เทพมังกรสงครามอหังการ - Dragon Marked War God ตอนที่ 171 ขวางทาง
แปลไทยโดย Takumi Kun
ตรวจทาน Takumi Kun
มีคำถามมากมายในใจเจียงเฉิน ตามที่เขาได้คิดไว้ สัตว์อสูรที่ทรงพลังอย่างหมูป่าหนามเพลิงได้พำนักอยู่ที่เขาสายหมอก สถานที่นั่นควรเป็นเขตหวงห้ามและทุกๆคนควรที่จะหลีกเลี่ยงโดยไม่เข้าใกล้มัน
แต่ที่เขาเห็นนั้นต่างจากเขาจินตนาการไว้ ไม่เพียงแค่มีฝูงชนหนาแน่นอยู่ด้านนอกเขาสายหมอก เขายังได้ยินถึงนิกายวิหารมรกตได้ขัดขวางบุคคลภายนอกมิให้เข้าไปอีกด้วย
หากว่าหมูป่าหนามเพลิงอยู่ภายในเขาสายหมอก เหตุใดศิษย์จากนิกายวิหารมรกตถึงมีความหาญกล้าที่จะฝึกที่เขาแห่งนี้? ไม่ใช่การกระทำโง่ๆที่แสวงหาที่ตายเช่นนั้นหรอกรึ?เจียงเฉินงุนงงจริงๆ
นอกจากนี้ แคว้นเฉียนค่อนข้างที่จะคล้ายคลึงกับแคว้นฉี หากว่านิกายวิหารมรกตนั้นเป็นนิกายใหญ่ที่สุดในแคว้นเฉียน ด้านความแข็งแกร่งน่าจะคล้ายคลึงกับนิกายทมิฬเป็นอย่างมาก หมูป่าหนามอัคคีอยู่ระดับขั้นสูงสุดของขอบเขตแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลาง กระทั้งนิกายทมิฬยังไม่หาญกล้าที่จะท้าทายมัน เนื่องจากผลที่ตามมานั้นร้ายแรงนัก
"พี่ชาย ข้าต้องการทราบว่าหมูป่าหนามเพลิงที่ทรงพลังนั่นอยู่ที่เขาสายหมอกแห่งนี้หรือ?"
เจียงเฉินถาม
"ดูเหมือนว่าเป็นครั้งแรกที่เจ้ามาที่นี่สินะ มีหมูป่าหนามเพลิงที่ทรงพลังอาศัยอยู่ที่เขาสายหมอก และระดับการบ่มเพาะของมันอยู่จุดสูงสุดของแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลาง ทุกๆคนต่างรู้เรื่องนี้ เจ้าถามเรื่องนี้จริงๆงั้นหรือ?"
ชายคนนั้นกล่าว
"หากเป็นเช่นนั้น คนทั้งหลายควรที่จะหลบเลี่ยงด้วยทุกอย่างที่มี แต่เหตุใดข้ายังสามารถเห็นผู้คนมากมายที่นี่? ท่านมีจุดประสงค์อันใดงั้นหรือที่มายังที่นี่?"
เจียงเฉินถามอีกครั้ง
"ที่เขาสายหมอกนั้นอุดมด้วยทรัพยากร พวกข้าสามารถมาล่าสัตว์อสูรและค้นหาสมบัติของธรรมชาติได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม นิกายวิหารมรกตได้ทำการผนึกภูเขาแห่งนี้อีกครั้งหนึ่ง บ้าเอ๊ย!พวกมันอาศัยพลังอันทรงพลังของพวกมันทำให้เขาสายหมอกเป็นสวนหลังบ้านของพวกมัน พวกมันส่งศิษย์มาที่นี่ทุกๆเดือน และเมื่อพวกมันทำอย่างนั้น พวกมันจะห้ามคนทั่วไปเข้าไปตลอดเวลา เหมือนอย่างวันนี้!ข้ามาที่นี่เสียเวลาเปล่า นี่มันบ้าชัดๆ!"
ชายคนนั้นดูโกรธเกรี้ยว และเจียงเฉินก็ยิ่งงุนงงมากขึ้นตอนนี้
"พี่ชาย นิกายวิหารมรกตนี่แข็งแกร่งจริงๆงั้นหรือ?"
เจียงเฉินถามอีกครั้ง
"แน่นอน! นิกายวิหารมรกตเป็นหนึ่งในนิกายใหญ่ที่สุดของแคว้นเฉียน และพวกเขามีผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นปลายหนุนหลังพวกเขาอยู่ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ พวกมันจะแสดงท่าทางยโสเช่นนี้ในแคว้นเฉียนงั้นรึ?"
เมื่อเอ่ยถึงความแข็งแกร่งของนิกายวิหารมรกต ท่าทางหวาดกลัวได้ออกมาจากหน้าของชายคนนั้น
"หมูป่าหนามอัคคีเป็นสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งอย่างมาก แม้ว่าผู้นำนิกายของนิกายวิหารมรกตอยู่ที่นี่และต่อสู้ด้วยตนเอง ข้าไม่คิดว่าเขาจะสามารถเอาชนะได้ หมูป่าหนามเพลิงได้ยึดครองที่นี่และทำเป็นอาณาเขตของมัน มันจะยอมให้ผู้อื่นบุกรุกที่นี่งั้นหรือ?อย่าบอกนะว่าเจ้าหมูป่าหนามเพลิงนี้มีลักษณะอ่อนโยนและเป็นมิตรกับมนุษย์?"
เจียงเฉินยังงง
"สัตว์ป่าที่มีนิสัยอ่อนโยน?น้องชาย ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังเด็กเกินไป ไม่มีความอ่อนโยนในสัตว์อสูรตนใดในโลก!แค่เพียงสัตว์ป่าที่ทรงพลังอย่างมากอย่างหมูป่าหนามเพลิง ไม่เพียงแค่ไม่อ่อนโยน มันยังโหดเหี้ยมอย่างมากและเลือดร้อน นิกายวิหารมรกตได้ต่อสู้กับมันไม่หยุดกว่าสองสามปีที่แล้ว พวกเขาไม่สามารถที่จะปล่อยสถานที่ดีๆเช่นนี้ไป หมูป่าหนามเพลิงได้ทำให้ศิษย์และผู้อาวุโสนิกายของนิกายวิหารมรกตได้รับบาดเจ็บอย่างไร้ความปราณีอีกด้วย"
ชายผู้นี้ดูเหมือนว่าจะรู้มาก เมื่อเขาได้รับยาฟื้นพลังขั้นมนุษย์ยี่สิบเม็ด เขาได้ตอบคำถามของเจียงเฉินทุกๆคำถาม นอกจากนี้ไม่มีสิ่งใดเป็นความลับ ผู้คนที่อยู่ที่นี่ทุกคนสามารถที่จะตอบคำถามเหล่านี้ได้
"สามปีที่ผ่านมา ผู้นำนิกายและผู้อาวุโสนิกายของนิกายวิหารมรกตได้บุกจู่โจมด้วยกัน และเป็นการต่อสู้ที่รุนแรงร่วมกับนิกายตะวันสีชาด ในตอนจบ ทั้งสองฝั่งตกลงกันอย่างเรียบง่าย และพวกเขาแบ่งเขาสายหมอกออกเป็นสามเขต เขตที่หนึ่งและเขคที่สอง ศิษย์จากนิกายวิหารมรกตหรือกระทั่งพวกข้าสามารถที่จะเข้ามาฝึกฝนที่นี่ได้ หมูป่าหนามเพลิงถูกห้ามมิให้ลงมือกับพวกเราในเขตที่หนึ่งและสอง สำหรับเขตที่สาม หากมีผู้หาญกล้าเข้าไปยังเขตที่สาม จะเสี่ยงต่อการโดนหมูป่าหนามเพลิงสังหาร ดังนั้นไม่ว่าหากนิกายวิหารมรกตหรือคนอื่นๆเข้าไปก็สามารถเข้าไปได้เพียงเขตที่หนึ่งและเขตที่สอง ไม่มีผู้ใดหาญกล้าเข้าไปยังเขตที่สามและยอมเสี่ยงชีวิตของพวกเขา"
ชายคนนั้นอธิบายถึงเหตุผลเบื้องหลัง ในที่สุดเจียงเฉินก็ได้เข้าใจว่ามันเกิดเรื่องอันใดขึ้น
"งั้นรึ ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างนิกายวิหารมรกตและหมูป่าหนานเพลิงนั้นไม่ค่อยลงรอยนัก"
เจียงเฉินผงกหัวเงียบๆ เขารู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางที่มนุษย์และสัตว์อสูรจะอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ โดยเฉพาะสัตว์อสูรที่ทรงพลังอย่างมากอย่างหมูป่าหนามเพลิง มันเกิดมาพร้อมความภาคภูมิใจ ไม่มีทางที่มันจะดีต่อมนุษย์
"น้องชาย อย่าบอกนะว่าเจ้าจะเข้าไปยังเขาสายหมอกเพื่อฝึกฝนน่ะ?เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้ตอนนี้ นิกายวิหารมรกตได้ปิดทุกทางเป็นเวลาเจ็ดวัน เจ้าต้องรอจนกว่าศิษย์พวกนี้จะฝึกฝนเสร็จ นิกายวิหารมรกตไม่ใช่สิ่งที่เจ้าสามารถที่จะพยายามล่วงเกินได้"
ชายคนนั้นเตือนเจียงเฉินด้วยความหวังดี ก่อนที่เขาจะหันกลับออกไป
"นิกายวิหารมรกตงั้นรึ"
เจียงเฉินพึมพำ เขามองไปยังหวงต้าที่ยิ้มกว้างบนใบหน้ามัน
"คู่หู ดูเหมือนว่าพวกเราจะพบกับการปิดทาง เจ้าจักทำเช่นไรต่อไป?"
หวงต้าถามพร้อมเผยฟันมันออกมา
"ข้าไม่มีเวลาที่จะอดทนรอเจ็ดวัน พวกเราจะเข้าไปยังเขาสายหมอกทันที นิกายวิหารมรกตทางทีดีมันอย่าได้มายั่วโมโหข้า หากพวกมันทำแม้ว่าพวกมันจะเป็นนิกายใหญ่ของแคว้นเฉียน ข้าจะย่ำมันลงมา"
เจียงเฉินแสยะ มีเพียงเขาที่ตั้งใจที่จะเข้าไปยังเขาสายหมอก เหล่าผู้ที่มาขวางทางเขาจักเป็นศัตรู
"ก่ะก่ะ ข้าชอบลักษณะเลือดร้อนและหุนหันพลันแล่นของเจ้า ไปกันเถอะ"
หวงต้าหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถอยู่อย่างสงบได้และไม่เคยหวาดกลัวต่อสิ่งที่เหนือกว่า ดูจากหน้ามัน มันดูมีความสุขที่จะได้ท้าทายนิกายใหญ่หลังจากที่ได้มาถึงแคว้นเฉียน
เจียงเฉินและหวงต้าเดินทางตรงไปยังเขาสายหมอก พฤติกรรมของพวกเขาทำให้สายตานับไม่ถ้วนมองมาอย่างตกตะลึง
"เฮ้ย น้องชาย มีเพียงนิกายวิหารมรกตเท่านั้นที่จะเข้าไปยังเขาสายหมอกได้ เจ้าห้ามเข้าไปด้าน….เฮ้ย…บัดซบ เจ้านี่หูหนวกหรือย่างไร?"
"ชายผู้นี้คงปัญญาอ่อนกระมัง นิกายวิหารมรกตได้ห้ามคนทั่วไปเข้าไปยังเขาสายหมอกและพวกเขาขับไล่ทุกคนที่อยู่ด้านในและยังไม่พอ เขายังคงเข้าไปด้านใน…..เขานั้นหาที่ตายอย่างนั้นรึ?"
"ปัญญาอ่อน หากว่าเขาท้าทายนิกายวิหารมรกตและตัวเขาถูกสังหาร เขาไม่สามารถที่จะตำหนิผู้ใดได้"
……………………………………………………………………
หลายๆคนจ้องมองไปยังเจียงเฉินและหวงต้าที่กำลังวิ่งตรงไปยังเขาสายหมอกราวกับว่าพวกเขามองคนปัญญาอ่อน ถึงแม้ว่านิกายวิหารมรกตได้ครอบครองอยู่ พวกเขามีพละกำลังและความสามารถที่จะทำเช่นนั้นอย่างแท้จริง ก้นเสือไม่ใช่สิ่งที่ใครๆสามารถแตะต้องได้
"ดูเหมือนว่าชายคนนี้จะเข้าไปยังเขาสายหมอกตรงๆ ตามเขาไปดูดีกว่าว่าเขาจักถูกสังหารเช่นไร!"
มีผู้อยากรู้อยากเห็นเสมอไม่ว่าจะไปที่ใด ไม่นานคนไม่กี่คนได้ตามด้านหลังเจียงเฉินและหวงต้าติดๆ พวกเขาทุกคนต่างต้องการที่จะเห็นว่าสองคน(?) ที่มาจากที่แห่งใดไม่รู้มารนหาที่ตาย
ภายนอกเขาสายหมอก มีชายหกคนสวมชุดสีเขียว พวกเขาทุกคนเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์ พวกเขาสองคนเป็นผู้อาวุโสนิกายเขตนอก ขณะที่อีกสี่คนเป็นศิษย์เขตใน
ชายสองสามคนกำลังยืนโดยมือไขว้หลัง พวกเขาทุกคนมีท่าทางภาคภูมิใจเหมือนๆกัน วันนี้เป็นวันฝึกฝนของเหล่าศิษย์นอก การฝึกฝนของนิกายวิหารมรกตนั้นแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกสำหรับศิษย์นอกแก่นแท้มนุษย์และอีกส่วนสำหรับศิษย์ในแก่นแท้สวรรค์
เหล่าศิษย์นอกทำการฝึกฝนที่เขตแรก ส่วนศิษย์ในอยู่ที่เขตที่สอง ตอนนี้นิกายวิหารมรกตได้ปิดทุกทางเข้าไปยังเขาสายหมอก และเหล่าศิษย์นอกทั้งหมดที่จะต้องฝึกฝนได้เข้าไปยังเขาทั้งหมด ไม่นานนักก็จะถึงคราของเหล่าศิษย์ใน
"คนพวกนั้นกล้าดีอย่างไรที่สงสัยต่อการตัดสินใจของพวกเรา ไม่จำเป็นต้องไปสนใจพวกมันจริงๆ"
ชายหนุ่มที่ท่าทางโอหังกล่าว
"ในความคิดของข้านะ พวกเราไม่จำเป็นต้องให้คนพวกนั้นเข้ามาที่เขาสายหมอกอีกในอนาคต ประกาศว่าเขาแห่งนี้เป็นอาณาเขตของพวเรา จากนั้นเหล่าศิษย์จากนิกายวิหารมรกตจะได้รับอนุญาตให้ขึ้นเขาได้ ให้เหล่าคนทั่วไปเข้ามาในเขานั้นเสียทรัพยากรโดยเปล่าประโยชน์"
"ใช่แล้ว มันสมควรเป็นเช่นนั้น!มันเป็นพวกเราที่ทำข้อตกลงกับหมูป่าหนามเพลิง แน่นอนว่าควรมีแต่พวกเราเท่านั้นที่สามารถใช้สถานที่แห่งนี้ได้!"
"การห้ามคนทั่วไปเข้ามาไม่ใช่ความคิดที่ดี มันจะทำให้นิกายวิหารมรกตมีชื่อเสียงด้านลบ นอกจากนี้พวกเราสามารถห้ามคนนอกเข้าตอนไหนก็ได้ที่พวกเราต้องการ เมื่อพวกเราทำเช่นนั้น คนเหล่านั้นจักต้องออกจากที่นี่"
สองสามคนกำลังพูดคุยกัน ชายหนุ่มในชุดสีขาวผู้ดูอยู่วัยรุ่นตอนปลาย ตามด้วยหมาตัวสีเหลืองตัวใหญ่ได้เดินมาทางพวกเขา
"หยุดอยู่ตรงนั้น!"
หนึ่งในศิษย์ในจากนิกายวิหารมรกตตะโกนมาทางเจียงเฉิน อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาเห็นชายคนนั้นและหมาไม่สนใจพวกเขาและยังเดินต่อไป ท่าทางกราดเกรี้ยวออกมาจากใบหน้าพวกเขา
"ไอ้เวร ข้าบอกให้เจ้าหยุดอยู่ตรงนั้น เจ้าหูหนวกหรืออย่างไร?"
ศิษย์คนนั้นตะโกนออกมาดังกว่าการตะโกนครั้งที่แล้ว พวกเขาทุกคนมีท่าทางเดือดดาล ในความเห็นของพวกเขา ชายผู้หนึ่งซึ่งมาจากที่ใดไม่รู้กำลังรนหาที่ตาย นิกายวิหารมรกตได้ปิดทางทุกทางเข้าไปยังเขาสายหมอก และทุกๆคนจักต้องออกจากที่แห่งนี้ แต่เจ้านี่ เขาไม่ปฎิบัติตามคำสั่งของพวกเขา และเขายังเดินตรงไปยังเขาสายหมอก เขามาที่นี่เพื่อหาที่ตายโดยแท้
หลายคนได้มองดูจากด้านหลัง เมื่อพวกเขาเห็นชายหนุ่มชุดขาวไม่มีทีท่าจะหยุด แต่ยังคงเดินต่อไป พวกเขาทุกคนตกตะลึง
"บ้าเอ๊ย ความคิดของเจ้านั่นต้องมีสิ่งผิดพลาดแน่? เขาโดนสั่งให้หยุดแล้ว แต่เขายังคงเดินต่อ…นี่เขาหาที่ตายจริงหรือเนี่ย?"
"นี่เป็นการกระทำที่จะทำให้เขาได้ตายไว ตอนนี้กระทั่งเซียนนิรันดร์ก็ไม่สามารถที่จะช่วยเขาได้ เพราะเขาได้ท้าทายความเกียรติยศของนิกายวิหารมรกต"
ผู้คนต่างถอนหายใจในใจพวกเขา พวกเขาทุกคนมองไปยังเจียงเฉินราวกับว่ามองคนปัญญาอ่อน พวกเขาได้เห็นผู้หาญกล้ามากมาย แต่พวกเขาไม่เคยพบเจอผู้ที่ยืนกรานที่หาที่ตาย
"เจ้ารนหาที่ตาย!"
ศิษย์จากนิกายวิหารมรกตได้ปลดปล่อยพลังของผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์ขั้นต้นและส่งแรงกดดันไปยังเจียงเฉิน แต่แรงกดดันนี้ไร้ผลต่อเจียงเฉินแม้แต่น้อย เพียงพริบตาเจียงเฉินและหวงต้าได้มาถึงหน้าคนเหล่านี้
"เจ้ากำลังหาเรื่องตายหรืออย่างไร?เจ้าไม่ได้ยินหรือว่าข้าบอกให้เจ้าหยุดเดิน?"
ศิษย์ได้มองอย่างดุร้าย
"ข้าจำเป็นต้องเข้าไปยังเขาสายหมอกด้วยธุระสำคัญ ข้าหวังว่านิกายวิหารมรกตจะปล่อยข้าเข้าไป ข้าไม่ได้มาเพื่อต่อสู้"
เจียงเฉินพยายามที่จะพูดอย่างดีที่สุดด้วยน้ำเสียงสุภาพ เป้าหมายของเขาคือหมูป่าหนามเพลิง หากไม่จำเป็น เขาก็จะไม่สู้กับนิกายวิหารมรกต
*********************************************
โปรดติดตามตอนต่อไป…