เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique - บทที่ 26 – ตำราโลกแห่งการรักษา
บทที่ 26 – ตำราโลกแห่งการรักษา
หลังจากกลับไปยังบ้านของเขา ชิงสุ่ยวางหนังสือที่ได้รับมาทั้งหมดลงบนโต๊ะ และตัดสินใจเลือกหนังสือ โลกแห่งการรักษา
“การสำรวจเส้นทางชีวิตยั่งยืน” “อวัยวะภายในร่างกาย” “เส้นลมปราณและการถ่ายพลัง” “สาเหตุที่ทำให้เกิดการป่วย” “เส้นทางฝึกฝนร่างกายให้แข็งแกร่ง 4 แบบ” นี้คือหัวข้อแต่ล่ะบทของ หนังสือโลกแห่งการรักษา
“วิธีรวมพลัง ร่างกายและจิตวิญญาณเป็นหนึ่ง” ชิงสุ่ยหยุดตรงหน้านี้เนื่องจากเขาสนใจและตัดสินใจที่จะศึกษาอย่างลึกซึ้งในหัวข้อนี้ 5 อารมณ์ที่เป็นศัพท์ทางการรักษานั้นหมายถึง ความสุข ความโกรธ ความวิตกกังวล และความกลัว
การเปลี่ยนแปลงอารมณ์เพียงเล็กน้อยสามารถส่งผลถึงอวัยวะภายในของแต่ล่ะบุคคล หากสามารถนำพลังงานที่แฝงอยู่ภายในมาใช้ได้อย่างถูกต้อง จะส่งผลให้เกิดการตื่นตัว ตรงข้ามกันนั้นหากเกิดด้านลบ จะส่งผลให้เกิดอาการหดหู่ กระสับหระส่าย ที่มาของพลังงานแฝงนั้นในการรักษาแผนจีนเรียกมันว่า อารมณ์ทั้ง 5 เมื่ออารมณ์ทั้ง5 เกิดพร้อมกัน มันจะรู้จักในชื่อที่เรียกว่า จิตวิญญาณ
จิตวิญญาณคือความแข็งแกร่ง ความแข็งแกร่งเป็นหนึ่งเดียวกับจิตใจ ทุกสิ่งในธรรมชาติล้วนหมุนวน จนสูงสุดย่อมเป็นดั่งจุดต่ำสุด
จิตใจสงบความปรารถนาจะสูญสลาย สอนจิตใจให้รู้ถึงความกลัว เปิดสู่ความคิดที่สงบแล้วจะพบกับความผ่อนคลาย รับรู้ถึงพลังปราณอันลุ่มลึก หากไร้ซึ่งความปรารถนา เจ้าจะได้รับมัน!!! “ นี้คือเคล็ดวิชาศักดิ์สิทธ์ในการฝึกฝนจิตวิญญาณ!!!”
จากประโยคที่ถูกเขียนไว้ ชิงสุ่ยรับรู้ได้ถึงประโยชน์ที่ได้รับ ในเวลาเดียวกัน เขายังเข้าใจเหตุผลที่อยู่เบื้องหลัง “มหาสมุทรจะถูกสรรสร้างย่อมถูกสร้างจากแต่ล่ะน้ำหยด” ถ้าเขาอยากสร้างรากฐานที่มั่นคง เขาควรที่จะเข้าใจความรู้พื้นฐานอย่างถ่องแท้
ชิงสุ่ยยังคงอ่านเกี่ยวกับอารมณ์ทั้ง 5 และหน้าที่แต่ละอย่างของบรรดาอวัยวะภายในต่อไป
“ความสุขส่งผลต่อหัวใจ ความโกรธส่งผลต่อตับ ความกังวลส่งผลต่อปอด ความวิตกกังวลส่งผลต่อความคิด และความกลัวส่งผลต่อไต “ อารมณ์ทั้ง 5 ย่อมทำงานร่วมกับร่างกายและจิตวิญญาณอย่างสำคัญยิ่ง ความแข็งแกร่งดั่งจิตวิญญาณ แรงจูงใจจะเสริมพลังให้เป็นหนึ่ง พร้อมเผชิญหน้ากับอันตรายภายใต้ความสงบ ลักษณะเหล่านี้จะปรากฏในผู้ถือครองจิตวิญญาณอันแรงกล้า!
ด้านข้างชิงอี้พบว่าชิงสุ่ยกำลังจดจ่ออย่างตั้งใจ เธอรู้สึกเป็นสุขมาก แต่เธอก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อหนุ่มสาวต้องการทำตามความฝัน ชิงอี้ไม่ต้องการให้ลูกชายของเธอตกสู่ความยากลำบาก เมื่อเธอตัดสินใจแล้วที่จะให้ชิงสุ่ยเข้าสู่เส้นทางแห่งนักปรุงโอสถ เธอไม่อยากให้เกิดความผิดพลาด
“หลังจากนี้เจ้าจะต้องพบกับอุปสรรคขว้างหนามมากมายที่อาจทำให้เจ้าต้องหยุดไปต่อ เจ้าต้องรู้เอาไว้ว่ามันคือเส้นทางที่เจ้าต้องฝ่าฟัน”ชิงอี้พูดกับตัวเอง
ชิงสุ่ยลงลึกในรายละเอียดมากขึ้น ราวกับว่าเขาได้ลืมเลือนว่าชิงอี้ยังคงอยู่ในห้องนั้นด้วย เห็นได้ชัดถึงความตั้งใจที่ชิงสุ่ยมุ่งมั่นที่มีต่อการศึกษาอ่านหนังสือเล่มนี้ “ อารมณ์ทั้ง 5 จะแปรเปลี่ยนหยั่งรากลึกลงไปในอาการเจ็บป่วยยามที่พวกเขาถูกกระทบมากเกินไป จาก โกรธมากเกินไป เศร้าสลดมากเกินไป ฯลฯ มันเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายทรุดโทรม ก่อนเริ่มต้นการทำลายจิตวิญญาณ!!!”
“ก่อนการทำลายจิตวิญญาณ อารมณ์ด้านลบจาก ความโกรธ วิตก กังกล และความกลัว จะส่งผลกระทบต่อ ปราณก่อกำเนิดอีกด้วย (Yuan Qi = พลังปราณก่อนกำเนิดซึ่งได้มาจากบุพการี)
“ปราณก่อกำเนิด!” ชิงสุ่ยเริ่มสนใจมากขึ้น เขาเข้าใจได้ทันทีว่าปราณก่อกำเนิดนั้นเป็นส่วนสำคัญ แก่นสำคัญที่เป็นแหล่งพลังปราณของมวลมนุษย์ จากถ้อยคำอื่นๆ นั้นหมายถึง ปราณก่อกำเนิด เช่นกัน หากปราณก่อกำเนิดหมดลง นั้นก็เท่ากับการสูญสิ้นชีวิต!
ในทันทีที่ชิงสุ่ยเอียงศีรษะของเขาและเห็นชิงอี้กำลังมองดูเขา ชิงสุ่ยคิดว่าศึกษาความรู้ก่อนหน้าของเขานั้น ทำให้เขาลืมถึงการมีอยู่ของชิงอี้ ชิงสุ่ยจึงทำได้เพียงยิ้มอย่างช้าๆ
“ท่านแม่ ลูกขอโทษ หนังสือเล่มนี้ช่างดึงดูดใจ ลูกเอาแต่จดจ่อกับมันจนทำให้ลูกสูญเสียการรับรู้รอบข้างไป”
“ไม่ต้องกังวลไปหรอกลูก แม่มีความสุขมากๆ มันมีคำสอนที่ว่า หากมีตั้งใจที่ดี ความหลงใหลที่ดี ‘เจ้าจะบรรลุมันได้อย่างแท้จริง’ ดูเหมือนว่าสุ่ยเอ่อน้อย จะต้องเป็นกลายเป็นหมอที่ดีในอนาคต “ ชิงอี้ยิ้มอย่างอบอุ่น ในคำพูดของเธอนั้นจงใจลดเป้าหมายที่ชิงสุ่ยต้องการจะเป็น เธอไม่ต้องการให้เด็กดื้อรันของเธอนั้นรู้สึกกดดันหากไม่สามารถเป็นนัดปรุงโอสถได้ เพราะความอุดมสมบูรณ์ของตระกูลชิงไม่เพียงพอที่จะฝึกฝนนักปรุงโอสถได้ แม้จะเป็นระดับทั่วไป
ชิงสุ่ยเข้าใจเบื้องลึกในถ้อยคำของชิงอี้ดี ในอดีตตอนเขายังเด็ก แม้ไม่นับประสบการณ์และอายุจากโลกใบเก่า ความคิดของชิงสุ่ยนับได้ว่าเติบโตไปกว่าครึ่งแล้ว ด้วยความเกลียดชั่งจากพรที่ฟ้าประทานให้เขา คือการที่เป็นผู้มีปราณอ่อนแอ ทำให้เขาต้องเผชิญกับความลำบาก เขาจึงมุ่งมั่นยืนยันอย่างแน่นอนแล้วว่าเขาจะพัฒนาให้ไกลว่าทุกคน!!!!!
“ท่านแม่ ท่านไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับลูกเลย ลูกเติบโตขึ้นมากแล้ว เมื่อท่านแม่เศร้า เหนื่อยหนือท้อแท้ลูกจะเป็นโล่ให้ท่านแม่เอง หากใครกล้าทำร้ายหรือกลั่นแกล้งท่านแม่เพียงเล็กน้อยลูกก็จะกลายเป็นง้าวค่อยสังหารพวกมัน ไม่ว่าสิ่งใดที่ท่านแม่ปรารถนา แน่นอนลูกจะทำมันให้สำเร็จ” ชิงอี้สัมผัสได้ถึงความตั้งใจจากคำพูดเหล่านั้น เธอมีความสุขมากและระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“ท่านแม่ ลูกจะจากไปในวันพรุ่งนี้ และตามสัญญา ลูกจะไม่ไปไหนไกล และจะกลับมายังตระกูลชิงแห่งนี้ก่อนสิ้นปี ท่านแม่มั่นใจได้เลยว่าตัวลูกนั้นมีพลังมากพอจะสามารถปกป้องตัวเองได้” ชิงสุ่ยสร้างความรู้สึกมั่นใจแก่ชิงอี้ครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อไม่ให้เธอต้องเป็นห่วงเขา
ชิงอี้ถอนหายใจเบาๆ สิ่งที่เธอกลัวที่สุดก็มาถึง และไม่สามารถกีดกันได้อีกต่อไป เธอแตะผมของชิงสุ่ยเบาๆ พร้อมทั้งใตหาย “ เฮ้อ…… ลูกเติบโตเร็วยิ่งนัก”
“ท่านแม่ ท่านต้องระวังตัวให้มาก ไม่ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าตระกูลชิงเราจะสูญเสียสมบัติทั้งหมดไป สมบัติเหล่านั้นจะต้องกลับสู่ตระกูลเราอีกครั้งในไม่ช้า ท่านแม่โปรดระวังอย่าให้ท่านปู่ทำอะไรวู่ว่าม ลูกอยากให้ทุกคนปลอดภัย” ชิงสุ่ยบอกกล่าวแก่ชิงอี้ผ่านสีหน้า สายตาที่จริงจัง
น้ำตาไหลลงอาบแก้มของชิงอี้ ชิงสุ่ยรับรู้ได้ทันทีว่าเขาได้กล่าวคำพูดคล้ายชายผู้นั้น ผู้ซึ่งเป็นบิดาของเขาที่ได้ทอดทิ้งพวกเขาไป!!!!! เมื่อมองไปยังการแสดงออกของคนที่ถูกทอดทิ้งแล้วสิ้นหวังผ่านใยหน้าของเธอ ชิงสั่ยกัดฟันและสาบานอย่างเงียบๆว่า “ในไม่ช้าก็เร็วข้าจะต้องให้เจ้าได้รับการชดใช้ และข้าจะต้องแข็งแกร่งอย่างเร็วที่สุดและจะบรรลุทุกความปรารถนาตราบที่ท่านแม่ต้องการ”
จากเรื่องเล่าที่ชิงอี้เคยเล่าให้ฟังยามเขายังเป็นทารก ชิงสุ่ยรู้ว่าบิดาของเขานั้นมาจากตระกูลที่มีอำนาจมหาศาล ในตอนนี้เขารู้เพียงเขานั้นต้องแข็งแกร่งขึ้นเท่า หาไม่สามารถบรรลุถึงขอบเขตพลังอาณาจักรปราณเทวะเซียนเทียน คงเป็นเรื่องยากที่เขาจะสามารถต่อกรกับตระกูลเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 1000 ปีได้