เทพมังกรสงครามอหังการ - Dragon Marked War God ตอนที่ 157 เป็นที่เคารพบูชา
แปลไทยโดย : Subaru-Kyun
ตรวจทาน : Subaru-Kyun
****************************************************************************
จ้าวจันทราโลหิตได้ถูกสังหารลงและเหล่าปีศาจโลหิตทั้งหมดก็ได้ถูกขจัดสิ้นไป ความวุ่นวายจากปีศาจโลหิตได้ถูกเจียงเฉินแก้ไข แม้กระทั่งก่อนที่พวกเขาได้กระทำเรื่องใหญ่ จ้าวจันทราโลหิตได้ให้ผลประโยชน์แก่เจียงเฉินมากมายนัก ไม่เพียงแค่เขาได้รับดวงจิตปีศาจเป็นจำนวนมาก มันยังได้ช่วยเขาในการทะลวงเข้าสู่แก่นแท้สวรรค์และมันยังให้อาวุธที่ทรงพลังแก่เจียงเฉินอีกด้วย มันคือธงโลหิต
เจียงเฉินได้ปล่อยหมัดออกมา ลำแสงสีทองขนาดยักษ์ได้เข้าทำลายแท่นบูชาสังเวยโลหิต หลังจากนั้นเขาร่อนลงมาและอยู่ข้างกายหวงต้า เจียงเฉินรู้ว่าในตอนนี้หวงต้าเหนื่อยล้าเพียงใด เพราะมันอยู่ในสภาพสาหัส
หวงต้าได้ตามเจียงเฉินมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง มันสืบสายโลหิตของกิเลนอย่างแท้จริง มันมีสายเลือดสัตว์บรรพกาลอย่างสมบูรณ์ มันเป็นราชาของสัตว์ประหลาดทั้งหลาย แต่ทว่าตอนนี้มันอยู่สภาพอาการสาหัสและนี่ทำให้เจียงเฉินถึงกับตกตะลึง
" มันเกิดสิ่งใดขึ้น? "
เจียงเฉินถาม เมื่อในตอนที่หวงต้าโดนทุบตี เขาถูกขังไว้อยู่ภายในธงโลหิต ดังนั้นเขาจึงไม่ทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอก
" น้องเจียง มันเป็นเพราะดาบหักเล่มนี้ "
อี้จื่อฮันชี้นิ้วไปยังดาบหักข้างๆหวงต้าและอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ต่อเจียงเฉิน
เจียงเฉินตาลุกวาวแล้วเขามองไปยังดาบหักเล่มนั้น เขารู้ว่าดาบนี่มาจากที่ใด เมื่อพวกเขายังอยู่ที่เมืองสุริยันโคจร หวงต้าไม่ต้องการอย่างอื่นใดนอกจากดาบหักเล่มนี้เท่านั้น
" มันสามารถที่จะตัดพันธะระหว่างธงโลหิตและจ้าวจันทราโลหิตได้ ด้วยความสามารถของหวงต้า มันแปลกมากที่ฝืนใช้มัน การที่ใช้มันทำให้ตนเองอยู่ในสภาพสาหัสเช่นนี้…..สิ่งนี้เป็นสมบัติอย่างแท้จริงสินะ? "
เจียงเฉินประหลาดใจอย่างแท้จริง ด้วยประสบการณ์ของเซียนผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เขาสามารถที่จะจำแนกยุทธภัณฑ์ขั้นสุดยอดที่หาที่เปรียบมิได้ด้วยเพียงการมองเท่านั้น แต่กระนั้นดาบหักเล่มนี้ ทั้งหมดที่เขาสามารถบอกได้ก็คือมันเป็นเพียงแค่เศษเหล็กธรรมดาเท่านั้น
เจียงเฉินหยิบดาบหักขึ้นมาจากนั้นเขาก็โคจรพลังหยวนของเข้าอัดเข้าไปในดาบหัก แต่โชคร้าย ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น พลังหยวนของเจียงเฉินไม่ได้ทำให้ดาบหักตอบสนองใดๆออกมา
" หากว่าดาบหักไม่ใช่เศษเหล็กทั่วๆไปล่ะก็ มันอาจจะเป็นบางสิ่งที่อยู่เหนือระดับ ยุทธภัณฑ์ระดับเซียน มันอาจจะเป็นบางสิ่งจากดินแดนอมตะ "
เจียงเฉินถอนหายใจในใจ หวงต้าได้พิสูจน์ว่าดาบหักนี่ไม่ใช่เศษเหล็กทั่วๆไปอย่างแน่นอน และเจียงเฉินไม่สามารถบอกได้ว่ามันคือสิ่งใด สิ่งที่สามารถอธิบายได้มีเพียงอย่างเดียวคือดาบหักนี่มันอยู่เหนือยุทธภัณฑ์ระดับเซียน
ส่วนเหตุที่หวงต้าสามารถปลดปล่อยพลังของดาบหักนี่ได้ เจียงเฉินไม่สามารถที่จะอธิบายได้ เป็นไปได้มากว่าจะเป็นเพราะสายเลือดของมัน
" คุณชายเจียง หวงต้ามันจะเป็นอะไรไหม? "
อี้เทียนหลงถามอย่างกังวล พวกเขาสำนึกในบุญคุณหวงต้าอย่างมาก หากว่าหวงต้าไม่อยู่ที่นี่ในวันนี้ พวกเขาทุกคนอาจถูกสังหารทั้งหมด พวกเขาไม่สามารถที่จะทนต่อการโจมตีของเหล่าปีศาจโลหิตได้
" มันต้องไม่เป็นไร พลังงานของมันหมดเท่านั้น มันจึงอ่อนเพลียมาก "
เจียงเฉินกล่าว เขารู้จักหวงต้าเป็นอย่างดี ตอนนี้มันอาจจะหลับเพียงเท่านั้น และมันต้องใช้เวลาหนึ่งกว่ามันจะตื่นขึ้น แต่ว่าขณะที่มันกำลังนอน ระดับการบ่มเพาะของมันจะสูงขึ้นอีกขั้นอีกครั้งหนึ่ง นี่เป็นส่วนที่ทำให้เจียงเฉินพูดไม่ออก
สายเลือดของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์นั้นดูไม่มีสิ่งใดพิเศษในตอนแรกๆ แต่หลังจากที่เพิ่มระดับขั้นการบ่มเพาะแล้ว พลังของสายเลือดได้เริ่มแสดงให้เห็น อย่างเช่นหวงต้าพละกำลังของมันเร็วๆนี้จะน่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง
" แต่พวกเราจำเป็นต้องจัดส่งพลังงานไปให้มัน หากพวกเราไม่ทำเช่นนั้นมันอาจหลับลึก และนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดี "
เจียงเฉินนำขวดกระแช่ออกมาจากแหวนมิติของเขา มันมีไว้เก็บขวดกระแช่โดยเฉพาะ และมันบรรจุวารีกำเนิดพลังทั้งหมดที่เขามี
เจียงเฉินก้มลงและเปิดปากหวงต้าจากนั้นเขาก็เทวารีกำเนิดพลังทั้งหมดไปยังปากใหญ่ๆของมัน
หลังจากที่ได้ดื่มวารีกำเนิดพลังจำนวนมาก แม้ว่าหวงต้ายังนอนหลับอยู่ อาการของมันดีกว่าก่อนหน้านี้มาก ร่างของมันมีเปล่งแสงสีทองอ่อนๆและมันได้คลุมร่างของหวงต้าอย่างรวดเร็ว
" ไปกันเถอะ พวกเราจำเป็นต้องออกจากที่แห่งนี้ "
เจียงเฉินแบกหวงต้าขึ้น ด้วยความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์สองสามคน ส่วนเด็กสาวทั้งหมดถูกพาขึ้นฟ้า ไม่นานหลังจากนั้น ทั้งกลุ่มได้ออกจากหุบเขาจิตวิญญาณหยิน และตอนนี้พุ่งตรงไปยังเมืองศิลาเหลือง
ตลอดทาง ทุกๆคนต่างดูมีความสุข โดยเฉพาะผู้ที่มาจากตระกูลอี้ การช่วยเหลืออี้จื่อหยานได้นั้นเป็นสาเหตุหลักที่พวกเขาต่างมีความสุข นอกจากนี้พวกเขาไม่เคยคิดว่าความวุ่นวายที่เกิดจากเหล่าปีศาจโลหิตจะคลี่คลายลงได้อย่างง่ายดายเช่นนี้
ทุกๆคนต่างมองไปยังเจียงเฉิน พวกเขารู้สึกซาบซึ้งต่อชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหล่าผู้นี้ ภาพลักษณ์ของเจียงเฉินในใจของพวกเขานั้นยิ่งใหญ่มาก
ไม่เพียงแค่พวกเขา ผู้คนในเขตศิลาเหลืองทุกคนต่างซาบซึ้งใจต่อเจียงเฉิน เพราะไม่เพียงแค่เขาเป็นวีรบุรุษของตระกูลอี้ เขายังเป็นวีรบุรุษของทุกๆคนในเขตศิลาเหลือง เขาได้ช่วยชีวิตทุกๆคนที่อยู่ที่นี่
มุมมองที่เด็กสาวมีต่อเจียงเฉิน นอกจากความซาบซึ้งแล้ว มันยีงมีความเขินอายและความรักผ่านทางดวงตาพวกนางอีกด้วย บุรุษผู้หล่อเหลาเฉกเช่นเจียงเฉินผู้ซึ่งแตกต่างจากคนอื่นๆและภาพลักษณ์ของเขาดูสูงส่งกว่าผู้อื่นนั้นตรึงใจเด็กสาววัยรุ่นทั้งหลาย เขาเป็นดั่งบุรุษในฝันของพวกนาง
เมืองศิลาเหลือง ตระกูลอี้
เจียงเฉินได้นั่งอยู่บนที่นั่งสำหรับเจ้านายภายในห้องโถงหลักตระกูลอี้ นอกเหนือจากอี้เทียนหลง เจียงเฉินเป็นคนนอกคนแรกที่ได้นั่งตำแห่น่งนี้ แต่ไม่มีผู้ใดคัดค้านเรื่องนี้
อี้เทียนหลงและอี้จื่อฮันหันมองกันเองและผงกหัวในเวลาเดียวกัน หลังจากนั้นพวกเขาทั้งคู่ได้ยืนขึ้นจากที่นั่งของพวกเขาและคารวะอย่างลึกซึ้งต่อเจียงเฉิน
" พวกเจ้ากำลังทำสิ่งใดกัน? "
เจียงเฉินถามด้วยรอยยิ้ม
" สิ่งที่คุณชายเจียงได้กระทำที่ยิ่งใหญ่ต่อตระกูลอี้นั้น และสิ่งที่ท่านกระทำต่อเมืองศิลาเหลือง ไม่มีคำพูดใดที่พวกข้าจะใช้เพื่อแสดงความขอบคุณ ตอนนี้ตระกูลอี้เป็นตัวแทนของชาวเมืองศิลาเหลืองทุกๆคน พวกเราขอปฎิญาณตนที่จะปฎิบัติตามคำสั่งของท่าน! ในอนาคตหากคุณชายเจียงมอบคำสั่งใดๆให้แก่พวกเรา และตระกูลอี้จะปฎิบัติตาม พวกเราจะตอบสนองให้แก่ท่าน "
อี้เทียนหลงพูดด้วยท่าทีจริงจัง เขาได้ตัดสินใจแล้ว ตระกูลอี้และทุกๆคนในศิลาเหลืองต่างสวามิภักดิ์ภายใต้เจียงเฉิน อี้เทียนหลงไม่ใช่คนปัญญาอ่อน เขาสามารถบอกได้ว่าเจียงเฉินมีศักยภาพอันยิ่งใหญ่ การที่ติดตามอัจฉริยะไร้ที่เปรียบเฉกเช่นเขาเป็นการตัดสินใจที่หลักแหลมยิ่ง เพราะไม่มีผู้ใดมีความสามารถเพียงพอที่จะสังหารจ้าวจันทราโลหิต
" น้องเจียง บิดาข้าได้เตรียมสร้างอนุสาวรีย์ของเจ้าที่ใจกลางเมืองศิลาเหลือง แล้วชนรุ่นหลังทั้งหมดจะได้ทราบถึงการระทำที่ยิ่งใหญ่ของน้องเจียงที่กระทำไว้ต่อเมืองศิลาเหลือง! "
อี้จื่อฮันได้บอกในสิ่งที่พวกเขาได้ตัดสินใจแล้ว ในกำเนิดเซียน การสร้างอนุสาวรีย์ให้กับบุคคลๆหนึ่งนั้นเกิดขึ้นได้ยากมาก มีเพียงแค่เหล่าผู้ที่มีคุณงามความดีอย่างมากและมีชื่อเสียงเกรียงไกรเท่านั้นที่สามารถเพลิดเพลินไปกับการดูแลเช่นนี้ได้ เหตุเพราะว่าเจียงเฉินเป็นวีรบุรุษของเขตศิลาเหลืองและแน่นอนว่าหากปราศจากเจียงเฉินย่อมไม่มีความสงบสุขในศิลาเหลือง ดังนั้นเจียงเฉินสมควรได้รับเกียรตินี้
นี่คือเกียรติยศอันรุ่งโรจน์ที่ได้จารึกนามของเขาและจักได้รับการสรรเสริญจากคนรุ่นถัดไป
" นี่มันเพียงเรื่องเล็กน้อย ข้าไม่เห็นว่าพวกท่านจำเป็นต้องทำขนาดนั้น "
เจียงเฉินยักไหล่ เขาไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องใหญ่
" โปรดอย่าได้ปฎิเสธอีกเลยคุณชายเจียง ข้าได้ตัดสินใจแล้วและท่านสมควรที่จะได้รับเกียรตินี้ "
อี้เทียนหลงกล่าว
ในตอนนั้นเอง เด็กสาววัยรุ่นในกระโปรงสีม่วงได้เข้ามายังห้องโถง นางมีดวงตาสดใสและคิ้วที่สง่างาม นางผอมและร่างบอบบาง และริมฝีปากเล็กๆของนางดูแดงสดโดยไม่ได้แต่งหน้า นางดูเหมือนจะอยู่ช่วยวัยรุ่นตอนปลาย นางงดงามอย่างแท้จริงและงดงามอย่างเรียบง่าย
เด็กสาวผู้นี้ไม่ใช่ผู้ใดอื่นนอกจากอี้จื่อหยาน ความกังวลใจและการตื่นตระหนกของนางได้หายไปแล้ว และตอนนี้นางดูเหมือนเด็กสาวจะตระกูลสูงส่ง
อี้จื่อหยานได้ยกถ้วยน้ำชาและได้เดินไปหาเจียงเฉิน นางเงยหน้าและมองเจียงเฉิน ด้วยใบหน้าที่เขินอายนางกล่าวว่า "ขอบพระคุณคุณชายเจียงที่ช่วยชีวิตข้าเมื่อคืนนี้! อี้จื่อฮันได้ชงชาสำหรับคุณชายเจ้าค่ะ"
" อย่าได้ใส่ใจเลย จื่อหยาน "
เจียงเฉินหยิบชา แล้วจิบจากนั้นวางแก้วไว้บนโต๊ะ
เมื่อเห็นเช่นนี้ ช่วยไม่ได้ที่อี้เทียนหลงและคนอื่นๆจะถอนหายใจออกมาเงียบๆ แท้จริงแล้วช่วงขณะที่หาญกล้าของเจียงเฉินได้ทิ้งความประทับใจชั่วนิรันดร์ในใจของอี้จื่อหยาน ชายหนุ่มอย่างเจียงเฉินเป็นบุรุษในฝันของหญิงสาวทั้งหลายมันยากนักที่จะไม่รักเขา
แต่แย่หน่อย แม้นว่าอี้จื่อฮันจะหลงรักเจียงเฉิน เขานั้นมีจิตใจที่เข้มแข็งและไม่ได้คิดสิ่งใดกับนาง
" จื่อหยาน เจ้ากลับไปพักผ่อนก่อนเสีย ช่วยข้าดูแลเหล่าหญิงสาวที่ช่วยเหลือมาเมื่อวานให้ดีด้วย "
อี้เทียนหลงกล่าว
" เจ้าค่ะ ท่านพ่อ "
อี้จื่อหยานเดินออกจากห้องโถงไป ด้วยสายตาผิดหวัง
" ท่านผู้นำตระกูลอี้ เมื่อพวกเราได้แก้ไขปัญหาเรื่องปีศาจโลหิตเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะกลับไปยังนิกายทมิฬ ข้าคงต้องขอตัวก่อน "
หลังจากพูดเสร็จ เขาลุกขึ้นจากที่ของเขา
" ในช่วงเวลานั้น ข้าจักต้องกลับไปยังนิกายทมิฬในวันรุ่งขึ้นเช่นกัน เหตุใดน้องเจียงจึงไม่พักที่ตระกูลอี้คืนนี้ล่ะ? จากนั้นพวกเราจะกลับไปยังนิกายทมิฬในวันรุ่งขึ้นพร้อมกัน "
อี้จื่อฮันกล่าว
" ข้าจำเป็นต้องกลับไปยังเมืองสุริยันสีชาดก่อน ข้าจะไปพักที่คฤหาสน์ของข้าที่นั่น เจ้าสามารถไปยังเมืองสุริยันสีชาดและมาพบข้าได้ในวันรุ่งขึ้น จากนั้นพวกเราจะกลับไปยังนิกายทมิฬด้วยกัน "
เจียงเฉินได้ปฎิเสธสิ่งที่เสนอมา
" ข้าจะทำตามนั้น "
อี้เทียนหลงผงกหัว เขาไม่ได้พูดรั้งสิ่งใดเพื่อให้เจียงเฉินอยู่ต่อ เขารู้ว่าเจียงเฉินเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตนเอง เขาไม่เปลี่ยนใจง่ายๆเป็นแน่
เจียงเฉินพาหวงต้าที่กำลังหลับนอนอยู่ไปกับเขาด้วย เหตุที่เขากลับไปยังเมืองสุริยันสีชาดเพราะหวงต้า หวงต้าได้ใช้พลังไปมากมายในการใช้ดาบหักนั่น แม้แต่พลังอันมากมายของวารีกำเนิดพลังยังไม่สามารถที่จะปลุกมันได้
ดังนั้นเจียงเฉินตัดสินใจที่จะทิ้งหวงต้าไว้ที่เมืองสุริยันสีชาดเพื่อให้มันดูดซับพลังงานจากเส้นเลือดแหล่งพลังงาน มันสามารถทำให้มันฟื้นฟูพลังกลับมาและตื่นขึ้นได้ นอกจากนี้เจียงเฉินจำเป็นต้องใช้เวลาหนึ่งในการแยกแยะสิ่งที่เขาได้รับมาในครั้งนี้
" จื่อฮัน เจ้าจักต้องรักษาความสัมพันธ์อันดีกับคุณชายเจียงนะ บุรุษเช่นเขาเป็นอัจฉริยะที่หาผู้ใดเปรียบมิได้ เขาจะต้องเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน "
อี้เทียนหลงแนะนำบุตรชายเขา
" แน่นอนขอรับ ข้าจะนำน้องเจียงมาเป็นแบบอย่างของข้า!โอ้ใช่แล้ว ท่านพ่อ ทางที่ดีท่านพ่อควรแนะนำให้จื่อหยานล้มเลิกความคิดที่มีต่อน้องเจียงเสียดีกว่า เขามีคู่หมั้นที่เยี่ยมยอดอยู่แล้วและนางเองก็เป็นอัจฉริยะไร้ที่เปรียบอีกด้วย "
อี้จื่อฮันเตือนบิดาเขา ทุกๆคนในนิกายทมิฬต่างรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเจียงเฉินและหยานเฉินหยู่ ในความคิดของอี้จื่อฮัน สาเหตุที่หลักที่เขาไม่ให้อี้จื่อหยานหันไปมองเจียงเฉินเป็นครั้งที่สองนั้นเพราะหยานเฉินหยู่
" มันเป็นการยากมากสำหรับข้าที่จะให้คำแนะนำกับนางเรื่องความรัก……ปล่อยไปตามธรรมชาติดีกว่า "
อี้เทียนหลงส่ายหัว
ในคืนนั้น อี้เทียนหลงได้เผยแพร่กระจายข่าวเกี่ยวกับปีศาจโลหิตทั้งหมดได้ถูกสังหารในเขตศิลาเหลือง ดังนั้นเมื่อเจียงเฉินได้กลับไปยังเมืองสุริยันสีชาด ได้มีการจัดงานเฉลิมฉลองครั้งใหญ่รอเขาอยู่
เมื่อชาวเมืองเห็นเจียงเฉินกลับมา พวกเขาทุกคนเปล่งเสียงแสดงความยินดีด้วยเสียงที่ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ ชื่อเสียงของเจียงเฉินได้จารึกไว้ในใจของชาวเมืองทุกๆคน เขาได้กลายเป็นดั่งพระเจ้าของที่นี่แล้ว
****************************************************************************
โปรดติดตามตอนต่อไป