เทพมังกรสงครามอหังการ - Dragon Marked War God ตอนที่ 173 - สังหารผู้ที่มาขวางทางทุกคน
- หน้าแรก
- เทพมังกรสงครามอหังการ
- Dragon Marked War God ตอนที่ 173 - สังหารผู้ที่มาขวางทางทุกคน
เมื่อเห็นเช่นนี้ท่าทางของทุกคนได้เปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเขาต่างก้าวถอยหลังสองสามก้าวขณะที่มองไปยังศิษย์ในด้วยความหวาดกลัว นี่มันช่างน่าหวาดกลัวนัก เอาแต่ใจเกินไปที่เขาสังหารคนทั้งอย่างนั้น
นี่เป็นความเป็นจริงอันโหดร้ายของโลกฝึกตน บางครั้งชีวิตของชายคนหนึ่งนั้นไร้ค่านัก โดยทั่วไปแล้วจะไม่มีกฎไม่มีคำสั่ง ว่ากันด้วยความแข็งแกร่งและความสามารถ นิกายวิหารมรกตคือกฎและคำสั่งได้ด้วยพลังและความแข็งแกร่งของพวกเขา นิกายวิหารมรกตอยู่เหนือทุกๆคนในแคว้นเฉียน และศิษย์สามารถที่จะสังหารผู้ฝึกตนพเนจรได้โดยไร้สาเหตุ มันเหมือนกับการฆ่ามด
"เจ้า!บอกข้ามาซะ"
ศิษย์คนนั้นเดินไปยังชายวัยกลางคนราวๆห้าสิบปี ชายผู้นั้นอยู่ระดับแก่นแท้สวรรค์ขั้นต้น และเป็นหัวหน้าตระกูลเล็กๆ แม้ว่าจะมีความหวาดกลัวอยู่บนหน้าของเขา แต่ท่าทางของเขาสุขุมมากกว่าชายหนุ่มที่เพิ่งตกตายไป เขาดูสงบนิ่งกว่ามาก
ชายวัยกลางคนนั้นประสานมือต่อศิษย์แล้วพูดว่า "ข้าไม่เคยพบเด็กหนุ่มและหมาตัวนั้นมาก่อน ข้าคาดเดาว่าเป็นครั้งแรกที่เขามายังเขาสายหมอก เมื่อครู่มีคนเห็นเด็กหนุ่มได้สอบถามเกี่ยวกับนิกายวิหารมรกตและเขาสายหมอก และเขายืนกรานที่จะเข้าไปยังภูเขา แต่เขาถูกผู้อาวุโสนิกายและศิษย์หยุดไว้ การต่อสู้จึงปะทุขึ้น ชายหนุ่มผู้นั้นสวมชุดสีขาวและเขามีใบหน้าหล่อเหลา เขาดูเหมือนวัยรุ่นตอนปลายและระดับการบ่มเพาะของเขานั้นไม่ได้เอ่ยถึง อย่างไรก็ตามหมาที่ติดตามเขานั้นแข็งแกร่งจริงๆ มันเป็นราชันย์ปีศาจ และคนทุกคนจากนิกายวิหารมรกตโดนเจ้าหมานั่นสังหาร เช่นเดียวกับชายหนุ่มที่พูดบางอย่างก่อนที่จะเข้าไปยังเขาสายหมอก เขาบอกให้พวกเราส่งข้อความว่า : อย่าได้มาท้าทายข้า นี่คือทั้งหมดที่ข้ารู้ สิ่งที่ข้าพูดสามารถยืนยันได้ว่าเป็นความจริงโดยใครก็ได้ที่อยู่ที่นี่"
"ฮึ่ม!ข้าสงสัยว่าเจ้าสารเลวนั่นมาจากที่แห่งใด เขากล้าดีอย่างไรที่มาสังหารคนจากนิกายวิหารมรกต?ไม่ว่ามันจะไปที่แห่งใด ข้าจะหามันและสังหารมัน ศิษย์น้องซู เจ้ารออยู่ที่นี่ ให้ข้าไปสังหารมันในภูเขาก่อน เมื่อข้ากลับมาแล้วค่อยไปหาหม้อใบใหญ่มาและจับหมานั่นมาทำอาหารกิน"
ชายหนุ่มอีกคนแค่นเสียงเย็นชา เขาหันกลับไปและเดินไปยังเขาสายหมอก ไม่นานหลังจากนั้น เขาได้หายไปจากสายตาของผู้คน
ศิษย์น้องซูขมวดคิ้ว เขาเป็นคนที่คิดมาก เขาหันไปมองทั้งหกคนที่นอนอยู่บนพื้น ตอนนั้นเขาถามชายวัยกลางคนอีกครั้ง "เล่ารายละเอียดให้ข้าว่าเจ้าหมานั่นสังหารคนของพวกเราได้อย่างไร"
"เจ้าหมานั่นเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าหวาดกลัวมาก มันสังหารทุกคนด้วยกระบวนท่าเดียว และมันใช้เพียงแค่เส้นขนของมัน"
ชายวัยกลางคนไม่กล้าที่จะปิดบัง เมื่อเขานึกถึงฉากที่หวงต้าสังหารคนเหล่านี้ ช่วยไม่ได้ที่เขาจะมีท่าทางหวาดกลัว
"สังหารด้วยเส้นขนของมัน?"
ศิษย์คนนั้นจ้องไประหว่างดวงตา และได้ประหลาดใจ เขาพบว่าทุกคนต่างมีรูอยู่บนหน้าผาก และมีเส้นขนสีทองติดอยู่ด้านนอกรู ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปในทันที
"สังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์จำนวนมากด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว และหนึ่งในพวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์ขั้นกลางและมันใช้ขนเพียงไม่กี่เส้น…..ดูเหมือนว่าราชันย์ปีศาจตนนี้จะทรงพลัง…ข้าจะไปแจ้งผู้อาวุโสนิกายเกี่ยวกับเรื่องนี้"
หลังจากที่พูดเสร็จ ศิษย์ผู้นั้นได้กระโดดไปยังท้องฟ้าและบินไปยังนิกายวิหารมรกต แม้ว่าเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลาย เขามีความสุขุม ก่อนอื่นต้องรวบรวมรายละเอียดของชายและหมา มันยังดีกว่าอยู่กับที่ นอกจากนี้ตอนนี้มีศิษย์นอกจำนวนมากที่ทำการฝึกฝนอยู่ที่เขาสายหมอกในตอนนี้ และหากว่าเขาไม่อาจสังหารชายคนนั้นและหมาด้วยกระบวนท่าเดียว มันอาจสร้างความเสียหายร้ายแรงแก่ศิษย์นอกทั้งหมดได้
หลังจากที่เจียงเฉินและหวงต้าเข้าไปยังเขาสายหมอก พวกเขาก็ตรงไปยังเขตที่สอง ภายในความลึกเขตที่สอง จะมีสัตว์อสูรที่ทรงพลังอยู่ เจียงเฉินถือโอกาสนี้สังหารพวกมันบางตัวเพื่อเพิ่มพูนระดับการบ่มเพาะของเขา สำหรับหมูป่าหนามเพลิง พวกเขาจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งในการหามัน
ตูม!
