เทพมังกรสงครามอหังการ - Dragon Marked War God ตอนที่ 172 อย่าได้ยั่วโมโหข้า
เมื่อได้ยินสิ่งที่เจียงเฉินกล่าว ศิษย์ไม่กี่คนจากนิกายวิหารมรกตรู้สึกเหมือนได้ยินเรื่องน่าขัน แม้ว่าศิษย์ที่กำลังกราดเกรี้ยวอยู่พลันหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่
"บัดซบ… เจ้านี่มันปัญญาอ่อนโดยแท้! หากไม่เช่นนั้นเขาคงไม่พูดเช่นนั้นออกมา?"
"เขาอาจจะไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของนิกายวิหารมรกตว่าเป็นเช่นไร? พวกเขาถึงขนาดปิดทางเข้าเขาสายหมอกทั้งหมด แต่เขาถึงกับกล้าที่จะเรียกร้องแบบนั้นอีก เขารนหาที่ตาย!"
เหล่าผู้ชมต่างหัวเราะดังลั่น ไม่มีผู้ใดรู้ว่าชายผู้นี้มาจากที่ใด แต่เขาเป็นคนน่าขัน หรือบางทีเขาไม่รู้ว่าจะมีบางสิ่งที่ไม่สามารถที่จะท้าทายได้ ไม่มีผู้ใดกล้าท้าทายการตัดสินใจของนิกายวิหารมรกตในการปิดกั้นคนทั่วไปที่จะเข้าไปยังเขาสายหมอก
"ไอ้หนู.. เจ้าว่าเช่นไรนะ?เจ้านั้นประสาทงั้นหรือ?นิกายวิหารมรกตปิดทางเข้าทั้งหมดสู่เขาสายหมอก เจ้ายังต้องการที่จะเข้าไปอีก?เจ้าคิดว่านิกายวิหารมรกตคืออะไร?ตอนนี้เจ้าได้ล่วงเกินพวกเราและท้าทายเกียรติยศของนิกายวิหารมรกต ข้าจะให้โอกาสรอดชีวิตแก่เจ้า คุกเข่าซะและโขกหัวให้พวกข้าทั้งหมด จากนั้นปู่ของเจ้าจะปล่อยเจ้าไปอย่างสงบ"
ศิษย์คนหนึ่งกล่าว
เมื่อได้ยินเช่นนี้ความกราดเกรี้ยวได้เผยออกมาบนหน้าของเจียงเฉิน เขาได้คาดไว้แล้ว ศิษย์ทั้งหมดจากบรรดานิกายใหญ่มักจะรู้สึกดีเกี่ยวกับพวกเขาเอง ดังนั้นพวกเขาจึงยโสโอหังเช่นนี้ เจียงเฉินมาที่นี่ในฐานะผู้ฝึกตนพเนจร นั่นเป็นเหตุว่าพวกเขาได้ปฎิบัติต่อเขาเช่นนี้
"ฮึ่ม!หุบเขาสายหมอกไม่ได้เป็นของนิกายวิหารมรกตเสีย ข้าจำเป็นต้องเขาวันนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หากว่าพวกเจ้าไม่ต้องการให้ทุกสิ่งยุ่งเหยิง ข้าข้าเข้าไปด้านในซะ"
เจียงเฉินแค่นเสียงเย็นชา เขาไม่ได้ต้องการสร้างปัญหา แต่หากมีบางคนต้องการมีปัญหากับเจียงเฉิน เจียงเฉินจะไม่หันหลังหนีอย่างพวกขี้ขลาด เข้าจำเป็นต้องเข้าไปยังเขาสายหมอกไม่ว่าอย่างไรก็ตาม และหากศิษย์จากนิกายวิหารมรกตยืนยันไม่ให้เขาเข้าไป ตอนนั้นเขาคงต้องใช้กำลัง
"เจ้าหนู เจ้าพ่นขยะอันใดของเจ้าออกมา เจ้ากล้าที่จะพูดกับพวกข้าเช่นนี้รึ?ไม่มีผู้ใดพูดกับพวกข้าเช่นนั้น!ปู่ของเจ้าจักให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย คุกเข่าลงและโขกหัวซะ!"
ศิษย์คนนั้นชี้นิ้วใส่เจียงเฉิน
"ไม่มีผู้ใดหาญกล้าชี้นิ้วใส่ข้าเช่นนั้น ดูเหมือนว่าเจ้าไม่รู้สินะถึงผลที่ตามมาในสิ่งที่เจ้าทำไป"
ท่าทางเหี้ยมโหดเผยออกมาบนใบหน้าของเจียงเฉิน หลังจากพูดจบลำแสงสีทองได้ปรากฎขึ้นทันทีระหว่างเจียงเฉินและศิษย์ผู้นั้น หลังจากนั้น เกิดเสียงแตกหักขึ้น และเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดได้ตามมา
"ถุด! มันเหม็นจริงๆ น่าสะอิดสะเอียนอะไรเช่นนี้!"
ทันใดนั้นเสียงได้ดังออกมา หลังจากนั้นทุกคนได้เห็นเจ้าหมาสีเหลืองได้คายข้อมือของมนุษย์ออกมา มันยังดิ้นรนอยู่บนพื้่น
"อ๊ากกกกกก มือของข้า!"
ศิษย์จากนิกายวิหารมรกตโอดครวญอย่างเจ็บปวด ข้อมือของเขาถูกหวงต้ากัดขาด และเลือดพุ่งออกมาจากแขนของเขา
ในตอนนั้นเอง ทุกๆคนต่างตกตะลึงในสิ่งที่เห็น ความเร็วของหวงต้ารวดเร็วมาก มันเหมือนฟ้าผ่าขณะที่มันกัดข้อมือของผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์ขั้นต้นขาด ชายผู้นั้นไม่มีเวลากระทั่งตอบสนอง
"ช่างเป็นเสียงกรีดร้องที่ห่วยแตก เหตุใดเจ้าถึงไม่ตายเสียล่ะ"
หวงต้ากระโจนใส่และกดศิษย์คนนั้นลงบนพื้น ด้วยปากอันใหญ่โตของมัน มันฉีกกระชากหัวของชายผู้นั้นออกทันที ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องได้หยุดลงและสิ่งที่หลงเหลืออยู่คือ ร่างไร้หัวที่กำลังชักกระตุกของศิษย์คนนั้นแล้วมีเลือดมากมายพุ่งออกมาจากคอของศิษย์คนนั้ัน
เมื่อศิษย์ผู้นั้นขอให้เจียงเฉินคุกเข่าลง หวงต้าได้ตัดสินใจลงมือ ด้วยระดับขั้นแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลาย การสังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์ขั้นต้นไม่ต่างจากการบี้มด
หวงต้าไม่ได้แสดงความปราณีเมื่อตอนที่มันลงมือ เพราะมันรู้ถึงนิสัยของเจียงเฉิน ไม่มีเหตุที่ต้องไปเสียเวลากับคนเหล่านี้ พวกมันเย่อหยิ่งและต้องการที่จะตอแยเจียงเฉิน แล้วเจียงเฉินและหวงต้าจักต้องเข้าไปเขาสายหมอกไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ดังนั้นการต่อสู้นั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เมื่อหวงต้าลงมือจักต้องมีคนตกตาย
"อะไรกัน?!"
อีกห้าคนได้ตะโกนออกมาในเวลาเดียวกัน พวกเขาอยู่ในอารมณ์ดูการแสดงที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะดูเจียงเฉินสร้างความอับอายให้กับตนเอง แต่พวกเขาไม่เคยคาดว่ามันจะเหี้ยมโหดและสังหารคนของพวกเขาในทันที
ความตกตะลึงและไม่อยากเชื่อได้เต็มดวงตาที่กำลังเบิกกว้าง สิ่งที่เกิดขึ้นมันเกินที่จะจินตนาการ ชายผู้นี้มีความหาญกล้าที่จะสังหารศิษย์จากนิกายวิหารมรกตจากบริเวณรอบนอกเขาสายหมอก เขาจะต้องเสียสติเป็นแน่!
"โอ้ สวรรค์ นี่ข้าได้เห็นอะไรเนี่ย?ศิษย์จากนิกายวิหารมรกตถูกสังหาร เจ้าหมานี่จักต้องเป็นราชันย์ปีศาจผู้ที่สามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์ได้ในกระบวนท่าเดียว นี่มันช่างน่าหวาดกลัวนัก"
"ไม่แปลกใจเลยที่ชายหนุ่มผู้นั้นถึงได้หยิ่งยโส ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะราชันย์ปีศาจได้ติดตามเขา แต่การที่สังหารศิษย์จากนิกายวิหารมรกตได้กลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว!ไม่มีผู้ฝึกตนพเนจรคนใดเคยสังหารศิษย์จากนิกายวิหารมรกตกลางสาธารณะภายในแคว้นเฉียนมาก่อน ยิ่งกว่านั้นที่นี่คือเขาสายหมอก!"
"จบกัน ครานี้ชายหนุ่มผู้นั้นจักต้องตายอย่างแน่นอน!ในปัจจุบันนี้ เหล่าคนหนุ่มสาวช่างหุนหันพลันแล่นเกินไป!เขาคิดว่าจะสามารถแสดงความเหี้ยมโหดได้เมื่อมีราชันย์ปีศาจติดตามเขา แต่การที่จะสู้กับนิกายวิหารมรกตไม่ต่างจากการรนหาที่ตาย!ศิษย์ของพวกเขาไม่ใช่ผู้ที่สามารถสังหารได้"
เหล่าผู้ชมต่างตะลึงงัน พวกเขาหลายคนมองไปยังหวงต้าด้วยความหวาดกลัวที่อยู่ภายในดวงตาพวกเขา เจ้าหมานี่ช่างโหดเหี้ยมและไร้ความปราณีและฉากที่มันได้สังหารก่อนหน้าด้วยการฉีกกระชากหัวออกมานั้นช่างน่ารังเกียจนัก
"ไอ้หนู เจ้ารู้หรือเปล่าว่าเจ้าทำอะไรลงไป?เจ้าได้สังหารศิษย์จากนิกายวิหารมรกต!ตอนนี้ ไม่ว่าเจ้าจะหนีไปยังที่แห่งใด พวกข้าจักค้นหาเจ้า และจักสังหารเจ้า!"
ในที่สุดชายสามคนได้ตื่นขึ้นจากการตกตะลึง หนึ่งในผู้อาวุโสนิกายต่อว่าเจียงเฉิน คนเหล่านี้มีหน้าที่ฝึกฝนเหล่าศิษย์นอก แต่ไม่เคยคาดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น
"จะดีกว่านี้หากพวกเจ้าไม่มาขวางทางข้า อย่าได้ยั่วโมโหข้าอีก"
เจียงเฉินเมินชายแก่ที่กำลังกราดเกรี้ยวอยู่และพูดด้วยน้ำเสียงไม่แยแส ในความคิดของเขา เขาได้ให้โอกาสที่จะอยู่รอดแก่คนเหล่านี้แล้ว หากว่าพวกมันไม่ได้สนใจโอกาสนั้น เจียงเฉินไม่ใส่ใจที่จะให้พวกมันในสิ่งที่เรียกร้อง (ความตายนั่นเอง อิอิอิ)
"ช่างเป็นเจ้าหนุ่มที่จองหองอะไรอย่างนี้ เจ้ากล้าดีอย่างไรที่มาท้าทายนิกายวิหารมรกต?! เจ้าไม่มีทางที่จะเส้นทางที่่จะตกตายดีกว่านี้เป็นแน่!ฆ่ามันซะ!"
เวลานี้ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งจากนิกายวิหารมรกตได้พูดขึ้น ชายผู้นี้เป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์ขั้นกลาง เขามีตำแหน่งสูงพอสมควรภายในเขตใน ชายหนุ่มผู้นั้นได้ปลดปล่อยพลังหยวนออกมาและสร้างตาข่ายใยแมงมุมพลังหยวนขนาดยักษ์ จากนั้นส่งไปยังเจียงเฉิน ในเวลาเดียวกันอีกสี่คนได้หยิบยุทธภัณฑ์ของพวกเขาออกมา พวกเขาเตรียมตัวล้อมเจียงเฉินและหวงต้าและลงมือในเวลาเดียวกัน
"เจ้าเรียกร้องเองนะหวงต้า สังหารพวกมันให้สิ้น"
เจียงเฉินตะโกนเสียงดัง เจตนาสังหารได้ปรากฎขึ้นบนหน้าของเขา หายากที่เขาจะให้โอกาสที่สอง สำหรับเขา การสังหารเพียงคนเดียวนั้นไม่ต่างจากการสังหารหกคน
"ได้เลย!"
หวงต้าหัวเราะออกมาเสียงดัง ทันใดนั้นขนทั่วร่างของมันได้ตั้งขึ้นและชี้ไปด้านหน้า เพียงแค่ขยับตัวเล็กน้อย ขนทั้งห้าเส้นได้พุ่งไปยังทั้งห้าคนดั่งคมดาบอันแหลมคม
เปรี้ยง!
ขนเหล่านั้นได้ทำลายกระบวนท่าของทั้งห้าคน การจู่โจมของพวกมันได้แตกสลายกลายเป็นชิ้นๆและกลายเป็นประกายไฟ ได้กวาดผ่านทั่วบริเวณ ในวินาทีถัดมา เกิดหลุมเลือดขึ้นระหว่างดวงตาพวกเขา และขนสีทองห้อมล้อมภายนอกหลุมนั้น
ตุบ…
ทันใดนั้นทั้งห้าคนได้ร่วงลงและตกตายด้วยเลือดที่ไหลออกจากหน้าผากพวกเขา มันเป็นฉากการต่อสู้ที่น่าสะพรึงนัก
เห็นในสิ่งที่เกิดขึ้น ผู้ชมทั้งหลายต่างตกตะลึง พวกเขาได้กลั้นหายใจและจ้องไปยังฉากอันน่าสะพรึงกลัวที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา นี่มันน่าหวาดกลัวนัก สังหารคนด้วยขน การจู่โจมประสานของผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์ทั้งห้า ไม่อาจต้านขนที่พุ่งออกมาจากร่างของหมาได้
เหล่าผู้อาวุโสและศิษย์จากนิกายวิหารมรกตที่เย่อหยิ่งได้กลายเป็นร่างไร้วิญญาณในทันที เจียงเฉินไม่แม้จะดูร่างพวกมัน ด้วยท่าทีสงบนิ่ง ด้วยท่าทางสงบ เขาหันกลับไปยังผู้ชมและพูด "ส่งข้อความไปยังนิกายวิหารมรกตด้วย : อย่าได้มายั่วโมโหข้า"
หลังจากพูดจบ เจียงเฉินพาหวงต้าเข้าไปยังเขาสายหมอก เขาได้ให้คำแนะนำแก่นิกายวิหารมรกต แล้วหากพวกมันไม่สนใจคำเตือนของเขา และยังจู่โจมเขาต่อ นิกายวิหารมรกตจะไม่สูญเสียเพียงแค่ผู้อาวุโสนิกายสองคนและศิษย์ในสี่คนเป็นแน่
หลังจากที่เจียงเฉินหายไปจากครรลองสายตาพวกเขา ผู้คนเหล่านี้จึงได้สติและเกิดความโกลาหลขึ้น
"สวรรค์ ชายผู้นั้นเป็นใครกันแน่?เขาช่างเป็นผู้อาจหาญมาก!หลังจากที่สังหารคนจากนิกายวิหารมรกตไปหกคน เขายังมีความกล้าที่จะเตือนพวกเขาอีก! นี่มันเอาแต่ใจชัดๆ!"
"จักต้องมีเรื่องใหญ่บางอย่างเกิดขึ้นเป็นแน่!ข้าเชื่อว่าเร็วๆนี้ เขาสายหมอกจะไม่สงบสุขอีก!นิกายวิหารมรกตเป็นนิกายใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์หกคนได้ถูกสังหารระหว่างฝึกฝน และกฎของพวกเขาได้ถูกใครบางคนละเมิด พวกเขาคงไม่ยอมให้เรื่องนี้จบลงโดยง่ายเป็นแน่ พวกเขาจะต้องส่งใครบางคนมายังเขาสายหมอกเพื่อไล่ล่าชายผู้นี้เป็นแน่!"
"ข้าไม่คิดว่าชายคนนั้นจะแข็งแกร่งมากหรอก แต่ว่าเขามีหมาที่ทรงพลังติดตามเขาอยู่! ยังไงเจ้าหมานั่นอยู่เพียงระดับแก่นแท้สวรรค์ และการที่ไปท้าทายนิกายวิหารมรกตนั้นพวกเขาพินาศแล้วล่ะ"
พวกเขาพูดคุยในสิ่งที่เกิดขึ้น แน่นอนว่ามันจะต้องเป็นเรื่องใหญ่
ไม่นานหลังจากนั้นเจียงเฉินได้เข้าไปยังเขาสายหมอก ชายอีกสองคนได้ลงมาจากฟ้า พวกเขาทั้งคู่เป็นชายหนุ่ม แต่ระดับการบ่มเพาะของพวกเขาสูงกว่าหกคนที่แล้วมากนัก พวกเขาทั้งคู่เป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลาย
แท้จริงแล้ว ทั้งสองมาที่นี่เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย ศิษย์ในได้มายังที่นี่เพื่อตั้งใจจะมาฝึกฝน และพวกเขาทั้งคู่เป็นผู้ที่พาศิษย์ในมาฝึกฝน
เมื่อพวกเขาเห็นร่างไร้วิญญาณท่าทางของพวกเขาก็เปลี่ยนไป และพวกเขาได้กราดเกรี้ยวอย่างมาก พวกเขามองไปยังรอบๆหาผู้ที่ยังไม่ออกไปจากสถานที่แห่งนี้ หนึ่งในพวกเขาตะโกนถามออกมา "ผู้ใดเป็นคนทำ?!"
ทุกๆคนต่างหวาดกลัวและไม่มีผู้ใดกล้าที่จะพูดสิ่งใดออกมา
ฝุ่บ!ศิษย์ในได้พุ่งตรงไปยังตรงหน้าของชายคนหนึ่ง เขากระชากคอเสื้อขึ้นมาแล้วถามอย่างดุร้าย "บอกข้ามาซะ มันเกิดอะไรขึ้น?ผู้ใดเป็นคนสังหารพวกเขาทั้งหมด?"
"มันเป็น…..มันเป็นชายหนุ่มและหมาตัวสีเหลืองตัวใหญ่!"
ชายคนนี้หวาดกลัวนัก และหน้าผากของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขาไม่กล้าปกปิดสิ่งใดขณะที่เขากลัวว่าตัวเขาอาจถูกศิษย์ผู้นี้สังหาร
"ชายผู้นั้นมาจากที่ใด?"
ศิษย์ผู้นั้นถามอีกครั้ง
"ไม่ ข้าไม่รู้!"
ภายใต้แรงกดดันของผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลาย ชายคนนั้นสั่นเทาและไม่สามารถพูดได้อย่างถูกต้อง
"เจ้าไม่รู้เช่นนั้นรึ?งั้นก็ลงนรกซะ!"
ศิษย์จากนิกายวิหารมรกตได้ตบไปยังใบหน้าของชายผู้นั้นอย่างรุนแรง ด้วยความรุนแรงอย่างน่ากลัว หัวของชายผู้นั้นหมุนไปสิบสองครั้ง และตกตายทันที
ชายผู้บริสุทธิ์ได้ตกตาย สิ่งที่เขาพูดล้วนเป็นความจริง เขาไม่รู้ว่าชายสวมชุดสีขาวมาจากที่แห่งใด แต่เลวร้ายยิ่ง เขาไม่สามารถอธิบายได้อย่างถูกต้อง และกลายเป็นยั่วโมโหศิษย์จากนิกายวิหารมรกตที่กำลังกราดเกรี้ยวอย่างมาก
หากว่ามีชาติหน้า ไม่ว่าเรื่องใด เขาจะไม่ยุ่งเรื่องของชาวบ้านอีก
**************************************************
โปรดติดตามตอนต่อไป…