หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

เทพมังกรสงครามอหังการ - Dragon Marked War God ตอนที่ 191 ตัวสร้างปัญหาขั้นเทพ

  1. หน้าแรก
  2. เทพมังกรสงครามอหังการ
  3. Dragon Marked War God ตอนที่ 191 ตัวสร้างปัญหาขั้นเทพ
Prev
Next

แปลไทยโดย Takumi Kun

 

ตรวจทานโดย Takumi Kun

================================

 

ชิงฉื่อกราดเกรี้ยว กราดเกรี้ยวอย่างมาก ปอดของมันดูเหมือนมันจะระเบิดออกมาขณะที่ไม่อาจทนต่อการโกรธจัดได้ เมื่อคนๆหนึ่งเต็มไปด้วยความหวังและกระทั่งเห็นถึงแสงแห่งความหวังอยู่ตรงหน้ามัน แต่ทันใดนั้นมันพบว่าความหวังทั้งหมดของมันเป็นเพียงภาพลวงตา และทุกอย่างแหลกเป็นชิ้นๆดั่งแก้ว อารมณ์ประเภทนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วๆไปสามารถเข้าใจได้

 

นิกายวิหารมรกตและหมูป่าหนามอัคคีได้ต่อสู้กันอย่างรุนแรงผลสรุปที่ออกมาต่างฝ่ายต่างได้รับความเสียหายอย่างมาก ในเวลาเดียวกันหมูป่าหนามอัคคีเป็นความหวังอันยิ่งใหญ่ที่สุดของนิกายวิหารมรกตในการยกระดับขึ้น ชิงฉื่อจะได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญจิตวิญญาณยุทธและกลายเป็นดั่งกฎของแคว้นเฉวียน มันเองก็ต้องการให้แคว้นเฉวียนกลายเป็นเหมือนแคว้นที่มีผู้เชี่ยวชาญจิตวิญญาณยุทธ มันต้องการให้ราชวงศ์เซียนยุทธจับตามองมัน

 

แต่ตอนนี้มันมลายหายไป มันได้หายไปแล้ว

 

วิญญาณอสูรหมูป่าหนามอัคคีได้หายไปแล้ว แต่ชิงฉื่อได้นำร่างมันไปด้วย มันถือร่างที่ใหญ่โตดั่งภูเขากลับไปยังนิกายวิหารมรกต ร่างกายของหมูป่าหนามอัคคีนั้นมีประโยชน์ เช่นขนของมันสามารถนำไปทำเครื่องป้องกันได้หลากหลาย

 

ในวันเดียวกับที่ชิงฉื่อกลับไปยังนิกายวิหารมรกต มันได้เรียกผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์สองสามคนและมุ่งไปยังแคว้นฉี

 

"ไอ้เวร!มันจะมากไปแล้ว! ไอ้เวรนั่นได้ฆ่าหมูป่าหนามอัคคีขณะที่มันอยู่ในสภาพที่อ่อนแอที่สุดจริงๆ มันได้เอาทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของนิกายวิหารมรกตไป!"

 

"ฆ่ามัน พวกเราจักต้องทำลายมันและเพื่อขจัดความแค้นเคืองในใจของพวกเรา!"

 

"ไปกันเถอะ ไปยังนิกายทมิฬ!พวกเราจะขอให้นักพรตทมิฬส่งตัวเจียงเฉินมา หากเขาปฎิเสธนิกายวิหารมรกตจะเป็นศัตรูกับเขาทันที"

 

 

**********************************************

 

ผู้อาวุโสนิกายวิหารมรกตทุกคนเต็มไปด้วยความเดือดดาล และความโกรธเกรี้ยวสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนบนหน้าพวกมัน สถานการณ์เช่นนี้จะดูเหมือนว่าเจียงเฉินได้ลักพาตัวบุตรธิดาของพวกมันไป สร้างความเกลียดชังอย่างลึกล้ำ

 

ในครั้งนี้ชิงฉื่อได้โกรธเกรี้ยวอย่างแท้จริง หากว่ามันไม่สามารถฆ่าเจียงเฉินได้ มันจะกลายเป็นปมในใจของมันและหากมันปล่อยให้มันกดดันอยู่แบบนี้ มันไม่อาจทะลวงเข้าสู่ขอบเขตจิตวิญญาณยุทธได้ตลอดชีวิต

 

นิกายวิหารมรกตอันเกรียงไกรเป็นนิกายที่ได้รับการเคารพยำเกรงในแคว้นเฉวียน แต่มันถูกชายหนุ่มหลอก หากว่าพวกมันไม่สามารถทำบางสิ่งและกู้ชื่อเสียงมันกลับคืนมา นิกายวิหารมรกตจะกลายเป็นที่น่าหัวร่อในแคว้นเฉวียน

 

ในตอนนั้นเอง เจียงเฉินได้จงอยู่ในการบ่มเพาะ และมุ่งสมาธิทั้งหมดของเขาไปในการดูดซับไข่ทองคำ ดังนั้น เขาไม่ได้สนใจในสิ่งที่เกิดขึ้นด้านนอก

 

ไข่ทองคำขนาดเท่ากับหัวของมนุษย์ได้โคจรอยู่กลางอากาศตรงหน้าเจียงเฉิน ตราประทับมังกรสีแดงจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากร่างของเจียงเฉิน ปกคลุมไข่ทองคำทั้งใบ พลังที่อยู่ภายในไข่ทองคำเริ่มไหลออกมาเข้าสู่ร่างของเจียงเฉิน และด้วยการใช้ทักษะร่างแปลงมังกร พลังงานได้กลายเป็นพลังงานอันบริสุทธิ์ที่สุด จากนั้นเข้าไปยังทะเลปราณของเจียงเฉินและโคจรรอบแก่นแท้สวรรค์ของเขาและเริ่มสร้างตราประทับมังกร

 

การที่จะดูดซับไข่ทองคำโดยสมบูรณ์มันไม่ใช่งานที่ง่ายดาย มันจักต้องทำทีละนิดทีละนิด หากทำการดูดซับเร็วเกินไป พลังงานที่อยู่ภายในจะเสียเปล่า ในกรณีนี้ที่เจียงเฉินมีเวลามาก ดังนั้นเขาจะนำไข่ทองคำไปใช้ในการทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลายได้อย่างเต็มที่

 

หลังจากผ่านคืนที่กระสับกระส่าย หนึ่งในสี่ของไข่ทองคำได้ถูกดูดซับไปแล้ว ทำให้เจียงเฉินสร้างตราประทับมังกรได้ยี่สิบห้าดวง ทำให้เขามีตราประทับมังกรในร่างสามร้อยยี่สิบแปดดวง นี่เป็นพลังอันน่าสะพรึงกลัวของทักษะร่างแปลงมังกร เมื่อได้สร้างตราประทับมังกรดวงใหม่ พลังยุทธโดยรวมของเจียงเฉินได้เพิ่มขึ้นด้วย

 

เจียงเฉินได้ทำการบ่มเพาะอย่างวางใจ และหวงต้าจะเติมเต็มหน้าที่ของเขาโดยการคุ้มกันอยู่ด้านนอก อย่างไรก็ตาม ไม่มีศิษย์นิกายทมิฬคนใดสามารถสงบใจได้ การมาของหยุนฉานสร้างความโกลาหลในหมู่พวกเขา ทุกคนต่างรู้ว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นในสองวันนี้ หากว่าเจียงเฉินสามารถทะลวงขั้นต่อไปได้ การต่อสู้จักต้องรุนแรงอย่างแน่นอน

 

ในตอนบ่ายแก่ๆ ความโกลาหลได้เกิดขึ้นนอกประตูหลักนิกายทมิฬอีกครั้ง พลังงานห้าสายได้เข้ามาอย่างรวดเร็ว

 

"ไอ้เวรเจียงเฉินออกมาเผชิญกับความตายซะ!"

 

เสียงตะโกนอย่างน่ากลัวดังไปทั่งภูเขา คลื่นเสียงทรงพลังกว่าหยุนฉานหลายเท่า และมันมาแต่ไกล มันยังทำให้ผู้คนรู้สึกปวดหูอีกด้วย

 

"นี่มันบ้าอะไรกัน?!เกิดอะไรขึ้น?เมื่อไรมันจะจบสิ้นสักที?"

 

"บัดซบ เจียงเฉินมันทำอะไรไว้ เหตุใดถึงมีแต่คนที่แค้นเคืองมาหาเขา?ดูพวกเขาสิ ข้าคิดว่าความเกลียดชังที่มีต่อเจียงเฉินมันมากมายนัก"

 

"ตั้งแต่ที่ศิษย์พี่เจียงเฉินได้เข้ามาที่นิกายทมิฬ ปัญหาดูท่าไม่มีวันหยุด ไม่มีความสงบสุขทั้งเขตในและเขตนอก เจียงเฉินเป็นปีศาจที่จุติมาจริงๆสินะ เป็นแบบอย่างของข้าเลย!"

 

………………………………………………..

 

ศิษย์ทุกคนของนิกายทมิฬแทบกระอักเลือดออกมา พวกเขาทุกคนแปลกใจในสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ หยุนฉานได้กลับไปในตอนเช้า และยังมีกลุ่มที่ต้องการสังหารเจียงเฉินปรากฎขึ้นอีกกลุ่ม เมื่อตัดสินจากพลังของพวกมันแล้ว คนกลุ่มนี้ทรงพลังยิ่งกว่าหยุนฉาน

 

ฝุ่บ ฝุ่บ ฝุ่บ…

 

อีกครั้งหนึ่งที่บรรดาศิษย์ได้ออกมาจากสถานที่ของตน พวกเขามาเร็วยิ่งกว่าตอนเช้าเสียอีก พวกเขาทุกคนต้องการที่จะเห็นว่าผู้ใดมาหาเจียงเฉิน และค้นหาว่าเจียงเฉินได้ไปทำสิ่งใดเอาไว้

 

ภายนอกประตูหลักนิกายทมิฬ มีกลุ่มชายชราห้าคนกำลังลอยอยู่บนฟ้า พวกมันทุกคนสวมเครื่องแบบสีเขียวเหมือนกันหมด และผู้นำที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุด ไม่ได้อ่อนด้อยกว่านักพรตทมิฬแม้แต่น้อย

 

"สวรรค์! คนพวกนี้มาจากที่แห่งใดกัน?ระดับการบ่มเพาะของพวกมันแข็งแกร่งมาก!"

 

"ข้าสัมผัสได้ว่าผู้นำพวกนั้นไม่ได้ด้อยกว่าท่านผู้นำนิกายเลย!อย่างไรก็ตามข้าไม่เคยเห็นคนพวกนี้มาก่อน….ตั้งแต่เมื่อใดกันที่แคว้นฉีมีผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งมากมายขนาดนี้?"

 

"พวกมันไม่ได้มาจากนิกายใหญ่ทั้งสามอย่างแน่นอน บางทีพวกมันอาจจะไม่ได้อยู่กระทั่งแคว้นฉีด้วยซ้ำ? ไอ้หยา ศิษย์พี่เจียงเฉินไปทำสิ่งใดไว้เนี่ย?ดูหน้าพวกมันสิ พวกมันดูเหมือนจะกินใครบางคนทั้งเป็น!"

 

………………………………………………..

 

เมื่อเหล่าศิษย์พบระดับการบ่มเพาะของพวกมัน พวกเขาทุกคนตกตะลึง ความแข็งแร่งของคนเหล่านี้แข็งแกร่งกว่าหยุนฉานหลายเท่า ไม่มีผู้ใดรู้ว่าพวกมันมาจากที่ใด แล้วผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากมาล่าเจียงเฉิน นี่มันสามารถถือได้ว่าเป็นความสามารถอีกอย่างหนึ่ง ไม่มีศิษย์คนใดมีความสามารถที่จะทำสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้นได้

 

"ลากเจียงเฉินออกมาให้ไวที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ข้าต้องการให้มันส่งวิญญาณอสูรหมูป่าหนามอัคคีมา! หากไม่เช่นนั้น วันนี้ข้าจะไม่ปล่อยให้มันรอดไปง่ายๆแน่!"

 

ชิงฉื่อตะโกนดั่งฟ้าผ่า มันดังก้องและยิ่งใหญ่

 

"ใครกล้ามาก่อความวุ่นวายที่นิกายทมิฬ?!"

 

ในช่วงเวลานั้น เสียงตะโกนคล้ายคลึงกับชิงฉื่อดังออกมาจากเขตในของนิกายทมิฬ วินาทีถัดมา นักพรตทมิฬได้บินผ่านฟากฟ้ามา เขามาถึงประตูหลักของนิกายทมิฬ และถัดไปจากเขาเป็นผู้อาวุโสนิกายไม่กี่คน รวมถึงกั๋วฉานด้วย

 

"เจ้าเป็นใครกัน เหตุใดเจ้ามาตะโกนหน้าประตูนิกายทมิฬ?"

 

นักรตทมิฬจ้องไปยังชิงฉื่อและคนอื่นๆ เขาไม่คุ้นกับคนเหล่านี้

 

"ดูจากระดับการบ่มเพาะของเจ้า ข้าคาดเดาว่าเจ้าคือผู้นำนิกายทมิฬ นักพรตทมิฬสินะ?ข้าเป็นผู้นำนิกายวิหารมรกต ชิงฉื่อ พวกข้าเดินทางมายังที่นี่ด้วยสาเหตุเดียว พวกข้าต้องการเจียงเฉิน พวกข้าไม่ได้มีเจตนาที่จะสร้างความขัดแย้งกับนิกายทมิฬ ตราบเท่าที่เจ้าส่งมอบเจียงเฉินมาให้แก่พวกข้า พวกข้าจะกลับไปในทันที"

 

ชิงฉื่อเข้าประเด็น มันคาดเดาว่าวิญญาณอสูรหมูป่าหนามอัคคีนั้นยังอยู่ที่เจียงเฉิน และดังนั้นตราบเท่าที่มันสามารถหาเจียงเฉินได้ ยังมีโอกาสที่มันจะเอาวิญญาณอสูรนั้นมาได้

 

"อะไรนะ ผู้นำนิกายใหญ่แห่งแคว้นเฉวียนมาที่นิกายทมิฬด้วยตนเอง?เจียงเฉินไปก่อเรื่องที่แคว้นเฉวียนเมื่อใดกัน?"

 

"บัดซบ เจียงเฉินมันเป็นปีศาจจุติใหม่จริงๆด้วย!ไม่เพียงเขาก่อปัญหามากมายในแคว้นฉีแล้ว เขายังไปก่อความวุ่นวายที่แคว้นเฉวียนอีก เขาไปทำอะไรให้นิกายวิหารมรกตโกรธเคืองมากขนาดนี้?"

 

"หมูป่าหนามอัคคีมันคือสิ่งใด?เจียงเฉินเป็นผู้ที่สามารถทำได้หลากหลายเสียจริง"

 

เมื่อได้ยินว่าคนเหล่านี้มาจากแคว้นเฉวียนและพวกเขาทุกคนเป็นผู้อาวุโสนิกายของนิกายใหญ่รวมทั้งผู้นำนิกาย ทุกๆคนที่อยู่ที่นี่ต่างพูดสิ่งใดไม่ออก ความสามารถในการก่อเรื่องของเจียงเฉินช่างยอดเยี่ยมนัก

 

"วิญญาณอสูรหมูป่าหนามอัคคี?"

 

นักพรตทมิฬขมวดคิ้ว บางทีไม่มีผู้ใดที่อยู่ที่นี่รู้ว่าหมูป่าหนามอัคคีคือสิ่งใด แต่เขารู้เกี่ยวกับสัตว์อสูร มีหมูป่าหนามอัคคีพำนักอยู่ที่เขาสายหมอก แต่เป็นไปไม่ได้ที่เจียงเฉินจะได้วิญญาณอสูรของมันมา

 

"ท่านผู้นำนิกาย ข้าจะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้ท่านฟัง"

 

กั๋วฉานรีบเร่งสรุปข้อมูลทั้งหมดให้นักพรตทมิฬฟังผ่านสัมผัสเทวะ ให้เขาเห็นภาพที่เกิดขึ้น เพื่อช่วยเฉินหยู่ เจียงเฉินได้ไปที่เขาสายหมอกและล่าหมูป่าหนามอัคคี และท้ายที่สุดเขาได้ทำให้นิกายวิหารมรกตสูญเสียอย่างใหญ่หลวง

 

หลังจากที่ได้ย่อยข้อมูลทั้งหมดแล้ว นักพรตทมิฬถึงกับมึนงง เจียงเฉินได้สังหารหมูป่าหนามทมิฬแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลางโดยแท้จริง และเขาได้รับวิญญาณอสูรของมันมา หากว่ากั๋วฉานไม่ได้บอกเขาด้วยตนเองนักพรตทมิฬคงจะไม่มีทางเชื่อ

 

"ดี ประเสริฐมาก!อนาคตชายหนุ่มผู้นี้จะต้องกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างแน่นอน!"

 

เมื่อเผชิญกับการขู่เข็ญของกลุ่มนิกายวิหารมรกต ไม่เพียงแค่นักพรตทมิฬจะไม่หวาดกลัวหรือเป็นกังวล เขายิ่งตื่นเต้น การที่บรรลุในเรื่องใหญ่ได้ นั้นพิสูจน์แล้วว่าเจียงเฉินเป็นคนที่มีความระมัดระวังในการนึกคิด ในเวลาเดียวกันมันพิสูจน์ได้ว่าเขาเป็นคนห้าวหาญ อัจฉริยะเช่นนี้จะต้องเติบใหญ่เป็นคนที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างแน่นอนในอนาคต

 

"ชื่อฉิง เจ้าไม่คิดบ้างหรืออย่างไรว่าเจ้ามาที่นี่เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ด้านหน้าของประตูหน้านิกายทมิฬและถามถึงศิษย์ของพวกเรา"

 

นักพรตทมิฬกล่าว

 

"นักพรตทมิฬ เจียงเฉินได้ฆ่าผู้อาวุโสนิกายไปอย่างเหี้ยมโหดและศิษย์จากนิกายวิหารมรกตและหนำซ้ำมันยังใส่ร้ายพวกข้าอีก ส่งผลให้พวกข้าได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง!ด้วยเหตุนี้ข้าถึงมาที่นี่เพื่อที่จะฆ่ามันในวันนี้ และข้าไม่คิดว่านักพรตทมิฬจะต้องการที่จะล่วงเกินนิกายใหญ่อย่างพวกข้าเพียงเพราะศิษย์ตัวเล็กๆเพียงคนเดียว ใช่ไหม?"

 

ชื่อฉิงกล่าว

 

"ขอโทษที่ทำให้เจ้าผิดหวังนะ ชื่อฉิง ข้านักพรตทมิฬขึ้นชื่อเรื่องปกป้องศิษย์ของตนเอง นอกจากนี้นิกายวิหารมรกตเป็นถึงนิกายใหญ่ ยังไม่พอเจ้าไม่สามารถกระทั่งสู้กับ'ศิษย์ตัวเล็กๆ'ของข้าได้ และเจ้าประสบความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง? เจ้าควรที่จะอยู่กับบ้านและส่องกระจกดูบ้างนะ เหตุใดเจ้าถึงหน้าด้านมาที่นี่และขอให้ข้าส่งศิษย์ไปให้เจ้า?ชิงฉื่อ ข้าคิดว่าเจ้าควรที่จะกลับไปที่ที่เจ้ามาซะ"

 

นักพรตทมิฬพูดด้วยรอยยิ้ม ในความคิดของเขา เจียงเฉินเป็นศิษย์ที่ล้ำค่าที่สุด ไม่มีทางที่เขาจะส่งไปให้พวกมัน

 

"ใช่แล้ว พวกเจ้าเป็นถึงนิกายใหญ่ แต่เจ้ากลับสูญเสียอย่างใหญ่หลวงเพราะศิษย์พี่เจียง นี่มันช่างน่าอับอายนัก!ท่านยังมีเกียรติที่มาที่นี่อีกงั้นรึ?"

 

ศิษย์บางคนตะโกนออกมา

 

"นักพรตทมิฬ ไม่ว่าอย่างไรข้าชื่อฉิงจักต้องลากเจียงเฉินกลับให้ได้วันนี้!เจ้าแน่ใจเช่นนั้นรึว่าจะสร้างความสัมพันธ์ระหว่างนิกายทมิฬและนิกายวิหารมรกตให้ร้าวฉาน?"

 

ชิงฉื่อยังคงโกรธเกรี้ยว

 

"ฮึ่ม!ระวังปากหน่อย เจ้ากำลังอยู่ที่แห่งใด!ที่แห่งนี้คือแคว้นฉี ไม่ใช่แคว้นเฉวียนของเจ้า!อย่าบอกนะว่าพวกเจ้าจะบุกพวกข้าด้วยคนเพียงหยิบมือ?"

 

นักพรตทมิฬแค่นเสียงเย็นชา ในฐานะผู้นำนิกายเขาจักต้องอยู่เหนือผู้อื่น ไม่เพราะเขาต้องการปกป้องเจียงเฉิน กระทั่งศิษย์ทั่วไปเขาจะไม่ส่งมอบตัวง่ายๆ หากว่าเขาทำเช่นนั้น เขาจะสูญเสียความเชื่อมั่นจากเหล่าศิษย์ของเขาทั้งหมด และเขาจะบริหารนิกายทมิฬได้อย่างยากลำบาก

 

"ท่านผู้นำ นักพรตทมิฬกล่าวถูกแล้ว นี่คือแคว้นฉีและพวกเราไม่ได้เปรียบอันใดในการลงมือ"

 

หลิวหงกระซิบชิงฉื่อ

 

 

"ฮึ่ม!ข้าไม่สามารถกลับไปมือเปล่าได้!ไอ้เด็กเวรเจียงเฉินมันอาจไม่มีเวลาในการดูดซับวิญญาณอสูรหมูป่าหนามอัคคีที ตอนนี้พวกเราไม่อาจล้มเลิกเพียงแค่นี้ได้"

 

ชิงฉื่อแค่นเสียงเย็นชา วิญญาณอสูรหมูป่าหนามอัคคีจะสามารถช่วยให้ฝันมันเป็นจริงได้ ไม่มีทางที่มันจะล้มเลิกโดยง่าย อย่างไรก็ตามนักพรตทมิฬไม่ต้องการหลีกทางให้ และหากพวกมันต้องการที่จะลงมือจริงๆล่ะก็ พวกมันจะต้องเป็นฝ่ายสูญเสียอย่างแน่นอน

 

**************************************************

 

โปรดติดตามตอนต่อไป………..

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "Dragon Marked War God ตอนที่ 191 ตัวสร้างปัญหาขั้นเทพ"

4.2 21 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz