังและทิศทางการโจมตี

 

 

 

หลังจากที่ ชิงสุ่งได้แนะนำ ชิงสือ โดยการชี้ให้เห็นถึงข้อผิดพลาดของเขาส่งผลให้ ความสามารถของ ชิงสือ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ ชิงสือ รู้สึกเต็มไปด้วยความขอบคุณ

 

 

 

หลังจากมื้อเช้า

 

 

 

“ ชิงสุ่ย นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้ามาเมืองร้อยไมล์เจ้าควรไปสำรวจตามถนนพร้อมกับ ชิงซานและชิงสือนะ พวกเจ้ายังยังเป็นหนุ่มควรทำตัวให้สนุกสนานไว้ “ ชิงอู้แนะนำ เขาดูมีความสุขอย่างมากที่ตระกูลชิงเอาชนะคนของตระกูลซือตูได้ เนื่องจาก ชิงสุ่ย ตระกูล ชิง จึงได้หน้าและทำให้ชื่อเสียงในเมืองร้อยไมล์เพิ่มขึ้นอย่างมาก

 

 

 

“ ตกลง ข้าเองก็คิดเช่นนั้นที่นี่มีขนาดใหญ่กว่าหมู่บ้านเรามากข้าแน่ใจว่าตามท้องถนนต้องมีอะไรที่น่าสนใจแน่นอน “ ชิงสุ่ยยิ้มเบาๆ

 

 

 

หลังจากทั้ง 3 คนเดินออกจากร้านสมุนไพรตระกูลชิง มองไปยังเหล่าผู้คนที่ครึกครื้นตามท้องถนนข้างนอกมีแม้กระทั่งสัตว์ที่แปลกประหลาดที่มีท่าทางสง่างามเดินไปมาตามถนน ยิ่งกว่านั้น ชิงสุยยังชอบที่จะสังเกตุสัตว์ดุร้ายอีกด้วย เขารู้ว่าต้องมีทักษะที่ฝึกสัตว์ดุร้ายให้เชื่องอยู่บนโลกนี้ ถ้าวันหนึ่งเขาได้เรียนรู้เทคนิคการฝึกสัตว์ร้ายให้ยอมจำนนได้มันคงจะเป็นอะไรที่ดูดีไม่น้อยเลยทีเดียว

 

 

 

ร้านค้าทั้งสองด้านริมถนนมีลักษณะแปลกใหม่และมีกลิ่นอายความน่าสนใจแผ่ออกมา ก่อนที่ชิงสุ่ยและคนอื่นๆจะออกมา ชิงอี้ได้ให้เงินจำนวน 100 เหรียญเงินให้แก่เขา ถึงแม้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มาก แต่ก็ไม่น้อยไปเช่นกัน เงินจำนวนนี้เพียงพอสำหรับสมาชิกของตระกูลชิง 6 คน ที่จะเพลิดเพลินกับอาหารที่โรงเตี้ยมอวี้เหอ

 

 

 

เด็กหนุ่มทั้ง 3 คนเดินทอดน่องไปโดยค่อยๆสำรวจมุมถนนอันวุ่นวายแต่ละแห่ง มุมหนึ่งพวกแห็นชายชราตั้งร้านเล็กๆบนพื้น ชายชราดูอ่อนแรงมากจนดูเหมือนอีกแค่ก้าวเดียวก็จะเข้าสู่ยมโลก แต่ที่ดูแปลกคือแววตาของเขาแปล่งประกาย เหตุผลที่ว่าทำไมชิงสุ่ยถึงสังเกตุเห็นร้านนี้เนื่องจากผู้คนจะหลีกเลี่ยงไม่สนใจที่จะซื้อขายกับชายชรา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ตรงนั้นคนไม่ค่อยพลุ่งพล่าน

 

 

 

มีเพียง 2 สิ่งแสดงอยู่ หนึ่งในนั้นคือกิ่งไม้สีดำขนาดเท่าแขนของทารกและอีกชิ้นเป็นหินที่มีสีคล้ำๆ ชิงสุ่ยรู้สึกมึนงง ทำไมชายชราคนนี้ถึงนำวัตถุสีดำ 2 ชิ้นที่ดูน่าเกลียดมาแสดงด้วย

 

 

 

มีหลายคนเดินผ่าน แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็จากไป เป็นที่ชัดเจนว่าพวกเขาไม่มีเจตนาที่จะซื้อสินค้าที่แสดง ซักพัก ชิงสุ่ย ก็นั่งลงตรวจสอบของทั้ง 2 สิ่งที่ดูสกปรกแสดงอยู่บนผ้าปู “ผู้เฒ่า 2 อย่างนี้มันคืออะไร บอกราคาให้ข้ารู้ได้หรือไม่ ”

 

 

 

ดวงตาของชายชรามองมาที่ ชิงสุ่ย แม้ว่าชิงสุ่ยจะสนใจของทั้ง 2 สิ่ง แต่ชายชราก็ดูเหมือนจะไม่มีความสุขในขณะที่เขาเหลือบมองไปยังสิ่งของทั้ง 2 รายการ ก่อนพูดออกมาว่า “ข้าเองก็ไม่แน่ใจ ทั้งหมดที่ข้ารู้คือกิ่งก้านนี้มีอายุอย่างน้อยก็ 60 ปี แต่มันยังดูเงาและงดงามไม่มีร่องรอยของความเน่าเน่าเปื่อย สำหรับสิ่งที่คล้ายกับหินนี้ข้ารู้แค่เพียงว่า มันทนทานมากแม้แต่ช่างตีเหล็กก็ยังไม่สามารถหลอมมันได้ ”

 

 

 

หัวใจของ ชิงสุ่ย เต้นไม่เป็นจังหวะบางทีอาจจะเป็นแบบนวนิยายที่เขาเคยอ่านในโลกก่อนหน้าที่ของไร้ค่ากลับกลายมาเป็นสมบัติใช่หรือไม่ อย่างไรก็ตามเขาก็ทิ้งความคิดนี้ไปเพราะว่าสมบัติมันจะพบได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรือ มันเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อ แต่ ชิงก็ยังสนใจที่จะซื้อมัน

 

 

 

“ผู้เฒ่า ข้าขอตรวจสอบของทั้ง 2 สิ่งนี้ได้หรือไม่ ” ชิงสุ่ย ต้องการทดสอบวัตถุที่มีลักษณะเหมือนก้อนหินนั้นทนทานเหมือนที่ชายชรากล่าวไว้หรือไม่

 

 

 

“ หนุ่มน้อย เจ้าสามารถตรวจสอบมันได้ตลอดถ้าเจ้าต้องการ ” ชายชราตอบอย่างอ่อนโยน

 

 

 

ชิงสุ่ย หยิบก้านไม้ที่ดูสกปรกมาตรวจสอบและในขณะเดียวกันเขาสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตในก้านไม้อย่างล้นหลาม มากขึ้นและมากขึ้น ชิงสุ่ย รู้สึกได้ถึงความสมบูรณ์ของพลังงานทางจิตวิญญาณที่ถูกปล่อยออกมาจากก้านไม้สีดำนี้ มันเป็น บางสิ่งที่คล้ายกับพลังงานที่ปล่อยออกมาจากทะสาปคริสตัลที่อยู่ในดินแดนหยกม่วงอมตะของเขา ปราศจากความสงสัย ชิงสุ่ยสรุปได้ว่าสิ่งนี้เป็นสมบัติจริงๆเพียงแต่เค้าไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร

 

 

 

ต่อไป ชิงสุ่ย ถือหินสีดำคล้ำใว้ในฝ่ามืออย่างนิ่งเฉยโดยไม่มีใครสักเกตุเห็น ชิงสุ่ย กำลังใช้ความแข็งแกร่ง 20,000 จิน พยายามบดขยี้หินโดยตรง ตามปกติถ้าเป็นหินหรือเหล็กธรรมดาหลังจากได้รับแรงกดระดับนี้ของ ชิงสุ่ย จะต้องแตกออกหรือบิดเบี้ยวอย่างง่ายดาย

 

 

 

อย่างไรก็ตาม วัตถุสีดำคล้ายหินนี้กลับไม่มีการเปลี่ยนแปลง ชิงสุ่ยจ้องมองด้วยความตกตะลึง จิตใจล่องลอยเต็มไปด้วยความคิด แต่ก็ไม่มีอะไรนอกจากการคาดเดาสุ่มๆ

 

 

 

นี่อาจจะเป็น แก่นแท้โลหะ วัตถุที่แข็งกว่าเหล็ก 100 เท่า

 

 

 

 

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 53 - ค้นพบสมบัติ"

4 15 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

ราชันจักรพรรดิบรรพกาล – God Emperor
ราชันจักรพรรดิบรรพกาล – God Emperor
มีนาคม 12, 2022
Heavenly Curse ยอดเซียนเต๋า เขย่ายุทธภพ (นิยายแปล)
Heavenly Curse ยอดเซียนเต๋า เขย่ายุทธภพ (นิยายแปล)
พฤษภาคม 17, 2022
เทพเซียนเจ้านครวิญญาณ
เทพเซียนเจ้านครวิญญาณ
มีนาคม 12, 2022
Supreme uprising
Supreme uprising
มีนาคม 12, 2022
คิงส์แมน ระบบโคตรคนบ่มพยักฆ์ทะลุโลก
คิงส์แมน ระบบโคตรคนบ่มพยักฆ์ทะลุโลก
มีนาคม 12, 2022
เจ้าแห่งเกาะ
เจ้าแห่งเกาะ
พฤษภาคม 17, 2022
Tags:
กำลังภายใน
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz