เทพมังกรสงครามอหังการ - Dragon Marked War God ตอนที่ 180 นิกายวิหารมรกตเข้าร่วมรบ
ตู้มมม!
หมูป่าหนามอัคคียังคงคำรามอย่างกราดเกรี้ยว ทำให้ทั่วทั้งหุบเขาสายหมอกตกอยู่ในความโกลาหล แม้ว่าเจียงเฉินและหวงต้าจะอยู่ไกลจากตรงนั้น พวกเขาสามารถมองเห็นแรงระเบิดจากคลื่นพลังสีทองตรงใจกลางของหุบเขาสายหมอก เสียงคำรามดังราวกับฟ้าผ่า มันมาจากหมูป่าหนามอัคคีที่กำลังเกรี้ยวกราดโดยตรง
"หมูป่าหนามอัคคีโกรธสุดๆไปเลยแฮะ"
หวงต้ารู้สึกหูอื้อไปหมด
"มังกรทุกตนย่อมมีเกล็ดผันแปร และใครก็ตามที่แตะต้องมันก็จะถูกฆ่าตาย ไข่ทองคำคงจะเป็นเกล็ดผันแปรของหมูป่าหนามอัคคี และเหล่าคนที่แตะต้องไข่ทองคำนั่นจะต้องประสบกับความพิโรธ นิกายวิหารมรกตคงมีชีวิตชีวาเต็มไปด้วยเสียงคำรามและความเร้าใจเป็นแน่!"
เจียงเฉินปล่อยเสียงหัวเราะที่น่าสยดสยองออกมา
ตู้มมมม!
เสียงระเบิดยังคงดังอย่างต่อเนื่องราวกับฟ้าผ่า หมูป่าหนามอัคคีที่เกรี้ยวกราดวิ่งอาละวาดด้วยร่างกายที่ใหญ่โตของมัน ผืนดินและดอกไม้จำนวนนับไม่ถ้วนต่างถูกทำลาย และเหล่าสัตว์อสูรมากมายต่างหลบหนีเอาชีวิตรอด มีบางส่วนถึงกับคลานบนพื้นด้วยร่างกายที่สั่นเครือโดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุด หมูป่าหนามอัคคีเป็นราชาของหุบเขาสายหมอก และเมื่อราชาพิโรธ ทุกชีวิตจะต้องสั่นไปด้วยความกลัว
ความกราดเกรี้ยวได้แผดเผาหัวใจของหมูป่าหนามอัคคี มันอาละวาดอย่างบ้าคลั่ง แม้ว่าร่างกายมันจะใหญ่โต แต่มันก็มิได้เชื่องช้าแต่อย่างใด เพียงพริบตา มันได้บินออกไปจากเขตที่สาม โดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุด มันยังคงบินต่อไปตรงไปที่นิกายวิหารมรกต
"หมูป่าหนามอัคคีมันสัมผัสถึงพลังงานจากไข่ทองคำได้แล้ว และตอนนี้มันกำลังมุ่งหน้าไปยังนิกายวิหารมรกต ตามไปกันเถอะ และไปชมการแสดงที่น่าสนุกกัน"
เจียงเฉินหัวเราะอย่างเบิกบาน พร้อมกับรอยยิ้มแสยะบนใบหน้าของเขา เขาและหวงต้ากระโดดขึ้นสู่ท้องฟ้า และติดตามหมูป่าหนามอัคคีอยู่ห่างๆ
หนึ่งร้อยลี้จากหุบเขาสายหมอก มีเทือกเขาที่เต็มไปด้วยเนินเขาสีเขียวขจีและหยดน้ำที่ใสสะอาด นิกายวิหารมรกตที่สงบสุขนั้นเหมือนจะมีเรื่องใหญ่บางอย่างเกิดขึ้น พลังงานสัตว์อสูรสูงเสียดฟ้าปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว และในตอนนั้นเอง ราชันย์อสูรขนาดมหึมาผู้ยิ่งใหญ่ได้ปรากฏตัวขึ้นเหนือนิกายวิหารมรกต ร่างของราชันย์อสูรปกคลุมไปด้วยเกล็ดทองคำและมันสะท้อนแสงอาทิตย์ได้
"อ้า! นั่นมันหมูป่าหนามอัคคี หมูป่าหนามอัคคีกำลังบุกโจมตีพวกเรา!"
"สวรรค์ เป็นหมูป่าหนามอัคคีจริงๆด้วย! เร็วเข้า รีบไปแจ้งท่านผู้นำนิกายว่าหมูป่าหนามอัคคีอยู่ที่นี่! มีเพียงท่านผู้นำเท่านั้นที่สามารถต้านทานสัตว์อสูรตนนี้ได้!"
ศิษย์ของนิกายวิหารมรกตตกอยู่ในความโกลาหล ศิษย์ที่เพิ่งจะกลับมาจากการฝึกฝนในหุบเขาสายหมอกยังไม่มีเวลาตรวจสอบสิ่งที่พวกตนได้ พวกมันทั้งหมดก็ตกตะลึงและงุนงงเมื่อพวกมันเห็นหมูป่าหนามอัคคี
หลังจากที่นิกายวิหารมรกตได้ทำข้อตกลงกับหมูป่าหนามอัคคีเมื่อสามปีก่อน ก็ไม่มีความขัดแย้งกันระหว่างพวกมันอีก แม้ว่าพวกมันเคยประมือกันก่อนที่จะทำข้อตกลง หมูป่าหนามอัคคีก็ไม่เคยมาบุกโจมตีที่ตำหนักหลักของนิกายวิหารมรกต
นอกจากนี้ ในตอนนี้ดูเหมือนหมูป่าหนามอัคคีจะกราดเกรี้ยวอย่างมาก ชัดเจนว่ามันคงไม่ได้มาคุยเล่นแน่
"โฮกกก!! เจ้าพวกมนุษย์น่ารังเกียจ พวกเจ้าทั้งหมดสมควรสูญสิ้นในนรกไปซะ บัดซบเอ้ยย!!"
หมูป่าหนามอัคคีพูดออกมาด้วยภาษามนุษย์ เสียงของมันดังราวกับฟ้าผ่า เสียงออกผ่านท้องฟ้าเหนือนิกายวิหารมรกต ในวินาทีต่อมาหมูป่าหนามอัคคีได้เปิดปากของมันพ่นลูกไฟสีทองออกมา
ตู้มมมม!! อ้ากกกกก!…..
ลูกไฟได้เข้าปะทะกับประตูหน้านิกายวิหารมรกต ประตูขนาดใหญ่ได้ระเบิดออกเป็นเถ้าถ่าน เปลวเพลิงกระจายไปทั่วสถานที่ ศิษย์บางคนโดนสะเก็ดจากลูกไฟได้กรีดร้องออกมาก่อนทั้จะตกตายลงตรงนั้น
ฟุ่บ….!
ในตอนนั้นเอง เหล่าผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลายได้บินขึ้นไปในท้องฟ้า ขณะที่ตัวของมันกำลังสั่น มันอยู่ไม่ห่างจากหมูป่าหนามอัคคีสักเท่าไร มันตะโกนออกมาเสียงดังว่า "เจ้าปีศาจแดง นิกายวิหารมรกตได้ทำข้อตกลงกับเจ้า พวกเราจะไม่รุกรานกันอีก! แม้ว่าจะเข้าไปในหุบเขาสายหมอก แต่พวกเราไม่เคยย่างกรายไปเกินกว่าเขตที่หนึ่ง แล้วทำไมเจ้าถึงได้บุกโจมตีเราในวันนี้?"
"ตาย!"
เมื่อได้ยินเช่นนั้นหมูป่าหนามอัคคีก็ถูกเติมเต็มไปด้วยเปลวเพลิงแห่งโทสะ ในตอนนี้ถ้ามันต้องการสังหารใครก็ตาม ใครล่ะจะกล้าขวางทางมัน มันเปิดปากและยิงลำแสงสีทองออกมา ลำแสงนี่เหมือนกับคมมีดล่องหนและมันได้ทะลวงผ่านชายแก่ในทันที ไม่มีผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลายคนไหนสามารถต้านทานการลงมือเพียงครั้งเดียวของหมูป่าหนามอัคคีได้
ในตอนนั้นเองความโกลาหลที่เกิดจากหมูป่าหนามอัคคีได้ลามไปถึงชิงฉื่อและหลิวหง
"อะไร?หมูป่าหนามอัคคี? พวกเราไม่เคยไปหาเรื่องมัน เหตุใดมันถึงมาที่นี่กระทันหันและลงมือกับพวกเราล่ะ?"
หลิวหงตื่นตระหนก
"ไปตรวจสอบดูก่อนเถอะ"
ใบหน้าของชิงฉื่อเคร่งขรึม และมันได้หายไปจากที่นี่ทันที
เหล่าคนที่แข็งแกร่งมากมายมาจากทุกหนทุกแห่งภายในนิกายวิหารมรกต เพียงระยะเวลาสั้นๆ ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์กว่าสิบคนก็ปรากฎกายออกมา และทั้งหมดได้เข้ามาขวางเส้นทางของหมูป่าหนามอัคคี ผู้อาวุโสแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ทั้งหมดต่างมีตำแหน่งสูงส่งในนิกาย และเป็นเรื่องยากมากที่จะได้พบเจอพวกเขาสักคน การมาถึงของหมูป่าหนามอัคคีได้ทำให้ผู้อาวุโสทั้งหมดออกมาเช่นนี้ ใครก็สามารถบอกได้ว่านิกายวิหารมรกตให้ความสนใจแก่หมูป่าหนามอัคคีเป็นอย่างมาก
"หมูป่าหนามอัคคี เหตุใดเจ้าถึงได้มารุกรานพวกเราโดยฉับพลันเช่นนี้?"
ชิงฉื่อ ตะโกนออกมาดังลั่น
"คืนลูกของข้ามาซะ!"
ดวงตาหมูป่าหนามอัคคีแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่อนที่จะตะโกนด้วยเสียงที่กราดเกรี้ยว
"ว่าอะไรนะ? ลูกของเจ้าอยู่ในนิกายวิหารมรกตของข้าได้อย่างไร? นอกจากนี้ ข้าไม่เคยได้ยินว่าเจ้ามีลูกมาก่อน เจ้าแค่สร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผลเท่านั้น!"
หลิวหงตะโกนกลับไป มันได้พบเจอหมูป่าหนามอัคคีมานับครั้งไม่ถ้วน แต่มันไม่เคยเห็นลูกของมันมาก่อน และไม่มีใครเคยเห็นหมูป่าหนามอัคคีสองตัวในหุบเขาสายหมอกแต่อย่างใด
พวกมันไม่รู้ว่าไข่ทองคำนั้นเกิดจากหมูป่าหนามอัคคี หลังจากที่ดูดซับพลังงานธรรมชาติ ไข่ทองคำก็จะได้รับสายเลือดที่สมบูรณ์และแก่นพลังชีวิตจากหมูป่าหนามอัคคี แน่นอนว่านี่คือลูกของมัน
หมูป่าหนามอัคคีเป็นสัตว์อสูรหายากในโลกใบนี้ พวกมันมีเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น หากหมูป่าหนามอัคคีต้องการส่งต่อสายเลือดของมัน มีเพียงทางเดียวเท่านั้น และโอกาสสำเร็จมันน้อยมาก หมูป่าหนามอัคคีได้ใช้ความพยายามอย่างมากกว่าหลายปี มันสร้างออกมาได้เพียงฟองเดียวเท่านั้น และในตอนนี้มันก็ถูกขโมยไปโดยนิกายวิหารมรกตขณะที่มันไม่อยู่ มันชั่วช้าจริง
"โฮก..!! เจ้าพวกมนุษย์น่ารังเกียจ! พวกเจ้าทั้งหมดเตรียมตัวตายซะ!"
หมูป่าหนามอัคคีคำรามอย่างกราดเกรี้ยว มันโกรธแค้นอย่างมาก มันสามารถสัมผัสได้ชัดเจนว่าไข่ทองคำซ่อนอยู่ภายในนิกายวิหารมรกต พวกมนุษย์แสร้งทำเป็นมีคุณธรรมสูงมาตลอด แต่พวกมันเอาไข่ทองคำของมันไป และตอนนี้ยังไม่ยอมให้มันเอาคืนอีก นี่มันช่างน่าขันเสียจริง
หมูป่าหนามอัคคียิงลูกไฟไปทุกหนแห่งภายในนิกายวิหารมรกต ราวกับมันจะทำลายนิกายนี้ให้สิ้นซาก
ตู้มมม..!
เพียงไม่นาน เสียงระเบิดก็ดังขึ้นมาจากทุกที่ และเปลวเพลิงได้พุ่งเข้าไปในท้องฟ้า ศิษย์จำนวนมากติดกับจึงถูกเปลวเพลิงแผดเผาและตายลงตรงนั้น
"ช่างเป็นสัตว์อสูรที่น่าขันยิ่งนัก เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงสร้างหายนะในนิการวิหารมรกตเช่นนี้?!"
ชิงฉื่อรู้สึกโกรธขึ้น เพียงพริบตา มันก็ได้เข้าใกล้หมูป่าหนามอัคคี และใช้มือทั้งสองข้างวาดบางสิ่งบนอากาศ จากนั้นก็ปลดปล่อยมันพลังขนาดใหญ่กดทับหมูป่าหนามอัคคี
โฮก……
หมูป่าหนามอัคคียังคงคำรามต่อ ร่างกายของมันดูเหมือนจะทนทานดาบและหอก มันปลดปล่อยชั้นของลำแสงสีทองปกคลุมร่างกายมัน จากนั้นพุ่งเข้ากระแทกชิงฉื่อ
ปัง…!
ร่างบอบบางได้ถูกชนกลางอากาศแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆเมื่อรับการโจมตีของมัน นี่คือการต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ ระลอกคลื่นพลังงานมหาศาลจากการต่อสู้นั้นสามารถทำให้ทุกคนหนาวเย็นจนไปถึงไขสันหลัง ไม่มีทางที่คนทั่วไปจะจินตนาการได้มีการต่อสู้มันจะรุนแรงขนาดไหน
ตึก ตึก ตึก!
ชิงฉื่อกระเด็นไปด้านหลังสามก้าว สีหน้าของมันเต็มไปด้วยความตกตะลึง
"เจ้านี่มันแข็งแกร่งกว่าเมื่อสามปีที่แล้ว แม้แต่ข้าก็แทบจะหยุดมันไม่อยู่"
ท่าทีของชิงฉื่อเปลี่ยนไป และมันรู้สึกตกตะลึงอย่างรุนแรงในใจของมัน หมูป่าหนามอัคคีเป็นสัตว์อสูรหายากในโลกใบนี้ และมันยังครอบครองพละกำลังอันมหาศาล แม้ว่ามันจะอยู่ในจุดสูงสุดของสัตว์อสูรแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นปลาย มีเพียงผู้เชี่ยวชาญจิตวิญญาณยุทธที่สามารสังหารมันได้ ลำพังแค่ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นปลายหาได้ยากที่จะต่อกรกับมัน
เหนือท้องนภาที่ห่างไกล เจียงเฉินและหวงต้ากำลังนั่งอย่างสุขสบายบนก้อนเมฆ พวกเขากำลังรับชมการต่อสู้ในนิกายวิหารมรกตจากไกลๆ จากที่พวกเขากำลังนั่งอยู่นั้น สามารถมองเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในนิกายวิหารมรกตได้อย่างชัดเจน
"หมูป่าหนามอัคคีแข็งแกร่งจริงๆ ตอนนี้ หมูป่าหนามอัคคีถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงแห่งโทสะ และเจ้าพวกคนจากนิกายวิหารมรกตก็ยังทำตัวไม่ถูก ก่ะก่ะ!"
เจียงเฉินหัวเราะออกมาเสียงดัง
"ฮี่ฮี่ ข้าคิดว่าเจ้าพวกแก่โง่งมนั่นคงคิดว่าไข่ทองคำเป็นสมบัติของมัน! มันไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับหมูป่าหนามอัคคี! ตราบที่พวกมันยังไม่คืนไข่ทองคำ ปัญหาเกี่ยวกับหมูป่าหนามอัคคีย่อมไม่มีวันคลี่คลาย เพียงปล่อยมันเป็นอย่างนี้ต่อไป มันก็จะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น! ข้าหวังว่าพวกมันทั้งคู่จะบาดเจ็บหนัก พวกเราจะได้โอกาสลงไปเก็บเกี่ยว!"
รอยยิ้มกว้างได้ปรากฏบนใบหน้าของหวงต้า ความคิดของเจียงเฉินนั้นมหัศจรรย์จริงๆ แน่นอน นี่เป็นเพียงโอกาสเดียวเท่านั้นของพวกเขา ที่จะได้ดวงจิตวิญญาณอสูรหมูป่าหนามอัคคีมา
ก๊าซซซซ….!!
หมูป่าหนามอัคคีกราดเกรี้ยวมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ มันเกลียดมนุษย์เหล่านี้ ในความคิดของมัน มนุษย์เหล่านี้สมควรสูญสิ้นในนรก จนกระทั่งตอนนี้ พวกมันก็ยังไม่ส่งไข่ทองคำคืนมัน หากเป็นเช่นนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องพูดอีกต่อไป
ด้วยอำนาจจากร่างกายมัน หมูป่าหนามอัคคีได้ปลดปล่อยลำแสงสีทองจำนวนมากออกมาจากร่างกาย ลำแสงนั้นราวกับคมมีดที่ไม่อาจทำลายได้ ในเวลานี้ ทั่วทั้งนิกายวิหารมรกตถูกถล่มไปด้วยลำแสงสีทอง การโจมตีอย่างรุนแรงจากหมูป่าหนามอัคคีนั้นไม่เจาะจงเป้าหมายเป็นพิเศษ ลำแสงทั้งหมดได้ยิงเข้าใส่ผู้อาวุโสแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบคนตรงหน้ามัน
"ทุกคนระวังตัวให้ดั เจ้านี่มันบ้าคลั่งขึ้นมาแล้ว!"
ชิงฉื่อตะโกนเสียงดัง แม้แต่มันก็ไม่อาจลังเลได้อีก มันปลดปล่อยพลังทั้งหมดและปกคลุมร่างกายด้วยพลังงานที่เจิดจ้าในทันที ภายในมือของมันก็ได้มีหอกสีเงินยาวกว่าสามเมตรปรากฏขึ้น
นี่เป็นยุทธภัณฑ์ระดับสูง และยังมีคุณภาพยอดเยี่ยมยิ่งกว่าขวานอัสนีของเจียงเฉิน มันเรืองแสงเจิดจ้าในมือของชิงฉื่อ
"หลบไป!"
ชิงฉื่อตะโกนขณะที่มันกวาดหอกของมัน ทันใดนั้น หอกจำนวนนับไม่ถ้วนได้ปรากฏในท้องฟ้าเหนือนิกายวิหารมรกต ตัวหอกถักทอเป็นใยแมงมุมขนาดยักษ์ จากนั้นมันก็ปะทะเข้ากับลำแสงสีทองของหมูป่าหนามอัคคี
ตู้มมมม!
ฉากที่เกิดขึ้นคล้ายกับมีฟ้าผ่าลงมาไม่รู้จบ ในเวลาเดียวกันบนท้องฟ้า คลื่นพลังหลากสีขนาดยักษ์กวาดผ่านท้องฟ้าเหนือนิกายวิหารมรกต คลื่นพลังเหล่านั้นได้ทำลายระลอกคลื่นพลังลง หมูป่าหนามอัคคีที่ปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงแห่งโทสะก็ได้ปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังเหลือเชื่อ แม้ชิงฉื่อจะโจมตีสวนกลับด้วยยุทธภัณฑ์ระดับสูงก็ไม่สามารถปัดป้องการโจมตีทั้งหมดได้ มีลำแสงจำนวนหนึ่งทะลุผ่านใยไปและพุ่งเข้าใส่ผู้อาวุโสแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์คนอื่นๆ
ท่าทีของเหล่าผู้อาวุโสพลันเปลี่ยนไป ไม่มีใครกล้าลังเลแม้แต่น้อย พวกมันทั้งหมดต่างเอายุทธภัณฑ์ของตนเองออกมา ด้วยการผสานการโจมตีของพวกมัน ในที่สุดก็สามารถปัดป้องลำแสงทั้งหมดลงได้ ผู้อาวุโสที่อ่อนแอบางคนรู้สึกว่าเลือดและปราณของพวกมันปั่นปวน ทำให้พวกมันรู้สึกแย่เสียจริง
"บัดซบ เจ้านี่มันแข็งแกร่งกว่าสามปีที่แล้วมาก และตอนนี้มันยังบ้าคลั่งอีกด้วย ยากที่เราจะป้องกันไว้ได้!"
หลิวหงอดไม่ได้ที่จะก่นสาปแช่งสถานการณ์เช่นนี้ มันไม่รู้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นเพราะมัน ที่นำพาความสับสนวุ่นวายมายังนิกายวิหารมรกต และมันยังคงหลบอยู่ในเงามืดเช่นนั้นต่อไป
===================================
โปรดติดตามตอนต่อไป………..