หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

เทพมังกรสงครามอหังการ - Dragon Marked War God ตอนที่ 155 ธงโลหิต

  1. หน้าแรก
  2. เทพมังกรสงครามอหังการ
  3. Dragon Marked War God ตอนที่ 155 ธงโลหิต
Prev
Next

แปลไทยโดย   Takumi Kun

ตรวจทาน         Takumi Kun

 

**************************************************************************

อ๊าาา….

เสียงกรีดร้องอย่างน่าหวาดกลัวดังทั่วหุบเขาจิตวิญญาณหยิน มีเลือดชโลมไปทุกหนทุกแห่ง แม้ว่าคนจากตระกูลอี้ไม่กี่คนได้ถูกเหล่าปีศาจโลหิตจำนวนมากล้อมเอาไว้  แต่ด้วยการช่วยเหลือของสัตว์ประหลาดอย่างหวงต้า ทำให้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

ในอีกด้านหนึ่ง ปีศาจโลหิตได้ประสบกับความสูญเสียอย่างร้ายแรง ขุนพลปีศาจโลหิตแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลายทั้งสามถูกเจียงเฉินสังหารและหวงต้าเองก็สังหารปีศาจโลหิตที่เหลือพวกเขาทั้งคู่ได้ลงมือประสานกันเป็นการลงมืออย่างร้ายกาจต่อปีศาจโลหิต

หากตามสถานการณ์ทั่วไปแล้ว การตัดสินใจของเจียงเฉินที่จะไปบุกจู่โจมหุบเขาจิตวิญญาณหยินนั้นเป็นภารกิจการฆ่าตัวตายชัดๆ แต่สถานการณ์ที่ได้ลงมืออยู่ในตอนนี้ล่วนแตกต่างอย่างสิ้นเชิง จ้าวจันทราโลหิตได้เริ่มพิธีกรรมเซ่นสังเวยโลหิต มันได้ถูกผูกมัดโดยพิธีกรรมและไม่สามารถลงมือตอบโต้ได้อย่างแท้จริง นี่ทำให้เจียงเฉินและคนอื่นๆได้โอกาสที่จะสังหารเหล่าปีศาจโลหิต

จ้าวจันทราโลหิตเป็นคนเดียวที่เจียงเฉินเป็นกังวล ตราบเท่าที่มันได้ผูกมัดกับบางสิ่งไม่ว่าปีศาจโลหิตจะอยู่ที่นี่มากมายเพียงใด ท้ายสุดแล้วมันก็จะเป็นดั่งพวกที่มาบุกเมืองสุริยันสีชาด

เด็กสาวที่ถูกจับตัวมาต่างกอดกันเป็นกลุ่มใหญ่ ใบหน้าของพวกนางต่างซีดเซียว ฉากเช่นนี้ ประสบการณ์อย่างนี้ มันได้ทิ้งตราตรึงไว้ในใจของพวกนางไม่เสื่อมคลาย ฉากนองเลือดที่โหดเหี้ยมทำให้พวกนางได้เห็นถึงด้านมืดของโลก

ความหวาดกลัวเต็มอยู่ในใจของพวกนาง แต่โชคดีที่ เงาแห่งความตายได้จางหายไปอย่างช้าๆ ชายที่ปรากฎตัวขึ้นมาจากที่แห่งใดไม่รู้ได้นำแสงแห่งความหวังมอบแก่พวกนาง

อี้จื่อหยานได้เกิดมาในตระกูลใหญ่ ดังนั้นจิตใจของนางจึงเข้มแข็งกว่าคนอื่นๆ หลังจากที่นางเห็นพี่ชายนางและบิดาของนางมาเพื่อช่วยนาง อารมณ์ของนางผ่อนคลายอย่างเห็นได้ชัด นางอยู่ระหว่างท่ามกลางการปลอบโยนเด็กสาวที่กำลังหวาดกลัว

อี้จื่อฮันได้ยืนหน้าเหล่าเด็กสาวเพื่อปกป้องพวกนาง เขายังคงสังหารพวกปีศาจโลหิตที่เข้ามาลงมือกับเขา

"จ้าวจันทราโลหิต เตรียมตัวตายซะ!"

หลังจากที่เจียงเฉินได้สังหารเหล่าขุนพลแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลายทั้งสามไป กระแสฝั่งเขาได้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เขาได้เหวี่ยงขวานใส่จ้าวปีศาจโลหิตที่กำลังนั่งขัดสมาธิบนแท่นบูชา

"ฮึ่ม! เจ้าพวกมนุษย์จิ๊บจ๊อย เจ้าประเมินตัวเองสูงไปแล้ว… ตายซะ!"

จ้าวจันทราโลหิตแค่นเสียง มันโบกมือและปลดปล่อยฝ่ามือโลหิตขนาดยักษ์พุ่งทะลวงไปยังการลงมือด้วยขวาน

ตูม!

การปะทะกันอย่างรุนแรงได้สั่นสะเทือนทั่วทั้งหุบเขา ด้วยการโต้กลับของจ้าวจันทราโลหิต มันได้ทำให้เจียงเฉินต้องถอยหลังอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ด้วยการลงมือต่อเนื่องเป็นครั้งที่สอง พิธีกรรมเซ่นสังเวยโลหิตของจ้าวจันทราโลหิตได้รับผลกระทบ ใบหน้าของมันเริ่มซีดเซียว และการหายใจของมันถี่ขึ้น

นอกจากนี้ การสังเวยเด็กสาวคนแรกได้สิ้นสุดลงแล้ว มันจำเป็นต้องนำเด็กสาวคนที่สองเพื่อทำพิธีกรรมของมันต่อ

"ฮ่าฮ่า จ้าวจันทราโลหิต เจ้าจบสิ้นแล้ว!"

เจียงเฉินหัวเราะเสียงดัง จากนั้นเขาเริ่มปลดปล่อยพลังงานอย่างน่าอัศจรรย์ เงามังกรสีแดงโลหิตได้ห้อมล้อมและบินรอบๆร่างกายเขา และด้วยเพียงก้าวไปด้านหน้า ร่างของเจียงเฉินทั้งเก้าได้ปรากฎขึ้นกลางอากาศ

เจียงเฉินทั้งเก้าได้อยู่รอบๆแท่นบูชาโลหิตและวิ่งไปหาจ้าวจันทราโลหิตในเวลาเดียวกัน

เมื่อเจียงเฉินได้มองใกล้ๆพิธีกรรมเซ่นสังเวยโลหิต เขาสรุปได้ว่าไม่มีทางที่จ้าวจันทราโลหิตจะสามารถหยุดยั้งพิธีกลางคันได้ ดังนั้นการลงมือตอบโต้ที่มันสามารถทำได้นั้นมีจำกัด หากไม่เช่นนั้น ไม่เพียงพิธีกรรมเซ่นสังเวยโลหิตจะล้มเหลวแล้ว ตัวจ้าวจันทราโลหิตเองก็คงได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน

ดังนั้น การใช้หมาป่ามายาเก้าร่างนั้น ไม่เพียงแค่ทำให้จ้าวจันทราโลหิตสับสน มันยังทำให้กวนใจมันอีกด้วย

"นี่มันทักษะเคลื่อนที่ประหลาดอันใดกันเนี่ย?"

ท่าทีของจ้าวจันทราโลหิตเปลี่ยนไป ด้วยประสบการณ์ของมัน มันไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าร่างใดเป็นร่างจริง

อย่างไรก็ตามแม้นเจียงเฉินจะรวดเร็ว จ้าวจันทราโลหิตรวดเร็วยิ่งกว่า มันโบกมือของมันและตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยม "พวกเจ้าช่างโง่เขลานัก กล้าดีอย่างไรถึงมารบกวนพิธีกรรมเซ่นสังเวยโลหิตของข้า ้เจ้ารนหาที่ตาย!ข้าจะฆ่าเจ้าก่อนแล้วจะสังหารสหายของเจ้าที่เหลือ!ธงโลหิต!"

ด้วยเสียงดั่งสายฟ้า ธงสีโลหิตขนาดใหญ่ออกมาจากร่างของจ้าวจันทราโลหิต มันสูงเกือบสามสิบเมตร มันคลุมร่างเจียงเฉินทั้งเก้าในเวลาเดียวกัน ได้ดูดพวกเขาเข้าไปยังธงโลหิต

โอวววววอูวววววว

สายลมปีศาจได้ส่งเสียงหวีดแหลมในหุบเขา เสียงกรีดร้องอันน่าหวาดกลัวออกมาจากธงโลหิต มันปลดปล่อยแสงสีแดงออกมาทั่วท้องฟ้าเหนือหุบเขา ท้องฟ้าเหนือหุบเขาจิตวิญญาณแห่งหยินกลายเป็นสีเดียวกัน

เสียงลมปีศาจยังคงส่งเสียงหวีดแหลม และเสียงกรีดร้องของวิญญาณไม่มีท่าทีว่าจะหยุด ธงโลหิตนั้นน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง ใบหน้าวิญญาณได้ปรากฎขึ้นที่ธงโลหิต เป็นฉากที่น่าหวาดกลัวยิ่ง

เพียงแค่มองไปยังธงโลหิตก็สั่นสะท้านไปถึงไขสันหลังของผู้ที่มองและเกิดความหวาดกลัวอย่างมากเหมือนกับว่าพวกเขากำลังจมลึกลงสู่ขุมนรก

"สวรรค์! นั่นมันธงโลหิต   จ้าวจันทราโลหิตได้พบธงโลหิต! มันได้รับสืบทอดทุกสิ่งจากหมอผีจันทราโลหิต!"

อี้เทียนหลงที่กำลังต่อสู้กับปีศาจโลหิตอยู่ได้เห็นธงโลหิต เขาได้ร้องออกมา

"ในทศวรรษที่ผ่านมา หมอผีจันทราโลหิตได้สังหารมนุษย์ไปกว่า 100,000 คนและใช้วิญญาณของพวกเขาสร้างธงโลหิตขึ้นมา หมอผีจันทราโลหิตได้ก่อความวุ่นวายขึ้นในแคว้นฉีและได้สังหารผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งมากมายนับไม่ถ้วน มันได้เปลี่ยนทั้งแคว้นฉีกลายเป็นนรก กระทั่งผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของนิกายใหญ่ทั้งสี่ได้ออกโรงด้วยตนเอง ท้ายที่สุดหมอผีจันทราโลหิตได้ถูกสังหารโดยการลงมือประสานของทั้งสี่ ข้าได้ยินมาว่าไม่ใช่ชัยชนะที่มีเกียรติของเหล่าผู้นำนิกายทั้งสี่"

"ข้าไม่เคยคาดมาก่อนว่าจ้าวจันทราโลหิตจะได้รับสืบทอดทุกสิ่งจากหมอผีจันทราโลหิต….กระทั่งธงโลหิตที่สูญหายเป็นเวลายาวนานยังอยู่กับมัน ดวงวิญญาณที่โหดร้ายกว่า 100,000 ดวงที่อยู่ภายในธงโลหิตมันเต็มไปด้วยวิญญาณร้ายกาจ กระทั่งผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ยังรับมือได้ลำบาก….ตอนนี้มันอันตรายสำหรับนายน้อยเจียงที่เขาโดนธงโลหิตดูดเข้าไป"

แขกผู้ทรงเกียรติทั้งสองของตระกูลอี้ต่างเป็นกังวล อี้เทียนหลงและอี้จื่อฮันต่างมีท่าทางสยดสยอง แผนในตอนแรกของพวกเขาคือการลงมือในระหว่างการประกอบพิธีกรรมเซ่นสังเวยโลหิตและสังหารมันรวมทั้งปีศาจโลหิตตนอื่นๆด้วยในขณะที่ช่วยเหลือเหล่าเด็กสาวผู้บริสุทธิ์ แต่ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าจ้าวจันทราโลหิตจะมีอาวุธมารเช่นนั้น ตอนนี้เจียงเฉินอยู่ภายใต้การควบคุมของธงโลหิต มันดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถทำได้ทันเวลา

"ฮ่าฮ๋า หลังจากที่โดนธงโลหิตดูดเข้าไปแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะมีสามเศียรหกกร เจ้าจักต้องตายอย่างอนาถ ตกตายภายในนั้นและกลายเป็นวิญญาณดวงหนึ่งภายในนั้นเสียเถอะ!นี่คือผลของการที่มาล่วงเกินข้า!"

จ้าวจันทราโลหิตพูดด้วยเสียงแหลม และรอยยิ้มแสยะบนใบหน้ามัน ราชันย์ปีศาจยังคงกระพือธงโลหิตเหนือท้องฟ้า และเสียงคำรามของวิญญาณที่อยู่ภายในสร้างความหวาดกลัวแก่มนุษย์ทุกคนที่ได้ยินเสียง

"ฮึ่ม!"

จ้าวจันทราโลหิตแค่นเสียง มันได้ทะลวงการป้องกันของอี้จื่อฮันเข้ามาคว้าตัวเด็กสาวไว้ และดึงตัวเด็กสาวไปสามคน

เมื่อเด็กสาวเหล่านี้โดนดึงไปยังแท่นบูชา พวกนางได้โชลมไปด้วยโลหิตทันทีและกลายเป็นเหยื่อสังเวยแก่จ้าวจันทราโลหิต ในเวลาเดียวกันสายตาของจ้าวจันทราโลหิตได้มองไปยังอี้เทียนหลงและคนอื่นๆ

จ้าวจันทราโลหิตได้แสยะบนใบหน้ามัน มันไม่ได้ลงมือกับคนเหล่านี้ สิ่งที่มันทำคือจดจำใบหน้าของพวกเขาลงในความทรงจำของมัน แท้จริงแล้ว มันไม่ได้อยากจดจำพวกเขา เพราะพิธีเซ่นสังเวยโลหิตได้สมบูรณ์แล้ว มนุษย์ทุกชีวิตในศิลาเหลืองในที่สุดพวกเขาก็จะกลายเป็นอาหารของมัน

ต่อจากนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการประกอบพิธีเซ่นสังเวยโลหิตให้เสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้จ้าวจันทราโลหิตต้องการที่จะใช้ความสนใจส่วนหนึ่งในการควบคุมธงโลหิตในการที่จะสังหารเจียงเฉิน ดังนั้นมันไม่มีโอกาสที่จะทำแบบเดียวกันต่ออี้เทียนหลงและคนอื่นๆ นี่คือสาเหตุที่แท้จริงที่มันไม่ลงมือกับคนอื่นๆ

ในความคิดของจ้าวจันทราโลหิต ในหมู่คนเหล่านี้ทั้งหมด เจียงเฉินเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถทำร้ายมันได้ ส่วนคนที่เหลือไม่มีผู้ใดทำสิ่งใดแก่มันได้

ตอนนี้ ภายในธงโลหิต เศษชิ้นส่วนวิญญาณนับไม่ถ้วนได้พุ่งไปยังเจียงเฉินอย่างไม่มีที่สิ้นสุด พยายามที่จะฉีกเขาให้เป็นชิ้นๆ วิญญาณอาฆาตกว่าร้อยพันของวิญญาณที่ดุร้ายได้แปรเปลี่ยนทำให้มองเห็นและสร้างกลายเป็นพายุวิญญาณ วิญญาณเหล่านี้คล้ายใบมีดนับไม่ถ้วน มันเหมือนกับเจียงเฉินยืนท่ามกลางพายุที่กำลังโหมกระหน่ำและที่สร้างมาจากคมมีดนับไม่ถ้วน ราวกับว่าเขาอยู่บนเรือที่ลอยอยู่กลางทะเลที่บ้าคลั่ง

หากว่าเป็นคนทั่วๆไปผู้ถูกธงโลหิตดูดเข้ามา เขาจักถูกวิญญาณอาฆาตเหล่านี้กลืนกินในทันที กระทั่งไม่ได้ลงมือใดๆกับเหล่าวิญญาณอาฆาตได้เลย แค่เพียงอิทธิพลของวิญญาณอาฆาตเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะสามารถทำให้จิตใจของพวกเขาแหลกสลายและกลายเป็นบ้าได้

แต่มันคือเจียงเฉินที่ถูกดูดเข้าไปยังธง เซียนผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

"ฮ่าห์!"

เจียงเฉินปลดปล่อยการตะโกนออกมา เขาได้ใช้ทักษะคลื่นเสียงของเหยี่ยว ในวินาทีถัดมาพลังหยวนสีทองนับไม่ถ้วนออกมาจากปากของเขา พวกมันแปรเปลี่ยนเป็นคลื่นเสียงเข้าปะทะโดยตรง ตัวของเขาห้อมล้อมไปด้วยเงามังกรลางๆที่ส่องแสงสีทอง ขับไล่ความมืดมิดทั้งหมดที่อยู๋ภายในธงโลหิต

อาาาา……อูววววว………

เมื่อเหล่าวิญญาณอาฆาตที่ดุร้ายและเหี้ยมโหดได้พบกับแสงสีทองที่ปลดปล่อยออกจากร่างของเจียงเฉิน พวกมันต่างกรีดร้องอย่างปวดร้าวหัวใจ ท่าทีของพวกมันกลายเป็นหวาดกลัว ขณะที่พวกมันมองไปยังศัตรูตามธรรมชาติของพวกมัน

"ฮุึ่ม!ข้าเป็นเซียนผู้ยิ่งใหญ่ เป็นตัวแทนของมังกรที่แท้จริง!ไม่มีผูู้ใดสามารถคุกคามแก่ข้าได้!"

เจียงเฉินแค่นเสียงอย่างเย็นชา เขาได้ปลดปล่อยออร่าของผู้อยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง เขาได้ยืนอย่างสง่างามดั่งเทพสงคราม เขาเป็นดั่งแกนหลักคอยสนับสนุนทั่วทั้งโลก และไม่มีสิ่งใดสั่นคลอนเขาได้แม้แต่น้อย ไม่มีวิญญาณอาฆาตตนใดที่สามารถเข้าใกล้ร่างเขาได้เลย

เจียงเฉินมีทัศนคติและความคิดของเซียน และเขาได้กลับมากำเนิดใหม่ มารทั่วๆไปและตัวตนของปีศาจในโลกไม่ส่งผลใดๆต่อจิตใจเขา นอกจากนี้เขาได้ทำการบ่มเพาะทักษะร่างแปลงมังกรและเขามีสายเลือดหายากสองสามสายเลือดสัตว์อสูรหายาก เลือดทุกหยดของเขาและปราณในร่างกายเขานั้นมีคุณสมบัติหยางอันบริสุทธิ์ที่สุด มันเป็นคู่แข่งตามธรรมชาติของพวกมารทั้งหลายและจิตวิญญาณหยิน

มันไม่ได้เป็นเรื่องเท็จที่เจียงเฉินเป็นตัวแทนของมังกรที่แท้จริง เพราะหลังจากที่เขาทำการบ่มเพาะทักษะร่างแปลงมังกร เขาได้เริ่มเดินไปยังเส้นทางที่เขาสามารถแปลงกลายเป็นมังกรที่แท้จริงได้ ไม่นานหลังจากนี้ เขาจะกลายเป็นมังกรที่แท้จริงและจะทะยานไปสู่สวรรค์

ตูมม!

เจียงเฉินง้างขวานในมือของเขา และสับไปยังธงโลหิตเต็มกำลัง แสงสีทองทะลวงผ่านความมืด แต่แย่หน่อยที่การลงมือครั้งนี้เหมือนดั่งการขว้างก้อนหินไปยังมหาสมุทร มันไม่สามารถทำสิ่งใดกับธงโลหิตได้

"ธงนี้สร้างมาจากวิญญาณดุร้ายและวิญญาณอาฆาต มันได้กลายเป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวอย่างแท้จริง เป็นอาวุธสำหรับมารและปีศาจ กระทั่งศาสตราวุธอย่างขวานอัสนีบาตยังไม่สามารถที่จะทำลายธงนี่ได้ แม้ว่าข้าจะไม่หวาดกลัวต่อวิญญาณดุร้ายและวิญญาณพยาบาทพวกนี้ มันยังคงยากที่จะหนีออกไปจากที่แห่งนี้…เว้นแต่ข้าสามารถควบคุมธงโลหิตได้"

เจียงเฉินขมวดคิ้วของเขา " แต่ธงนี่อยู่ภายใต้การควบคุมของจ้าวจันทราโลหิตอย่างสมบูรณ์ มันเชื่อมต่อกับสายเลือดของมัน เป็นไปไม่ได้สำหรับข้าที่จะควบคุมมันอีก "

เจียงเฉินยังคงครุ่นคิดหาทางแก้ไข เขาไม่สามารถที่จะอยู่ภายในธงโลหิตได้ จ้าวจันทราโลหิตอยู๋ในช่วงคับขันในพิธีกรรมเซ่นสังเวยโลหิต และตอนนี้ทุกอย่างได้ถูกขัดจังหวะ มันจักต้องรีบเร่งที่จะดำเนินขั้นตอนทั้งหมด เมื่อมันได้ประกอบพิธีกรรมได้สำเร็จและได้ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ มันสามารถสังหารเจียงเฉินได้ทันที และทั่วทั้งแคว้นฉีจะตกอยู่ในความวุ่นวายอีกครั้ง

พรสวรรค์และศักยภาพของจ้าวจันทราโลหิตไม่ด้อยกว่าหมอผีจันทราโลหิตแม้แต่น้อย รูปแบบและกลยุทธ์ของมันคล้ายคลึงกับหมอผีจันทราโลหิตอย่างแน่นอน ตอนนี้ด้วยธงโลหิต หากมันได้ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ มันจะกลายเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อแคว้นฉี ด้วยการช่วยเหลือของทักษะปีศาจโลหิต จ้าวปีศาจโลหิตจะแข็งแกร่งขึ้น แกร่งขึ้นเรื่อยๆอย่างรวดเร็วมาก และศักยภาพของมันเพียงพอที่จะกลายเป็นหมอผีจันทราโลหิตตนต่อไปได้

 

**************************************************************************

โปรดติดตามตอนต่อไป…………

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "Dragon Marked War God ตอนที่ 155 ธงโลหิต"

4.2 21 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz