หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

เทพมังกรสงครามอหังการ - Dragon Marked War God ตอนที่ 150 อาละวาด

  1. หน้าแรก
  2. เทพมังกรสงครามอหังการ
  3. Dragon Marked War God ตอนที่ 150 อาละวาด
Prev
Next

แปลไทยโดย  Takumi Kun

 

ตรวจทาน        Takumi Kun

 

****************************************************************************

พลังของฮันหยานทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อเขาเดินออกจากห้อง ทั่วทั้งเขตนอกได้สั่นสะเทือน เวลานี้ยังเช้าอยู่ และศิษย์จำนวนมากได้ทำตามกิจวัตรฝึกฝนในสนามฝึกซ้อม บางคนเห็นฮันหยานออกจากห้อง

 

"นี่มันพลังที่ทรงพลังอะไรเช่นนี้!ในที่สุดศิษย์พี่ฮันก็ได้ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้สวรรค์แล้ว เขาจะได้กลายเป็นศิษย์ในแล้วตอนนี้!"

 

"พวกเจ้ารู้สึกถึงมันได้ไหม? พลังของศิษย์พี่ฮันได้ทะลวงฟ้าแล้ว! ดูเหมือนว่าสายเลือดปีศาจบรรพกาลในร่างกายของเขาจะตื่นขึ้นแล้ว ตอนนี้นิกายทมิฬจะมีสัตว์ประหลาดเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแล้ว"

 

"ใช่แล้ว ฉายา 'ราชันย์ปีศาจน้อย' ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเล่นๆ ข้าได้ยินมาว่าสายเลือดของปีศาจบรรพการนั้นทรงพลังเป็นอย่างไม่น่าเชื่อ และแม้ว่าศิษย์พี่ฮันจะทะลวงเข้าสู่แก่นแท้สวรรค์ขั้นต้น ข้าคิดว่าเหล่าผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์ขั้นกลางทั่วไปไม่อาจเทียบเขาได้แม้แต่น้อย!"

 

…………………………………………………………………

 

คนมากมายได้จ้องไปยังฮันหยานผู้ที่กำลังฮึกเหิม ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะแสดงความชื่นชมอย่างมากเมื่อพวกเขาพูดเกี่ยวกับฮันหยาน ในโลกนี้ผู้คนชื่นชมผู้ที่แข็งแกร่งและในหมู่ศิษย์ของนิกายทมิฬทั้งหมด ชัดเจนว่าฮันหยานเป็นหนึ่งในศิษย์ที่แข็งแกร่งและมีความสามารถอันทรงพลัง

 

ฮันหยานเหยียดแขนออกยืดเส้นยืดสายตัวเอง เขาเงยหน้าขึ้นมองตะวันยามเช้าและคิดกับตนเอง

"ในที่สุดข้าก็ออกมาแล้ว! เฉินน้อยน่าจะมาถึงนิกายทมิฬแล้วตอนนี้ ข้าสงสัยว่าเขากำลังทำสิ่งใดอยู่….ข้าควรไปหาเขาและชวนเขาดื่มสักหน่อย"

 

ใบหน้าฮันหยานมีรอยยิ้มอยู่จางๆ ในตอนนั้นเอง หวังหยุนและหวงเจิงได้มาหาเขา

 

"ขอแสดงความยินดีกับศิษย์พี่ฮันที่สามารถทะลวงเข้าสู่แก่นแท้สวรรค์ได้!"

 

หวังหยุนและหวงเจิงแสดงความเคารพ

 

"อือ ข้าขอถามเจ้าหน่อย…. เจียงเฉินอยู่ที่นิกายทมิฬแล้วสินะ? ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนรึ"

 

ตั้งแต่เมื่อการแข่งขันประจำแคว้นฉี ฮันหยานได้เก็บตัวบ่มเพาะมาโดยตลอด นั่นเป็นเหตุที่ว่าเขาไม่รู้สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้

 

"ขณะที่ศิษย์พี่ฮันเก็บตัวบ่มเพาะ ท่านผู้นำนิกายได้ลงทัณฑ์ศิษย์พี่เจียงและส่งเขาไปสังหารเหล่าปีศาจโลหิตที่เขตศิลาเหลือง"

 

หวังหยุนกล่าว

 

"อะไรนะ? พวกปีศาจโลหิตมายังที่นี่อีกแล้วรึ?  เดี๋ยวก่อนนะ เจ้าบอกว่าเฉินน้อยได้ถูกท่านผู้นำนิกายลงทัณฑ์งั้นรึ?  มันเกิดสิ่งใดขึ้น?"

 

ท่าทางของฮันหยานเปลี่ยนไป และจากอารมณ์เขาดีๆเปลี่ยนกลายเป็นไม่ดีเมื่อได้ยินว่าเจียงเฉินโดนลงทัณฑ์ เจียงเฉินได้ช่วยชีวิตของเขา และพวกเขาก็เข้ากันได้ดีมากอีกด้วย พวกเขากระทั่งเป็นพี่น้องกัน ดังนั้นสิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับเจียงเฉินล่วนทำให้ฮันหยานเกิดความสนใจ

 

"มันได้เกิดสิ่งนี้………."

 

หวังหยุนได้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดในนิกายทมิฬผ่านสัมผัสเทวะ

 

"ว่าไงนะ?!"

 

ฮันหยานตะโกนออกมาเสียงดัง แม้ว่าเขาจะมีจิตใจที่เข้มแข็ง เขาไม่อยากเชื่อว่าในช่วงระยะเวลาสั้นๆมีอุบัติการณ์ใหญ่ได้เกิดขึ้นมากมายในนิกายทมิฬ

 

"เฉินน้อย เจ้าเป็นคนที่เอาแต่ใจ ข้าสงสัยว่ามีสิ่งใดที่เจ้าไม่กล้าทำบ้าง?"

 

ฮันหยานส่ายหัวพร้อมยิ้มอย่างขมขื่น การจับแขวนผู้อาวุโสนิกายและศิษย์ใน สังหารศิษย์ในแก่นแท้สวรรค์ขั้นกลาง อวดดีเมื่อเผชิญหน้ากับเฟินคุนและปู่ของเขา……ทั้งหมดนี่สามารถทำได้โดยผู้ที่มีจิตวิญญาณที่กล้าหาญอย่างไม่น่าเชื่อ และฮันหยานเองก็ไม่สามารถที่จะทำเช่นนี้ได้

 

"ศิษย์พี่ฮัน ท่านผู้นำนิกายได้ส่งเจียงเฉินเพียงคนเดียวไปยังเขตศิลาเหลืองเพื่อไปจัดการเหล่าปีศาจโลหิต…..ศิษย์พี่ฮันไม่คิดว่ามันอันตรายสำหรับเขางั้นรึ?"

 

หวังหยุนที่เป็นกังวลได้ถามขึ้น เขาและหวงเจิงต่างรู้เหตุผลที่เจียงเฉินได้ก่อความวุ่นวายขึ้นในนิกายทมิฬ ทั้งหมดเพราะเขาต้องการทวงความยุติธรรมให้แก่พวกเขา หลังจากที่พวกเขาฟื้นจากโคม่า หวังต้าหนิ่วและศิษย์นอกอีกไม่กี่คนได้บอกพวกเขาทุกสิ่ง เจียงเฉินกระทั่งขอยาฟืนชีวาเพื่อพวกเขา พวกเขาทั้งคู่ต่างซาบซึ้งเป็นอย่างมากต่อเขา และนั่นเป็นเหตุว่าเมื่อเจียงเฉินโดนลงทัณฑ์ด้วยภารกิจฆ่าตัวตายเช่นนี้ พวกเขาจึงรู้สึกไม่ดีกับมัน

 

"อืม เหล่าปีศาจโลหิตทั้งโหดเหี้ยมและโหดร้ายยิ่งนัก เมื่อข้าได้ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้สวรรค์แล้ว ข้าจะไปยังเขตศิลาเหลืองไปช่วยเหลือเฉินน้อย"

 

ฮันหยานผงกหัวของเขา แม้ว่าผู้นำนิกายได้มอบหมายให้เจียงเฉินไปยังเขตศิลาเหลืองด้วยตัวเอง ฮันหยานไม่ได้สนใจเรื่องนั้น ช่างหัวกฎมันสิ เขาสนใจเพียงแค่น้องชายของเขาเท่านั้น

 

"ประเสริฐ… ด้วยความช่วยเหลือของศิษย์พี่ฮัน ข้าแน่ใจว่าศิษย์พี่เจียงจักต้องปลอดภัยเป็นแน่"

 

หวังหยุนและหวงเจิงมีความสุขเมื่อได้ยินเช่นนั้น

 

ตู้มมม!

 

ในตอนนั้นเอง เสียงระเบิดดังสนั่นดังออกมาจากยอดเขาหลังเรือนที่พัก ฮันหยานหันไปยังทิศทางนั้น เห็นสถานที่ปกคลุมไปด้วยไอเย็นและแสงสีทอง พลังงานทั้งสองสามารถสัมผัสได้จากที่นี่ และมันชัดเจนว่าเป็นการลงมือของสองสิ่ง

 

"หนาว นี่มันคลื่นพลังของหยานเฉินหยู่! นางได้ต่อสู้อย่างรุนแรงอยู่"

 

ท่าทีของฮันหยานเปลี่ยนไป

 

"ไม่นะ ศิษย์พี่หยานกำลังต่อสู้กับใครบางคนอยู่!"

 

หวังหยุนตกใจเช่นกัน

 

แว้บ!

 

ฮันหยานได้กระโดดขึ้นและกลายเป็นแสง แล้วเขาบินไปยังทิศทางที่พักของเจียงเฉิน หวังหยุนและหวงเจิงไม่สามารถบินได้ที แต่พวกเขาตามหลังฮันหยานด้วยความเร็วอย่างมาก

 

เมื่อฮันหยานมาถึงที่นั้น เขาเห็นหยานเฉินหยู่กำลังทรุดลงบนพื้น ใบหน้าของนางซีดเซียว และชุดสีขาวของนางเปื้อนคราบเลือดของนางเอง สภาพนางดูอนาถ

 

"ฮึ่ม! ยัยผู้หญิงสำส่อน… เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงปฎิเสธข้อเสนอของข้า? หากข้าสังหารเจ้าตอนนี้ ไม่มีผู้ใดในนิกายทมิฬที่จะตำหนิข้าได้!"

 

เฟินคุนแค่นเสียงเย็นชา เขาเดินเข้าไปหาหยานเฉินหยู่ที่นอนอยู่บนพื้น นางได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง และพลังชีวิตของนางอ่อนแอมาก สายตาของเฟินคุนดูหื่นกระหาย และมันดูเหมือนว่าหากหยานเฉินหยู่สภาพสาหัสเมื่อใด มันจะมัดตัวนาง

 

"หยุดเดี๋ยวนี้!"

 

ฮันหยานตะโกนออกมาเสียงดัง ตอนนั้นเขาได้ปลดปล่อยพลังปีศาจทะลวงฟ้าและขวางทางเฟินคุนที่จะไปยังหยานเฉินหยู่ ดวงตาเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยว

 

"เฟินคุน เจ้ากำลังทำสิ่งใดกัน?!"

 

ฮันหยานตะโกนออกมาอีกครั้ง ในเวลาเดียวกันพลังปีศาจบรรพการศักดิ์สิทธิ์ได้ห้อมล้อมร่างกายเขา   หวังหยุนและหวงเจิงได้บอกเขาเกี่ยวกับความเกลียดชังระหว่างเฟินคุนและเจียงเฉิน และนี่ทำให้เขามีความประทับใจที่ไม่ดีต่อเฟินคุน    สิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าคือเฟินคุนกำลังคุกคามหยานเฉินหยู่ ตอนนี้นางได้มีบาดแผลร้ายแรงและเขาไม่รู้ว่านางตายหรือยังมีชีวิตอยู่ ฮันหยานจะไม่ให้เฟินคุนเข้าใกล้หยานเฉินหยู่เป็นแน่ ฮันหยานรู้ว่าหยานเฉินหยู่นั้นสำคัญต่อเจียงเฉินมากเพียงใด และด้วยลักษณะนิสัยของเจียงเฉินแล้ว หากว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้นกับหยานเฉินหยู่ภายในนิกายทมิฬ ปัญหามันจะใหญ่โต และเขาอาจทะลวงกระทั่งท้องฟ้าเหนือนิกายทมิฬ (?)

 

"เจ้าคือราชันย์ปีศาจน้อยฮันหยานสินะ? ถ้าคาดไม่ผิดเจ้าได้ทะลวงเข้าสู่แก่นแท้สวรรค์ได้รวดเร็ว แต่ตอนนี้ข้าแนะนำให้เจ้าไสหัวไปจากที่นี่ซะ! อย่าได้พยายามมาขวางทางข้า"

 

เฟินคุนจ้องฮันหยานด้วยท่าทีหยิ่งยโส ด้วยการที่มีปู่ของเขาได้ทำหน้าที่แทนผู้นำนิกายในตอนนี้ เขาสามารถที่จะอาละวาดในนิกายทมิฬได้และไม่มีผู้ใดสามารถทำอะไรเขาได้ด้วย

 

"เฟินคุนหากเจ้ายังเป็นบุรุษอยู่ ตอนนั้นจงเผชิญหน้ากับเจียงเฉินซึ่งๆหน้า! เจ้ามีจุดประสงค์อันใดที่มาข่มเหงเด็กสาว? ข้าจะบอกเจ้าไว้ ข้าฮันหยานยังอยู่ที่นี่วันนี้ อย่าแม้แต่จะคิดว่าเจ้าจะสัมผัสหยานเฉินหยู่ได้!"

 

ฮันหยานกราดเกรี้ยวอย่างมาก เขาปลดปล่อยเพลิงปีศาจรอบตัวเขาและคลุมตัวเขาด้วยพลังของปีศาจศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล มันเป็นพลังโบราณและเหี้ยมโหด และมันทำให้ผู้ที่อยู่ใกล้เขารู้สึกหวาดกลัว

 

เสียงของฮันหยานดังก้อง และศิษย์นอกจำนวนมากได้ยินที่เขาตะโกน แล้วก็การปลดปล่อยพลังออกมามากมาย ความสนใจของทุกๆคนมุ่งมายังที่แห่งนี้

 

"อะไรนะ? เฟินคุนกำลังพยายามทำบางสิ่งกับหยานเฉินหยู่?เขาช่างไร้ยางอาย"

 

"ใช่แล้ว เขาช่างไร้ยางอาย! ฮันหยานจึงได้สอดมือและพยายามที่จะหยุดเขา แต่เขาเพิ่งทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้สวรรค์มิใช่รึ ข้าเกรงว่าเขาจะไม่ใช่คู่มือเฟินคุนน่ะสิ"

 

"มาสิ ไปดูกัน! เจียงเฉินไม่ได้อยู่นิกายทมิฬตอนนี้ ดังนั้นเฟินคุนจึงฉวยโอกาสนี้ทำสิ่งเลวร้ายกับหยานเฉินหยู่ นี่มันช่างเป็นกลยุทธ์ที่ไร้ยางอาย!"

 

…………………………………………………………….

 

ความโกลาหลได้ขยายกว้างขึ้นกว้างขึ้นเรื่อยๆและคนจำนวนมากได้วิ่งตรงมายังฉากนี้เมื่อดูว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้น

 

ภายในเรือนที่พัก หวังหยุนและหวงเจิงได้มาถึงแล้วเช่นกัน แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเฟินคุนที่ทรงพลัง พวกเขาทำได้เพียงยืนดูอยู่ข้างๆ

 

เฟินคุนหลี่ตา พลังปีศาจศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลที่ฮันหยานปล่อยออกมาทำให้เขารู้สึกกลัวเพียงเล็กน้อย แรงกดดันจากปีศาจศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลไม่ใช่เรื่องน่าขัน

 

"ชายผู้นี่มีสายเลือดของปีศาจบรรพกาล และสายเลือดนั่นมันได้ตื่นขึ้นแล้ว หากว่าข้าปล่อยให้เขาได้เติบโตขึ้น เขาอาจจะเป็นสัตว์ประหลาดอีกตัวและเมื่อเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจียงเฉินนั่นหมายความว่า เขาเป็นศัตรูของข้า ข้าสามารถใช้โอกาสนี้ในการสังหารเขา หากข้าไม่ทำ เขาอาจเป็นศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดในอนาคต"

 

เฟินคุนคิดกับตัวเอง เขาได้ตัดสินใจที่จะสังหารฮันหยาน

 

"ฮึ่ม!ฮันหยาน ในเมื่อเจ้ามีสายเลือดของปีศาจบรรพกาลอยู่ในร่างเจ้า เช่นนั้นเจ้าเองก็เดินในเส้นทางของความชั่วร้าย! พวกเรานิกายทมิฬมีชื่อเสียงเกรียงไกร พวกเราไม่สามารถให้คนสารเลวอยู่ที่นี่ได้! ข้าจักสังหารเจ้าในวันนี้ กำจัดแกะดำออกจากนิกายทมิฬ!"

 

 เฟินคุนปลดปล่อยจิตสังหารอันเย็นยะเยือกออกจากร่างกาย และใช้สาเหตุเดียวกันกับที่เขาใช้ในการกล่าวหาเรื่องสังหารเจียงเฉิน

 

"ดูนั่น! เฟินคุนกำลังจะสังหารฮันหยาน! นอกจากนี้หยานเฉินหยู่ยังบาดเจ็บสาหัสและนอนอยู่บนพื้น! เรื่องมันเลวร้ายเสียจริง"

 

"บัดซบ การที่เฟินคุนสามารถอาละวาดได้เพราะปู่ของมัน! ศิษย์พี่ฮันหยานเพิ่งจะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้สวรรค์ แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คู่มือของเฟินคุน! หากเขายังคงฝืนสู้ต่อไป เขาต้องจบชีวิตเป็นแน่ หวงเจิ้งเจ้ารีบไปเรียกท่านผู้อาวุโสกั๋วฉานมาที่นี่เร็วเข้า !"

 

หวังหยุนไม่อาจหยุดตัวเองมิให้สาปแช่งได้

 

"ข้าได้ยินมาว่าผู้อาวุโสกั๋วฉาน ได้ปิดประตูศึกษาวิชาปรุงยาอยู่"

 

ใบหน้าของหวงเจิ้งมืดทะมึน

 

"ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร เจ้าก็ต้องพาเขามาที่นี่ให้ได้! นอกจากผู้อาวุโสกั๋วฉาน คงไม่มีใครสามารถรับมือกับเฟินคุนได้"

 

หวังหยุน พูด

 

"เข้าใจแล้ว"

 

หวงเจิ้งหันตัวกลับแล้วจากไปด้วยความเร่งรีบ เขาวิ่งไปยังหุบเขาผู้อาวุโสกั๋วฉานอย่างเต็มกำลัง

 

หลังจากที่ได้ยินว่าเฟินคุนจะสังหารเขา ท่าทีของฮันหยานแปรเปลี่ยนไป พวกเขาอยู่ในนิกายทมิฬแต่เขาไม่เคยคาดคิดว่าเฟินคุนจะกล้าแม้กระทั่งสัังหารศิษย์ร่วมนิกาย

ตู้ม…!

คลื่นพลังรวมเข้ากับร่างกายของฮันหยาน เงาปีศาจศักดิ์สิทธิ์แห่งบรรพกาลขนาดมหึมาปรากฏขึ้นข้างหลังของเขา มันสูงราวสามเมตร รูปใบหน้าของมันปรากฏออกมาเลือนลาง แต่มันเพียงพอที่จะส่งออร่าที่ดุร้ายออกมา

"เจ้ามันปีศาจจริงๆด้วย เตรียมตัวตายซะ!"

เฟินคุนตะโกนออกมาเสียงดัง ด้วยมือเปล่าของมัน ได้ปลดปล่อยฝ่ามือสีทองขนาดยักษ์ เข้าโจมตีฮันหยาน

"ฮึ่ม!"

ฮันหยานแค่นเสียงเย็นชาออกมา เงาปีศาจศักดิ์สิทธิ์แห่งบรรพกาลได้พุ่งเข้าไปปะทะกับฝ่ามือสีทองของเฟินคุน

ตู้มมม…..

มวลพลังจำนวนมหาศาลทั้งสองได้เข้าปะทะกัน เศษพลังที่แตกกระจายได้พุ่งเข้าไปในเรือนที่พัก ได้ทำลายสิ่งก่อนสร้างทั้งหมด

 

แม้ว่าปีศาจศักดิ์สิทธิ์แห่งบรรพกาลจะทรงพลังเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าฮันหยานได้ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้สวรรค์ เขาก็ไม่ใช่คู่มือของเฟินคุณที่อยู่ขอบเขตแก่นแท้สวรรค์ขั้นสูงสุด เงาปีศาจบรรพกาลได้แตกสลายหายไปในทันที และฮันหยานได้รับผลจากแรงปะทะส่งให้เขากระอักเลือดออกจากปาก เขาถอยหลังไปเพราะมวลพลังอันมหาศาล ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ฮันหยานยังคงปลดปล่อยพลังผลักหยานเฉินหยู่ไปที่ไหนสักแห่งที่ปลอดภัย หวังหยุนและคนอื่นที่ได้สาบานว่าจะติดตามเจียงเฉินได้พานางไปที่ไหนสักแห่งที่ปลอดภัย

 

หลังจากเฟินคุนกระแทกฮันหยานกระเด็นถอยหลังเพียงกระบวนท่าเดียว รอยยิ้มเยาะเย้ยบนใบหน้ามันอัปลักษณ์ยิ่งขึ้น แต่ในเวลาเดียวกัน เฟินคุนก็รู้สึกตกตะลึงภายในใจของเขา

 

'ฮันหยานนั้นแข็งแกร่งจริงๆ พละกำลังการต่อสู้ของมันแข็งแกร่งมากแม้ว่ามันจะเพิ่งจะทะลวงเข้าสู่แก่นแท้สวรรค์ก็ตาม ข้าคิดว่าศิษย์แก่นแท้สวรรค์ขั้นกลางทั่วไปคงไม่ใช่คู่มือเขา ตั้งแต่ที่มันได้ตั้งตนเป็นศัตรูกับข้า สิ่งเดียวที่รอมันอยู่มีเพียง ความตาย!'

 

===================================================

โปรดติดตามตอนต่อไป………….

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "Dragon Marked War God ตอนที่ 150 อาละวาด"

4.2 21 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz