เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique - คำสัญญา 10 ปี
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่ 853 – คำสัญญา 10 ปี
“ผู้คนส่วนใหญ่ภายในหมู่บ้านแห่งนี้ล้วนแต่เป็นชายวัยกลางคนรวมถึงคนแก่ บ้างก็เป็นเด็ก พวกรุ่นเยาว์ทั้งหลายต่างพากันออกจากที่แห่งนี้ไปหมดแล้ว พวกเขาไม่อาจอยู่อย่างโดดเดี่ยวที่นี่ พวกรุ่นเยาว์ทั้งหลายต่างบอกว่าพวกเขาอยากจะออกไปเผชิญหน้ากับโลกกว้างและอยากออกไปสำรวจทุกๆที่ที่พวกเขาต้องการ”ชายชรากล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
ในทุกๆปี ย่อมมีผู้คนบางส่วนที่ต้องสูญเสียชีวิตไปในขณะล่าสัตว์เพื่อดำรงชีวิต ถ้าหากพวกเขาสามารถหยิบจับอาวุธและได้เรียนรู้ทักษะการต่อสู้แม้ว่าจะเป็นทักษะง่ายๆ บางครั้งมันก็อาจลดจำนวนผู้ที่เสียชีวิตลงได้อย่างแน่นอน
“มันก็น่าหนักใจอยู่ ข้าเองก็เป็นผู้ฝึกตนแม้ว่าข้าจะไม่ได้แข็งแกร่งกว่าเราผู้คนที่ทรงพลังในโลกภายนอก แต่อย่างน้อยข้าก็แข็งแกร่งกว่าเหล่าปุถุชนคนธรรมดา ถ้าท่านไม่รังเกียจความคิดของข้า ถ้าสามารถสอนทักษะการต่อสู้ให้กับทุกคนได้ ตราบเท่าที่คนเหล่านั้นจะเต็มใจในการฝึกฝนอย่างหนัก คนเหล่านี้จะต้องแข็งแกร่งขึ้นแน่นอน ซึ่งก็แน่นอนว่าเคล็ดวิชาที่ข้าจะสอนนั้นย่อมต้องดีกว่าสิ่งที่ท่านจะสามารถหาได้ในโลกภายนอก”ชิงสุ่ยมองไปที่ชายชราพร้อมทั้งเผยรอยยิ้ม
ในมุมมองหนึ่ง ชิงสุ่ยรับรู้ได้ว่าชายชราคนนี้ไม่ได้อ่อนแอกว่าคนอื่นเลย ชายชราคนนี้จะต้องเป็นผู้ฝึกตนที่อยู่ในระดับโฮ่วเทียน เพียงแต่เวลานี้คือช่วงบั้นปลายชีวิตของเขาแล้ว
สำหรับชิงสุ่ย ชายชราที่อยู่ระดับโฮ่วเทียนไม่ได้มีอะไรมากกับเขาเลย เขาสามารถสังหารผู้ฝึกตนปราณนักบุญขั้นสูงสุดได้อย่างง่ายดาย นับประสาอะไรกับผู้ฝึกตนระดับโฮ่วเทียน
แต่ในหมู่บ้านแห่งนี้ ผู้ที่อยู่ระดับปราณโฮ่วเทียนเปรียบดังคนที่ทรงพลังที่สุด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขากลายเป็นผู้นำหมู่บ้าน
ประชากรอยู่กันอย่างกระจัดกระจาย อย่างน้อยความสามารถและประสบการณ์ที่โชกโชนของชายชราที่อยู่ในระดับปราณโฮ่วเทียนก็สามารถบอกได้ว่าชายหนุ่มเบื้องหน้าของเขานั้นคือ “ผู้เชี่ยวชาญ” ถ้าหากพวกเขาโชคดี มันก็อาจจะทำให้ชะตากรรมของหมู่บ้านเปลี่ยนแปลงได้
“คุณชาย จริงหรือที่ท่านจะสอนทักษะการต่อสู้ให้กับพวกเรา?”ชายชราจ้องมองชิงสุ่ยด้วยความตกตะลึง เขาไม่ได้คาดหวังเลยว่าเรื่องมันจะออกมาง่ายๆแบบนี้
“ท่านผู้เฒ่า ท่านสามารถไปแจ้งข่าวและรวบรวมคนจากหมู่บ้านใกล้เคียง ทุกคนสามารถมาได้ ไม่ว่าพวกเขาจะอายุหรือเพศใด ข้าจะเป็นคนสอนพวกเขาเอง ส่วนที่เหลือมันก็ขึ้นอยู่กับพวกเขาแล้วว่าจะสามารถเปิดทางชะตาชีวิตของตัวเองได้หรือไม่ และข้าจะทำให้ทุกคนแปลกใจ”ชิงสุ่ยกล่าวจบหลังจากคิดบางสิ่งบางอย่าง นี่เป็นวันแรกที่เขาเดินทางมายังมหาทวีปราชันย์เหนือฟ้า และเขาตั้งใจที่จะทำสิ่งดีๆให้เกิดขึ้น ดังคำกล่าวที่เคยกล่าวไว้ว่า หากเชื่อมั่นในธรรมชาติเส้นทาง ผืนป่าและสายน้ำจะทำให้เราล่องเรือได้ราบรื่น
“ข้าเข้าใจแล้ว!!! ขอบคุณเจ้ามาก”ชายชราพูดอย่างมีความสุขในขณะที่มือของเขายังคงสั่นเทา
ในขณะที่ในตอนนี้พวกเขานั้นกำลังยืนอยู่หน้าบ้าน!!
“ท่านปู่!!”
“ท่านปู่!!”
หนุ่มชายหญิงคู่หนึ่งอายุประมาณ 20 ปี เดินผ่านเขาและเรียกชายชราอย่างมีความสุข พร้อมทั้งบอกชิงสุ่ยด้วยความรู้สึกประหลาดใจ
ชิงสุ่ยเองก็มองพวกเขากลับเช่นกัน ทั้งคู่แต่งตัวประหลาดแต่ดูมีสง่าราศี ซึ่งยิงสาวเต็มไปด้วยความอ่อนหวานและดวงตาที่สดใส เมื่อเธอมองดูชิงสุ่ยใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนแปลงไป
“โอ๋เอ๋อ ไปบอกทุกคนให้มารวมตัวกันที่จัตุรัสของหมู่บ้าน บอกพวกเขาว่ามี สิ่งที่ดีกำลังรอพวกเขาอยู่ แต่มันจะสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับพวกเขาเอง พวกเขาจะมาก็ได้หรือไม่มาก็ได้”ชายชรากล่าวตอบชายที่เรียกเขาว่าปู่
ชิงสุ่ยมองดูชายที่ค่อนข้างแต่งตัวประหลาด เขาเป็นคนที่มีศักยภาพทางร่างกายที่ดี และดูเหมือนจะมีปิ่นๆรอบตัวที่รุนแรงกว่าคนอื่นเล็กน้อย
“ชิงสุ่ย ชายคนนี้คือหลานชายของข้าเอง มีนามว่าชือโอ๋ ส่วนคนนี้คือหลานสาวของข้าเอง ชือเฟิง”ชายชรายิ้มขณะกล่าว
“สวัสดีท่านลุง!!!”หญิงสาวกล่าวด้วยความเขินอาย
“สวัสดี!!”
คลื่นลูกใหญ่ถาโถมเข้าไปในใจของชิงสุ่ย เขาสังเกตเห็นกลิ่นอายที่ดุร้ายกาจ การรับรู้ทางจิตวิญญาณของชิงสุ่ยสามารถรับรู้ได้ถึงสิ่งภายในลึกลึกในใจที่กลั่นสร้างความน่ากลัวขึ้นภายในใจคน
“เด็ก 2 คนนี้มีชีวิตที่ยากลำบากมาตั้งแต่เกิด พ่อแม่ของพวกเขาได้ให้กำเนิดเขาแล้วก็ได้หายตัวไปในทันที”ชายชรากล่าวพลางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
“ท่านปู่ เฟิงเอ๋อมีท่านปู่ก็เพียงพอแล้ว”หญิงสาวกอดแขนชายชราขณะกล่าว
ประมาณ 1 ชั่วยามถัดมา ชายหนุ่มวิ่งกลับมาอย่างเร่งรีบ และรีบกล่าวว่า “ข้าได้บอกทุกคนแล้ว ผู้คนบางคนก็ได้มาที่จัตุรัส”
“มาดูกันเถอะ พวกเรามีเวลาไม่มากนัก”ชิงสุ่ยกล่าว
“เอาล่ะ ข้าคงต้องขอรบกวนเจ้าแล้วพ่อหนุ่ม”ชายชรายิ้มและกล่าวอย่างมีความสุข ชีวิตของเขาเดินทางมาถึงจุดจบ แต่ยังมีภาระก็คือลูกหลานอีก 2 คน พวกเขาเป็นคนที่มีศักยภาพดี แต่กลับไม่เคยได้รับโอกาสดีๆ ดังนั้นการที่ได้พบกับชิงสุ่ยนั่นก็เหมือนการเสี่ยงดวงครั้งสุดท้าย
“อย่าได้พิธีรีตองกับข้าเลย ข้ายินดีที่จะทำเอง ที่แห่งนี้ก็เปรียบเหมือนที่คุ้นเคยของข้า ข้าจึงไม่อยากเห็นผู้คนได้รับบาดเจ็บอีก”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยความเต็มใจ
ภายในพริบตา ทั้ง 4 คนก็ได้เดินทางมาถึงจัตุรัสกลางหมู่บ้าน
ที่แห่งนี้อยู่บนพื้นที่เชิงเขาขนาดใหญ่และสูงกว่าส่วนอื่นของพื้นที่ เมื่อฝนตกน้ำจะไหลออกในทุกๆทิศทางร่วงหล่นสู่หมู่บ้าน
บนจัตุรัสมีผู้คนประมาณ 30 คน ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กและวัยกลางคน
“ข้าจะแสดงให้ทุกคนดูในขณะที่เรารอคนอื่นให้มาถึง”ชิงสุ่ยกล่าวกับคนที่หยุดบนจัตุรัส
เมื่อไม่มีการตอบสนองใดๆออก เขาจึงค่อยๆแสดงรูปแบบพยัคฆ์ ทุกท่วงท่าแสดงอย่างเชื่องช้า แต่ต่อเนื่องและราบรื่น พลังเอ้อล้นออกมาในทุกๆการเคลื่อนไหว ทำให้ผู้คนที่กำลังจ้องมองเต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
ชิงสุ่ยยังคงแสดงท่าทางอย่างต่อเนื่องเพื่อให้คนที่เข้าร่วมมาใหม่ได้มองเห็นอย่างชัดเจน
เมื่อถึงเวลา ชิงสุ่ยก็ได้หยุดลงและจ้องมองผู้คนที่มีเกือบ 100 คน มีผู้คนประมาณ 20 คนซึ่งมีอายุราวกับชือโอ๋ ส่วนที่เหลือเป็นชายวัยกลางคนอายุราว 60 ปี และมีผู้ อาวุโสไว้อีกประมาณหนึ่ง
หลังจากมองดูชิงสุ่ยก็เริ่มกล่าวอย่างช้าๆว่า “ก่อนหน้านี้ ข้าได้บอกกับผู้นำหมู่บ้านว่าถ้าจะมอบของขวัญเล็กๆน้อยๆให้กับเหล่าหนุ่มสาวทั้งหลาย”
เขาหยิบเม็ดยาพลังพยัคฆ์ออกมาแล้วมอบให้กับทุกคน “ถ้าพวกเจ้าเชื่อใจข้าก็จงรับมันไป แต่ถ้าไม่ก็จงลืมมันไปซะ”
บางคนรู้สึกลังเลแต่ชือโอ๋และชือเฟิงหยิบและกินมันในทันที การกระทำของเขาทำให้คนอื่นเลิกลังเลใจและรับยาที่ชิงสุ่ยมอบให้
หลังจากนั้นเวลาหนึ่งก้านธูปก็ผ่านไป…….
” หือออ ทำไมข้ารู้สึกว่าข้ามีพลังเพิ่มขึ้น”ชายวัยกลางคนที่โง่เขลากล่าวอย่างสงสัย
” ผู้อาวุโสเหลียงกล่าวถูกต้องแล้ว ข้าก็รู้สึกเช่นเดียวกัน”
………………..
“ข้าก็คิดว่าพลังของข้าเพิ่มขึ้นมากเหลือเกิน…..”ผู้คนบางส่วนเริ่มสงสัยและทำการยกก้อนหินขนาดใหญ่เพื่อทดสอบทั้งๆที่เขาไม่เคยยกมันได้
การกระทำของพวกเขาทําให้ทุกคนแปลกใจ โดยปกติชายคนนี้จะยกหินได้เพียงแค่ 200จิน เท่านั้น แต่ในตอนนี้เขากลับสามารถยกหินขนาด 600 จินได้อย่างง่ายดาย
“ยาเม็ดที่พวกเจ้าได้กินนั้นมันสามารถเพิ่มพลังให้กับพวกเจ้าได้มากถึง 1000 จิน อย่างไรก็ตามมันก็ขึ้นอยู่กับร่างกายของพวกเรา บางคนอาจจะซึมซับได้เพียงแค่ 500 จิน แต่บางคนอ่านได้รับมากถึง 900 จิน”ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าว
หลังจากกล่าวจบ ทุกคนต่างแสดงท่าทางร่าเริงออกมา มันเป็นความรู้สึกที่แสนพิเศษที่อยู่ๆก็ได้รับพลังที่แข็งแกร่ง
ในตอนนี้ทุกคนเชื่อถือชิงสุ่ยอย่างสมบูรณ์ พวกเขาจ้องมองชิงสุ่ยด้วยสายตาที่ชื่นชมและเต็มไปด้วยความคาดหวัง เขาจะสามารถนำพาพวกเขาไปสู่หนทางสว่างได้อย่างแน่นอน
“เดี๋ยวข้าจะสอนพวกเจ้าเกี่ยวกับเคล็ดรูปลักษณ์พยัคฆ์อย่างที่ข้าได้แสดงไว้ก่อนหน้านี้ เมื่อพวกเจ้าฝึกถึงระดับหนึ่งแล้ว พวกเจ้าจะสามารถโคจรพลังปราณตามหลักรูปลักษณ์พยัคฆ์ได้ แต่หลังจากนั้นความเข้าใจของพวกเจ้าก็จะขึ้นอยู่กับความพยายามของพวกเจ้าเอง และแน่นอนว่าถ้าหากพวกเจ้ายอมที่จะฝึกฝนอย่างหนัก ในหมู่พวกเจ้าจะต้องมีสักคนหนึ่งได้ก้าวขึ้นสู่ระดับปราณเทวะเซียนเทียนอย่างแน่นอน แล้วพวกเจ้าก็จะมีอนาคตที่ดี”ชิงสุ่ยกล่าวอย่างช้าๆ หวังว่าคำเหล่านี้จะเป็นแรงผลักดันทำให้พวกเขาฝึกฝนอย่างหนัก
จากนั้นเขาก็เริ่มแสดงท่าทางและอธิบายกระบวนท่าแต่ละท่า ระหว่างการแสดงชิงสุ่ยได้เฝ้ามองดูชือโอ๋และชือเฟิง ซึ่งทั้งสองคนเป็นไปด้วยความสามารถที่น่าอัศจรรย์ มันเป็นสิ่งที่น่าแปลกใจสำหรับชิงสุ่ยและคนอื่นๆ ราวกับว่าทั้งสองคนเคยฝึกกับชิงสุ่ยมาก่อน
“ในอนาคตพวกเจ้าจะต้องฝึกฝนให้หนักขึ้น ถ้ามีอะไรที่ไม่แน่ใจก็จงถามพวกเขาได้”ชิงสุ่ยกล่าวขณะยิ้มและชี้ไปทางชือโอ๋และชือเฟิง
ผู้คนเหล่านี้กราบสรรเสริญชิงสุ่ยพร้อมทั้งเรียกเขาว่า “อาจารย์” ก่อนที่พวกเขาจะจากไป มันเป็นเรื่องปกติมากที่ทำให้ชิงสุ่ยถูกเรียกเช่นนี้
ชือโอ๋และชือเฟิงรีบตรงกับไปฝึก ทิ้งให้เหลือแต่ชิงสุ่ยและผู้นำหมู่บ้าน
“ผู้อาวุโส ท่านคงจะหวังว่าให้ทั้งสองคนนั้นแข็งแกร่งสินะ?”ชิงสุ่ยถามอย่างใจเย็น
ชายชราจ้องมองชิงสุ่ยเป็นเวลานานก่อนที่จะถอนหายใจและกล่าวออกมาว่า “ทั้ง 2 คนถูกทอดทิ้ง ผู้คนมากมายต่างกล่าวว่าพวกเขาเป็นตัวอับโชค เพราะขณะที่ทั้งสองคนเกิดมา ญาติทั้งหมดของเจ้าเด็กน้อยทั้งสองก็ได้ตายจากไป ในตอนนั้นข้าก็อยู่ตัวคนเดียวข้าจึงเป็นคนรับพวกเขามาดูแล เวลา 20 ปีช่างเดินผ่านไปเร็วเหลือเกิน”
” แล้วท่านอยากให้พวกเขาอยู่ที่นี่ตลอดไปหรือจากไปกันล่ะ?”ชิงสุ่ยยิ้มและเอ่ยถาม
“ข้าเองก็คงมีชีวิตเหลืออยู่อีกไม่กี่ปีแล้ว มันคงเป็นโชคชะตาที่ทำให้พวกเขาได้มาพบพานกับเจ้า มันคงจะดีกว่าถ้าหากปล่อยพวกเขาไป”ชายชราถอนหายใจและกล่าวออกมา
“เอาล่ะ ท่านมั่นใจได้เลย”ชิงสุ่ยยิ้มตอบ
ชิงสุ่ยและผู้นำหมู่บ้านกลับไปยังที่พักผ่อน
ชือโอ๋และชือเฟิงกลับมาในช่วงเย็น เมื่อเห็นชิงสุ่ย ชือเฟิงก็ได้เรียก “ท่านลุง”ในทันที
“ท่านลุง”ชือโอ๋เองก็กล่าวทักทายเช่นกัน
หลังจากนั้นไม่นานผู้นำหมู่บ้านก็ได้จากเดินไป
“พวกเจ้าทั้งสองคนอยากแข็งแกร่งขึ้นหรือไม่?”
“แน่นอน พวกข้าอยากแข็งแกร่ง”น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและความหวังดังขึ้น
“มันเป็นเรื่องยากมากนักหากต้องการแสวงหาความแข็งแกร่ง”
“พวกเราไม่เคยกลัวที่จะต้องฝึกฝนอย่างหนัก!!”
“เดี๋ยวข้าจะช่วยกระตุ้นศักยภาพในร่างกายและเสริมสร้างรากฐานแห่งพลังให้กับพวกเจ้าเอง”
หลังจากนั้น ชิงสุ่ยก็เริ่มทำการฝังเข็มให้กับพวกเขาทั้งสองและเริ่มกระตุ้นกลิ่นอายที่รุนแรงออกมา มันมีทั้งพลังลึกลับและพลังที่แข็งแกร่ง ยามใดที่พวกเขาทั้งสองเติบโต กลิ่นอายพลังแห่งนี้จะเป็นเช่นไรกันแน่
หลังจากได้ทำการกระตุ้นทั้งหมด ชิงสุ่ยก็ได้ใช้ผลเบญจธาตุและยาจำนวนหนึ่งในการปรับสมดุลพลัง
“พวกเจ้าจงฝึกฝนให้หนัก ข้าขอมอบยาส่วนหนึ่งให้กับพวกเจ้า เจ้าสามารถตัดสินเส้นทางชะตากรรมของพวกเจ้าเองได้ หลังจากนี้อีก 10 ปี ถ้าหากพวกเจ้าต้องการเพื่อติดตามข้า ก็ต้องมาหาข้าที่นิกายเทวโลกแห่งมหาทวีปเมฆามรกต”