หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

เทพมังกรสงครามอหังการ - Dragon Marked War God ตอนที่ 106 มีตาแต่หามีแววไม่

  1. หน้าแรก
  2. เทพมังกรสงครามอหังการ
  3. Dragon Marked War God ตอนที่ 106 มีตาแต่หามีแววไม่
Prev
Next

 

แปลไทยโดย           Subaru-Kyun

ตรวจทาน                 Subaru-Kyun

=====================================================

          เมื่อเจียงเฉินเห็นชายทั้งสาม เขาก็ได้ลอบตรวจสอบพลังของพวกมันเขาพบว่าทั้งหมดเป็นมีระดับเพียงฉีไห่ พวกมันเป็นเพียงศิษย์ฝึกหัดเท่านั้น เป็นแค่ศิษย์ระดับต่ำที่สุด เหล่าศิษย์นอกทั้งหลายคงไม่มายืนคุ้มกันหน้าทางเข้าหรอก

          อย่างไรก็ตามพวกมันก็เป็นศิษย์ของนิกายทมิฬ แม้ว่าจะเป็นแค่ศิษย์ฝึกหัดก็เพียงพอให้ใครต่อใครภาคภูมิใจในตัวพวกมัน เหล่าผู้มีความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นศิษย์ใน หรือศิษย์นอกต่างเคยผ่าน ณ จุดๆนี้มาก่อน

"เจ้าเป็นใคร? กล้าดียังไงถึงได้บุกรุกเข้ามายังนิกายทมิฬ? หรือว่าเจ้าอยากรนหายที่ตายกันหา?"

ชายร่างอ้วนพูดขึ้นด้วยเสียงหยิ่งยโส ราวกับตัวมันเป็นราชา

          เมื่อเห็นการตอบสนองของพวกมัน มันทำให้เจียงเฉินรู้สึกขบขันยิ่งนัก ศิษย์ของนิกายใหญ่นี่ช่างแตกต่างจากคนอื่นเสียจริง    วิธีการที่พวกมันแสดงความเย่อหยิ่งออกมาน่าประทับใจมากกว่าคนอื่นเสียอีก

          ขณะที่เจียงเฉินกำลังจะบอกชื่อของเขา เขาก็เห็นศิษย์คนหนึ่งกำลัง เมื่อตาของมันมองไปยังเรือนร่างของหยานเฉินหยู่ ดวงตาของมันก็ส่องประกาย

" เฮ้! สาวน้อยมาที่นิกายทมิฬมีเรื่องอะไรหรือ? ถ้าไม่ว่าอะไรบอกพี่ชายคนนี้สิ พี่ชายคนนี้สามารถช่วยเจ้าได้นะ! "

          ศิษย์คนนั้นยิ้มให้หยานเฉินหยู่ แต่หารู้ไม่ ว่ามันได้แตะต้องในสิ่งที่ไม่สมควรจะแตะต้อง

" เวลามองน่ะ เจ้าควรดูให้ดีๆก่อนเถอะ "

          เจียงเฉินจ้องไปยังศิษย์คนนั้นแล้วพูดออกมาตรงๆ จากนั้นเขาก็เดินขึ้นหุบเขาต่อหากไม่ใช่ว่าพวกเขาเป็นศิษย์นิกายทมิฬ พวกมันคงตายจากการกระทำของมันไปแล้ว

" มัน***อะไรเนี่ย? เจ้าเด็กนี่มันคิดว่ามันเป็นใคร ถึงได้เย่อหยิ่งถึงเพียงนี้? มันถึงกล้ามากร่างในนิกายทมิฬของเรา? "

" เจ้าเด็กเหลือขอ หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ! "

          ศิษย์ทั้งสามกรอกตาของพวกมัน จากนั้นพวกมันก็เข้ามาขวางทางเจียงเฉินไว้ ชายอ้วนได้แสดงท่าทีรุนแรงออกมา เจ้าเด็กไม่รู้หัวนอนปลายเท้า กล้ามากร่างในนิกายทมิฬ เท่ากับหาที่ตาย

" หลีกทางไปซะ "

          คิ้วของเจียงเฉินถึงกับขมวดขึ้น เขาต้องการที่จะสุภาพด้วย แต่พวกมันกลับทำให้เขาต้องผิดหวัง

" บัดซบ เจ้าเด็กนี่มันโอหังเกินไปแล้ว! '

ชายร่างอ้วนตวาดออกมา

เพี๊ยะ…!!

          หลังจากชายร่างอ้วนพูดจบ ใบหน้าของมันก็ได้ถูกตบด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าฟาด เสียงดังเกิดขึ้นเมื่อใครบางคนถูกตบ ชายร่างอ้วนที่หนักกว่า 200 ปอนด์ร่วงลงสู่พื้นแล้วกรีดร้องอย่างเจ็บปวด

" เจ้ากล้าดียังไงถึงมาทำร้ายคนของนิกายทมิฬ? รนหาที่ตาย! "

          ชายอีกคน เมื่อเห็นชายหนุ่มที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้ากล้าที่จะทำร้ายศิษย์ของนิกายทมิฬ แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่มันจะพูดจบ มันก็ถูกตบและร่วงสู่พื้น เฉกเช่นเดียวกับชายร่างอ้วน

          ชายคนสุดท้าย มันถึงกับอ้าปากค้าง มองเจียงเฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อ สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วได้ทำให้มันตกตะลึง มันไม่เคยพบเก็นผู้ใดกล้าทำร้ายศิษย์นิกายทมิฬที่นี่มาก่อน นี่เป็นเรื่องที่น่าขันเสียจริง

" เจ้า…เจ้า…เจ้า…รออยู่ตรงนี้ก่อนล่ะ รอข้าตรงนี้ก่อน! "

ศิษย์คนสุดท้ายตอบ ก่อนหันหลังรีบวิ่งขึ้นไปยังยอดเขา

" ก๊ะก่ะ สหายเอ๋ย มันคงไปเรียกใครมาช่วยซะล่ะมั้ง! "

หวงต้าถึงกับหัวเราะดังลั่น

" ข้าไม่นึกเลยว่าเมื่อเรามาถึงจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น น่าผิดหวังเหลือเกิน "

หยานเฉินหยู่ถึงกับทำหน้ามุ่ย

" เราสามารถใช้โอกาสนี้สร้างชื่อเสียงของพวกเราได้ เราจะรออยู่ที่นี่ ดูสิว่ามันจะสามารถร้องขอให้กวนอี้หยุนช่วยมันได้หรือไม่ "

          เจียงเฉินกอดอก รอยยิ้มบางๆปรากฏบนหน้าของเขา เขาไม่วิ่งขึ้นไปยังยอดเขา แต่เขากำลังรอใครสักคนมาเชิญเขาขึ้นไป

          หลังจากนั้นไม่นาน ศิษย์สวมชุดสีขาวประมาณ 7-8 คนลงมาจากยอดเขาด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด ชายที่เป็นผู้นำมีรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเครา ถัดจากนั้นคือศิษย์ที่ไปขอความช่วยเหลือ

" พวกมันทั้งหมดเป็นศิษย์ฝึกหัดที่อยู่เพียงขอบเขตฉีไห่ ยังไม่แข็งแกร่งพอสำหรับพวกเรา "

          หวงต้านั่งลงบนก้อนหินที่ถัดจากเจียงเฉิน ขณะที่หางของมันกระดิกไปมาอย่างสบายอารมณ์

" ศิษย์พี่หลิว เขานั่นแหละ ที่ทำร้ายพวกเรา! "

          ศิษย์คนเดิมได้ชี้นิ้วของมันไปยังเจียงเฉิน เมื่อศิษย์พี่หลิว ได้เห็นชายสองคนนอนกองอยู่บนพื้นก็แสดงท่าทีกราดเกรี้ยวออกมา แล้วมันก็จ้องเจียงเฉินด้วยความโกรธ

          ศิษยพี่หลิว ค่อนข้างมีชื่อเสียงในหมู่ศิษย์ฝึกหัด การบ่มเพาะของเขามาถึงจุดสูงสุดของขอบเขตฉีไห่แล้ว ส่วนศิษย์ฝึกหัดคนอื่นที่ตามมาก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงในศิษย์ฝึกหัดเช่นกัน

" เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้ารู้หรือไม่ว่าที่นี่เป็นที่ใดกัน "

          ศิษย์พี่หลิวยืนอยู่หน้าเจียงเฉิน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

" ไสหัวไป เจ้าไม่คู่ควรที่จะมาพูดกับข้า "

เจียงเฉินพูดออกมาอย่างไม่แยแส

" #8@!&*? "

          หลิวโกรธเกรี้ยวอย่างมาก ด้วยสถานะของมัน ไม่มีใครในหมู่ศิษย์ฝึกหัดกล้าสบประมาทมัน แต่เจ้าเด็กเหลือขอนี่ที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้านี่ กล้าไล่มันให้ไสหัวไป บัดซบ ! ที่นี่มันในอาณาเขตของนิกายทมิฬเชียวนะ(เว้ย)

" ข้าว่าเจ้ากำลังรนห……….. "

เพี๊ยะ..!

          เหมือนกับที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ศิษย์พี่หลิวพูดยังไม่ทันจบก็โดนตบ ร่วงลงสู่พื้น เหล่าศิษย์ที่เหลือต่างแสดงท่าทีไม่อยากจะเชื่อ ศิษย์พี่หลิวที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ศิษย์ฝึกหัด แต่ถูกชายหนุ่มคนนี้ตบทีเดียวเท่านั้น ชายหนุ่มคนนี้แข็งแกร่งมาก

          ไม่มีเวลาให้พวกเขาตกตะลึง เจียงเฉินก็พุ่งไปข้างหน้าแล้วก็ ตบ แล้วก็ตบ ตบ ตบ ตบ ตบ……

.

          เสียงดังที่เกิดจากการตบดังกระหึ่มราวกับเสียงระเบิดจากประทัด ชายทั้ง 7-8 คนนี้ได้กระจัดกระจายกันอยู่บนพื้น มีเสียงโอดครวญดังออกมาจากศิษย์ทุกคนที่นอนอยู่บนพื้น

          ศิษย์ฝึกหัดที่ไปขอความช่วยเหลือที่ยืนอยู่ตรงนี้ แต่ในเวลานี้ตกใจจนตัวสั่นไปหมด มันช่วยไม่ได้หากได้เห็นสถานการณ์เช่นนี้ต่อหน้า และคิดว่าชายหนุ่มตรงหน้าเขาโหดร้ายอะไรเช่นนี้ เขาไม่พูดอะไรมาก เขาเพียงแค่ตบพวกมันทันทีที่มาถึง

" กลับไป ไปเรียกมาอีก "

เจียงเฉินยิ้ม

" ก็ได้ ก็ได้ ! เจ้ารออยู่ตรงนี้! "

          ศิษย์คนนั้นกลัวจนตัวสั่น มันวิ่งขึ้นไปบนยอดเขาอีกครั้งด้วยความเร็วสูง หลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีชายอีกสามคนลงมาจากยอดเขา นอกจากนี้ยังมีศิษย์ที่ไปขอความช่วยเหลือลงมาด้วย มีเพียงชายหนุ่มสองคนที่ลงมาเพิ่มเติม

          ชายหนุ่มที่สองเย่อหยิ่งเป็นอย่างมาก การบ่มเพาะของพวกมันนั้นแข็งแกร่ง ทั้งคู่ไปถึงแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้น และเป็นศิษย์นอกของนิกายทมิฬ

          ภายในนิกายทมิฬ ความแตกต่างระหว่างศิษย์ฝึกหัดกับศิษย์นอกนั้นมากมายมหาศาล มันเหมือนความแตกต่างระหว่างศิษย์นอกกับศิษย์ใน สถานะของพวกมันไม่สามารถเทียบกันได้เลย

" ศิษย์พี่หวง ดูนั่น ชายคนนั้นเป็นคนจัดการพวกเรา ! "

          เมื่อศิษย์นอกได้เห็นจำนวนคนที่นอนเกลื่อนอยู่บนพื้น ก็ได้กระตุ้นโทสะของพวกมันให้เดือดขึ้น ในสายตาของศิษย์พี่หวงมองไปยังเจียงเฉินแล้วประเมินเขา เขาต้องการเห็นว่าเป็นใครมันถึงได้กล้าขนาดนี้

" เจ้าเด็กเหลือขอ ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะเป็นใคร เมื่อเจ้ากล้ามาหาเรื่องเรานิกายทมิฬและจัดการคนของเรา เจ้ากำลังรนหาที่ตาย ! ข้าให้โอกาสเจ้าคุกเข่าลงแล้วขอขมาต่อพวกเขาซะ! "

          ศิษย์พี่หวงมีออร่าที่สูงส่ง เขาต้องการให้เจียงเฉินคุกเข่าลง มันเห็นได้ชัดเจนว่าพวกเขาไม่เป็นที่รู้จักในหมู่ศิษย์นอกที่ไม่ได้ลงแข่งขันประจำแคว้นฉี มิเฉ่นนั้นคงไม่มีท่าทีโอหังเมื่อพบเห็นเจียงเฉิน

" เจ้ามีนามอะไร? "

เจียงเฉินถาม

" บัดซบ! เจ้าหูหนวกรึไง ไม่ได้ยินที่ศิษย์พี่หวงบอกให้เจ้าคุกเข่าลงเรอะ! "

          ศิษย์แก่นแท้มนุษย์อีกคนตวาดเขา มันยกฝ่ามือของมันขึ้นมาเตรียมที่จะตบเจียงเฉิน

เพี๊ยะ…!

          เสียงจากการตบดังขึ้นอีกครั้ง คนที่ถูกตบไม่ใช่เจียงเฉินแต่อย่างใด แต่เป็นศิษย์แก่นแท้มนุษย์ผู้เย่อหยิ่งนั่นเอง เมื่อชายคนนั้นถูกเจียงเฉินตบก็ร่วงลงสู่พื้น(เหมือนตบยุง อิอิ) มันพยายามที่จะลุกขึ้นแต่ไม่สามารถทำได้

          สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนตกตะลึง ดวงตาของศิษย์พี่หวงเบิกกว้าง ศิษย์ฝึกหัดตื่นตระหนกตกใจ การตบศิษย์ฝึกหัด กับศิษย์นอกทั้งสองอย่างนี้มันคนละเรื่องกัน ชายหนุ่มคนนี้เป็นใครกันแน่? เขาช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!

เพี๊ยะ…!

          เสียงตบดังขึ้นอีกครั้ง! ฝ่ามือของเจียงเฉินฟาดเข้าไปที่แก้มของศิษย์พี่หวง ศิษย์พี่หวงผู้เย่อหยิ่งไม่มีเวลาที่จะตอบสนอง ลูกตบได้ทำให้มันหมุนไปสามตลบ อย่างไรก็ตามเพราะเจียงเฉินควบคุมกำลังไว้ทำให้ศิษย์พี่หวงไม่ร่วงหล่นสู่พื้น

" จะ เจ้า เจ้ารอเดี๋ยว รออยู่ที่นี่อย่าไปไหน! "

          ศิษย์พี่หวงหันกลับแล้ววิ่งขึ้นไปบนยอดเขา โดยปล่อยเหล่าศิษย์ฝึกหัดไว้ที่นี่

          ณ จุดที่ศิษย์ฝึกหัดถึงยืนแข็งทื่อ ในหัวของพวกมันว่างเปล่าความกลัวได้ปกคลุมใบหน้าของมัน มันหวังให้เจียงเฉินจะตบมันจะได้สลบจะได้ไม่รับรู้เรื่องราวเพิ่มอีก แต่กระนัเจียงเฉินก็ไม่ได้ทำอะไรเขา นี่เป็นการทรมานเป็นแน่ มันไม่กล้าขยับจากตรงนั้นแม้แต่ก้าวเดียว 

          ไม่นานหลังจากนั้นได้มีชายสองคนลงมาจากหุบเขา หนึ่งในนั้นคือศิษย์พี่หวง และอีกคนมีขั้นการบ่มเพาะสูงกว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลาย

          ชายทั้งสองมาด้วยความเร็วสูง จากนั้นเมื่อพวกเขามาได้ครึ่งทาง ศิษย์แก่นแท้มนุษย์ขั้นปลายได้เห็นเหล่าศิษย์ที่นอนเรียงรายกันอยู่บนพื้นและร้องโอดครวญ จากนั้นเขามองไปยังเจียงเฉิน เมื่อเขาเห็นใบหน้าของเจียงเฉิน หยานเฉินหยู่ และเจ้าหวงต้าที่ยืนข้างเขา ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไป

" ศิษย์พี่หวัง เป็นมัน! มันกล้ามาสร้างปัญหาให้กับนิกายทมิฬเรา และยังจัดการคนของเราอีก! ช่วยลงมือจัดการมันให้พิการ จนกว่าแม่ของมันจะจำมันไม่ได้! "

          ศิษย์ชื่อหวง ชี้ไปยังเจียงเฉิน และพูดอย่างเกรี้ยวกราด ด้วยท่าทีของผู้ชนะ มันรอที่จะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจียงเฉินไม่ไหวอีกแล้ว ศิษย์พี่หวังเป็นหนึ่งในศิษย์นอกที่แข็งแกร่งที่สุด มันมั่นใจว่าต้องจัดการเจ้าเด็กนั่นจนกว่าแม่ของมันจะจำมันไม่ได้

" เจ้าช่างโอหังยิ่งนัก ข้าบิดาผู้นี้จะทำให้เจ้าพิการ จนกว่าแม่เจ้าจะจำเจ้าไม่ได้! "

          ทันใดนั้นศิษย์พี่หวังได้เกรี้ยวกราดขึ้นมา เขาไม่พูดอะไรอีกต่อไป เขาได้ตบไปยังใบหน้าของศิษย์พี่หวง

" อะไรกัน? นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? "

          หลังจากถูกตบไป ในความคิดของหวงนั้นว่างเปล่า มันเกิดอะไรขึ้น? ศิษย์พี่หวังไม่ได้มาที่นี่เพื่อช่วยเขาหรอกรึ? ทำไมถึงมาตบเขาได้?

" ศิษย์พี่หวัง ทำไมถึงตบข้า? "

หวงรู้สึกไม่ยุติธรรมกับเขา

" ทำไมข้าจะตบเจ้าไม่ได้?! ข้าน่าจะทำให้ตาสุนัขของเจ้าบอดซะได้ยิ่งดี "

          ศิษยพี่หวังตบมันอีกครั้ง จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นไปบนตัวมันแล้วก็ระดมตบหวงอย่างต่อเนื่อง จนหน้าของมันเหมือนหมู เชื่อได้ว่าหากแม่มันมาเห็นคงจำมันไม่ได้แน่

          หวงนอนกลิ้งอยู่บนพื้นร้องโอดครวญ น้ำตาของมันได้ไหลออกมาเป็นสาย มันเกิดบ้าอะไรขึ้น ทำไมถึงเป็นข้า?

          ไม่เป็นแค่มันเท่านั้น เหล่าศิษย์ที่นอนอยู่กับพื้นแล้วส่งเสียงโอดครวญทั้งหมด พวกมันต่างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

          ศิษย์พี่หวังได้เดินมาอยู่ต่อหน้าเจียงเฉิน จากนั้นเขาก็แสดงความเคารพต่อเจียงเฉิน เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า " ศิษย์พี่เจียงเฉิน ข้าชื่อว่าหวัง หยุน! เจ้าพวกตัวบัดซบพวกนี้ไม่รู้จักศิษย์พี่เจียงเฉินกับศิษย์พี่หยาน! ข้าหวังว่าศิษย์พี่เจียงคงจะไม่ถือสาพวกมัน! "

อะไรนะ ? ศิษย์พี่เจียงเฉิน ? ศิษย์พี่หยาน ?

          เขาคือเจียงเฉิน แล้วสาวน้อยผู้งดงามคนนี้คงจะเป็น หยานเฉินหยู่

เฮือก..!

          ศิษย์ฝึกหัดที่ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ หวงได้ร้องออกมาในทันทีถึงกับมันกรอกตาไปมา แล้วสลบไป มันไม่สำคัญว่าจะสลบไปจริงๆหรือแค่ทำทีว่าสลบไป หลังจากการแข่งขันประจำแคว้นฉี ไม่มีผู้ใดในนิกายทมิฬที่ไม่รู้จักชื่อเจียงเฉิน

=====================================================

โปรดติดตามตอนต่อไป………….

 

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "Dragon Marked War God ตอนที่ 106 มีตาแต่หามีแววไม่"

4.2 21 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz