หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

เทพมังกรสงครามอหังการ - Dragon Marked War God ตอนที่ 192 ตราประทับมังกรสี่ร้อยสิบดวง

  1. หน้าแรก
  2. เทพมังกรสงครามอหังการ
  3. Dragon Marked War God ตอนที่ 192 ตราประทับมังกรสี่ร้อยสิบดวง
Prev
Next

Dragon Marked War God ตอนที่ 192 ตราประทับมังกรสี่ร้อยสิบดวง

 

แปลไทยโดย : Subaru-Kyun

 

ตรวจทาน : Subaru-Kyun

=============================

 

"เจียงเฉินนี่เป็นตัวสร้างปัญหาจริงๆ"

 

นักพรตทมิฬหัวเราะและพูดกับกั๋วฉานผ่านทางสัมผัสเทวะของเขา

 

"ท่านผู้นำนิกาย ดูเหมือนว่านิกายวิหารมรกตจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ข้าคิดว่าพวกมันคงจะมีความขุ่นแค้นใจกับเจียงเฉินเป็นแน่ หากไม่เป็นเช่นนั้น พวกมันคงไม่เจาะจงมาที่นี่แน่ ถึงแม้ว่าข้าจะมีเคล็ดลับในการแก้ปัญหานี่ก็ตาม"

 

กั๋วฉาน พูด

 

"บอกข้ามา"

 

นักพรตทมิฬ พูด

 

"วัตถุประสงค์ของนิกายวิหารมรกตคือการสังหารเจียงเฉินเพื่อระบายความคับข้องใจของพวกมัน หากเป็นกรณีเช่นนี้ พวกเราควรให้โอกาสพวกมัน เพียงแค่ให้พวกมันส่งหนึ่งในศิษย์อัจฉริยะของพวกมันมาสู้กับเจียงเฉิน เมื่อมีหยุนฉานจากนิกายกระบี่สวรรค์อยู่แล้ว ข้าไม่คิดว่าเจียงเฉินจะสนใจหากมีคนสู้เพิ่มอีกคน นี่เป็นการดีที่จะได้ทดสอบสำหรับเจียงเฉิน"

 

กั๋วฉาน พูด

 

"ตกลง พวกเราจะทำอย่างที่เจ้าว่ามา"

 

ดวงตาของนักพรตทมิฬถูกจุดประกายขึ้น เขารู้สึกว่าความคิดของกั๋วฉานค่อนข้างดีเลยทีเดียว ทันใดนั้น เขาก็หันกลับไปยังชิงฉื่อ และพูดเสียงดังออกมาว่า "ชิงฉื่อ นิกายทมิฬไม่ต้องการจะต่อสู้กับนิกายวิหารมรกต อย่างไรก็ตาม เจียงเฉินก็เป็นศิษย์ของข้า และเจ้าไม่สามารถพาเขาออกไปที่นี่ นอกจากนี้ เจ้าเป็นถึงผู้นำนิกาย การจะสู้กับคนรุ่นเยาว์นั้นไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมกับสถานะของเจ้า ข้าไม่มีความคิดในสิ่งที่เจียงเฉินทำกับนิกายของเจ้า แต่ข้าจะให้โอกาสทั้งหมดแก่เจ้า เจ้าสามารถส่งศิษย์อัจฉริยะจากนิกายวิหารมรกตหนึ่งคน และไม่ว่าจะเป็นใคร เจียงเฉินก็ตอบรับคำท้าแน่นอน ตราบที่เป็นศิษย์อัจฉริยะรุ่นเยาว์จากนิกายวิหารมรกต ข้าให้สัญญาว่าจะไม่มีใครในนิกายทมิฬหยุดการต่อสู้ของพวกเจ้า และจะไม่มีใครช่วยเหลือเจียงเฉินในระหว่างการต่อสู้ด้วย"

 

"นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน? แม้ว่าเจียงเฉินจะเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์ขั้นกลาง ถึงเป็นผู้อาวุโสแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่ใช่คูู่ต่อสู้ของมันด้วยซ้ำ! นักพรตทมิฬเจ้ากำลังบอกให้ข้าส่งศิษย์ของข้าไปตายอย่างนั้นรึ?"

 

ชิงฉื่อพูดออกมาอย่างกราดเกรี้ยว แม้ว่ามันยังไม่เคยพบเจียงเฉินเป็นการส่วนตัว มันเป็นความจริงที่หนึ่งในผู้อาวุโสแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นต้นนั้นถูกเจียงเฉินฆ่าตาย

 

"อย่าบอกนะว่านิกายวิหารมรกตไม่มีศิษย์หลักสักคน?"

 

กั๋วฉานพูดออกมาเสียงดัง

 

"ชิงฉื่อ ผลลัพธ์เช่นนี้ อัจฉริยะปะทะอัจฉริยะ นี่มันก็ยุติธรรมดีมิใช่หรือไง หากมีตาแก่คนไหนต้องการจะสู้ ข้า นักพรตทมิฬจะเป็นคนสู้กับเจ้าจนจบเอง! อย่าลืมสืนี่คือแคว้นฉี อาณาเขตของนิกายทมิฬ หากพวกเราสู้กันจริงๆข้าเชื่อว่าเจ้าไม่ได้เปรียบพวกเราแน่"

 

นักพรตทมิฬพูดออกมาอย่างดุดัน

 

"ท่านผู้นำนิกาย พวกเราสามารถให้ฮัวหยุนเอ้อกลับมาจากถ้ำใต้ดินสู้กับเจียงเฉินก็ได้มิใช่หรือ"

 

หลิวหงกระซิบนักพรดฉื่อ

 

"ใช่แล้ว ฮัวหยุนเอ้อทะลวงเข้าสู่แก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์เมื่อปีก่อน! ด้วยร่างกายที่มีลักษณะพิเศษ อีกทั้งเขายังได้บ่มเพาะทักษะเพลิงสวรรค์ รวมถึงเขาได้บ่มเพาะในถ้ำใต้ดินมาเกือบปี ข้ามั่นใจว่าเจียงเฉินไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแน่"

 

ผู้อาวุโสอีกคนพูด ผู้อาวุโสทั้งหมดต่างผงกหัวของพวกมันเห็นด้วยในข้อตกลงนี้ เมื่อศิษย์หลักถูกพูดถึง พวกมันทั้งหมดก็คิดเกี่ยวกับฮัวหยุนเอ้อในทันที

 

"ก็ดี กลับแคว้นเฉวียนกันก่อน หลิวหงเจ้าไปยังถ้ำใต้ดินพาฮัวหยุนเอ้อ ส่งเขามาที่นี่สังหารเจียงเฉิน"

 

จิตวิญญาณของชิงฉื่อลุกโชน จากนั้นมันก็พาเหล่าผู้อาวุโสที่เหลือกลับไปยังที่มันมา แม้ว่าชิงฉื่ออยากจะฆ่าเจียงเฉินใจจะขาด มันรู้ดีว่าหากนักพรตทมิฬขวางทางมัน มันคงไม่สามารถแม้กระทั่งเห็นใบหน้าของเจียงเฉิน

 

เช่นนั้น มันจึงตกลงกับคำพูดของนักพรตทมิฬ การต่อสู้กับศิษย์รุ่นเยาว์ตัวน้อยๆ ด้วยสถานะของมันเป็นถึงผู้นำนิกาย ชื่อเสียงของมันคงได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงเป็นแน่ เช่นนั้นพวกมันจึงทำให้ชัดเจนว่าพวกมันสามารถส่งศิษย์อัจฉริยะจากนิกายวิหารมรกตมาท้าประลองเจียงเฉินได้และไม่มีใครจากนิกายทมิฬหยุดพวกมันอีก

 

ถึงแม้ว่าเจียงเฉินจะสามารถจัดการและสังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นต้นได้ ฮัวหยุนเอ้อไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป มันเป็นอัจฉริยะที่ผู้เชี่ยวชาญระดับเดียวกันไม่อาจเทียบได้ มันยังสามารถสู้กับใครก็ตามที่มีระดับการบ่มเพาะเหนือกว่ามันได้

 

นิกายวิหารมรกตจากไป แต่นิกายทมิฬเกิดความสับสนอลหม่านขึ้นอีกครั้ง และเจียงเฉินก็ตกกลายเป็นเป้าสายตาของทุกคน ทุกคนต่างคิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในอีกสองวันให้หลัง หยุนฉานก็ต้องการสู้กับเขา และในตอนนี้ก็ยังมีนิกายวิหารมรกตอีก แถมยังไม่มีใครรู้ว่าศิษย์ของนิกายวิหารมรกตนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน

 

สถานการณ์เช่นนี้ไม่ได้สร้างความรำคาญให้แก่เจียงเฉินที่กำลังเก็บตัวบ่มเพาะอยู่แต่อย่างใด ไม่มีอะไรที่สำคัญกว่าการดูดซับไข่ทองคำ เขาดูดซับมันไปแล้วครึ่งหนึ่ง และมันทำให้เขาสร้างตราประทับมังกรเพิ่มขึ้นอีกเจ็ดสิบดวง ในตอนนี้เขามีตราประทับมังกรทั้งหมดสามร้อยเจ็ดสิบดวง และเขาใกล้จะครบสี่ร้อยดวงแล้ว

 

ถึงแม้ว่ามันจะคงพลังงานในไข่ทองคำยังเหลืออยู่ห้าส่วน การบ่มเพาะขั้นต่อไปของเจียงเฉินนั้นยากยิ่งขึ้น มันอยู่ในรูปแบบตราประทับมังกร พลังงานที่ต้องใช้สร้างตราประทับดวงใหม่ก็ยิ่งมากขึ้นเช่นกัน แต่ถึงเป็นเช่นนั้น ไข่ทองคำนี่ก็มากพอที่จะทำให้เจียงเฉินทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลายได้

 

เวลาได้ล่วงเลยไป กลางวันได้ผ่านพ้นไป กลางคืนได้เข้ามา

 

ทันใดนั้น เจียงเฉินที่นั่งอย่างเงียบสงบภายในห้องของเขามากว่าสองวันได้เปิดตาของเขาขึ้น ลำแสงเจิดจ้าสองสายได้พุ่งออกมาจากดวงตาของเขา พลังงานที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของเขาโดยไม่ตั้งใจได้ทำให้ทั่วทั้งห้องนี้สั่นสะเทือนขึ้น

 

"บ้าจริง พลังงานแข็งแกร่งอะไรเช่นนี้! คู่หูทะลวงเข้าสู่แก่นแท้สวรรค์ขั้นปลายแล้วสินะ"

 

เมื่อที่สัมผัสถึงพลังงานได้ หวงต้าที่ดูเบื่อหน่ายและอ่อนล้า หูของมันก็ตั้งขึ้นในทันที ทันใดนั้นมันก็หันกลับไปมองที่ห้องของเจียงเฉิน

 

ภายในห้อง เจียงเฉินได้ดูดซับไข่ทองคำโดยสมบูรณ์ เขาอยู่ระหว่างการทะลวงไปยังแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลาย เขาตะโกออกมาด้วยเสียงที่ล้ำลึก และเอายาฟื้นพลังมนุษย์จำนวนมากออกมาจากแหวน จากนั้นก็กลืนมันลงไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

พลังงานจำนวนมหาศาลในยาฟื้นพลังมนุษย์นั้นถูกดูดซับโดยทักษะร่างแปลงมังกรและแปรเปลี่ยนเป็นกระแสพลังงานไหลไปมาอย่างรวดเร็วภายในทะเลลมปราณของเจียงเฉิน

 

ณ ตอนนี้ แก่นสวรรค์ที่อยู่ภายในทะเลลมปราณเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง แก่นสวรรค์ขนาดเท่ากำปั้นสีทองเริ่มส่งเสียงเสียดแทงและสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ตราประทับมังกรสีแดงโลหิตจำนวนนับไม่ถ้วนแทรกซึมเข้าไปในมัน และทำให้มันมีขนาดเป็นเท่าตัว

 

พลังงานของเจียงเฉินนั้นทรงพลังอย่างมาก มันเป็นรากฐานที่ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ เขาดูเหมือนกับสัตว์ร้ายแห่งบรรพกาล ที่น่าหวั่นเกรงอย่างมาก

 

ในตอนนี้เจียงเฉินทะลวงเข้าสู่แก่นแท้สวรรค์ขั้นปลายได้สำเร็จ และเขามีตราประทับมังกรทั้งหมดสี่ร้อยดวง อย่างไรก็ตามเนื่องจากพลังงานของไข่ทองคำยังไม่หมดลง เจียงเฉินไม่อาจที่จะหยุดการบ่มเพาะพลังได้ เขาจำเป็นต้องการให้พลังงานในร่างเขาและระดับการบ่มเพาะแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลายของเขาเสถียรขึ้น

 

"เจ้าหนุ่มนั่นทะลวงเข้าสู่แก่นแท้สวรรค์ขั้นปลายแล้ว แต่ทำไมมันยังไม่ออกมาสักที? อย่าบอกนะว่าหลับอยู่ภายในห้อง…."

 

หวงต้าหดหู่ลง ถึงอย่างนั้น มันก็รู้ว่าต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่างที่เจียงเฉินยังไม่ออกมา มันจึงไม่อยากรบกวน คอยคุ้มกันต่อไป

 

รุ่งเช้าวันต่อมา หยุนฉานก็ได้มาถึง มันลอยอยู่ภายนอกประตูหลักของนิกายทมิฬขณะที่รูปลักษณ์ของมันแลดูยิ่งใหญ่ เฉกเช่นสองวันก่อน มันตะโกนออกมา

 

"เจียงเฉิน ออกมาเดี๋ยวนี้และรับความตายไปซะ!"

 

"บัดซบ หยุนฉานมันตรงเวลาเสียจริง มันมาถึงเร็วชะมัด"

 

"มันตั้งใจฆ่าเจียงเฉินล้างแค้นให้เหลียงเซียว หลังจากรอมาสองวัน ข้ามั่นใจว่ามันคงเริ่มทนไม่ไหวแล้วสินะ"

 

"พวกเราไม่เห็นศิษย์พี่เจียงตั้งแต่สองวันก่อน ข้าคิดว่าเขายังคงบ่มเพาะพลังอยู่เป็นแน่"

 

…………………………………………………………..

 

การมาถึงของหยุนฉานเห็นได้ชัดว่าเป็นการเปิดฉากการต่อสู้ที่รุนแรง ศิษย์ทั้งหมดของนิกายทมิฬเดินออกมายังที่ของพวกเขา และรวมตัวกันในที่แตกต่างกันภายในหุบเขาทมิฬ จากนั้นพวกเขาก็จ้องมองไปที่หยุนฉาน

 

"เมื่อหยุนฉานมาที่นี่ ข้าสงสัยว่าศิษย์จากนิกายวิหารมรกตจะมาถึงตอนไหนกันแน่?"

 

"ข้าคิดว่ามันกำลังมา ดูเหมือนว่านิกายวิหารมรกตมีความปรารถนาที่จะสังหารเจียงเฉิน"

 

ใบหน้าของศิษย์ทั้งหลายเต็มไปด้วยความตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์จากนิกายทมิฬไปสู้กับศิษย์หลักจากนิกายอื่น มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้นทุกคนจึงคาดการณ์ไปต่างๆนาๆ หากเจียงเฉินสามารถชนะหยุนฉาน การต่อสู้ครั้งนี้จะถูกจารึกในประวัติศาสตร์ของนิกายทมิฬอย่างแน่นอน แม้แต่หนานเป่ยเฉาก็ไม่เคยถูกจารึกเช่นนี้

 

"เจียงเฉินมันไปอยู่ที่ไหน? ทำไมเจ้ายังไม่ออกมาอีก? หรือว่าเจ้าต้องการจะเป็นพวกขี้แพ้จริงๆ?"

 

หยุนฉานมีท่าทีหยิ่งยโส ตะโกนออกมาจากท้องฟ้าด้วยความภาคภูมิใจ

 

"เจ้าแค่อดทนรออีกสักครู่หนึ่งไม่ได้รึไง? ศิษย์พี่เจียงมาที่นี่อย่างแน่นอน"

 

"ใช่แล้ว! ทำไมเจ้าถึงใจร้อนที่จะฆ่าตัวตายเช่นนี้? เจ้าสามารถมีชีวิตยาวนานได้ในตอนที่ศิษย์พี่เจียงยังไม่มา ทำไมเจ้าถึงไม่รู้จักหวงชีวิตของเจ้าบ้างหรืออย่างไร?"

 

หวังหยุนและหวงเจิ้งตะโกนกลับไป ทั้งสองเป็นผู้ติดตามที่ใกล้ชิดที่สุดของเจียงเฉิน ความภักดีที่พวกเขามีต่อเจียงเฉินนั้นไม่อาจเทียบได้ ดังนั้นพวกเขาจึงยั่วยุหยุนฉานเพื่อเขา

 

"เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน? กล้าดียังไงถึงมาพูดกับข้าเช่นนี้ เจ้ารนหาที่ตาย!"

 

ดวงตาของหยุนฉานเบิกกว้างมันจ้องมองไปยังหวังหยุนกับหวงเจิ้ง หยุนฉานไม่ใช่คนที่ชอบเก็บใครบางคนไว้ในใจของมัน

 

"อุหวะ หลงตัวเองสุดๆ! หลังจากที่ศิษย์พี่เจียงจัดการเจ้าจนแม่เจ้ายังไม่อาจจำเจ้าได้! ข้าจะรอดูว่าเจ้าตอนนั้นว่าจะเย่อหยิ่งได้อีกรึไม่!"

 

"ปล่อยมันไปเถอะ ทำไมถึงต้องไปพูดกับคนที่กำลังจะตายกันเล่า?"

 

หวังหยุนกับหวงเจิ้ง พวกเขาทั้งคู่ยั่วยุหยุนฉานทำให้มันรู้สึกโกรธขึ้นมา หากไม่ใช่ว่าเป้าหมายของมันในวันนี้คือเจียงเฉิน ตอนนี้มันคงเข้าไปจู่โจมพวกเขาทั้งสองคนเป็นแน่

 

"เรียกเจียงเฉินออกมารับความตายของมัน เดี๋ยวนี้! ข้าไม่อยากเสียเวลาและความพยายามกับพวกขี้แพ้หรอกนะ!"

 

หยุนฉานยังคงยั่วยุต่อไป

 

ในตอนนี้ ภายในนิกายทมิฬ เจียงเฉินยังคงอยู่ในห้องของเขา หวงต้าเดินไปมาด้านนอกห้อง มันสามารถได้ยินคำยุแหย่ของหยุนฉานทุกคำ และมันทำให้เขารู้สึกตกใจขึ้นมา

 

"หวงต้า มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมน้องเจียงถึงยังบ่มเพาะไม่เสร็จ?"

 

กั๋วฉานมาถึงแล้วถามด้วยเสียงที่เป็นกังวล หยุนฉานตะโกนยั่วยุอยู่ด้านนอก หากว่าเจียงเฉินไม่ออกไปเผชิญหน้ากับมัน มันคงส่งผลต่อชื่อเสียงของเขาสาหัสแน่

 

"ข้าก็ไม่รู้ เจ้าหนุ่มนี่มันทะลวงผ่านได้ตั้งแต่เมื่อคืน แต่มันยังไม่ออกมาสักที บัดซบ!"

 

หวงต้าลนลานและฉุนเฉียวขึ้นมา

 

ในตอนที่หวงต้าพูดจบ ประตูห้องของเจียงเฉินก็ได้ถูกผลักออกมา เจียงเฉินสวมชุดสีขาวบริสุทธิ์เดินออกมาจากห้องพร้อมกับรอยยิ้มที่เจิดจ้าบนใบหน้าของเขา

 

หลังจากที่ใช้เวลาตลอดทั้งคืน ในที่สุดเจียงเฉินก็ดูดซับพลังงานจากไข่ทองคำได้ทั้งหมด ทำให้เขามีตราประทับมังกรทั้งหมด สี่ร้อยสิบดวง และฐานบ่มเพาะแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลายก็เสถียรสมบูรณ์แล้ว

 

"โอ้ บรรพบุรุษข้า ในที่สุดเจ้าก็ออกมา! หากตอนนี้เจ้ายังไม่ออกมา เจ้านายหมาของเจ้าคงจะไปขี้บนหัวเจ้าเป็นแน่!"

 

หวงต้าพูดออกมาพร้อมกับแยกเขี้ยวของมัน

 

"ไอ้*****!"

 

เจียงเฉินสบถสาปแช่งออกมาเสียงดัง เขาไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วทำไมเจ้าหมานี่ถึงได้ต้องการทำอะไรบางอย่างที่น่าสะอิดสะเอียนเช่นนี้?

 

"หวงต้า ข้าเพียงแค่ขอให้เจ้าคุ้มกันข้าระหว่างที่ข้าบ่มเพาะพลัง แล้วทำไมเจ้าถึงต้องการที่จะขี้บนหัวข้า?"

 

เจียงเฉินรู้สึกพูดอะไรไม่ออก

 

"เจียงเฉิน ออกมาเดี๋ยวนี้และรับความตายของเจ้าซะ!"

 

หยุนฉานตะโกนอีกครั้ง ครั้งนี้เท่านั้นที่เจียงเฉินสามารถได้ยินเสียงดังและชัดเจนของมัน

 

"เกิดอะไรขึ้น?ไอ้สารเลวตัวไหนมันเรียกร้องหาความตาย?"

 

ท่าทีของเจียงเฉินพลันกลายเป็นอำมหิต

 

"ตอนนี้เจ้าก็รู้แล้วว่าทำไม เจ้านั่นตะโกนยั่วยุออกมาเป็นบ่อยๆ และเจ้านายหมาของเจ้าจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว!"

 

หวงต้าพูดขณะที่มันกระโดดไปมา

 

"ใครกันล่ะนั่น?"

 

เจียงเฉินขมวดคิ้วของเขา

 

=============================

โปรดติดตามตอนต่อไป…………

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "Dragon Marked War God ตอนที่ 192 ตราประทับมังกรสี่ร้อยสิบดวง"

4.2 21 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz