เทพมังกรสงครามอหังการ - Dragon Marked War God ตอนที่ 183 ตั๊กแตนกำลังย่องจับจักจั่น โดยไม่ระวังนกหลากสีด้านหลัง
- หน้าแรก
- เทพมังกรสงครามอหังการ
- Dragon Marked War God ตอนที่ 183 ตั๊กแตนกำลังย่องจับจักจั่น โดยไม่ระวังนกหลากสีด้านหลัง
แปลไทยโดย Takumi Kun
ตรวจทานโดย Subaru-Kyun
"เจ้ามนุษย์ที่น่ารังเกียจ เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงขโมยลูกของข้า?!และตอนนี้เจ้ายังจะปฎิเสธอีกงั้นรึ!"
ในที่สุดหมูป่าหนามอัคคีก็หยุดลงมือ มันจ้องไปยังไข่ทองคำที่ชิงฉื่อถืออยู่ด้วยท่าทีอ่อนโยน
เมื่อได้ยินหมูป่าหนามอัคคีกล่าว ชิงฉื่อแทบกระอักเลือดออกมา ตอนนี้มันเดือดดาลเป็นอย่างมาก ทันใดนั้นมันหันไปจ้องหลิวหงและผู้อาวุโสแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นต้นทั้งสอง และความเกรี้ยวกราดได้ปะทุในใจของมัน
เจ้าโง่ไร้ประโยชน์ทั้งสามตัว พวกมันกล้าดีอย่างไรถึงไปนำลูกหมูป่าหนามอัคคีกลับมา?! พวกมันโดนใส่ร้ายแต่ก็ยังมีความสุขอีก ตอนนี้พวกมันได้นำภัยพิบัติมาสู่นิกายวิหารมรกตแล้ว
"อะไรนะ?สมบัติหายากนี่เป็นลูกหมูป่าหนามอัคคี?!ข้าคิดว่าเจ้าหนุ่มนั่นพูดว่าเขาได้รับสิ่งนี้มาก่อนหน้านี้มากมายและใช้ในการบ่มเพาะ?"
หลิวหงมึนงง แต่ไม่นานหลังจากนั้น ในที่สุดมันก็ได้เข้าใจว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้น และสีหน้าของมันทะมึน ร่างมันสั่นเทิ้มด้วยความเดือดดาล
"สมบัติหายากนี่จริงๆแล้วเป็นลูกหมูป่าหนามอัคคีงั้นรึ?!เจ้าบ้านั่น กล้าดีอย่างไรถึงมาหลอกข้า?! อ๊ากกกก ข้าโกรธจริงๆแล้ว ข้าโกรธจริงๆแล้ว!"
หลิวหงทุบอกตัวเองและกระทืบเท้า มันเกือบทำร้ายตัวเองเนื่องจากความโกรธ หากว่าเจียงเฉินกระโดดมาอยู่ตรงหน้ามัน มันจักต้องฉีกเจียงเฉินเป็นชิ้นๆอย่างแน่นอน
ชายชราอีกสองคนรู้สึกเหมือนกับว่าลิ้นของพวกมันขมเช่นกัน สายตากราดเกรี้ยวของชิงฉื่อทำให้พวกมันรู้สึกไม่ปลอดภัย พวกมันไม่เคยคิดว่าพวกมันเป็นผู้นำภัยพิบัติที่น่าสะพรึงกลัวมาเอง ทำให้พวกมันรู้สึกแย่จริงๆ
ก๊ะก่ะก่ะก่ะ…
ในเวลาเดียวกัน เสียงหัวเราะที่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดได้ยินจากข้างบนก้อนเมฆ หวงต้ากลิ้งหัวเราะออกมาดังลั่นขณะที่ถีบขาอยู่กลางอากาศ เจียงเฉินเองก็หัวเราะหน้าหงาย เหตุนี้ทำให้พวกเขาหายโกรธเป็นปลิดทิ้ง โดยเฉพาะเมื่อพวกเขานึกถึงตอนที่หลิวหงตื่นเต้นอย่างมากหลังจากที่ได้รับไข่ทองคำและเมื่อเชื่อมกับสิ่งที่พวกเขาเห็นในตอนนี้มันน่าขัน
"ข้าคิดว่าเจ้าแก่นั้นปอดมันคงจะระเบิดเพราะความโกรธของมันเป็นแน่ ตอนนี้มันจักต้องคิดที่จะกินเจ้าทั้งเป็นแน่แท้!"
หวงต้ากำลังสั่นจากการหัวเราะ การที่จะวางกับดักหลอกนิกายใหญ่ที่จุดนี้ มันทำให้สำราญใจกว่าการลงมือด้วยตนเอง
"ฮ่าฮ่า หลังจากช่วงบ่ายที่หมูป่าหนามอัคคีได้ล่าถอยไป หลิวหงและเจ้าแก่โง่อีกสองมันคงไม่ได้พบกับวันที่สงบเป็นแน่ ผู้นำนิกายคงจะกล่าวโทษทั้งสามเป็นแน่!"
เจียงเฉินหัวเราะด้วยความพึงพอใจ ทั้งชายหนุ่มทั้งหมาต่างกลิ้งไปรอบๆด้วยความตื่นเต้น อย่างไรก็ตามอีกด้านหนึ่งบรรยากาศที่น่าอึดอัดได้ปกคลุมทั่วนิกายวิหารมรกต
"เกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร?เจ้าไข่สีทองนั่นมาจากไหน เหตุใดมันจึงเป็นลูกหมูป่าหนามเพลิงไปได้?"
"ท้ายที่สุด ลูกหมูป่าหนามอัคคีได้ซ่อนตัวที่นี่จริงๆ นี่มันเรื่องน่าขันรึ?ไม่แปลกใจเลยที่หมูป่าหนามอัคคีจะเกรี้ยวกราดและไม่ยอมเลิกราเช่นนี้"
"บัดซบ พวกมันกล้าดีอย่างไรถึงเอาสิ่งสำคัญมาจากหมูป่าหนามอัคคี?!พวกมันไม่รู้หรืออย่างไรว่ามันจะนำพาซึ่งภัยพิบัติร้ายแรงมา?โดยทั่วไปแล้ว ท่านผู้นำนิกายจะไม่ออกมาจากนิกายวิหารมรกต ดังนั้นข้าไม่คิดว่าเขาเป็นผู้ที่นำไข่ทองคำไป…..อย่างไรก็ตามข้าสงสัยว่าผู้ใดเป็นคนมอบไข่นี่มา มันช่างรนหาที่ตาย!"
****************************************
เหล่าศิษย์ทั้งหลายต่างตะโกนโห่ร้อง ภัยพิบัติอันน่าสะพรึงกลัวทั้งหมดมาจากไข่ทองคำใบนั้น ไม่เพียงแค่ทั่วทั้งเขตนอกถูกทำลายแล้ว มันยังทำให้ศิษย์ตกตายเป็นจำนวนมาก
"กรรร!พวกเจ้าทุกคนมันน่ารังเกียจนัก!ข้าจักทำลายสถานที่แห่งนี้ในวันนี้ซะ!"
หมูป่าหนามอัคคียังคงเดือดดาล และมันไม่ยอมให้เรื่องนี้จบโดยง่ายเป็นแน่ ในใจของมันนิกายวิหารมรกตนั่นต่ำทรามเกินไป เมื่อสามปีก่อน พวกมันได้ทำข้อตกลงที่จะไม่ต่อสู้กันอีก แต่ว่าตอนนี้พวกมันย่องเข้าไปในถ้ำแล้วขโมยสิ่งที่ล้ำค่าที่สุด ด้วยพฤติกรรมทรยศเช่นนี้ มันไม่อาจจะรับได้
"เจ้าหมูป่าหนามอัคคี พวกข้าไม่ได้เป็นผู้ที่ขโมยลูกของเจ้าไป ชายหนุ่มเป็นผู้ขโมยมัน! เจ้านั่นได้สังหารผู้อาวุโสนิกายและศิษย์ของพวกข้าไปจำนวนหนึ่ง จากนั้นมันก็ได้ขโมยไข่นี่เพื่อป้ายความผิดให้พวกข้า!ชายหนุ่มคนนั้นเป็นคนร้ายเบื้องหลังทั้งหมดนี้ นิกายวิหารมรกตไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดข้อตกลงอันใดระหว่างพวกเรา"
ชิงฉื่ออธิบาย
"ช่างเป็นข้อแก้ตัวที่น่าทุเรศสิ้นดี"
หมูป่าหนามอัคคีได้กราดเกรี้ยวอีกครั้งหนึ่ง มันคิดว่าคำอธิบายของเจ้าแก่โง่นี่มันเหลวไหลมาก มันแต่งเรื่องชายหนุ่มบ้าบอได้อย่างไร?นี่มันเป็นการดูถูกสติปัญญาของมัน!นอกจากนั้น ชายหนุ่มอะไรกันที่มีความสามารถมากพอที่จะกล้าขโมยไข่ทองคำจากถ้ำของมัน ไม่ใช่ว่านี่มันเป็นเรื่องโป้ปด?
พลังงานที่พรั่งพรูออกมาโดยการเผาผลาญพลังชีวิตของมันยังอยู่ที่นี่ หากว่ามันลงมือด้วยความกราดเกรี้ยวล่ะก็ มันจักสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อนิกายวิหารมรกตได้
"หยุดเดี๋ยวนี้!"
ชิงฉื่อตะโกนดังก้อง มันรู้ว่าหมูป่าหนามอัคคีไม่ฟังการอธิบายของเขาอีก
"หมูป่าหนามอัคคี ข้าจะคืนลูกของเจ้าไป หลังจากนั้นโปรดกลับไปทันที หากว่าเจ้ายังดื้อดึงและต้องการที่จะลงมือกับพวกเราต่อ ถึงตอนนั้นข้าจะทำลายไข่ใบนี้ซะ กรณีเลวร้ายที่สุด พวกเราทั้งสองฝ่ายจะต้องสูญเสียอย่างหนัก แล้วข้าก็ไม่คิดว่าพลังที่มาจากการเผาผลาญพลังชีวิตของเจ้าจะคงอยู่นานและข้ายังไม่ได้ใช้รูปแบบนิรันดร์ที หากข้าใช้มันอย่างสมบูรณ์ข้าสามารถรวมพลังกับพลังของศิษย์นับพันได้ เจ้ายังมีความมั่นใจที่จะโค่นข้าได้งั้นรึ?"
ชิงฉื่อเข้าประเด็น
เมื่อได้ยินเช่นนี้หมูป่าหนามอัคคีที่กำลังกราดเกรี้ยวได้สงบลงในทันใด หลังจากที่สังเกตเห็นว่าลูกของมันไม่ปลอดภัย มันใจเย็นลงเล็กน้อยและได้สติกลับคืนมา มันรู้ว่าคำพูดของชิงฉื่อนั้นถูกต้อง หากว่าพวกมันสู้กันจนเหลือคนยืนอยู่คนสุดท้าย ไม่มีผู้ใดได้ประโยชน์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือไข่ทองคำที่ยังอยู่กับพวกมัน
หมูป่าหนามอัคคีไม่ได้พูดสิ่งใด และมันยังคงสุขุม มันทำให้ทุกๆคนจากนิกายวิหารมรกตรู้สึกเป็นกังวล เพราะการตัดสินใจของหมูป่าหนามอัคคีจะเป็นตัวกำหนดว่าการต่อสู้จะรุนแรงจนกระทั่งแตกหักหรือไม่
ชิงฉือรู้สึกเป็นกังวลเช่นกัน แม้ว่ามันสามารถรับมือกับหมูป่าหนามอัคคีด้วยรูปแบบอนันต์ แต่มันไม่ต้องการให้สถานที่ของนิกายวิหารมรกตเป็นสถานที่เดิมพัน ผู้ใดจะรู้ว่าการลงมือของหมูป่าหนามอัคคีทั้งดุร้ายทั้งทรงพลัง? การต่อสู้เดิมพันด้วยชีวิตมันไม่ใช่เรื่องสนุก แม้ว่าพวกมันอาจสังหารหมูป่าหนามอัคคีได้ ท้ายที่สุดความแข็งแกร่งของนิกายวิหารมรกตจะตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด ถึงเวลานั้นนิกายใหญ่ของแคว้นเฉียนจะได้เปรียบเมื่อบุกพวกมัน และนิกายวิหารมรกตจะถูกลบออกจากแคว้นเฉวียนอย่างสมบูรณ์
ระยะหนึ่งผ่านไป ในที่สุดหมูป่าหนามอัคคีก็พูดออกมา "คืนลูกข้ามาซะ"
คำพูดของหมูป่าหนามอัคคีทำให้ชิงฉือแปลกใจ โดยไม่มีการลังเล มันได้ส่งไข่ทองคำไป หมูป่าหนามอัคคีได้อ้าปากแล้ววางไข่ไว้ภายใน ใบหน้าเต็มไปด้วยความรัก
หลังจากนั้นหมูป่าหนามอัคคีได้หันร่างกายอันใหญ่โตของมันและถอยกลับไปยังเขาสายหมอก ก่อนที่มันจะไปมันกล่าวว่า "จากวันนี้ต่อไปจะไม่มีผู้คนจากนิกายวิหารมรกตได้รับอนุญาตให้เข้าไปยังเขาสายหมอก หากว่าเจ้าเข้ามา เจ้าจักต้องรับผลที่ตามมา"
หลังจากที่มันพูดจบ มันก็หายไปจากที่แห่งนี้
ชิงฉื่อได้คาดไว้แล้ว หลังจากที่ได้ต่อสู้กับหมูป่าหนามอัคคีอย่างยากลำบาก ไม่มีทางที่มันจะอนุญาตให้นิกายวิหารมรกตใช้ภูเขาลูกนี้เป็นสนามฝึกซ้อมได้อีก
ชิงฉือปิดการทำงานของรูปแบบอนันต์ ด้วยสีหน้าทะมึน มันได้จ้องไปยังเหล่าผู้อาวุโสนิกายจากนั้นมันพูดด้วยน้ำเสียงดุร้ายว่า "พวกเจ้าทุกคน ตามข้ามา"
ชิงฉื่อบินตรงไปยังเขตในของนิกายวิหารมรกตและผู้อาวุโสคนอื่นๆก็ตามหลังเขาไปติดๆ หลิวหงและผู้อาวุโสอีกสองคนมองซึ่งกันและกัน พวกมันทุกคนมีท่าทางหดหู่ พวกมันเตรียมตัวรับความโกรธเกรี้ยวของชิงฉื่อ
ในเวลาเดียวกันเหนือเมฆที่ห่างออกไป
เจียงเฉินและหวงต้ากำลังรอโอกาสนี้อยู่ เมื่อพวกเขามองไปยังหมูป่าหนามอัคคีที่กำลังออกจากที่นี่ พวกเขาทั้งคู่ต่างมองกันและปรากฎรอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขา (ยิ้มชั่วร้ายแหงมๆ)
"ตั๊กแตนที่กำลังย่องจับจั๊กจั่น โดยที่ไม่ระวังนกหลากสีด้านหลัง ถึงเวลาที่นกหลากสีจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ทั้งหมด ไปกันเถอะ!"
เจียงเฉินไหวร่างจากนั้นเขาบินไปยังเขาสายหมอก
"อย่าไปเร็วเกินไปสิ ช่วงอ่อนแอของหมูป่าหนามอัคคียังไม่ถึงเวลา รอจนกว่ามันจะเข้าสู่ช่วงสภาพอ่อนแอก่อน จากนั้นพวกเราจักลงมือ"
หวงต้าเตือน
"เข้าใจแล้ว นับเวลาถอยหลังให้ดีล่ะ เมื่อช่วงสภาพอ่อนแอของมันมาถึง พวกเราจักลงมือเมื่อนั้น ผู้นำนิกายวิหารมรกตเป็นคนปราดเปรื่อง เขาน่าจะรู้ถึงสภาพอ่อนแอของหมูป่าหนามอัคคีเร็วๆนี้ ตอนนี้หมูป่าหนามอัคคีได้เตือนพวกมันมิให้เข้าไปยังเขาสายหมอกอีก และนี่เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของพวกมัน หากการคาดเดาของข้าถูกต้อง ผู้นำนิกายคงจะลงมือกับหมูป่าหนามอัคคีตอนที่มันอยู่ในระยะอ่อนแอชั่วคราวด้วย นี่เป็นเพียงโอกาสเดียวที่มันสามารถสังหารหมูป่าหนามอัคคีและข้าแน่ใจว่าชิงฉื่อจักไม่ปล่อยเป็นแน่"
เจียงเฉินกล่าว
"คู่หู เจ้าช่างหลักแหลมเสียจริง!ไม่มีสิ่งใดที่สามารถปิดบังเจ้าได้เลย!"
หวงต้าชื่นชมเจียงเฉินจริงๆ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อพวกเขามายังเขาสายหมอกทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเจียงเฉิน ความสามารถในการวางแผนอย่างแยบยลและทำมันอย่างสมบูรณ์แบบไม่่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปสามารถทำได้
ภายในบริเวณที่อยู่ลึกที่สุดของนิกายวิหารมรกต ที่ห้องโถงใหญ่ของพระราชวังโอฬาร สองเสาหลักตั้งอยู่อย่างมั่นคง มังกรทองดูเหมือนมันจะขดตัวรอบเสาจริงๆ พื้นของโถงหลักสร้างจากหินเงินขาวและสัญลักษณ์ลึกลับสามารถเห็นได้ทั่วทุกที่
ชิงฉื่อที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยใบหน้าซีดเซียว มันได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับหมูป่าหนามอัคคี แต่เมื่อเทียบกับความโกรธของมันตอนนี้ อาการบาดเจ็บเหล่านี้ล้วนไม่เท่าไร
"พวกเจ้าทั้งสามคุกเข่าลง!"
ชิงฉื่อจ้องมองด้วยสายตาอันคมกริบไปยังหลิวหงและผู้อาวุโสนิกายอีกสองคน
ทั้งสามรู้สึกหนาวไขสันหลัง พวกมันได้คุกเข่าลงทันที
"ท่านผู้นำนิกาย พวกข้าโดนเจ้าหนุ่มเจียงเฉินนั่นหลอก! พวกข้าไม่รู้ว่าไข่ทองคำนั่นเป็นลูกของหมูป่าหนามอัคคี!"
หลิวหงพยายามอธิบาย
"อะไรนะ?!เจ้าเป็นผู้ที่นำไข่ทองคำนั่นกลับมางั้นเรอะ?หลิวหง เจ้าปัญญาอ่อนหรือไม่?ดูภัยพิบัติที่เจ้านำมาให้พวกเราสิ!หมูป่าหนามอัคคีได้กราดเกรี้ยว และมันไม่อนุญาตให้พวกเราเข้าไปยังเขาสายหมอกอีก!ด้วยเพียงเรื่องนี้ เจ้าจะรับผิดชอบอย่างไร?"
"เจ้าแก่จริงๆแล้วสินะ เจ้าถูกชายหนุ่มหลอกได้อย่างไร?"
"นี่มันเหลวไหลชัดๆ!หากไม่ใช่เพราะว่าท่านผู้นำนิกายจำได้ถึงไข่ทองคำในช่วงเวลาสำคัญที่สุดเช่นนั้น ข้าแน่ใจว่านิกายวิหารมรกตจะต้องเผชิญกับภัยพิบัติร้ายแรงอย่างแท้จริงวันนี้!พวกเจ้าทั้งสามจะรับผิดชอบได้เช่นนั้นเรอะ?!"
เมื่อได้ยินว่าไข่ทองคำถูกหลิวหงและผู้อาวุโสอีกสองคนเป็นคนนำมา ผู้อาวุโสนิกายแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ทุกคนต่างเดือดดาล พวกเขาทุกคนชี้นิ้วไปยังหลิวหงและผู้อาวุโสอีกสองคนที่ต่างเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ พวกมันต่างมีความดีความชอบและชื่อเสียงเกรียงไกรภายในนิกาย ผู้อาวุโสนิกายเหล่านี้เป็นที่นับหน้าถือตาซึ่งกันและกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด
แต่สถานการณ์ในวันนี้แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง หลิวหงและผู้อาวุโสอีกสองคนเกือบทำให้นิกายวิหารมรกตถูกลบออกจากแคว้นเฉวียน พวกเขาทุกคนต่างเห็นถึงความแข็งแกร่งของหมูป่าหนามอัคคีและหากไม่ใช่เพราะว่ารูปแบบอนันต์ วันนี้พวกเขาหลายคนอาจถูกหมูป่าหนามอัคคีสังหารไปแล้ว
ทั้งหมดนี่เป็นเพราะเจ้าแก่โง่ทั้งสามที่โดนเด็กหนุ่มและหมาหลอก นี่มันน่าขัน
ผู้อาวุโสนิกายทุกคนต่างโกรธเกรี้ยวเหมือนพวกเขาสามารถกลืนกินผู้ที่อยู่ในครรลองสายตาพวกเขา ในกรณีใดๆที่ชายแก่ทั้งสามต่างอยู่มากว่าหลายทศวรรษ และพวกมันต่างมีประสบการณ์มากมาย มันมีมากพอสำหรับพวกมันที่รู้จักผิดถูก ด้วยอายุของพวกมัน พวกมันถูกเด็กหนุ่มวัยรุ่นตอนปลายและหมาหลอกลวงเอา บัดซบ พวกมันจะมีเกียรติยศหลงเหลืออยู่อีกหรือ?
****************************************
โปรดติดตามตอนต่อไป……………