หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

เทพมังกรสงครามอหังการ - Dragon Marked War God ตอนที่ 138 เสียสติ

  1. หน้าแรก
  2. เทพมังกรสงครามอหังการ
  3. Dragon Marked War God ตอนที่ 138 เสียสติ
Prev
Next

แปลไทยโดย  Takumi Kun

ตรวจทาน        Takumi Kun

 

**************************************************************************

 

เมฆอันหนาทึบฟ้าที่มืดลง และเสียงกรีดร้องได้หายไปแล้ว หุบเขาที่อยู่ตรงหน้าให้ความรู้สึกที่น่ากลัวเมื่อถึงยามเที่ยงคืน อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดภายในหุบเขานั้นน่ากลัวยิ่งกว่า

ปีศาจโลหิตทั้งสาม มีดวงตาสีแดงโลหิต สวมชุดสีดำและแยกเขี้ยวอันแหลมคมขณะที่พวกมันจ้องมองเหยื่อที่อยู่ตรงหน้ามัน วิธีการมองของมันน่ากลัวยิ่งนัก เหมือนกับว่าพวกมันเป็นปีศาจที่แท้จริงจากขุมนรก

ชายสองคนได้นอนอยู่ตรงหน้าพวกมัน พวกเขาทั้งคู่ตายอย่างอนาถ แต่ละคนมีรูเล็กๆอยู่ที่คอ แต่ไม่มีเลือดออกจากแผล นั่นเพราะว่าเลือดของพวกเขาโดนดูดจนเหือดแห้ง

 

"เคี้ยกเคี้ยก เลือดของมนุษย์นี่อร่อยดีแท้"

 

ปีศาจโลหิตตัวหนึ่งหัวเราะแปลกๆ เสียงของมันแหบและน่ากลัวและมันทำให้ผู้ที่ได้ยินหนาวไปจนถึงไขสันหลัง มันแลบลิ้นสีแดงเลียเขี้ยวของมัน เพียงแค่มันขยับแม้แต่ทารกที่ร้องอยู่ก็หยุดในทันใด

สี่คนที่อยู่ด้านตรงข้ามกับปีศาจโลหิต พวกเขามีเด็กหนุ่มสามคนและเด็กสาวอีกหนึ่งคนที่มีระดับการบ่มเพาะทั่วๆไป  คนหนึ่งอยู่ที่ขอบเขตแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้น ส่วนอีกสองคนอยู่ระดับฉีไห่ขั้นสูงสุด เด็กสาวสวมชุดสีน้ำเงิน และนางมีอายุราวๆสิบสี่ถึงสิบห้าปี นางหวาดกลัวมาก นางไม่สามารถที่จะหยุดสั่นได้และใบหน้าของนางซีดเซียว

"เคี้ยกเคี้ยก…. ไม่ต้องรอแล้ว!พวกเราจะดูดเลือดของชายทั้งสาม!สำหรับเด็กผู้หญิง นำนางไปสังเวยให้แก่หัวหน้า!"

ปีศาจโลหิตอีกตัวหัวเราะเสียงดัง

"เสร็จกัน พวกเราตายแน่คราวนี้!"

ทั้งสี่คนหวาดกลัวอย่างมาก ปีศาจโลหิตที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาเหล่านี้พวกมันอยู่ขอบเขตแก่นแท้มนุษย์ทั้งหมด วิธีการของพวกมันทั้งโหดเหี้ยมทั้งโหดร้าย ไม่มีทางที่พวกเขาจะจัดการพวกมันได้เลย

ปีศาจโลหิตทั้งสามมีรอยยิ้มโหดร้ายบนหน้าพวกมัน ดวงตาสีแดงของพวกมันส่องประกายและมีออกร่าแปลกๆ พวกมันเคลื่อนตัวเข้าใกล้เหยื่ออย่างช้าๆ และขณะที่พวกมันทำเช่นนั้นพวกมันก็เลียเขี้ยวทั้งคู่ของพวกมัน ทำให้เหยื่อหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม เมื่อพวกมันเห็นเหยื่อหวาดกลัวยิ่งกว่าเก่า รอยยิ้มโหดร้ายยิ่งมีมากขึ้นบนหน้าของมัน ดูเหมือนว่าพวกมันไม่รีบที่จะสังหารเหยื่อ และพวกมันต้องการให้เหยื่อหวาดกลัวถึงขีดสุดก่อนที่จะดื่มเลือดพวกเขา เพราะมันจะทำให้เลือดนั้นอร่อยยิ่งขึ้น

"เจ้าพวกปีศาจพวกนี้มันไม่ใช่คน พวกมันทรมานอย่างเหี้ยมโหดและสังหารผู้คนในเมืองของพวกเรา!สู้ตายกับพวกมันกัน!"

วัยรุ่นชายแก่นแท้มนุษย์มีท่าทางขยะแขยงบนใบหน้าเขา นี่เป็นสัญชาตญาณการอยู่รอดของเขา เมื่อมนุษย์รู้ว่ากำลังจะต้องตายไม่ว่าอย่างไรก็ตาม กระทั่งในวินาทีสุดท้าย เขาก็จะพยายามจนถึงที่สุดเพื่อที่จะได้อยู่ต่อ

"เคี้ยกเคี้ยก…."

พวกปีศาจโลหิตหัวเราะ ตอนที่พวกมันอ้าปากเพื่อที่จะกัดลงไปที่มนุษย์ด้วยเขี้ยวของพวกมัน ตอนนั้นเองมีแสงสีทองสองสายลงมาจากท้องฟ้า

ตึง! ตึง!

ตามด้วยเสียงดังตึงสองครั้ง ปีศาจโลหิตทั้งสองที่ยืนอยู่ด้านหน้าคนหนุ่มสาวหลั่งเลือดทุกๆที่ แสงสีทองทั้งสองได้ตัดร่างของพวกมันทั้งคู่ขาดครึ่ง ชิ้นเนื้อสี่ชิ้นได้ร่วงหล่นบนพื้น และพวกมันยังบิดเบี้ยวกับกระตุกอยู่

 

"อ๊า!"

 

 ชัดเจนว่าเด็กสาวไม่เคยพบเห็นฉากนองเลือดมาก่อน นางหวาดกลัวอย่างมากนางกระทั่งยืนไม่ไหว นางทรุดตัวลงพร้อมร่างที่สั่นเทา นางได้เกือบเป็นลมเมื่อเห็นเพื่อนของนางถูกปีศาจโลหิตสังหาร ตอนนี้หลังจากที่ได้เห็นปีศาจโลหิตทั่งสองโดนฟันขาดครึ่ง และอวัยวะภายในของพวกมันได้กระเด็น ปลิวกลางอากาศ ส่งกลิ่นฉุนออกมา นางไม่สามารถที่จะพยุงตัวเองขึ้นได้

เด็กหนุ่มทั้งสามเองก็หน้าซีดเช่นกัน พวกเขาพยายามที่จะไม่อาเจียนออกมา แต่ในเวลาเดียวกันพวกเขารู้สึกปิติยินดีและมีความสุขในใจ แสงสีทองเหล่านี้ได้สังหารปีศาจโลหิตต่างปลดปล่อยพลังหยางบริสุทธิ์ออกมา และแท้จริงแล้วพวกเขาอยู่ฝั่งด้านสว่าง พวกเขาทั้งสามไม่ได้โง่ พวกเขารู้ว่ามีใครบางคนมาช่วยพวกเขา

"นั่นใคร?"

ท่าทีของปีศาจโลหิตเปลี่ยนไป มันตะโกนออกมาทันทีพร้อมเงยหน้า ในวินาทีต่อมามันเห็นทั้งสองได้ลงมาจากท้องฟ้ามาอยู่ต่อหน้ามัน

 

แม้ว่าปีศาจโลหิตจะโหดร้ายผิดมนุษย์ แต่พวกมันไม่ได้ปัญญาอ่อน พวกมันคล้ายคลึงกับสัตว์อสูรที่มีสติปัญญา นอกจากนี้ก่อนที่จะมาเป็นปีศาจโลหิต พวกมันเคยเป็นมนุษย์มาก่อน

 

ปีศาจโลหิตสามารถสัมผัสพลังมหาศาลจากคนและหมาที่อยู่ตรงหน้ามันได้ พลังที่ปลดปล่อยออกมาโดยไม่รู้ตัวทำให้มันหวาดกลัวอย่างมาก หากชายหนุ่มตรงหน้ามันต้องการที่จะสังหารมัน มันไม่มีแม้ความกล้าที่จะสู้กลับ

"ปีศาจโลหิตงั้นรึ? ช่างเป็นการดำรงอยู่ที่น่าขยะแขยงเสียจริง"

เจียงเฉินพูดอย่างไม่แยแส คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่มีต่อปีศาจโลหิต ปีศาจโลหิตนี่ดูน่าขยะแขยงยิ่งกว่าปีศาจตัวจริงเสียอีก

"เจ้า เจ้าเป็นใครกัน?"

ปีศาจโลหิตพูดเสียงสั่น มันไม่สามารถแสดงด้านความเหี้ยมโหดออกมาต่อหน้าเจียงเฉิน

เจียงเฉินไม่พูดสิ่งใด เขาเหลือบมองไปยังศพทั้งสองที่กลายเป็นมัมมี่เพราะเลือดทั้งร่างของพวกเขาถูกดูดไปทั้งหมด ทันใดนั้น ความกราดเกรี้ยวอย่างมากได้ปรากฎขึ้นที่ดวงตาของเขา หลังจากได้เห็นถึงความเหี้ยมโหดและโหดร้ายของปีศาจโลหิต เจียงเฉินตัดสินใจได้ว่า เขาจะสังหารสิ่งมีชิวิตที่น่าขยะแขยงพวกนี้ทุกตัวและจะไม่ให้มีตัวไหนรอดได้

"หวงต้า ทรมานมันทีละน้อย แต่อย่าสังหารมันล่ะ"

เจียงเฉินพูดด้วยท่าทางโหดเหี้ยม เมื่อปีศาจโลหิตใช้วิธีการอันเหี้ยมโหด เจียงเฉินต้องการให้หวงต้าสอนมันถึงความเหี้ยมโหดและความโหดร้ายของจริงมันเป็นเช่นไร

ตอนนั้นเองหลังจากที่เจียงเฉินพูดจบ หวงต้าได้กระโจนกดปีศาจโลหิตลงกับพื้นทันทีด้วยร่างกายอันแข็งแกร่งและหนักหน่วงของมัน

กร้อบ! อ๊าาาากกกก

เสียงกรีดร้องดังอย่างน่ากลัวภายในหุบเขา หวงต้าได้กัดไปที่แขนข้างหนึ่งของปีศาจโลหิตและฉีกกระชากขาด กระดูกของมันเผยออกมา เลือดของมันพุ่งออกมาดั่งน้ำพุ คืนเดือนมืดได้ย้อมไปด้วยสีอันโหดร้าย

หวงต้าแสดงท่าทีเหี้ยมโหดออกมา ด้วยการกัดอีกครั้งแขนข้างสุดท้ายของปีศาจโลหิตได้หายไป มันกรีดร้องขณะที่พยายามดิ้นรน แต่เทียบกับหวงต้าแล้ว มันอ่อนแอเกินไป มันไม่สามารถแม้แต่จะขยับตัวได้เมื่ออยู่ภายใต้แรงกดดันของพลังหวงต้า

หวงต้าได้ใช้กรงเล็บอันแหลมคมของมันได้ทิ้งแผลลึกทั้งสองไว้ที่อกของมัน แผลนั่นเกือบเห็นทุกอย่างที่อยู่ภายในร่างของมัน และมันน่าหวาดกลัวอย่างมาก

หวงต้าได้ปลดปล่อยความเหี้ยมโหดดั้งเดิมของมัน แสดงให้เห็นถึงความโหดเหี้ยมที่ซ่อนอยู่ของสัตว์อสูร การใช้กรงเล็บคู่ของมัน มันได้ข่วนไปยังร่างของปีศาจโลหิต เพียงแค่ไม่กี่วินาที ร่างของปีศาจโลหิตขาดวิ่นอย่างรุนแรง

"ไอ้เวร เจ้าชอบดื่มเลือดอย่างนั้นสินะ? ข้าจะหักเขี้ยวเจ้าซะ!"

หวงต้าสาปแช่ง มันอ้าปากของมันและปล่อยลำแสงสีทองออกมา แสงสีทองได้เข้าปะทะกับเขี้ยวยาวทั้งสองของปีศาจโลหิตและมันได้หักในทันที เลือดไหลท่วมปากของปีศาจโลหิต และมันกระทั่งหยุดไม่ให้มันกรีดร้องออกมา

อ้บ…..

ชายหนุ่มทั้งสามที่รอดพ้นความตายมาได้ไม่สามารถที่จะอดทนฉากนองเลือดได้อีก และพวกเขาเริ่มที่จะอาเจียนออกมา ในที่สุดเด็กสาวก็มีปฎิกิริยา ใบหน้าของนางซีดเซียวเพราะนางอาเจียนไปมาก ชายหนุ่มแก่นแท้มนุษย์มีปฎิกิริยาดีที่สุดเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ แต่ท่าทางน่ากลัวของเขาได้ขัดแย้งกับความรู้สึกที่แท้จริงของเขา

"พอได้แล้ว อย่าเพิ่งให้มันตาย"

ด้วยน้ำเสียงไม่แยแส เจียงเฉินบอกหวงต้าให้หยุด แน่นอนว่าหวงต้าไม่ลืมที่จะถุยน้ำลายใส่ปีศาจโลหิตก่อนที่มันจะหยุดโดยสมบูรณ์

เจียงเฉินหันกลับไปมองยังคนทั้งสี่ และถามด้วยรอยยิ้ม "พวกเจ้ามาจากที่แห่งใดงั้นหรือ?ปีศาจโลหิตได้ปรากฎตัวขึ้นนานเท่าไรแล้ว?"

เมื่อมองไปยังชายหนุ่มหน้าตาดีด้วยใบหน้าละเอียดอ่อน ความหวาดกลัวของทั้งสี่ได้บรรเทาลง

"ท่านผู้มีพระคุณ พวกข้ามาจากเมืองสุริยันสีชาด ปีศาจโลหิตเหล่านี้มีจำนวนมากในเขตศิลาเหลืองตั้งแต่เมื่อสองวันที่ผ่านมา และพวกข้าไม่รู้ว่าพวกมันมีจำนวนมากเท่าใด ผู้คนจำนวนมากในเมืองได้ตกเป็นเหยื่อของพวกมัน และพวกข้ากำลังจะไปยังเมืองศิลาเหลืองเพื่อขอความช่วยเหลือ พวกข้าไม่คาดเลยว่าจะพบปีศาจโลหิตระหว่างทางและพวกข้าเกือบจะถูกฆ่าตายไปแล้ว ขอบพระคุณที่ช่วยชีวิตพวกข้าเอาไว้"

ชายหนุ่มพูด

"เจ้ามีนามว่าอันใด?"

เจียงเฉินถาม

"ท่านผู้มีพระคุณ ข้ามีนามว่า จางเหว่ย"

ชายหนุ่มนามว่าจางเหว่ยพูด เขามีท่าทีเคารพต่อเจียงเฉิน ในความคิดของเขา เจียงเฉินจะต้องเป็นคนที่ไม่ธรรมดา ปีศาจโลหิตที่ทรงพลังกลายเป็นเพียงหุ่นเชิดในกำมือของเขา และพวกมันไม่แม้จะสามารถทนได้แม้เพียงกระบวนท่า

"ข้าคือเจียงเฉินจากนิกายทมิฬ เหตุที่ข้ามาที่นี่คือสังหารปีศาจโลหิตเหล่านี้ ข้าจะตามเจ้ากลับไปยังเมืองสุริยันสีชาดและจัดการเจ้าพวกบ้านั่น"

เจียงเฉินอธิบายแก่จางเหว่ย เมื่อปีศาจโลหิตได้ปรากฎขึ้นมาเมื่อสองวันที่แล้ว ไม่ว่าพวกมันจะมีมากเพียงใด พวกมันไม่สามารถอยู่ทุกที่ในเขตศิลาเหลืองได้ เจียงเฉินต้องการให้เมืองสุริยันสีชาดเป็นสนามรบระหว่างตัวเขาเองและปีศาจโลหิต นอกจากนี้เขาไม่อาจเพิกเฉยเมืองสุริยันสีชาดที่กำลังจะเผชิญกับอันตรายได้

"อะไรนะ ท่านมาจากนิกายทมิฬ?"

จางเหว่ยตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ เมื่ออีกสามคนได้ยินว่าเขามาจากนิกายทมิฬ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความปิติยินดี และหลังจากที่พวกเขาได้ยินว่าเจียงเฉินมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือพวกเขา พวกเขายิ่งมีความสุขมากขึ้น ตอนนี้ทั่วทั้งเมืองสุริยันสีชาดตกอยู่ในอันตรายอย่างมาก และเหตุที่พวกเขาออกจากเมืองเพื่อขอความช่วยเหลือจากเมืองศิลาเหลือง แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะพบกับศิษย์จากนิกายทมิฬระหว่างทาง

ในความคิดของพวกเขา ทุกๆคนจากนิกายทมิฬจะเป็นตัวตนที่เกรียงไกร การได้รับการช่วยเหลือจากนิกายทมิฬ เป็นทางเลือกที่ดีกว่าการได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลต่างๆในเมืองศิลาเหลือง 

"ท่านผู้มีพระคุณขอรับ มีเด็กสาววัยรุ่นได้หายตัวไปจากเมืองพวกเราเมื่อวานและตอนนี้ พวกปีศาจโลหิตบอกว่าจะสังหารพวกเราก่อนและจะพาตัวเซียวหลิงไปเซ่นสังเวยให้แก่ผู้นำพวกมัน ข้าคาดว่าเหล่าเด็กสาวที่หายตัวไปจักต้องเป็นส่วนหนึ่งของการบูชายันเป็นแน่"

จางเหว่ยดูฉลาดเฉลียวใช้ได้ เด็กสาวนามเซียวหลิงที่อยู่ข้างเขายังคงมึนงง นางยังไม่ฟื้นจากความตกใจ

"อืม"

เจียงเฉินผงกหัว แล้วเขากางแขนออกมาแล้วกระชากปีศาจโลหิตจากนั้นเขาก็ถาม

 

"บอกข้ามาซะว่าการสังเวยมันคือสิ่งใด และเหล่าเด็กสาวที่หายไปอยู่ที่ไหน หากเจ้าไม่ปริปากพูด ข้าจะแร่เนื้อเจ้าออกทีละชิ้นทีละชิ้น"

เจียงเฉินพูดอย่างใจเย็น แต่มีท่าทีไม่อาจที่จะปฎิเสธได้

"มันเป็นท่านผู้นำ! ผู้นำของพวกข้าบ่มเพาะทักษะเรียกว่าสังเวยโลหิต และเขาต้องการเด็กสาวที่บริสุทธิ์ใช้ในพิธีบวงสรวง! ตอนนี้พวกเขาอยู่ส่วนลึกของภูเขานี้"

ปีศาจโลหิตตนนี้ไม่กล้าที่จะปิดบังใดๆทั้งสิ้น  มันรีบบอกทุกอย่างที่รู้แก่เจียงเฉินในทันที

"พาข้าไปที่นั่นซะ"

เจียงเฉินจับปีศาจโลหิตตนนั้นแล้วบินขึ้นฟ้า ก่อนที่เขาจะไป เขาหันมาแล้วบอกหวงต้า "หวงต้า เจ้าอยู่ที่นี่และปกป้องพวกเขา ข้าจะกลับมาเร็วๆนี้"

ไม่กี่ร้อยไมล์ห่างจากเจียงเฉิน มีหุบเขาที่เงียบมาก มันมีหินก้อนใหญ่ขวางอยู่ด้านบนสุดของหุบเขา มันดูลึกลับกว่าหุบเขาที่เจียงเฉินอยู่ตอนนี้

ภายในหุบเขามีแท่นบูชาสีดำสูงสามเมตรอยู๋ บนแท่นบูชามีรูปปั้นปีศาจโลหิตขนาดยักษ์อยู่และมีควันดำออกมาจากมัน

มีปีศาจโลหิตนั่งอยู่ตรงกลางแท่นบูชา ผิวของมันเต็มไปด้วยโลหิตหนาแน่นและปราณแพร่กระจายดั่งใยแมงมุม ภายใต้ร่างกายของมัน มีเด็กสาววัยรุ่นร่างสั่นเทาอยู่ ตาดำของนางไร้แววและไร้ชีวิตชีวา เลือดของนางถูกดูดออกไปทีละนิดทีละนิด

ด้านนอกแท่นบูชา มีปีศาจโลหิตสิบตนสวมชุดสีดำกำลังยืนอย่างเคร่งขรึม ข้างๆพวกมันมีเด็กสาววัยรุ่นผู้อ่อนแอเจ็ดถึงแปดคน เมื่อเด็กสาวเห็นสิ่งที่เกิดที่แท่นบูชา ความหวาดกลัวในใจพวกนางถึงขีดสุด พวกนางช่วยไม่ได้ที่จะร้องไห้และกรีดร้องออกมา พวกนางต่างหมดหวังที่จะได้รับความช่วยเหลือ และพวกนางต่างภาวนาว่าขอให้คนถัดไปไม่ใช่ตน

 

**************************************************************************

โปรดติดตามตอนต่อไป…………….

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "Dragon Marked War God ตอนที่ 138 เสียสติ"

4.2 21 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz