เทพมังกรสงครามอหังการ - Dragon Marked War God ตอนที่ 158 [ชื่อตอนถูกซ่อนไว้]
แปลไทยโดย Subaru-Kyun
ตรวจทาน Subaru-Kyun
===================================================
เจียงเฉินไม่ได้ตอบรับคำเชิญงานเลี้ยงของชาวเมือง เขาได้พาหวงต้าที่หลับอยู่กลับไปยังคฤหาสน์ของเขา เมื่อชาวเมืองเห็นหวงต้าอาการสาหัสจากการต่อสู้กับจ้าวจันทราโลหิต พวกเขาต่างเฝ้าภาวนาให้มันฟื้นตัวโดยเร็ว
ภายในห้องในคฤหาสน์เจียงเฉิน เขาได้วางหวงต้าลงบนเบาะรองนั่ง เพื่อให้มันได้ดูดซับพลังงานจากแหล่งกำเนิดพลัง พร้อมกับป้อนยาฟื้นพลังฉับพลันให้แก่มัน ทั้งสองสิ่งทำให้มันฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
หลังจากที่ป้อนยาหวงต้าเสร็จ เจียงเฉินก็ปิดประตูและเริ่มบ่มเพาะพลัง การเดินทางไปยังหุบเขาจิตวิญญาณแห่งหยินได้ให้อะไรเขามากมาย นอกจากธงโลหิต เขายังได้แก่นพลังงานปีศาจอีกตั้งสี่ หนึ่งในนั้นคือแก่นพลังงานของจ้าวจันทราโลหิต ส่วนอีกสามมาจากหัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิตแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลาย แก่นพลังงานปีศาจนี้มีประโยชน์แก่เจียงเฉินเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะของจ้าวจันทราโลหิต มันได้กักเก็บพลังงานจำนวนมหาศาลอยู่ภายใน เจียงเฉินได้สร้างตราประทับมังกรเพิ่มอีกหลายดวงจากการดูดซับมัน
นอกจากการดูดซับแก่นพลังงานปีศาจแล้ว เจียงเฉินทำสมาธิเพื่อสร้างความเสถียรให้แก่การบ่มเพาะพลังของเขา
รุ่งเช้าวันต่อมา เจียงเฉินได้ตื่นขึ้นจากสมาธิ ระดับพลังงานของเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าก่อน เมื่อรวมกับแก่นพลังงานปีศาจทั้งสี่ได้ส่งผลกระทบอย่างมาก โดยเฉพาะที่ได้มาจากจ้าวจันทราโลหิต พลังงานจากแก่นพลังงานปีศาจได้สร้างตราประทับมังกรให้เขาถึง สามสิบดวง
ก่อนจะดูดซับแก่นพลังงานปีศาจ เจียงเฉินมีตราประทับมังกร หนึ่งร้อย-ยี่สิบ ดวง เมื่อรวมเข้ากับตราประทับมังกร สามสิบ ดวงที่ได้มาใหม่ ในตอนนี้เขาได้มีตราประทับมังกรทั้งหมด หนึ่งร้อย-ห้าสิบดวง ด้วยสิ่งนี้ พละกำลังการต่อสู้ได้เพิ่มมากขึ้น เขาได้เข้าใกล้อาณาจักรแก่นแท้สวรรค์ขั้นกลางขึ้นอีกก้าว
ตราบที่เขาจัดการสร้างตราประทับมังกรทั้งหมด สองร้อย ดวง เขาก็จะสามารถทะลวงเข้าสู่แก่นแท้สวรรค์ขั้นกลางได้ และพละกำลังการต่อสู้ของเขาจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ขณะที่เจียงเฉินเดินออกมาจากคฤหาสน์ อี้จื่อฮันก็ได้มารอเขาสักพักหนึ่งแล้ว เจียงเฉินได้ให้ภารกิจบางอย่างแก่ท่านเจ้าเมืองจางเจิ้น และขอให้เขาดูแลหวงต้า นอกจากนี้ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าไปในคฤหาสน์ของเขาเป็นอันขาด
หลังจากเรื่องทั้งหมดเสร็จสิ้น เจียงเฉินและอี้จื่อฮันได้ทะยานสู่ฟ้า มุ่งหน้าไปยังนิกายทมิฬ
"น้องชายเจียง เจ้าสังหารปีศาจโลหิตทั้งหมด อีกทั้งยังสังหารจ้าวจันทราโลหิตลงได้ เมื่อพวกเรากลับถึงนิกายทมิฬ ข้ามั่นใจว่าท่านผู้นำนิกายต้องตบรางวัลให้เจ้าอย่างงาม"
อี้จื่อฮันพูดด้วยรอยยิ้ม เจียงเฉินมายังเขตศิลาเหลืองเพราะถูกท่านผู้นำมอบหมาย และในตอนนี้เขาได้ทำภารกิจสำเร็จลุล่วงอย่างสมบูรณ์ ชื่อเสียงในนิกายทมิฬต้องพุ่งสูงขึ้นไป และเขาจะกลายเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของนิกายทมิฬ
เจียงเฉินตอบกลับเพียงแค่รอยยิ้มเท่านั้น ไม่ได้พูดอะไร คอนนี้เขาปรารถนาที่จะกลับไปยังนิกายทมิฬให้เร็วที่สุดที่สามารถทำได้ แม้ว่าเขากำลังเดินทางกลับไปยังนิกายทมิฬ ความไม่สบายใจได้ปรากฏขึ้นในใจเขาอีกครั้ง เป็นเรื่องยากที่เขาจะรู้สึกเช่นนี้ เขารู้สึกว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเป็นแน่
อี้จื่อฮันสัมผัสได้ว่าเจียงเฉินกำลังคิดอะไร ดังนั้นเขาจึงหุบปากและตั้งใจบินต่อไป
ฟิ้วววว..!
เมื่อทั้งสองเข้าใกล้เขตหุบเขา ลำแสงได้ปรากฏขึ้นและขวางทางพวกเขา มันเป็นชายสวมชุดคลุมสีเทา ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความสง่างามที่ไม่สามารถปิดซ่อนได้ มันคือเหลียงเซียวจากนิกายกระบี่สวรรค์
เจียงเฉินและอี้จื่อฮันหยุดชะงักลงกลางอากาศ เหลียงเซียวไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับพวกเขาทั้งคู่ เจียงเฉินได้เคยสร้างความเกลียดชังให้แก่นิกายกระบี่สวรรค์มายาวนาน ส่วนอี้จื่อฮัน ศิษย์ในทุกคนของนิกายทมิฬรู้เกี่ยวกับสุดยอดอัจฉริยะจากทุกนิกายในแคว้นฉี
แม้แต่คนบ้ายังรู้ ว่าทำไมเหลียงเซียวถึงปรากฏตัวที่นี่ หนี้แค้นระหว่างเจียงเฉินกับนิกายกระบี่สวรรค์ทุกคนต่างรู้กันดี เหตุผลที่เหลียงเซียวมาที่นี่ชัดเจนว่าเป็นเพราะเจียงเฉิน
ข้าไม่คิดเลยว่าจ้าวจันทราโลหิตจะอ่อนแอถึงเพียงนี้ มันถูกเจ้าสังหารใช่รึไม่? ช่างน่าผิดหวังเสียจริง
สายตาที่แหลมคมของเหลียงเซียวจับจ้องไปที่เจียงเฉิน จากนั้นท่าทีตกตะลึงได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของมัน "เจ้าทำให้ข้าตกตะลึงเสียจริง จากการแข่งขันประจำแคว้นฉีจนถึงบัดนี้ เพียงเวลาอันสั้นเจ้าสามารถพัฒนาได้มากขนาดนี้"
จากการที่มันได้สัมผัสพลังงานของเจียงเฉิน ได้ทำให้เขาตกตะลึงอย่างมาก เวลาประมาณเดือนเดียวนับตั้งแต่การแข่งขันประจำแคว้นฉี เพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น เจียงเฉินได้เติบโตขึ้นจากอาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้นเข้าสู่แก่นแท้สวรรค์ขั้นต้นได้ อีกทั้งยังสามารถสังหารจ้าวจันทราโลหิต ช่างน่าตกตะลึงเป็นอย่างมาก
" ข้าคาดว่าเฟินคุน เป็นคนบอกที่อยู่ของข้าให้แก่เจ้าล่ะสิ "
เจียงเฉินยิ้มเยาะออกมา เขตศิลาเหลืองอยู่ภายใต้การปกครองของนิกายทมิฬ มันเป็นสถานที่ซึ่งไกลจากนิกายกระบี่สวรรค์ อีกทั้งยังมีเรื่องเกี่ยวกับปีศาจโลหิตเกิดขึ้น มันจำเป็นต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าเขตอื่นของแคว้นฉีจะรับรู้เรื่องราวนี้ ถึงอย่างนั้น เหลียงเซียวก็ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังสามารถมาขวางเส้นทางของเขาได้ ชัดเจนว่าต้องมีใครสักคนบอกมันเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น และนั่นต้องเป็นคนของนิกายทมิฬ นอกจากเฟินคุน เจียงเฉินไม่สามารถคิดว่าคนอื่นจะสามารถทำเช่นนี้ได้
" เรื่องนั้นมันไม่สำคัญ ที่สำคัญคือวันนี้เจ้าต้องตาย เมื่อข้าอยู่ที่นี่นั่นก็หมายความว่าเจ้าเป็นเพียงก้อนเนื้อที่ตายไปแล้ว ข้าแนะนำว่าเจ้าอย่าพยายามขัดขืนหรือตอบโต้จะดีกว่า หากเจ้ายอมแพ้ในตอนนี้ ข้าจะมอบความตายที่แสนสบายให้แก่เจ้า "
เหลียงเซียวพูดอย่างไม่ใส่ใจ ในความคิดของมัน เจียงเฉินก็เหมือนกับคนที่ตายไปแล้ว
" น้องเจียง พวกเราควรทำเช่นไร? มันไม่ใช้เรื่องง่ายที่จะต่อสู้กับเหลียงเซียว "
ใบหน้าของอี้จื่อฮันมืดทะมึน เหลียงเซียวไม่ใช่คนที่เฟินคุนสามารถเทียบได้ เขาเป็นหนึ่งในสุดยอดอัจฉริยะทั้งสี่ในแคว้นฉี เทียบเท่ากับกวนอี้หยุน
แม้ว่าเจียงเฉินจะสามารถสังหารจ้าวจันทราโลหิตลงได้ อี้จื่อฮันรู้ว่าทำไมเขาถึงสามารถทำได้ หากไม่ใช่ว่าจ้าวจันทราโลหิตอยู่ระหว่างพิธีสังเวยโลหิต เจียงเฉินคงไม่ใช่คู่มือของจ้าวจันทราโลหิตเป็นแน่
" เวลานี้ ข้าชักอยากจะเห็นแล้วสิ ว่าเหลียงเซียวแข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่ "
รอยโค้งได้ปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากของเจียงเฉิน พละกำลังการต่อสู้ของเขาในตอนนี้ไม่เหมือนกับตอนที่เขาเพิ่งจะทะลวงเข้าสู่แก่นแท้สวรรค์ ด้วยตราประทับมังกรทั้ง หนึ่งร้อย-ห้าสิบ ดวงทำให้เขามั่นใจ ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ ยากที่ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์จะสามารถรับมือได้ เหลียงเซียวปรากฏตัวขึ้นมาในเวลาที่เจียงเฉินต้องการทดสอบความแข็งแกร่งของเขา
อี้จื่อฮันรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก พร้อมกับท่าทางไม่อยากจะเชื่อ เขามองไปที่เจียงเฉินที่ดูมีความมั่นใจ เขาคิดกับตัวเองว่าชายคนนี้มีความกล้าอย่างมาก เขาไม่เกรงกลัวเหลียงเซียวแม้แต่น้อย
" จื่อฮัน อยู่ข้างๆข้าไว้ "
เจียงเฉินบอกกับอี้จื่อฮัน จากนั้นเพียงพริบตา เขาก็ได้เข้าประชิดเหลียงเซียว ร่างกายของเขาเรืองแสงออกมา จิตใจของเขาฮึกเหิมขึ้น
" เจียงเฉิน เจ้ายังสามารถลำพองใจได้หลังจากที่เห็นข้าเช่นนั้น? หากเป็นเช่นนั้น ข้าจะลงมือฆ่าเจ้าเดียวนี้ "
เหลียงเซียวปลดปล่อยพลังงานของเขาออกมา ชัดเจนว่าเขาไม่ต้องการเสียเวลาเปล่า เขายืนมือพุ่งออกไปจับเจียงเฉินอย่างรุนแรง
ฮึ่ม.!
เจียงเฉินแค่นเสียงออกมา เขากำหมัดของเขาแน่น มีแสงสีทองเจิดจ้าออกมาจากหมัดของเขา เขาชกออกไปข้างหน้ามวลพลังมหาศาลพุ่งตรงไปยังเหลียงเซียว
ตู้มม…
การโจมตีที่รุนแรงจากสองผู้เชี่ยวชาญ ระลอกพลังได้ปรากฏขึ้นสั่นสะเทือนพื้นดิน ระลอกพลังงานเหล่านั้นได้แปรเปลี่ยนเป็นลำแสงหลากสีกวาดผ่านท้องฟ้า ผลกระทบจากพลังงานจำนวนมากได้ทำให้เนินเขาขนาดเล็กด้านใต้พวกเขาพังทลายลง
เจียงเฉินกระเด็นถอยหลังไปสามก้าวกลางอากาศ เมื่อเขามองไปที่เหลียงเซียว พบว่าเหลียงเซียวยังคงลอยอยู่ที่เดิม ชัดเจนว่าเหลียงเซียวเป็นผู้ชนะในยกแรก แต่จริงๆแล้วมันการลงมือที่สูสีกัน และผลที่ออกมาได้ทำให้เหลียงเซียวต้องประหลาดใจ
" เจ้านี่แข็งแกร่งอะไรขนาดนี้ มันเป็นแค่ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์ขั้นต้น แต่มันสามารถประมือกับข้าได้อย่างสูสี…….นี่มันไม่อยากจะเชื่อ เจ้านี่มีความสามารถและศักยภาพสูงมาก! ข้าต้องกำจัดมันให้เร็วที่สุดเท่าทีข้าจะทำได้ หากไม่ มันจะกลายเป็นภัยคุกคามพวกเราแน่แท้ "
ประกายตาของเหลียงเซียวเปลี่ยนเป็นอำมหิต จิตสังหารที่รุนแรงได้เติมเต็มร่างกายของมัน มันต้องสังหารให้ได้ โอกาสที่เช่นวันนี้หาได้ยาก ข้าจะต้องใช่โอกาสนี้สังหารมันให้จงได้ เมื่อเจียงเฉินกลับถึงนิกายทมิฬ คงจะหาโอกาสเช่นนี้อีกไม่ได้
ส่วนเจียงเฉิน ผลที่ออกมาไม่ได้ทำให้เขาประหลาดใจนัก แม้ว่าพละกำลังการต่อสู้ของเขาจะเพิ่มขึ้นมาก เหลียงเซียวก็เป็นถึงหนึ่งในสี่สุดยอดอัจฉริยะในแคว้นฉี มันเป็นตัวแทนของนิกายกระบี่สวรรค์ มันไม่ใช่คนที่ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลายทั่วไปจะสามารถเทียบได้ นอกจากนี้ระดับการบ่มเพาะพลังของเขายังด้อยกว่าเหลียงเซียวถึงสองขั้น เป็นเรื่องปกติที่ผลจะออกมาเช่นนี้
" เจียงเฉิน เจ้ามันอัจฉริยะหาผู้ใดเปรียบได้จริงๆ นี่ทำให้ข้าจะต้องฆ่าเจ้าในวันนี้ให้จงได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม "
จิตสังหารที่เข้มข้นได้พุ่งทะลวงฟ้า เหลียงเซียวตะโกนออกมาเสียงดัง " สุดยอดหมัดทำลายล้าง "
ตู้ม……
หลังจากที่เหลียงเซียวตะโกน มันก็ได้ชกออกมา ลำแสงจำนวนนับไม่ถ้วนได้ทำให้อากาศโดยรอบสั่นสะเทือน ลำแสงโดยรอบได้หลอมรวมกลายเป็นหมัดสีทองขนาดยักษ์ สูงกว่าสามสิบเมตร มันได้แสดงถึงความน่ากลัวของคำว่าทำลายล้าง พุ่งทะลวงลงมาจากท้องฟ้าพุ่งเข้าใส่เจียงเฉินอย่างรวดเร็ว
" หกดัชนีสุริยะ! "
ขณะเดียวกัน เจียงเฉินได้ตะโกนออกมาเสียงดัง เขาได้ตอบโต้ด้วยพลังหกดัชนีสุริยะ ตอนนี้เขาสามารถปลดปล่อยดัชนีสีทองได้ถึงสี่สาย ด้วยความแข็งแกร่งของเจียงเฉินในตอนนี้การปลดปล่อยดัชนีสุริยะทั้งสี่สายเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ
ตู้มม……
มวลพลังทั้งสองเข้าปะทะกัน ระลอกพลังถูกสร้างขึ้นจากการกระทบกันถึงสามครั้งแข็งแกร่งยิ่งกว่าก่อน ภายใต้แรงกดดันจากพลังงานมหาศาล อี้จื่อฮันที่ยืนอยู่ไกลๆใบหน้าของเขาซีดขาว ด้วยความแข็งแกร่งของเขา หากเขาเข้าร่วมการต่อสู้นี้ด้วยเขาต้องถูกสังหารในทันทีเป็นแน่
สุดยอดหมัดทำลายล้างกับหกดัชนีสุริยะ ต่างเป็นทักษะขั้นปฐพีทั้งคู่ แต่มันก็ไม่ว่าปริมาณ หรือความแข็งแกร่งจากทักษะ หกดัชนีสุริยะไม่ใช่สิ่งที่สุดยอดหมัดทำลายล้างสามารถเทียบได้
เมื่อพลังงานจำนวนมากได้เข้าปะทะกัน ทั้งเจียงเฉินและเหลียงเซียวต่างได้รับบาดเจ็บจากการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง พละกำลังการต่อสู้ของเจียงเฉินเปรียบเสมือนมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ เมื่อรวมกับทักษะการต่อสู้ที่ทรงพลัง จริงอยู่ที่มีช่องว่างระหว่างตัวเขากับเหลียงเซียว ผลที่ออกมาในครั้งนี้เสมอกัน
หรือจะพูดอีกอย่าง เจียงเฉินในตอนนี้ไม่ใช่คนที่เหลียงเซียวสามารถสังหารได้ตามใจปรารถนา แม้มันจะสามารถกำราบเจียงเฉินได้ แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่มันจะสังหารเจียงเฉินในตอนนี้
" มันแข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่? ทักษะต่อสู้ที่มันใช้เมื่อกี้ ข้าสามารถบอกได้ว่าระดับมันสูงกว่าทักษะสุดยอดหมัดทำลายล้างของข้าเสียอีก "
เหลียงเซียวตกตะลึงอย่างมาก ทักษะสุดยอดหมัดทำลายล้างเป็นทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดของมัน มันคิดว่ามันสามารถใช้ทักษะนี้ในการจัดการเจียงเฉินได้ แต่มันคาดไม่ถึงว่าเจียงเฉินจะตอบโต้กลับด้วยทักษะต่อสู้ที่แข็๋งแกร่งยิ่งกว่าเขา
" เหลียงเซียว ยากที่จะบอกว่าใครกันแน่ที่จะตายในวันนี้ 'ร่างมายาเก้าร่าง' "
ในตอนนี้จิตสังหารของเจียงเฉินได้ทะยานขึ้นสูงเสียดฟ้า เหลียงเซียวต้องการสังหารเขา เขาก็ต้องการสังหารเหลียงเซียว ด้วยตราประทับมังกรที่ได้เพิ่มขึ้น สามสิบดวง รวมกับทักษะลับที่เจียงเฉินได้เก็บงำเอาไว้ เขามั่นใจว่าในวันนี้เขาสามารถสังหารเหลียงเซียวได้
ฟุ่บ… ฟุบ…. ฟุบ…..
ทันใดนั้น ร่างของเจียงเฉินทั้งเก้าได้ปรากฏขึ้นในเวลาเดียวกัน ท่าทีเยือกเย็นตลอดเวลาของเหลียงเซียวในที่สุดก็แปรเปลี่ยนไป
" ทักษะเคลื่อนที่บ้าอะไรนั่น ! มันสามารถปลดปล่อยร่างเงาที่เหมือนกันได้ในเวลาเดียวกัน? "
ในตอนนี้ เมื่อเผชิญหน้ากับความแข็งแกร่งของเจียงเฉิน เหลียงเซียวได้สูญเสียความเยือกเย็นและความมั่นใจไปจนหมดสิ้น การปรากฏร่างที่เหมือนกันของเจียงเฉินถึงเก้าร่างได้ทำให้มันสับสนอย่างมาก และมันไม่สามารถแยกออกว่าร่างไหนคือร่างจริงของเจียงเฉิน
ฝ่ามือของเจียงเฉินทั้งเก้าร่างได้พุ่งออกมาในเวลาเดียวกัน เหลียงเซียวที่กำลังสับสนจากเจียงเฉินจำนวนมากตรงหน้าของมัน จึงได้โต้ตอบกลับด้วยสุดยอดหมัดทำลายล้างของมัน ร่างเจียงเฉินห้าร่างถูกทำลายในทันที
เหลียงเซียวรวดเร็วมาก และมันได้ค้นพบกับร่างจริงของเจียงเฉิน มันได้ชกอย่างรุนแรงออกไปทางฝ่ามือของเจียงเฉิน
แต่ว่าอย่างไร เหลียงเซียวก็มิได้สังเกตเห็นถึงรอยยิ้มอย่างมีเงื่อนงำบนใบหน้าของเจียงเฉิน และ แสงสีเขียวซึ่งกระพริบอยู่ภายในฝ่ามือของเจียงเฉิน
===================================================
Dragon Marked War God ตอนที่ 158 การต่อสู้กับเหลียงเซียว
โปรดติดตามตอนต่อไป…..