เทพมังกรสงครามอหังการ - Dragon Marked War God ตอนที่ 181 รูปแบบอนันต์
แปลไทยโดย : Subaru-Kyun
ตรวจทาน : Subaru-Kyun
====================================
ตู้มมม…!
คลื่นพลังงานได้กวาดผ่านท้องฟ้า พื้นที่บริเวณใกล้เคียงนิกายวิหารมรกตเต็มไปด้วยระลอกคลื่นจากการต่อสู้ และเมฆพลังงานหลากสีได้เข้าปกคลุมท้องฟ้า ด้านใต้ก้อนเมฆมีคลื่นพลังงานสีดำกระจายอยู่โดยรอบ มันได้ปิดทางไม่ให้แสงอาทิตย์ได้สาดส่องทำให้ทั่วท้องนิกายวิหารมรกต ต้องจมลงสู่ความมืดมิดที่แท้จริง มันส่งผลหนักหน่วงต่อจิตใจของทุกคน
ทั่วทั้งนิกายได้สั่นสะเทือนขึ้น ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ยังเข้าห้ำหั่นด้วยยุทธภัณฑ์ของพวกมันอย่างต่อเนื่อง ต่อสู้กับหหมูป่าหนามอัคคีอย่างยากลำบาก มันดูเหมือนว่าสงครามนี้คงจะไม่สิ้นสุดในเร็วๆนี้เป็นแน่
ทุกคนในนิกายวิหารมรกตรวมถึงผู้นำนิกายชิงฉื่อรู้สึกสลดใจเล็กน้อย ไม่มีใครรูว่าทำไมหมูป่าหนามอัคคีถึงได้โกรธขึ้นมา พวกมันอยู่อย่างสงบสุขมาสามปีแล้ว และไม่มีสักครั้งที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แม้ว่าจะมีการกระทบกระทั่งกันบ้างเล็กน้อย แต่ไม่มีครั้งไหนที่หมูป่าหนามอัคคีเกรี้ยวกราดรุนแรงถึงเพียงนี้
ยิ่งไปกว่านั้นหมูป่าหนามอัคคีมาเพื่อหาลูกของมัน นี่มันเหมือนกับการกลั่นแกล้งผู้บริสุทธิ์ไม่ใช่หรือไงกัน? นิกายวิหารมรกตไปใกล้ชิดกับลูกมันตั้งแต่เมื่อไร? นี่มันบ้าไปแล้ว
ระหว่างที่นิกายวิหารมรกตประสบกับความพิโรธของหมูป่าหนามอัคคี ข้างบนก้อนเมฆที่ไกลออกไป หนึ่งคนกับหนึ่งหมากำลังกระโดดขึ้นลงด้วยความตื่นเต้น ดูเหมือนว่าพวกเขามีความสุขมากในตอนนี้
หนึ่งคนหนึ่งหมามิใช่ใครอื่นนอกจากต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดนี้ เจียงเฉินได้นำพาความสับสนวุ่นวายเข้าสู่นิกายวิหารมรกตด้วยไข่ทองคำ
"รื่นรมย์ นี่มันช่างรื่นรมย์เสียจริง! คู่หู เจ้านี่ใจร้ายเป็นบ้า! ขอบคุณเจ้าจริงๆ ตอนนี้นิกายวิหารมรกตตกอยู่ในความสับสนอลหม่านแล้ว! สมน้ำหน้าพวกมัน ก่ะ ก่ะ ใครใช้ให้นิกายบัดซับนี่มาล่วงเกินพวกเรากัน?!"
เมื่อมองดูการต่อสู้ระหว่างหมูป่าหนามอัคคีกับนิกายวิหารมรกตทำให้เขา ซึ่งเป็นตัวต้นเหตุที่แท้จริง รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
"เอาเลย! สู้ต่อไปสิ! อย่างมากแค่บาดเจ็บหนักทั้งคู่! หากพวกเจ้าไม่สู้กัน แล้วเราจะเก็บเกี่ยวจากสงครามของพวกเจ้าได้อย่างไร?" ใบหน้าเจียงเฉินเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่โหดร้าย
"หมูป่าหนามอัคคีนี่แข็งแกร่งจริง มันเพียงลำพังก็สามารถต่อสู้กับทั้งนิกายได้ และความแข็งแกร่งของสายเลือดของมันช่างพิเศษสุดๆ! แต่มันก็ยังไม่เท่ากับสายเลือดสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของข้าก็เถอะนะ!" หวงต้าพูด
มันไม่ได้พูดล้อเล่นแต่อย่างใด หมูป่าหนามอัคคีเป็นสัตว์อสูรหายาก และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงมีสายเลือดพิเศษที่แข็งแกร่ง หากไม่ใช่เพราะสายเลือดที่แข็งแกร่ง มันคงไม่มีทางมีพละกำลังการต่อสู้ที่ทรงพลังถึงเพียงนี้ แน่นอน ถึงสัตว์อสูรจะแข็งแกร่งขนาดไหนก็เทียบไม่ได้กับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ความแตกต่างระหว่างหมูป่าหนามอัคคีกับกิเลนมันไม่ใช่น้อย
หากหวงต้าไปถึงจุดสูงสุดของอาณาจักรแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลาง คนอย่างชิงฉื่อหรือนักพรตทมิฬย่อมไม่ใช่คู่มือของมัน มันสามารถสังหารพวกเขาได้ในทันที
"นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราจำเป็นต้องใช้นิกายวิหารมรกตต่อสู้กับหมูป่าหนามอัคคี ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเราในปัจจุบัน การสังหารหมูป่าหนามอัคคีและเอาดวงจิตวิญญาณอสูรมาย่อมเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน" เจียงเฉินนั่งลงบนก้อนเมฆก่อนจะพูดออกมาอย่างไม่แยแส
หนึ่งคน หนึ่งหมา ทั้งคู่อารมณ์ดีและดูผ่อนคลาย พวกเขาคุยเล่นอย่างเรื่อยเปื่อยขณะที่กำลังดูสิ่งที่เกิตขึ้นในนิกายวิหารมรกต
ฟิ้วว….
เหนือน่านฟ้านิกายวิหารมรกต เชื่อสีเขียวมรกตของชิงฉื่อโบกสะบัดตามกระแสลม มันได้ปลดปล่อยเงาหอกออกมาจากยุทธภัณฑ์ในมือ ส่งผลให้อาการเกิดการสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง ชิงฉื่อถือหอกด้วยมือข้างเดียวก่อนที่จะพุ่งเข้าไปหาหมูป่าหนามอัคคีและโจมตีมันอย่างรุนแรง เวลาเดียวกันผู้อาวุโสแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์คนอื่นๆได้รวมกลุ่มกันโจมตีหมูป่าหนามอัคคีในอีกทิศทางหนึ่ง
โฮกกก~!
เปลวงเพลิงโทสะของหมูป่าหนามอัคคีทะยานสูงขึ้น ร่างกายที่ใหญ่โตของมันได้สั่นอย่างรุนแรง และได้ยินเสียงเหล็กกระทบกันดังออกมาจากร่างกายของมัน ในที่สุดมันก็ปลดปล่อยความสามารถเฉพาะตัวออกมา ร่างกายของมันถูกปกคลุมไปด้วยหนามแหลมคมสีทองโดยทันที
หนามแต่ละซี่ของมันมีขนาดเส้นผ่าศุนย์กลางประมาณถังน้ำ พวกมันดูแหลมคมมากและไม่มีท่าทีแตกหัก
ภายใต้แสงอาทิตย์สาดส่อง หนามทั้งหมดเปรียบเสมือนดอกไม้ที่ผลิบานด้วยความสดใส ร่างกายอันใหญ่โตของหมูป่าหนามอัคคีเหมือนขุนเขาได้สั่นสะเทือนเหนือท้องฟ้า ราวกับสัตว์อสูรจากบรรพกาล มันพุ่งเข้าหาหอกของชิงฉื่อด้วยความเร็วสูง
เคร้ง….!
ประกายไฟจำนวนมากเกิดขึ้นเมื่อการโจมตีของชิงฉื่อปะทะเข้ากับร่างกายของหมูป่าหนามอัคคี ยุทธภัณฑ์ระดับสูงที่ทรงพลังสามารถทำได้แค่เพียงฝากรอยสีขาวไว้บนร่างของมันเท่านั้น ไม่สามารถทำให้มันบาดเจ็บแม้แต่น้อย
"อะไรกัน?!" ชิงฉื่อตะโกนออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ มันไม่สามารถเชื่อได้ว่าความสามารถเฉพาะของหมูป่าหนามอัคคีจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ หนามเหล่านั้นไม่เพียงแต่สามารถใช้โจมตีได้ แต่พวกมันยังสามารถเป็นการป้องกันที่แข็งแกร่งอีกด้วย ราวกับเกราะหนาที่สามารถป้องกันการโจมตีใดๆจากศัตรูก็ได้
"เป็นทักษะเฉพาะที่สุดยอดจริงๆ!" ดวงตาเจียงเฉินเบิกกว้างขึ้นขณะที่เขากำลังดูจากที่ห่างไกล ทักษะเฉพาะของหมูป่าหนามอัคคีน่ากลัวจริงๆ มันทำได้ทั้งการโจมตีและป้องกันในเวลาเดียวกัน
"คู่หู เจ้าถูกมันล่อลวงใช่รึไม่ ? ข้ารู้ว่าเจ้าบ่มเพาะด้วยบางอย่างที่สุดยอดที่ทำให้เจ้าสามารถดูดซับความสามารถเฉพาะจากสัตว์อสูรได้ แต่อย่าไปแตะต้องดวงจิตวิญญาณอสูร! หากพวกเราเอาไข่ทองคำนั่นมาได้ เจ้าก็สามารถดูดซับความสามารถเฉพาะไปจากมันได้เช่นกัน" หวงต้ารู้เกี่ยวกับเจียงเฉินดี มันสามารถบอกได้ว่าเจียงเฉินกำลังคิดอะไรอยู่ จากท่าทีของเขา
เจียงเฉินผงกหัวของเขา แต่ก็ไม่ได้ตอบในสิ่งที่หวงต้าพูด เขาถูกทักษะเฉพาะที่ทรงพลังล่อลวงจริงๆ หากไม่ใช่ว่าเขาได้บ่มเพาะทักษะร่างแปลงมังกร เขาคงไม่แม้แต่จะคิดเกี่ยวกับความสามารถเฉพาะแม้แต่น้อย แต่ในเมื่อเขามีความสามารถในการดูดซับความสามารถเฉพาะใดๆก็ได้ มันจึงเป็นเรื่องง่ายดายที่ทำให้เขาถึงกับน้ำลายหกได้
ความสามารถทั้งหมดของเจียงเฉินในปัจจุบันต่างเป็นทักษะโจมตี ยกเว้นทักษะเคลื่อนย้ายมิติที่เป็นทักษะความเร็ว เขายังขาดทักษะป้องกัน แม้ว่าในชีวิตที่แล้วของเขาจะเคยบ่มเพาะทักษะป้องกันหลากหลาย ทักษะเหล่านั้นอ่อนแอเสียยิ่งกว่าร่างกายเขาในปัจจุบัน และยังห่างไกลจากร่างกายของหมูป่าหนามอัคคีอยู่มาก ดังนั้นเจียงเฉินจึงถูกความสามารถเฉพาะนี้ล่อลวงอย่างแท้จริง
ตู้มม…!
หมูป่าหนามอัคคีปะทุขึ้น คลื่นพลังสีทองขนาดยักษ์จำนวนนับไม่ถ้วนได้ยิงออกมาจากร่างกายของมัน และกวาดไปทั่วทั้งสถานที่แห่งนั้น ภายใต้ผลกระทบของคลื่นพลังพวกนั้น เหล่าผู้อาวุโสแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ก็กลายเป็นเหมือนเรือน้อยที่ล่องลอยอยู่ท่ามกลางพายุทะโหมกระหน่ำ ได้ส่งพวกมันบบินออกไปไกล
โฮกก….!
หมูป่าหนามอัคคีโหดร้ายมากยิ่งขึ้น มันสัมผัสได้ถึงพลังงานของไข่ทองคำ มันอยู่ในนิกายวิหารมรกต และชิงฉื่อซ่อนมันไว้
ตู้มม..!
คลื่นพลังสีทองขนาดยักษ์จำนวนนับไม่ถ้วนออกมาจากร่างกายของมันอีกครั้ง คลื่นพลังสีทองได้เปลี่ยนเป็นลำแสงและยิงไปยังนิกายวิหารมรกต
ตู้มม…!
อ้ากกกกกก!
เมื่อลำแสงได้ตกลงภายในนิกายวิหารมรกต ทันใดนั้นเนินเขาได้พังทลาย สิ่งก่อสร้างจำนวนมากถูกทำลายจนหมดสิ้น ศิษย์นิกายจำนวนหนึ่งโชคไม่ดีพวกมันช้าเกินไปที่จะหลบลำแสงนั้นพ้น จึงถูกเปลี่ยนเป็นเถ้าถ่านในทันที
ตู้มม…!
หมูป่าหนามอัคคีบ้าคลั่งไปแล้ว สิ่งเดียวที่อยู่ในความคิดของมันตอนนี้คือฆ่าล้างมนุษย์ทั้งหมดในนิกายวิหารมรกต การโจมตีที่น่าหวาดกลัวราวกับฝนตกลงจากฟากฟ้า ลำแสงสีทอง ลูกไฟยักษ์ ได้นำพาหายนะเข้าสู่นิกายวิหารมรกต
"ท่านผู้นำ สัตว์ร้ายตนนี้มันน่าหวาดกลัวมากเกินไป พวกเราไม่สามารถจัดการมันได้ ถึงแม้จะผสานพลังของพวกเราทั้งหมดก็ตาม! หากยังคงเป็นเช่นนี้ พวกเราต้องประสบการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่เป็นแน่" ผู้อาวุโสนิกายตะโกนออกหาชิงฉื่อด้วยใบหน้าซีดเซียว
"เจ้าหมูป่าหนามอัคคี หยุดเดี๋ยวนี้!"ชิงฉื่อตะโกนออกมาเสียงดัง "หมูป่าหนามอัคคี นิกายวิหารมรกตไม่เคยไปล่วงเกินเจ้า! ตลอดสามปีที่ผ่านมาพวกเราอาศัยกันอย่างสงบสุข แล้วเหตุใดเจ้าถึงมาโจมตีพวกเราฉับพลันเช่นนี้?"
"ส่งลูกของข้าคืนมา!" หมูป่าหนามอัคคีตะโกนด้วยเสียงที่ดังสนั่น มันจ้องมองที่ชิงฉื่อด้วยความโกรธแค้น
"บัดซบ ต้องการลูกเจ้าคืนเช่นนั้นรึ? ไม่เห็นมีลูกหมูป่าหนามอัคคีอยู่ที่นิกายวิหารมรกตนี่สักตัว! พวกเรามีหมีอยู่เล็กน้อย…..อย่าบอกนะว่าลูกเจ้าเป็นหมี?"หลิวหงหงุดหงิดจนแทบกระอักเลือดออกมา
"หมูป่าหนามอัคคี ในเมื่อมันไม่มี ทางที่ดีเจ้าอย่าสร้างปัญหาจะดีกว่า! เจ้าไปมีลูกตั้งแต่เมื่อไรกัน?" ชิงฉื่อพูดออกมาขณะที่มันรู้สึกกดดันเล็กน้อยจากสถานการณ์นี้
"เจ้าพวกมนุษย์บัดซบ เจ้าขโมยของ ของข้า ยังไม่พอยังปลิ้นปล้อนบิดพริ้วคำพูดและยังงัดตรรกะบ้าบอนั่นอีก! บัดซบ พวกเจ้าทั้งหมดต้องตาย วันนี้ข้าจะทำลายที่แห่งนี้ให้สิ้นซาก!"เปลวเพลิงโทสะของหมูป่าหนามอัคคียังคงทะยานสูงขึ้น ในความคิดของมันผู้นำนิกายตรงหน้ามันเป็นคนขโมยลูกของมัน และมันยังคงทำท่าทางเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันรนหาที่ตาย
โฮก..!!
หมูป่าหนามอัคคีคำรามเสียงดังอีกครั้ง มันพ่นลูกไฟออกจากปากของมันอย่างต่อเนื่อง และยิงลำแสงสีทองออกจากเกราะของมัน ราวกับพายุได้โหมกระหน่ำเข้าใส่นิกายวิหารมรกต
การต่อสู้ทวีความรุนแรงขึ้น ส่วนตัวต้นเหตุยังนั่งดูสบายใจอยู่บนก้อนเมฆ หากหลิวหงรู้ว่ามันหลงกลเจียงเฉิน มันต้องกระอักเลือดทั้งหมดของมันออกมาแน่
"เปิดใช้รูปแบบอนันต์!" ตอนนี้ชิงฉื่อเกรี้ยวกราดอย่างมาก หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป นิกายวิหารมรกตต้องสูญเสียอย่างใหญ่หลวงแน่ ดูจากพฤติกรรมของหมูป่าหนามอัคคี ไม่มีทางที่เรื่องมันจะจบลงง่ายๆแน่นอน
"รับทราบ เปิดใช้รูปแบบอนันต์เดี๋ยวนี้!"
ผู้อาวุโสจำนวนหนึ่งถึงกับตกตะลึง หลังจากนั้นผู้อาวุโสแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดเริ่มบนออกไปในทิศทางต่างกัน
ครืนนนน….
เสียงดังครืนดังออกมาโดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุด ม่านแสงสีน้ำเงินขนาดยักษ์ได้ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าทั่วทั้งนิกายวิหารมรกต
มีสัญลักษณ์ลึกลับจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่บนม่านแสง มันได้ปกคลุมศิษย์นิกายวิหารมรกตทุกคน ผู้อาวุโสแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากได้ยืนในตำแหน่งที่แตกต่างกันบนม่านแสง และชิงฉื่อยืนอยู่ตรงกลางพร้อมหอกในมือของมัน
"นี่สินะรูปแบบป้องกันของนิกายวิหารมรกต มันดูแข็งแกร่งเสียจริง!"ดวงตาของหวงต้าถูกจุดประกายขึ้นมา
"รูปแบบอนันต์เป็นเพียงรูปแบบธรรมดาทั่วไป และมันเป็นเพียงรูปแบบที่อ่อนแอเท่านั้น ถึงอย่างนั้น หากมันถูกปลดปล่อยออกมาจากผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์จำนวนมาก มันสามารถเป็นรูปแบบที่สมบูรณ์แบบได้ ดูนั่นสิหวงต้า รูปแบบอนันต์นี้ต้องเปิดใช้แกนกลางทั้งสิบห้าชิ้น แกนกลางแต่ละชิ้นจะถูกจัดการโดยผู้อาวุโสนิกาย และชิงฉื่อที่ยืนอยู่ตรงกลาง ด้วยสิ่งนี้ รูปแบบป้องกันนี้จึงสามารถแข็งแกร่งได้จนถึงขีดสุด และไร้จุดบอด ที่สำคัญที่สุดคือความแข็งแกร่งทั้งหมดของผู้อาวุโสแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบห้าคน จะส่งผ่านไปยังชิงฉื่อ และทำให้ความแข็งแกร่งของมันเพิ่มมากขึ้น ตอนนี้แม้แต่หมูป่าหนามอัคคีก็ยังยากที่จะต่อกรกับมัน"
ดวงตาของเจียงเฉินส่องประกายเจิดจ้า ในฐานะที่เป็นเซียนผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เขารู้จักรูปแบบทุกประเภท ความลับของรูปแบบอนันต์ตรงหน้าก็ไม่มีความหมายใดๆ
"คู่หู เจ้าเป็นมนุษย์จริงหรือ? ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าเจ้าเป็นจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ที่มีชีวิตมานับพันปี? ทำไมถึงดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้ไปทุกเรื่อง?"หวงต้าพูดพร้อมทั้งกลอกตาของมัน
เจียงเฉินยิ้มโดยที่ไม่พูดอะไร เขายังคงจ้องมองไปที่นิกายวิหารมรกต
"เจ้าคิดว่าหมูป่าหนามอัคคีจะทำลายรูปแบบนี้ได้หรือไม่?"หวงต้า ถาม
"ชิงฉื่อรวบรวมความแข็งแกร่งจากผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดเข้าไปในตัวมัน แน่นอนว่า หมูป่าหนามอัคคีไม่อาจต้านทานการโจมตีของมันได้ อย่างไรก็ตาม หมูป่าหนามอัคคีไม่มีทางยอมแพ้จากไข่ทองคำของมันได้ ดังนั้น มันจะโต้กลับด้วยการโจมตีที่รุนแรงและโหดร้ายยิ่งกว่า มันจะต้องปะทะกันอย่างรุนแรงแน่ หลังจากนั้น เมื่อมันจบลง เวลาที่พวกมันทั้งคู่จะบาดเจ็บหนักก็จะมาถึง ฮ่ะฮ่า!"เจียงเฉินหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
"ก่ะก่ะก่ะ……เจ้าเล่ห์ โหดร้าย ป่าเถื่อนดี ข้าชอบ!"หวงต้าถึงกับหัวเราะจนตัวสั่น
====================================
โปรดติดตามตอนต่อไป…………….