เสียงดังออกมาดูเหมือนว่าจะไม่หยุดจากทุกทิศทาง มันเป็นเสียงจากการต่อสู้ มันน่าจะเป็นศิษย์นอกจากนิกายวิหารมรกตได้ต่อสู้กับสัตว์อสูรบางตัว
เจียงเฉินไม่สนใจในเขตที่หนึ่ง ไม่สำคัญว่าจะเป็นสัตว์อสูรของศิษย์นิกายวิหารมรกต เขาไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย ตราบเท่าที่นิกายวิหารมรกตไม่มายั่วโมโหเขา เขาจะไม่สร้างปัญหาใดๆให้กับศิษย์ของพวกมัน นอกจากนั้น เป้าหมายของเขาในตอนนี้คือหมูป่าหนามเพลิง ความขัดแย้งกับนิกายวิหารมรกตเป็นเพียงอุบัติเหตุเท่านั้น
เส้นทางภายในเขาสายหมอกขรุขระ มีป่าทึบอยู่ทุกแห่ง อย่างไรก็ตาม ที่นี่อุดมด้วยพลังหยวนธรรมชาติ สถานที่แห่งนี้ทั้งหมดอุดมไปด้วยพลังงานธรรมชาติ มันเป็นสถานที่ที่ดีต่อการบ่มเพาะ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใดนิกายวิหารมรกตถึงต้องการกีดกันคนทั่วไปในการเข้ามา และให้ศิษย์ของพวกมันฝึกฝนที่นี่ทุกๆเดือน
เมื่อศิษย์ได้ต่อสู้กับสัตว์อสูรที่นี่ ไม่เพียงแค่ได้รับประสบการณ์การต่อสู้ พวกเขายังได้วิญญาณอสูรที่ล้ำค่า หากศิษย์คนใดโชคดีก็อาจพบทรัพยากรสมบัติตามธรรมชาติ เขาสายหมอกเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์สำหรับพวกเขา
ไม่นานหลังจากที่พวกเขาเข้ามายังภูเขา ทันใดนั้นคนสามคนก็ได้มาขวางทางพวกเขา พวกมันมีชายสองคน เด็กสาวอีกหนึ่งที่สวมเครื่องแบบของนิกายวิหารมรกต พวกเขามองสำรวจเจียงเฉินและหวงต้า
"พวกเขาไม่ได้มาจากนิกายวิหารมรกต พวกเขาเข้ามายังเขาสายหมอกได้อย่างไร?"
เด็กสาวพูดขึ้นมา นางไม่ได้มีมนุษย์สัมพันธ์แม้แต่น้อย
"เจ้าหนู เจ้าเป็นใคร?เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร?"
เด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งพูด เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลาย เป็นคนที่มีได้รับการชื่นชมมากที่สุดในบรรดาศิษย์นอก
เฮ้อ!
เจียงเฉินส่ายหัวแล้วถอนหายใจออกมา เขาไม่ได้มีความตั้งใจที่จะสร้างปัญหาใดๆ แต่มันดูเหมือนว่าปัญหาจะวิ่งมาหาเขา เขารู้เป็นอย่างดีถึงความภาคภูมิใจของศิษย์นิกายใหญ่ พวกเขาจะหยิ่งยโสและพวกเขาจะไม่เคยคิดสนใจผู้ฝึกตนพเนจร
"ข้าได้สังหารคนที่อยู่บริเวณนอกภูเขา จากนั้นข้าก็มาที่นี่ ทางที่ดีพวกเจ้าทั้งสามอย่าได้มาขวางทางข้า ข้าไม่ต้องการที่จะสังหารพวกเจ้า"
เจียงเฉินพูดตรงๆไม่อ้อมค้อม
"อะไรนะ?!"
เมื่อได้ยินเจียงเฉินกล่าว พวกเขาตะโกนอย่างไม่อยากจะเชื่อ เด็กหนุ่มที่เป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลายจ้องไปยังเจียงเฉินและหวงต้าจากนั้นมันก็หัวเราะออกมา
"ฮ่าฮ๋า นี่เป็นการโอ้อวดอันใด!เหล่าคนที่อยู่ด้านนอกต่างเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์ พวกเขาเป็นผู้อาวุโสนิกายและศิษย์เขตในของนิกายวิหารมรกต พวกเขาไม่ใช่คนที่เจ้าสามารถสังหารได้!นอกจากนี้ ไม่มีผู้ใดในแคว้นเฉวียนที่หาญกล้าสังหารคนจากนิกายวิหารมรกต!นี่มันเรื่อขำขันอันใดเจ้าหนู่ ข้าคิดว่าเจ้าย่องเข้ามาที่นี่! เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงไม่ปฎิบัติตามคำสั่งของนิกายวิหารมรกต?!เจ้ากำลังรนหาที่ตายที่นี่!"
เด็กหนุ่มหัวเราะออกมาดังลั่น
"ศิษย์พี่ เจ้าหมานั่นดูอ้วนเนื้อแน่นดี ฆ่ามันแล้วนำมาทำอาหารเมนูสวรรค์กัน!"
ศิษย์นอกอีกคนจ้องมองไปยังหวงต้าด้วยแววตาโหดร้าย มันดูเหมือนว่าหากเขาได้ลิ้มรสอันหอมหวานของเนื้อหมาเขาจะกลับไปกินมัน เขาเลียริมฝีปากของตนเอง
เฮ้อ!
เจียงเฉินถอนหายใจอีกครั้งหนึ่งแล้วเอามือกุมหน้าผาก มันมักจะมีคนบางคนที่ไม่รู้จักนิสัยของพวกเขาได้ผลักตนเองไปสู่ความตาย จากการที่พูดคำนั้นออกมา ศิษย์ผู้นั้นจักได้พบจุดจบอย่างแน่นอน หวงต้านั้นดุร้ายยิ่งกว่าเจียงเฉินอย่างแท้จริง
ในความเป็นจริง ก่อนที่ศิษย์ผู้นั้นจะพูดจบ หวงต้าได้กลายเป็นแสงสีทองกระโจนใส่ มันได้กัดหัวศิษย์คนนั้นขาดในทันที
"บัดซบ เจ้ากล้าดีอย่างไรที่พูดออกมาจะนำปู่หมาของเจ้ามาทำอาหาร?!ข้าจะสังหารเจ้าซะ!"
หวงต้าเกรี้ยวกราด สายเลือดของกิเลนนั้นสูงส่งมาก เมื่อเทียบกับเหล่าศิษย์นิการวิหารมรกตนั้น หวงต้าเป็นสิ่งมีชีวิตที่สูงส่งอย่างแท้จริง ความภาคภูมิใจมาจากสายเลือดสัตว์เทวะได้ทำให้มันมีศักดิ์ศรีเป็นของตนเอง ผู้ใดกล้าที่จะท้าทายเท่ากับรนหาที่ตาย
"อะไรกันน่ะ!?"
อีกสองคนตะโกนขึ้นด้วยความตกใจ พวกเขาทั้งคู่จ้องร่างไร้หัวที่ยังชักกระตุกอยู่บนพื้น ใบหน้าของพวกเขาขาวซีดในทันใด
"เหตุใดเจ้าพวกบ้านี่ถึงได้มาขวางทางพวกข้า?!เจ้ากำลังหาเรื่องตายจริงๆใช่ไหม?!"
หวงต้าเผยฟันขู่พวกเขาทั้งสอง มันไม่ได้สนใจที่จะสังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์
พวกเขาทั้งคู่หวาดกลัวจริงๆ พวกเขาไม่เคยพบหมาที่เหี้ยมโหดเช่นนี้มาก่อน
"เจ้า…..เจ้ากล้าดีอย่างไรที่มาสังหารศิษย์นิกายวิหารมรกต?!"
เด็กหนุ่มพูดเสียงสั่น
"เวรเอ้ย! เหตุใดศิษย์จากนิกายวิหารมรกตเหล่านี้ถึงได้มีความภาคภูมิใจเลวทรามยิ่งนัก?!"
หวงต้าที่อารมณ์ร้อนได้ระเบิดออกมา มันปล่อยแสงสีทองออกมาและสังหารเด็กหนุ่มในทันที นอกจากนั้น มันได้สังหารมามากมาย การที่สังหารเพิ่มอีกสักคนมันไม่ได้มีความหมายอันใด หวงต้าได้ให้โอกาสที่มันจะอยู่ต่อ แต่มันไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย
สองในสามศิษย์ได้ถูกสังหารในทันที ศิษย์สตรีคนสุดท้ายหวาดกลัว นางไม่สามารถที่จะหยุดสั่นได้เลย นางมองไปยังหวงต้าเหมือนกับว่านางมองไปยังปีศาจที่เหี้ยมโหด ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
"ข้าจักทำเช่นไรดี?ข้ากำลังจะตาย ข้าไม่อยากตาย…….."
เด็กสาวหมดหวัง นางรู้สึกว่าเจ้าหมาโหดร้ายนี่จะไม่ปล่อยนางไปแน่ ในความจริงนั้น หวงต้าไม่ได้สนใจที่จะสังหารนางแม้แต่น้อย
ในตอนนั้นเอง มีเสียงดังมาจากบนท้องฟ้า
"ช่างเป็นเจ้าสารเลวที่อาจหาญอะไรอย่างนี้ เจ้ากล้าดีอย่างไรที่มาสังหารศิษย์จากนิกายวิหารมรกต?เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!"
เสียตะโกนดังมาก ในพริบตาคนๆนั้นได้ปรากฎขึ้นตรงหน้าเจียงเฉินและหวงต้า เมื่อเด็กสาวเห็นว่าผู้ใดที่มาช่วยนาง ท่าทางหมดหวังของนางได้แปรเปลี่ยนเป็นปิติยินดี
"ศิษย์พี่หวังอี้!"
เด็กสาวมีความสุขจึงร้องไห้ออกมา หวังอี้เป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลาย ศิษย์ในผู้ที่มีตำแหน่งสูงในนิกายวิหารมรกต ด้วยการมาถึงของเขา เด็กสาวรู้สึกราวกับว่านางปลอดภัยแล้ว เจ้าสารเลวทั้งสองที่อยู่เบื้องหน้านางจะต้องถูกศิษย์พี่หวังอี้ของนางจัดการอย่างแน่นอน
หวังอี้เป็นศิษย์ในผู้ได้เข้ามายังเขาสายหมอกเมื่อครู่ เมื่อเขาพบร่างไร้วิญญาณสองร่างความกราดเกรี้ยวได้ปกคลุมหน้าของเขาทันที
"เจ้ากล้าที่จะสังหารศิษย์ของนิกายวิหารมรกต?! ข้าไม่สนใจว่าเจ้าเป็นผู้ใดหรือเจ้ามาจากไหน ร่างไร้วิญญาณของพวกเจ้าจักต้องถูกฝังที่นี่วันนี้!"
หวังอี้ปลดปล่อยพลังออกมาได้พุ่งทะยานสู่ท้องฟ้าและประสานกับการตะโกนเสียงดังออกมาทำให้ดึงดูดเหล่าศิษย์นอกที่อยู่ระหว่างการฝึกฝน ศิษย์นอกจำนวนมากได้มาทางพวกเขาด้วยความเร็วอย่างมาก
"ศิษย์พี่หวงอี้ เจ้าหมานั่นสังหารพวกเขา!"
ศิษย์สตรีที่ยืนข้างๆหวังอี้ได้ชี้นิ้วไปยังหวงต้า
"ข้าจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย จะดีที่สุดหากนิกายวิหารมรกตไม่มายั่วโมโหข้า เจ้าจักฝึกฝนตามที่เจ้าต้องการ และข้าจะทำธุระในส่วนของข้า พวกเราจะไม่สู้กันและกัน"
เจียงเฉินพูดออกมา และเตือนเป็นครั้งสุดท้าย
"โอหัง!ข้าจักสังหารพวกเจ้าทั้งคู่ตอนนี้!"
หวังอี้ตะโกนเสียงดัง เขาโบกมือของเขาและปลดปล่อยชั้นของแสงสีทองกลายเป็นมือขนาดยักษ์ที่สร้างมาจากพลังหยวน มือนั้นบินมายังทางเจียงเฉินและหวงต้า ชายผู้นี้เหมาะสมกับระดับการบ่มเพาะของมัน แต่มันเพิ่งทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลาย เมื่อเปรียบเทียบกับเฟินคุน มันยังอ่อนแอกว่า การกระทำที่หาญกล้าที่ลงมือใส่เจียงเฉินและหวงต้า มันดูเหมือนกับเป็นตัวตลกในสายตาพวกเขา
"หวงต้า ไม่ต้องปราณีมัน จากนี้ต่อไปพวกเราจะสังหารทุกคนที่มาขวางทาง"
ประกายแสงแห่งความโหดร้ายได้ปรากฎขึ้นที่ดวงตาของเจียงเฉินชั่วพริบตา เมื่อครู่คือคำเตือนครั้งสุดท้าย และชายผู้นี้ไม่ต้องการที่จะถอยกลับ หากเป็นเช่นนั้นอย่าได้มาตำหนิเขาที่ไม่แสดงความปราณีออกมา ความอดทนของเจียงเฉินมีจำกัด
นับประสาอันใดกับนิกายเล็กๆอย่างนิกายวิหารมรกต เจียงเฉินไม่เคยหวาดกลัวศัตรูที่แข็งแกร่งมาก่อน
*************************************************
โปรดติดตามตอนต่อไป…