หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

เทพมังกรสงครามอหังการ - Dragon Marked War God ตอนที่ 146 เพลิงราคะของเฟินคุน

  1. หน้าแรก
  2. เทพมังกรสงครามอหังการ
  3. Dragon Marked War God ตอนที่ 146 เพลิงราคะของเฟินคุน
Prev
Next

แปลไทยโดย   Takumi Kun

ตรวจทาน         Takumi Kun

 

****************************************************************************

 

เมื่อได้ยินว่าเจียงเฉินต้องการที่จะสร้างที่พักบริเวณที่รกร้างจางเจิ้นตกใจ สำหรับเมืองสุริยันสีชาด การสร้างที่พักให้เจียงเฉินนี่มันง่ายมาก สำหรับชาวบ้านยิ่งต้อนรับหากเจียงเฉินจะอาศัยอยู๋ที่นี่ แต่สิ่งที่ทำให้จางเจิ้นงุนงงคือเหตุใดเจียงเฉินจึงให้สร้างที่พักบริเวณพื้นที่รกร้าง

"นายน้อยเจียง พื้นที่นั้นรกร้างและไม่มีสิ่งใดอยู่รอบๆ ให้ข้าเลือกทำเลที่ดีเยี่ยมสำหรับสร้างที่พักให้เหมาะกับสถานะของนายน้อยเจียงเถิด"

จางเจิ้นกล่าว

"ใช่แล้ว นายน้อยเจียงท่านเป็นวีรบุรุษของเมืองสุริยันสีชาด พวกเราทุกคนต่างซาบซึ้งในสิ่งที่ท่านได้ทำ พวกเราจะเป็นคนของท่านนับจากนี้ไป! การสร้างคฤหาสน์เป็นสิ่งที่พวกเราสมควรกระทำ แต่พวกเราจะต้องสร้าง ณ สถานที่ที่ดีที่สุดด้วย"

จางเฉวียนได้ออกความคิดเห็นของเขา พื้นที่รกร้างนั้นอยู่ห่างไกลเกินไปและไม่มีผู้ใดอยู่รอบๆ การสร้างคฤหาสน์สำหรับเจียงเฉินที่นั่น มันไม่ใช่ความคิดที่ดี

"ทำตามที่ข้าพูด สร้างคฤหาสน์แบบง่ายๆ ข้าไม่เรื่องมากเกี่ยวกับมันหรอก"

หลังจากที่พูดจบ เจียงเฉินได้เดินจากไป มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้เหตุผลที่จะสร้างคฤหาสน์ที่บริเวณรกร้าง

"นายน้อยเจียงเป็นคนแปลกประหลาด เหตุใดเขาถึงไม่ต้องการพื้นที่ที่ดีกว่านี้กัน และยืนยันที่จะสร้างคฤหาสน์ไว้บริเวณพื้นที่รกร้างอีก?"

จางเฉวียนกล่าว

"พี่เจียงเพียงต้องการที่จะมีสมาธิกับการทำการบ่มเพาะ เขาไม่ใส่ใจกับสภาพแวดล้อมหรอก พวกเจ้าทำตามที่เขาบอกก็พอ"

อี้จื่อฮันกล่าว

"รับทราบขอรับ นายน้อยอี้"

จางเจิ้นและและคนอื่นๆคารวะต่ออี้จื่อฮัน ชายหนุ่มผู้นี้ไม่เพียงแค่เป็นศิษย์ในของนิกายทมิฬ เขายังเป็นนายน้อยของตระกูลอี้ พวกเขาไม่กล้าแสดงการคัดค้านต่อคำพูดของเขา

หลังจากที่เจียงเฉินได้กลับไปยังสถานที่ที่เขาพักอาศัย เขาเริ่มที่จะดูดซับแก่นแท้ปีศาจทั้งสาม แก่นแท้สวรรค์ขั้นต้นทั้งสอง และแก่นแท้สวรรค์ขั้นกลางหนึ่ง นี่เป็นการเก็บเกี่ยวได้อย่างยอดเยี่ยม

เมื่อทักษะร่างแปลงมังกรได้แข็งแกร่งขึ้น ความเร็วที่เจียงเฉินใช้ในการดูดซับวิญญาณอสูรและแก่นแท้ปีศาจได้รวดเร็วขึ้น แก่นแท้ปีศาจทั้งสามได้ถูกเขาดูดซับโดยสมบูรณ์ในช่วงเวลาสั่นๆ มันแข็งแกร่งขึ้น แกร่งขึ้นและสร้างตราประทับมังกรดวงใหม่ ด้วยแก่นแท้ปีศาจทั้งสามนี้ เจียงเฉินสามารถสร้างตราประทับมังกรได้หกดวง

"ตอนนี้ข้ามีตราประทับมังกรเก้าสิบหกดวงในทะเลปราณแล้ว อีกเพียงแค่สี่ดวงมันก็จะครบหนึ่งร้อยดวง แม้นหากข้าหยุดสังหารเหล่าปีศาจโลหิต ในระหว่างที่สร้างคฤหาสน์ ข้ายังคงสามารถทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้สวรรค์ได้โดยการใช้เส้นโลหิตแหล่งพลังงานนี้"

ดวงตาของเจียงเฉินลุกวาว หลังจากที่เดินทางเส้นทางการสังหารและฆ่าฟันมาเป็นเวลานาน ในที่สุดเขาก็สามารถเข้าถึงขอบเขตแก่นแท้สวรรค์ ตราบที่เขาถึงระดับแก่นแท้สวรรค์ พละกำลังการต่อสู้ของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลายก็ไม่ใช่คู่มือเขา

ในคืนเดียวกัน เหล่าปีศาจโลหิตได้หยุดลงมือ เหล่าผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์ต่างคอยจับตาดูอย่างใกล้ชิดรอบๆเมือง ทางตอนเหนือของเมือง ที่รกร้างและเงียบสงัดได้กลายเป็นวุ่นวายในคืนนี้ เหล่าชาวเมืองที่ได้รับการปกป้องจากการบุกจู่โจมได้ยินว่าเจียงเฉินต้องการที่พัก ดังนั้นพวกเขาต่างที่จะเสนอความช่วยเหลือของพวกเขาอย่างเต็มใจ

วันถัดมา ณ เขตนอกนิกายทมิฬ

ณ เรือนที่พักของเจียงเฉิน หยานเฉินหยู่กำลังยืนอยู๋บนยอดเขา อาภรณ์ของนางปลิวไสวจากสายลมภูเขาที่พัดผ่าน และวิสัยทัศน์ของนางได้มองไปยังที่ห่างไกล ความงดงามของนางและใบหน้าที่ละเอียดอ่อนได้เต็มไปด้วยความกังวล

"เป็นเวลาสองวันแล้วที่ท่านพี่เจียงเฉินได้จากไป ข้าสงสัยว่าหากเขาได้ประสบกับอันตราย….ไม่สิ ท่านพี่เจียงเฉินมีความสามารถยอดเยี่ยม เหล่าปีศาจโลหิตไม่ใช่คู่มือเขาหรอก"

หยานเฉินหยู่พึมพำกับตนเอง

ในขณะนั้นเอง เงาของคนได้บินผ่านเหนือท้องฟ้า แต่เขาหันกลับมาและร่อนลงไม่ห่างจากหยานเฉินหยู่ ชายหน้าตาหล่อเหลาและตัวสูง เขาคือเฟินคุน

เหตุที่เขาหันกลับและร่อนลงที่นี่เพราะเขาเห็นถึงใบหน้าหยานเฉินหยู่ สองวันที่แล้วเจียงเหว่ยได้บอกเขาว่าหยานเฉินหยู่งดงามดั่งนางฟ้า แต่เขาไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสที่จะพบนาง เมื่อเขาได้เห็นถึงใบหน้านางโดยบังเอิญ เขาได้ตกตะลึงในความงามของนาง ด้วยความภาคภูมิใจในตัวเฟินคุนเอง เขาได้พ่ายแพ้ต่อรูปลักษณ์ของหยานเฉินหยู่

"เจ้าเป็นใคร"

หยานเฉินหยู่จ้องไปที่เฟินคุน เมื่อนางสัมผัสถึงสายตาที่ชั่วร้าย ช่วยไม่ได้ที่นางจะขมวดคิ้ว

"นามของข้าคือเฟินคุน และข้าคิดว่าเจ้าคือศิษย์น้องหยานเฉินหยู่ ข้าได้พิสมัยศิษย์น้องหยานเป็นเวลานานมาแล้ว! ความงดงามของเจ้าไม่ควรที่จะมีอยู่บนโลก มันหาได้ยากนักที่จะพบหญิงงามเช่นเจ้า"

เฟินคุนยังคงสำรวจเรือนร่างของหยานเฉินหยู่  ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า ช่วยไม่ได้ที่เขาจะเกิดกิเลสตัณหา นอกจากนี้เขาและเจียงเฉินต่างเป็นศัตรู

"เจ้าคือเฟินคุนผู้ที่ต้องการสังหารท่านพี่เจียงเฉิน?"

เมื่อได้ยินนามของเฟินคุน ท่าทีของหยานเฉินหยู่เปลี่ยนไปทันที ความรังเกียจได้ปรากฎขึ้นบนใบหน้านางในทันใด

หยานเฉินหยู่ได้เรียกเจียงเฉินว่า 'ท่านพี่เจียงเฉิน' สร้างความอิจฉาให้กับเฟินคุน ในความคิดของเขาหญิงงามเช่นนี้สมควรที่จะมาอยู่เคียงข้างเขามากกว่า เจียงเฉินไม่เหมาะสมกับหญิงสาวผู้นี้

"ศิษย์น้องหยาน มันเปล่าประโยชน์ที่จะติดตามเจียงเฉิน เหตุใดเจ้าถึงไม่มาติดตามข้าล่ะ?ข้าเป็นผู้นำศิษย์ในและเร็วๆนี้ข้าจะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นศิษย์หลักที่แท้จริง ปู่ของข้าเป็นผู้อาวุโสนิกาย เมื่อเจ้าได้กลายเป็นสตรีของข้าเมื่อใด เจ้าสามารถใช้ทรัพยากรที่มีในนิกายทมิฬได้ตามที่เจ้าปรารถนา!"

เฟินคุนพยายามที่จะเกลี้ยกล่อมนางด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย 

"ไสหัวไป!"

หยานเฉินหยู่ปฎิเสธอย่างไม่ลังเล จากนั้นนางก็หันกลับไปโดยไม่มองเฟินคุนอีกเป็นครั้งที่สอง

เมื่อเห็นเช่นนี้ ท่าทีของเฟินคุนบูดบึ้ง การตอบสนองของหยานเฉินหยู่ได้ทำร้ายความภาคภูมิใจของเขา ทั่วแคว้นฉ๊ ด้วยระดับการบ่มเพาะและศักยภาพของเฟินคุน เขาสามารถได้ตัวหญิงสาวคนใดก็ได้ตามที่เขาปรารถนา แค่เพียงนิกายทมิฬเขาก็ห้อมล้อมด้วยหญิงสาว เขาได้ลดความภาคภูมิใจของเขาลงและพูดคุยดีๆกับหยานเฉินหยู๋ แต่ไม่เพียงนางปฎิเสธเขา นางยังล่วงเกินความภาคภูมิใจของเขาอีกด้วย

"ฮึ่ม! หยานเฉินหยู่ ข้าจะบอกอะไรให้ พี่ใหญ่เจียงเฉินของเจ้าได้ถูกส่งไปฆ่าเจ้าพวกปีศาจโลหิต และข้าแน่ใจว่ามันเป็นเพียงแค่ได้เดินทางไปเท่านั้น การที่มาเป็นสตรีของข้าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว!"

เฟินคุนแค่นเสียงเย็นชา

"ท่านพี่เจียงเฉินจักต้องไม่ตาย! แล้วเจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน?! เจ้าไม่แม้จะเทียบกับท่านพี่เจียงเฉินของข้าได้!"

หยานเฉินหยู่ยังคงประจัญหน้ากับเฟินคุน ในใจของนางไม่มีผู้ใดสามารถแทนที่เจียงเฉินได้ และเฟินคุนผู้นี้บังอาจมาสาปแช่งเจียงเฉินให้ตกตายต่อหน้านาง มันเหมือนเหยียบไปบนเท้าของนาง ความเกลียดชังของนางที่มีต่อเฟินคุนถึงขีดสุด

"จะดีกว่าหากไม่ปฎิเสธข้าและยั่วโมโหข้า ข้าได้สุภาพกับเจ้าแล้วนะ"  (เอ็งคิดว่าตัวเองเป็นใคร!!ของขึ้น!!)

เฟินคุนอารมณ์เสีย

ในตอนนั้นเอง คนผู้หนึ่งได้พุ่งมาด้วยความเร็วสูง และไม่นานก็มาอยู่ข้างๆหยานเฉินหยู่ เขาคือผู้อาวุโสกั๋วฉาน

"เฟินคุนเจ้ามาทำอะไรที่นี่?"

กั๋วฉานจ้องไปยังเฟินคุนแล้วถามด้วยท่าทางเคร่งขรึม

"ท่านผู้อาวุโสกั๋ว ข้าเคียงแค่ผ่านมาและพยายามที่จะทักทายศิษย์น้องหยานเพียงแค่นั้น"

เฟินคุนประสานมือต่อกั๋วฉาน กั๋วฉานเป็นหัวหน้านักเล่นแร่แปรธาตุทั้งหมดในนิกายทมิฬ และสถานะของเขาไม่ด้อยกว่าปู่ของเฟินคุน เขาไม่สามารถที่จะล่วงเกินได้

"เจ้าไม่เป็นที่ต้อนรับของที่นี่ ไสหัวไปซะ และไม่ต้องมาที่นี่อีก"

กั๋วฉานโบกแขนของเขา และพูดออกมาโดยไม่สนใจความรู้สึกของเฟินคุน หากไม่ใช่เพราะเขาไม่ต้องการที่จะยั่วโมโหปู่ของเฟินคุน กั๋วฉานคงจะตบมันกระเด็นไปไกลแล้ว

"เข้าใจแล้ว"

ด้วยรอยยิ้มบนหน้าเขา เฟินคุนหันกลับและออกไป ตอนที่เขาหันกลับ ท่าที่ที่ร้ายกาจได้ปรากฎขึ้นทันที

"ฮึ่ม! เจียงเฉินจักต้องตกตายที่เขตศิลาเหลืองแน่นอน และนังโสเภณีนี่ยังแสดงว่าเป็นเด็กสาวที่ซื่อสัตย์ ผู้ใดกล้าที่จะปฎิเสธและยั่วโมโหข้า?ข้าจะทำให้มันได้พบกับสีบางอย่าง!" (สงสัยหมายถึงเลือด)

ใบหน้าของเฟินคุนเต็มไปด้วยความตั้งใจที่ชั่วร้าย

เมื่อศัตรูได้ลงมือนั้นไม่ได้น่ากลัว แต่ศัตรูที่ซ่อนอยู่ในความมืดที่กำลังวางแผนร้ายนี่เป็นสิ่งที่คนต่างหวาดกลัว ตอนนี้หยานเฉินหยู่ได้ตกเป็นเป้าหมายของเฟินคุน และจะต้องมีปัญหาตามมามากกว่านี้อีกเป็นแน่เร็วๆนี้

เมืองสุริยันสีชาด!

ชาวบ้านต่างใช้เวลาทั้งวันในการก่อสร้างคฤหาสน์ให้เจียงเฉินจนเสร็จ พวกเขากระทั่งตกแต่งที่พักเต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์อีกด้วย

เจียงเฉินได้มาถึงคฤหาสน์ และช่วยไม่ได้ที่เขาจะผงกหัว แม้คฤหาสน์อาจไม่ใหญ่โตมากนัก แต่มันก็ไม่ได้เล็กเท่าไร มันตกแต่งอย่างสวยงาม และมีภาพจิตรกรรมตกแต่งอีกด้วย มันสมบูรณ์แบบและเหมาะสมกับเจียงเฉินอีกด้วย

มีห้องที่ยอดเยี่ยมทั้งหมดหกห้องภายในคฤหาสน์ และส่วนกลางเป็นห้องประชุมที่สวยงามมาก นอกจากนี้ สามารถบอกได้ง่ายๆว่าชาวบ้านนั้นซาบซึ้งต่อเจียงเฉินเพียงใด

"นายน้อยเจียง ไม่ทราบว่าท่านพึงพอใจต่อคฤหาน์ของท่านหรือไม่?"

จางเจิ้นถามด้วยรอยยิ้ม

"อืม เยี่ยมมาก ท่านเจ้าเมือง ขอบคุณสำหรับการทำงานอย่างหนักนะ"

เจียงเฉินตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

"ข้าดีใจที่นายน้อยเจียงชอบมัน หากท่านมีสิ่งใดที่ต้องการในอนาคตนายน้อยเจียงบอกข้าได้ และพวกข้าจะทำให้ดีที่สุดที่จะนำสิ่งนั้นมาให้ท่าน"

จางเจิ้นกล่าว

ในคืนเดียวกัน เจียงเฉินได้วางเบาะไว้ในห้องภายในคฤหาสน์และเชื่อมต่อกับรูปแบบและเส้นโลหิตแหล่งพลังงาน ด้วยสิ่งนี้ เขาสามารถที่จะนั่งดูดซับพลังงานจากเส้นโลหิตพลังงานได้

ในคืนนี้ ชาวบ้านต่างตื่นตกใจ พวกเขารู้ว่าการลงมือของปีศาจโลหิตรอบที่สามนั้นจะต้องมากกว่าสองรอบที่ผ่านมา อาจจะมีหัวหน้าหน่วยที่ทรงพลังมาก็เป็นได้

แต่สิ่งที่ทำให้ชาวเมืองทุกคนมึนงงคือค่ำคืนได้ผ่านไปอย่างสงบสุข ไม่เห็นปีศาจโลหิตแม้แต่ตนเดียว

"น้องเจียง เหล่าปีศาจโลหิตจู่ๆก็เงียบไม่เคลื่อนไหวใดๆ ข้าแน่ใจว่าพวกมันจักต้องมีแผนบางอย่าง"

อี้จื่อฮันกล่าว

"ถูกต้องแล้ว นี่มันดูไม่เหมือนวิธีการของพวกมัน ข้าคาดเดาว่า พวกมันวางแผนที่จะเตรียมการโหมบุกครั้งใหญ่ พวกมันต้องการที่จะทำลายเมืองสุริยันสีชาดในครั้งเดียว อาจจะมีกระทั่งขุนพลปีศาจโลหิตขอบเขตแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลายในการลงมือครั้งถัดไป และบางทีราชันย์จันทราโลหิตอาจมาด้วยตัวเอง"

เจียงเฉินขมวดคิ้ว

"ข้ากังวลเรื่องนั้นเช่นกัน หากเป็นเช่นนั้น ข้าไม่คิดว่าจะสามารถป้องกันตัวพวกเราเองได้"

อี้จื่อฮันเป็นกังวล

"จื่อฮันจงตรวจตราต่อไป  พวกเราจะต้องแน่ใจว่าต้องเอาใจใส่ดูแลความปลอดภัยของชาวเมืองให้ดี ตอนนี้ข้าจะเก็บตัวบ่มเพาะเพื่อที่จะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้สวรรค์ และเมื่อข้าสามารถทะลวงผ่านแล้ว แม้แต่ขุนพลขั้นแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลายมาด้วยตัวเอง ข้าก็จะสามารถรับมือพวกมันได้"

เจียงเฉินพูดด้วยท่าทีจริงจัง การต่อสู้กับปีศาจโลหิตมันจะรุนแรงขึ้น และเจียงเฉินจะต้องทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้สวรรค์ให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพียงเท่านั้นที่เขาจะสามารถรับมือในการต่อสู้ที่จะมาถึงได้

"อะไรนะ? เจ้าจะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้สวรรค์แล้ว?!"

อี้จื่อฮันตะโกนขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อขณะที่เขามองไปยังเจียงเฉิน กระบวนการบ่มเพาะของเจียงเฉินนั้นไม่เคยหยุด เขาได้มายังนิกายทมิฬเมื่อไม่นานมานี้ และตอนนี้เขากำลังจะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้สวรรค์

"ถูกต้องแล้ว"

เจียงเฉินกล่าว

"น้องเจียงนี่เป็นสัตว์ประหลาดการบ่มเพาะโดยแท้ ข้าทำได้เพียงอิจฉาในพรสวรรค์ของเจ้า ข้าหวังว่าน้องเจียงจะทำให้ดีที่สุดในการทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้สวรรค์นะ ตอนนั้นพวกเราจะมาสังหารปีศาจโลหิตด้วยกัน"

หลังจากพูดเสร็จอี้จื่อฮันได้หันหลังกลับและออกไป เจียงเฉินได้เก็บตัวบ่มเพาะ ดังนั้นเรื่องราวทั้งหมดได้อยู่ในความรับผิดชอบของเขา

หลังจากที่อี้จื่อฮันออกไป เจียงเฉินปิดประตูบ่มเพาะตนเองเพื่อทะลวงไปยังขอบเขตแก่นแท้สวรรค์ด้วยการช่วยเหลือของแหล่งพลังงานเส้นโลหิต

"หวงต้า ตอนนี้ข้ากำลังจะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้สวรรค์ ช่วยข้าปกป้องบริเวณโดยรอบนี้ที"

เจียงเฉินกล่าว

"บัดซบ ข้าเหนื่อยแล้ว ตอนนี้ข้าจะหลับล่ะ"

หวงต้าหาวออกมา แล้วมันหันกลับไปยังอีกห้องหนึ่ง

เจียงเฉินตกใจ เมื่อเจ้าหมานี่เหนื่อยและต้องการที่จะนอน มันเป็นสัณญาณของการที่จะทะลวงขั้น

 

" เวร ไม่ใช่ว่าเจ้าหมานี่เพิ่งทะลวงระดับเมื่อไม่กี่วันก่อนงั้นรึ? "

 

เจียงเฉินกลอกตาของเขา เขารู้สึกว่ามีบางอย่างต่ำต้อยกว่า เขาได้พยายามถึงที่สุดในการบ่มเพาะ เขาทั้งปล้นทั้งขโมยแหล่งพลังงานและทรัพยากรจากทุกแห่ง การที่ทะลวงขั้นแล้วขั้นเล่ามันยากเย็นแสนเข็ญ แต่เมื่อเทียบกับเจ้าหมานี่ มันช่าง………ช่างมันเถอะ มันเสียเวลาที่จะเทียบกับเจ้าหมานี่

 

**************************************************************************

โปรดติดตามตอนต่อไป……………

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "Dragon Marked War God ตอนที่ 146 เพลิงราคะของเฟินคุน"

4.2 21 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz