หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique - บทที่ 37 – ตลาดยามราตรีท่ามกลางตัวเมืองวิหคอัคคีร่วงโรย

  1. หน้าแรก
  2. เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique
  3. บทที่ 37 – ตลาดยามราตรีท่ามกลางตัวเมืองวิหคอัคคีร่วงโรย
Prev
Next

บทที่ 37 – ตลาดยามราตรีท่ามกลางตัวเมืองวิหคอัคคีร่วงโรย

 

               หลังจากที่ชิงสุ่ยสวมเสื้อคลุมที่ทำจากผ้าซาตินพร้อมทั้งปักลวดลายที่ซับซ้อน ชิงสุ่ยชื่นชมตัวเองอยู่หน้ากระจก แม้ว่าจุดสีม่วงนั้นจะเห็นไม่ค่อยชัด ถึงแม้ว่าเขาพยายามที่จะปกปิดเพื่อไม่ให้คนเข้าใจว่าเขานั้นเป็นสตรี อย่างไรก็ตามรูปลักษณ์ในปัจจุบันของเขานั้นไม่ห่างไกลเลยจากคำว่า “สวยงาม”

 

               ชิงสุ่ยรู้สึกข่มขื่นเล็กน้อยขณะจ้องมองเสื้อผ้าอาภรณ์ที่สวยสดงดงามบนร่างกายของเขา เนื่องจากรูปแบบเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่นั้นค่อนข้างคล้ายกับที่ซือถูปู้ฝานสวมใส่เช่นกัน ชุดที่เขาสวมใส่นั้นเป็นชุดดั่งเดิมที่ตระกูลต่างๆในหมู่บ้านชิงต่างสวมใส่คล้ายๆกันในทุกปี แม้ชิงสุ่ยจะเคยสวมใส่มันมาก่อนแต่ก็ไม่เคยที่จะอึดอัดใจเหมือนครั้งนี้ บางทีการที่เขาได้พบเจอกับซือถูปู้ฝาน จิตใต้สำนึกของเขานั้นต้องการให้เขานั้นแตกต่างจากมัน

 

               “ถ้าชุดนี้ไม่ได้ผ่านการเย็บอย่างบรรจงจากมือของท่านแม่ แน่นอนว่าข้าจะไม่สวมใส่มันเด็ดขาด!!”ชิงสุ่ยบ่นในใจ

 

               เมื่อชิงสุ่ยหันไปดู เขาก็พบกับความความสุขภายใต้สายตาของชิงอี้ เขาพลันถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นแม่ของผู้ใด เธอย่อมต้องการให้ลูกของเธอนั้นดูมีสง่า

 

               “ลูกช่างดูดีมีสง่าราศียิ่งนัก ฮ่าๆ ในอนาคต แม่ไม่อาจคาดเดาจำนวนหญิงสาวที่จะตกหลุมรักสุ่ยเอ๋อลูกแม่ได้เลย” ชิงอี้หัวเราะพร้อมกับยืดมือไปดึงแขนเสื้อให้กับชิงสุ่ย

 

               “ท่านแม่ เราเข้าไปในเมืองกันเถอะ ลูกยังไม่เคยไปมาก่อนเลย ลูกจำได้ว่าชิงฮูเคยบอกว่าเมื่อเข้าใกล้เทศกาลปีใหม่ในเมืองนั้นจะคึกคักและเต็มไปด้วยกิจกรรมต่างๆมากมาย

 

               เมื่อมองดูชิงอี้ ชิงสุ่ยรู้สึกผิดอย่างช่วยไม่ได้เลยเมื่อได้ยินคำพูดของลุงชิงไฮ เขาไม่คาดคิดว่าชิงอี้จะรอคอยการกลับมาของเขาอยู่ภายนอกประตูวันแล้ววันเล่า

 

               “ตกลง!!” ชิงอี้ตอบตงลง พร้อมกับสายตาที่ดูมีความรู้สึกผิดซ่อนอยู่ ชิงอี้ได้แต่ถอนหายใจ เธอมักจะไม่ว่างเสมอเมื่ออยู่ในเมืองร้อยไมล์ เธอต้องจัดการธุรกิจต่างๆของตระกูลชิงและใส่ใจกับชิงสุ่ยอย่างมากเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก ชิงอี้อาจจะสามารถขอเวลากลับมาเยี่ยมชิงสุ่ยได้เป็นบางครั้ง แต่โชคดีที่ลูกของเธอนั้นเขาใจเธอดี

 

               ท้องฟ้าภายนอกยังไม่มึดสนิท ต้นไม้บนถนนต่างถูกประดับโดย “หินแสงสว่าง” หินแสงสว่างนี้ลักษณะคล้ายก้อนกรวด แต่มันสามารถปล่อยแสงที่นุ่มนวลออกมาได้ หินของมันก็มีหลายระดับเช่นกัน โดยหินแสงสว่างที่ตระกูลชิงใช้นั้นอยู่ในระดับที่ต่ำที่สุด ดังนั้นคลื่นรังสีของแสงที่ปล่อยออกมาก็อ่อนแอที่สุดเช่นกัน มีข่าวลือว่ากันว่าในบางส่วนของเมืองใหญ่ของมหาทวีปเมฆามรกตนั้นมีหินที่อยู่ในระดับสูงสุด มันสามารถเปล่งแสงได้เทียบเคียงกับแสงจันทรา

 

               โดยปกติเส้นทางเดินนี้จะไม่มีแสงไฟ อย่างไรก็ตามเพราะว่าช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลตลอดทางเดินจึงถูกประดับประดาไปด้วยแสงไฟจากหินแสงสว่าง ในความคิดของชิงสุ่ยนั้นหินแสงสว่างนั้นย่อมดีกว่าโคมไฟทั่วไป หลังจากเดินตามชิงอี้ ทั้งสองคนก็เดินออกจากตระกูลชิง และมุ่งหน้าตรงไปยังเมืองวิหคอัคคีร่วงโรย

 

               เมืองพอโลเนียนั้นมีชื่อมาจากต้นพอโลเนียที่สูงตระหง่านอยู่ในเมือง มีตำนานกล่าวว่าครั้งนึงเคยมีวิหคอัคคี(นกฟินิกซ์)มาอาศัยอยู่บนต้นพอโลเนีย และในที่สุดมันก็ตายจากไป สุดท้ายชื่อเมืองจึงถูกเปลี่ยนเป็นเมืองวิหคอัคคีร่วงโรย!!! จนแม้กระทั่งตอนนี้เรื่องราวพวกนี้ยังถูกส่งต่อจากผู้เฒ่า ผู้สูงอายุ พวกเขาอธิบายได้อย่างละเอียดราวกับกับเขาเคยพบเห็นวิหคอัคคีด้วยตาของพวกเขาเอง

 

               ทั้งเมืองร้อยไมล์และเมืองวิหคอัคมีร่วงโรยต่างตั้งอยู่ไม่ห่างจากหมู่บ้านตระกูลชิง เมืองเทียบจากเส้นทางจะพบว่าการเดินทางไปเมืองร้อยไมล์นั้นจะต้องผ่านภูเขาหลากหลายลูก ดังนั้นการที่คนส่วนใหญ่ต้องการที่จะเยี่ยมชมเมืองทีเจริญรุ่งเรืองนั้นจึงเลือกที่จะเมืองที่ใกล้เคียงกว่านั้นคือเมืองวิหคอัคคีร่วงโรย

 

               โดยทั่วไปคนที่เดินทางไปยังเมืองวิหคอัคคีร่วงโรยส่วนใหญ่เพื่อทำการค้าขาย อีกจุดสำคัญหนึ่งก็คือ ร้านค้าที่มีอิทธิพลจากเมืองร้อยไมล์ต่างมาตั้งเขตการค้ากันในเมืองวิหคอัคคีร่วงโรยอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายหนังสัตว์ เนื้อ ธัญพืข จุดมุ่งหมายหลักที่พวกเขาทำธุรกิจเพื่อที่จะครอบคลุมไปยังผู้ฝึกตนรอบๆเทือกเขาล้านลี้ ดังนั้นเมื่อผู้ฝึกตนใช้ทรัพยากรไป พวกเขาก็จะมาที่เมืองวิหคอัคคีร่วงโรยเมื่อทำการซื้อของจำเป็นหรือรวมแม้กระทั่งขายของที่พวกเขาได้มา

 

               ระยะทางระหว่างหมู่บ้านตระกูลชิงกับเมืองวิหคอัคคีร่วงโรยนั้นห่างจากกันประมาณเพียง 1 กิโลเมตรกว่าๆ แม้ว่ามันจะมีชื่อว่า “ เมืองวิหคอัคคีร่วงโรย”แต่ความจริงแล้วเมืองนี้ยังถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของหมู่บ้านตระกูลชิง เพราะในรัศมี 100 ลี้ที่ถูกครอบครองต่างเรียกว่าพื้นที่หมู่บ้านตระกูลชิง แต่ชิงสุ่ยกลับรู้สึกหวาดหวั่นเล็กน้อย ราวกับว่าเมืองวิหคอัคคีร่วงโรยนั้นเกือบเรียกได้ว่าเป็นเมืองหลวงของตระกูลชิงเลยก็ว่าได้

 

               ถนนหนทางต่างล้นไปด้วยผู้คนมากมาย ตระกูลชิงถือได้ว่าเป็นตระกูลที่ทรงอำนาจมากในภูมิภาคแห่งนี้ หลายคนที่เดินผ่านไปมา มักจะต้องริเริ่มกล่าวทักทายคนจากตระกูลชิงก่อนเสมอ

 

               บนถนนเต็มไปด้วยเหล่าเด็กๆที่ซุกซนพวกเขาต่างวิ่งเล่นกันด้วยความความไร้เดียงสา หากมองไปยังภาพที่ปรากฎจะเห็นได้ถึงรอยยิ้มที่เกิดจากใจของพวกเขา

 

               “สุ่ยเอ๋อ จากที่ลูกออกไปเพื่อฝึกฝนกว่าครึ่งปีนี้ลูกมีความคืบหน้าบางไหม?”ชิงอี้ถามชิงสุ่ยขณะมองชิงสุ่ยที่สูงกว่าเธอแล้วประมาณ 1 คึบ

 

               “มันก็ไม่แย่เท่าไรนะท่านแม่” ชิงสุ่ยกล่าวพร้อมกับยิ้มออกมา คำตอบนั้นทำให้ชิงอี้รู้สึกดีใจไม่น้อยเลย

 

               ตั้งแต่ที่ชิงสุ่ยกล่าวว่าออกมา ชิงอี้คาดการว่ามันคงไม่แย่หรือเลวร้ายเกินไป แต่เธอไม่รู้ระดับพลังที่แท้จริงของเขา แต่เธอก็รู้ได้ทันทีว่าชิงสุ่ยนั้นไม่ได้อ่อนแออย่างที่เขาดูเหมือนจะเป็น

 

               ระหว่างที่แม่ลูกพูดคุย ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงเมืองวิหคอัคคีร่วงโรย ชิงสุ่ยได้เห็นต้นพอโลเนียในตำนานตามชื่อของมัน มันอาจจะดูเหลือเชื่อที่ว่าเขามาที่นี้เป็นครั้งแรก ช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมานี้ชิงสุ่ยไม่เคยแม้แต่จะก้าวออกจากบ้านตระกูลชิง ที่ที่เขาไปอย่างเดียวคือเดินทางไปยังภูเขาใกล้ๆกับตระกูลชิง

 

               ชิงสุ่ยถึงกับต้องตกใจอย่างช่วยไม่ได้ ขนาดของต้นพอโลเนียที่ตั้งสูงตระหง่านนั้นสูงเกินกว่า 100 เมตร เส้นรอบวงของมันนั้นมากกว่า 10 คนโอบ กิ่งก้านสาขาของมันกว้างใหญ่ราวกับเป็นร่มขนากมหึมา ชิงสุ่ยได้แต่พึมพำกับตัวเองว่า “บางที่ เจ้าวิหคอัคคีนั้นอาจจะเคยอาศัยทำรังอยู่บนต้นนี้จริงๆ”

 

               เมืองวิหคอัคคีร่วงโรยนั้นหากพิจารณาจากขนาดแล้วถือได้ว่าไม่เล็กเลย ในรัศมี 10 ลี้ในค่ำคืนนี้ต่างพลุกพล่านไปด้วยผู้คน นี้คือภาพของเทศกาลปีใหม่ที่ใกล้จะมาถึง ทุกคนต่างหยุดงานเพื่อเฉลิมฉลอง ผู้คนต่างเร่ขายของอย่างวุ่นวาน เสียงตะโกนมากมายเพื่อพยายามที่จะดึงดูดลูกค้ามายังร้านค้าของพวกเขา ความคึกคักมากจนเกือบเทียบเท่ากับเมืองที่เขาเคยอาศัยอยู่ในโลกใบเก่า

 

               เมื่อชิงสุ่ยก้าวเข้ามายังทีแห่ง เขาก็ได้พบกับสตรีโฉมงามมากมาย สตรีเหล่านี้ต่างมีผิวพรรณที่ขาวใสดั่งหยก ขาเรียวยาวทรงเสน่ห์และหน้าอกที่แสนจะดึงดูดใจ หญิงสาวต่างเดินอยู่มากมาย แต่เมื่อเอาความงามของพวกนางทั้งมากเทียบกับ สือ ฉิงจวงนั้นถือได้ว่าหากใกล้ยิ่งนัก

 

               เหล่าสตรีหลายคนมีท่าทางเขินอายเมื่อพวกนางชำเลืองมองมายังตัวของชิงสุ่ย ทุกครั้งที่ชิงสุ่ยเห็น พวกเธอจะพูดหยอกล้อกัน “สุ่ยเอ๋อ ดูคนพวกนั้นสิ พวกเธอพยายามที่จะดึงดูดลูกให้มองพวกเธอนะ”

 

               ชิงสุ่ยรู้สึกมีความสุขมาก แต่ความเหล่านั้นหาได้เกิดจากเหล่าสตรีโฉมทั้งหลายไม่ แต่เกิดจากท่านแม่ของเขานั้นมีความสุขอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

 

               ขณะที่มองไปบนถนน พ่อแม่ต่างพาลูกหลานมาพร้อมกับพวกเขา พวกวัยรุ่นต่างพากันนัดหมายกัน เหล่าปู่ย่าตายายทุกคนต่างออกมาเสพสุขกับบรรยากาศที่แสนจะงดงามเช่นนี้

 

               ชิงสุ่ยทำอะไรไม่ถูกเขาได้แต่กระพริบตา และพยายามคาดเดาสิ่งที่ชิงอี้คิด อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่เขายังไม่บรรลุอาณาจักรพลังปราณเทวะเซียนเทียน มันก็คงไม่มีสิ่งใดที่เขาจะตอบแทนได้

 

               “ท่านแม่ ท่านกำลังคิดสิ่งใดอยู่กัน หลังจากคืนเหล่านี้ผ่านพ้นไป ลูกก็จะถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก่อนหน้านี้ท่านแม่เคยสัญญากับลูกว่าหากถึงเทศกาลเฉลิมฉลองวันครบรอบ ท่านแม่จะบอกเรื่องราวเกี่ยวกับท่านพ่อ”ชิงสุ่ยจับมือของชิงอี้ในขณะที่เขาเอ่ยปากถาม ทันทีที่เขากล่าวถึงพ่อของเขา กลิ่นอายความคุกคาม ความมุ่งมั่น เย็นชา เกิดขึ้นผ่านสายตาของเขา เมื่อชิงอี้เห็นมัน มันช่วยไม่ได้เลยที่เธอจะรู้สึกถึงกลิ่นอายความอันตรายออกจากตัวของชิงสุ่ย

 

               “อะไรที่แม่เคยสัญญา แม่ก็จะทำตามที่สัญญาเอาไว้ ขอเพียงแต่เจ้าอย่าไปใส่ใจกับคำพูดเหล่านั้น” ชิงอี้ยิ้มออกมา ในขณะที่ชิงสุ่ยส่งสายตามา

 

               “ไม่ต้องห่วงหรอกท่านแม่ ลูกจะยืนอยู่ข้างท่านแม่เสมอ ไม่ว่าฟ้าจะถล่มหรือผืนแผ่นดินจะถูกทำลาย ลูกจะช่วยเหลือท่านแม่เองตลอดไป!!!”

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 37 – ตลาดยามราตรีท่ามกลางตัวเมืองวิหคอัคคีร่วงโรย"

4 14 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

ไปผจญภัยในโลกOne Pieceกันเถอะ
ไปผจญภัยในโลกOne Pieceกันเถอะ
มีนาคม 12, 2022
Castle of Black Iron
Castle of Black Iron
พฤษภาคม 17, 2022
แต่งก่อน…ค่อยอ้อนรัก
แต่งก่อน…ค่อยอ้อนรัก
มีนาคม 12, 2022
Bank of the Universe
Bank of the Universe
ตุลาคม 21, 2024
เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน (นิยายแปล) ปลดล๊อคตอนฟรี 3 วัน 1 ตอน
เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน
กรกฎาคม 6, 2023
จักพรรดิแห่งยันต์
จักพรรดิแห่งยันต์
มีนาคม 12, 2022
Tags:
กำลังภายใน
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz