หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

เทพมังกรสงครามอหังการ - Dragon Marked War God ตอนที่ 60 ตกศู่ความโกลาหลอย่างฉับพลัน

  1. หน้าแรก
  2. เทพมังกรสงครามอหังการ
  3. Dragon Marked War God ตอนที่ 60 ตกศู่ความโกลาหลอย่างฉับพลัน
Prev
Next

 

แปลไทยโดย : Takumi Kun

ตรวจทาน       : Subaru-Kyun

************************************************************************

"ท่านผู้อาวุโส ท่านไปที่เมืองฟ้าหอมคอยคุ้มกันตระกูลเจียงให้ปลอดภัยด้วย"

หยานเจิ้นหยุนมองไปยังหยานหงไท่ สำหรับเมืองสีชาดอย่าได้กังวล เจียงเฉินและหวงต้าทั้งคู่แข็งแกร่ง พวกเขาเทียบได้กับผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์ หากหยานเฉินหยู่ปลดปล่อยพลังของชีพจรเก้าหยินออกมา นางจะมาเติมเต็มในส่วนของหยานหงไท่แทน

"เข้าใจแล้วขอรับ ข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้และเริ่มตรงไปยังเมืองฟ้าหอม! วางใจได้เลยน้องเจียงเฉิน ตราบที่หยานหงไท่ยังอยู่ จะไม่มีผู้ใดสามารถแตะต้องแม้แต่หญ้า เศษไม้หรือคฤหาสน์ตระกูลเจียงได้"

หยานหงไท่รับปาก

"ขอบคุณท่านผู้อาวุโส"

เจียงเฉินประสานมือแสดงความเคารพต่อหยานหงไท่ ด้วยสัญญาที่หยานหงไท่ได้ให้ไว้ เจียงเฉินจะได้คลายความกังวล ต่อไปเขาจะต้องชำระหนี้กับตระกูลหลี่ หลังจากเสร็จสิ้น เจียงเฉินก็จะหมดห่วงและจะขึ้นเขาไปและเริ่มการเดินทางต่อ

หยานหงไท่ออกจากเมืองสีชาดและออกเดินทางไปยังเมืองฟ้าหอม ในส่วนตระกูลหยาน พวกเขากำลังเตรียมตัว พวกเขาได้เตรียมตัวรับมือเมื่อตระกูลหลี่บุกมา ดังนั้นพวกเขาจะไม่เตรียมตัวไม่ได้

ณ ตระกูลหลี่!

ไม่กี่วันที่ผ่านมา พวกเขาได้จมอยู่กับความโศกเศร้าและความเศร้าโศก งานศพสำหรับหลี่ช่างห่าวยังไม่เสร็จทีและตอนนี้พวกเขาต้องจัดงานศพของหลี่ชานหมิงเพิ่ม บรรยากาศภายในตระกูลหลี่หดหู่ยิ่งนัก บรรยากาศชวนหดหู่นี่มาจากความกราดเกรี้ยวของลีชานเย่ว์ แม้แต่ยามที่มีระดับต่ำสุดและคนรับใช้ต่างหวาดกลัว พวกเขาไม่กล้าแม้แต่หายใจเสียงดัง

ภายในลานกว้างตระกูลหลี่ โถงไว้ทุกข์ขนาดใหญ่สร้างมาจากชุดสีดำ ภายในกลางโถง มีโลงศพทั้งสองวางอยู่ มีคำสามคำที่ได้เขียนบนโลงศพ 'จดจำการตาย' หลี่ชางเย่ว์และผู้เชี่ยวชาญแก่นมนุษย์สองสามคนยืนด้านหน้าพิธี

ในขณะนั้น… สายลับจากตระกูลหลี่วิ่งหน้าตาตื่นเหงื่อโชกเข้ามา

"เกิดอะไรขึ้น?"

ผู้เชี่ยวชาญแก่นมนุษย์ถามพร้อมขมวดคิ้ว

"ท่านผู้นำตระกูลขอรับ เจียงเฉินมันยังมีชีวิตอยู่!"

 ชายคนนั้นพูดอย่างระมัดระวัง

ปัง!

แน่นอนเมื่อได้ยินเรื่องนี้ ความกราดเกรี้ยวของหลี่ชางเย่ว์ได้ระเบิดออกมา เขาหันหัวไปด้านข้าง แผลเป็นบนหน้าของเขาดูน่ากลัว

"เจ้าพูดว่าเช่นไรนะ? เฉินซวงมัวทำอะไรอยู่?! ทำไมเขาไม่ไปฆ่าเจียงเฉิน?!"

หลี่ชางเย่ว์กราดเกรี้ยวอย่างมาก

"เจียงเฉินยังมีชีวิตอยู่ขอรับ! ข้ารับใช้ของท่านได้เห็นตัวตาตัวเอง เห็นเขาเข้าไปยังหอคอยหมอกฝนด้วยกันกับหมาตัวสีเหลือง! โอ๊ะ และมีหญิงสาวแต่งชุดสีม่วงตามพวกเขาเข้าไปด้วยขอรับ ดูเหมือนว่านางอายุราวๆ 14-15 ปี! และข้าไม่เห็นศิษย์จากนิกายกระบี่สวรรค์กลับมาจากภูเขาด้วยขอรับ"

ชายคนนั้นพูดอย่างระมัดระวัง เขากลัวว่าหากเขาไปยั่วหลี่ชางเย่ว์ที่เปี่ยมด้วยโทสะเช่นนี้ หลี่ชางเย่ว์อาจจะระบายความกราดเกรี้ยวและซัดเขาตายได้ ไม่มีผู้ใดต้องการที่จะตายเช่นนั้น และเขาก็รู้มาว่าหลี่ชางเย่ว์ได้สังหารคนของตัวเองไปสองคนด้วย

สายลับผู้นี้จำหยานเฉินหยู่ไม่ได้ หลังจากที่ทุกข์ทรมานจากชีพจรเก้าหยินตั้งแต่ยังเป็นเด็กสาว หยานเฉินหยู่ไม่เคยที่จะก้าวเท้าออกนอกตระกูลหยาน ขณะที่นางได้เติบโตมาเป็นหญิงสาวที่น่ารัก มันชัดเจนว่าชายผู้นี้จำนางไม่ได้

"ไอ้เด็กเป**นั่นโชคดีจริง ฆ่ามันยากชะมัด"

หลี่ชางเย่ว์กำหมัดแน่นจนได้ยินเสียงแตกหัก เขาคิดว่าพลังและความสามารถของเฉินซวง เขาจะสามารถที่จะฆ่าเจียงเฉินได้อย่างแน่นอน หากเป็นเช่นนี้เขาก็ไม่สามารถที่จะสังหารเจียงเฉินด้วยมือของเขาและแก้แค้นได้ เขาจะต้องพุ่งเป้าไปยังตระกูลเจียงที่เมืองฟ้าหอม หาโอกาสที่จะจัดการพวกนั้น

แต่เขาไม่เคยคิดว่าเจียงเฉินมันจะโชคดีลงจากเขาต้นกำเนิดได้โดยยังมีชีวิต จะไม่ให้เขาโกรธได้อย่างไร? สำหรับหญิงสาวที่แต่งชุดสีม่วง หลี่ชางเย่ว์ไม่ได้สนใจนาง เขาสนเพียงแค่ความตายของเจียงเฉินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

"ท่านผู้นำตระกูลขอรับ ไอ้เด็กนี่มันลึกลับมาก แม้แต่คนจากนิกายกระบี่สวรรค์ยังไม่สามารถสังหารเขาได้ ท่านคิดว่าเฉินซวงและหรวนหลิงจะโดนเจียงเฉินฆ่าหรือเปล่าขอรับ?" 

ชายคนนั้นพูดพร้อมขมวดคิ้ว

"ข้าคิดว่ามันต้องฆ่าพวกนั้นเป็นแน่! ไอ้เด็กนี่เติบโตไวยิ่งนัก พวกเราต้องหาทางที่จะจัดการมันให้เร็วที่สุด หากปล่อยให้มันเติบโตต่อไป ข้าไม่คิดว่าการใช้เวลาในการแก้แค้นมากนั้นมันจะเป็นไปไม่ได้  ตระกูลหลี่ของพวกเราจะถูกไอ้เด็กนั่นทำลายก็เป็นได้"

ผู้อาวุโสตระกูลหลี่กล่าว ในที่สุดการเติบโตของเจียงเฉินก็ทำให้พวกเขาหวาดกลัว การมีตัวตนของเจียงเฉินเพียงคนเดียวเป็นภัยคุกคามร้ายแรงสำหรับตระกูลลี พวกเขาต้องรีบจัดการให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

"เจ้าแน่ใจรึว่าเจียงเฉินมันกลับไปที่ตระกูลหยานไม่ได้กลับไปที่เมืองฟ้าหอม?"

หลี่ชางเย่ว์มองไปยังสายลับ

"ข้ารับใช้ของท่านเป็นเห็นได้มันชัดเจน ข้อมูลของข้าไม่ผิดแน่"

สายลับตอบกลับมา

"ดูท่าเวลาที่จะทำสงครามกับตระกูลหยานจะมาถึงแล้ว! รวบรวมกำลังพลของพวกเรา เตรียมตัวทำสงครามกับตระกูลหยาน และฆ่าเจียงเฉินด้วยทั้งหมดที่มี"

หลี่ชางเย่ว์พูดขณะที่ขบฟันแน่น บุตรทั้งสามของเขาตายหมด เขาไม่สนอะไรอีกแล้ว เขาต้องชิงลงมือตอนนี้ หากเจียงเฉินกลับไปยังเมืองฟ้าหอม เขากลัวผู้เชี่ยวชาญแก่นสวรรค์มากไม่กล้าที่จะโจมตีเจียงเฉินที่นั่น แต่สำหรับตระกูลหยาน ยังมีโอกาสที่จะฆ่าเจียงเฉินตราบที่มันอยู่กับตระกูลหยาน

"ท่านผู้นำตระกูลขอรับ พวกเราสูญเสียคนเป็นจำนวนมากและกำลังใจของพวกเราถดถอย….หากพวกเราเริ่มสงครามกับตระกูลหยาน….ข้าไม่คิดว่ามันจะเหมาะสม"

ชายคนหนึ่งที่กังวลพูดออกมา

"ไม่ต้องพูดอะไรอีก! มันต้องมีสักทางล่ะ ข้าจะใช้เลือดของเจียงเฉินและคนจากตระกูลหยานสังเวยแก่บุตรชายข้าทั้งสามและเหล่าอัจฉริยะที่ได้ตกตายไป"

หลี่ชางเย่ว์โบกมือและเขาได้ตัดสินใจแล้ว เขาจะต้องฆ่าเจียงเฉินให้ได้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม

ในคืนนั้นทั้งสองตระกูลได้เตรียมตัวทำสงครามในช่วงเวลาเดียวกัน ผู้คนภายในเมืองต่างรู้สึกถึงสายลมอ่อนๆพัดมาก่อนที่พายุจะโหมกระหน่ำ จากที่เห็นธุรกิจทั้งสองตระกูลแปรเปลี่ยนไป ดูเหมือนว่าทั้งสองตระกูลต่างเอาจริงในเวลานี้

"ข้าเห็นร้านต่างๆของตระกูลหลี่ต่างปิดประตูแน่นกันหมดและหอคอยหมอกฝนเองก็ปิดเช่นกัน ดูเหมือนว่าทั้งสองตระกูลจะทำสงครามกันจริงๆ…..เมืองสีชาดกำจังจะตกสู่ความวุ่นวายอีกครั้ง"

"ทั้งหมดนั่นเป็นเพราะเจ้าเจียงเฉินน่ะแหละ! เจ้านี่ได้สังหารบุตรของหลี่ชานเย่ว์ทั้งหมด แม้แต่หลี่ชานหมิงที่ทะลวงเข้าสู่แก่นแท้มนุษย์แล้วยังโดนเขาสังหาร! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลี่ชางเย่ว์ถึงได้เกรี้ยวกราดนัก"

"พวกเจ้าได้ยินเรื่องนี้หรือไม่! ในระหว่างการประเมินผลบนเขาต้นกำเนิดวันนี้เหล่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์ทั้งหมดจากตระกูลหลี่ได้โดนเจียงเฉินสังหารหมดสิ้น! เจียงเฉินมันเป็นคนอาจหาญยิ่งนัก เขากล้าแม้กระทั่งสังหารศิษย์จากนิกายกระบี่สวรรค์!"

"เขาอำมหิตยิ่งนัก  เขากล้าสังหารกระทั่งศิษย์จากนิกายกระบี่สวรรค์! ชายคนนั้นช่างโหดเหี้ยมที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบเจอมา! การจุดระเบิดความวุ่นวายในเมืองนี้ทั้งหมดเป็นเพราะเขา"

"ชายคนนี้เป็นร่างอวตารของมารร้าย! ข้าได้ยินมาว่าความวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่เมืองฟ้าหอมนั้นเพราะเขาทั้งนั้น! ตระกูลมู่หลงได้ถูกเขากวาดล้างโดยสมบูรณ์! เขาทั้งเหี้ยมโหดทั้งอำมหิต!"

………………………………………………………….

ภายในเมืองตกอยู่ในความโกลาหลและทุกคนต่างทำอะไรไม่ถูกเกี่ยวกับเรื่องนี้ จะไม่มีผู้ใดที่ไปที่ใดในเมืองที่ไม่ได้ยินการพูดถึงเจียงเฉิน จากเมืองฟ้าหอมยันเมืองสีชาด เจียงเฉินได้กลายเป็นร่างอวตารของปีศาจ ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ที่นั่นก็จะเกิดปัญหาตามมาเสมอ!

ในวันที่สามทั้งสองตระกูลได้เตรียมพร้อมสำหรับความรุนแรง หลี่ชางเย่ว์ยังไม่ได้ฝังบุตรทั้งสองของเขา เขาต้องการที่จะล้างแค้นให้พวกเขา พวกเขาจะได้หมดห่วง

"ท่านผู้นำตระกูล ทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้วขอรับ"

ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์พูดออกมา

"ดี! คืนนี้จะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายระหว่างตระกูลหลี่และตระกูลหยาน"

หลี่ชางเย่ว์พูดอย่างเย็นชา 

"ท่านผู้นำตระกูลขอรับ คนของเราต่างมีกำลังใจน้อยนิด ทางสายสืบของเราติดต่อมาว่าทางด้านตระกูลหยานเองได้เตรียมตัวอย่างดีเหมือนกันขอรับ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้พวกเราไม่สามารถสู้ได้นะขอรับ"

บางคนพูดออกมาด้วยความกังวล

"หยุดพูดเช่นนั้นซะ ไม่มีการถอยกลับ! หากแม้ทั้งสองฝ่ายได้รับความทุกข์ และหากแม้ว่าตระกูลหลี่ของพวกเราจะพบกับจุดจบวันนี้ ข้าก็จะฆ๋าเจียงเฉินในคืนนี้! หากข้าไม่ฆ่าแล้วมันจะเติบโตเรื่อยๆและตระกูลหลี่ของพวกเราทีตัวเลือกแค่ทางเดียวคือรอให้มันมาหาและฆ่าพวกเรา"

หลี่ชางเย่ว์เป็นคนไร้ความปราณี หากเขาไม่เป็นเช่นนี้เขาคงไม่ได้อยู่ตำแหน่งนี้ในเมืองสีชาด

ในตอนนั้นเอง ห่างจากเมืองสีชาดพันไมล์ มีเหยี่ยวดำขนาดยักษ์บินออกมาจากเขาต้นกำเนิด มันรวดเร็วอย่างยิ่ง มันสูงกว่าสิบเมตรและมีปีกสีดำคู่หนึ่งที่แข็งอย่างกับเหล็ก

"ฮ่าฮ่า ข้าถูกจองจำมากว่ายี่สิบปี ตอนนี้ข้าเป็นอิสระแล้ว!"

เหยี่ยวดำหัวเราะดังลั่น มันดุกดิกร่างกายเปลี่ยนกลายเป็นชายแก่รุ่นราวห้าสิบปี ชายผู้นี้รูปร่างผอมสวมชุดสีดำ เขามีตาเฉียบคมและเยือกเย็นคู่หนึ่ง

"มีเมืองอยู่ด้านหน้า ลองไปดูหน่อยดีกว่า"

ชายแก่ผู้นี้ขยับตัวเล็กน้อยและแปลงกลับเป็นเหยี่ยวดำและบินตรงไปยังเมืองสีชาดด้วยความเร็วสูง ราชาปีศาจระดับแก่นแท้สวรรค์ ความเร็วของเขาเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้เขาเป็นสัตว์ปีศาจสายอากาศ เพียงแค่วินาทีเดียวเขาก็มาถึงใจกลางเมืองสีชาด

ฮู่มมม

การมาถึงของเหยี่ยวดำก่อให้เกิดพายุขึ้นเหนือเมือง แก่นแท้สวรรค์สร้างความกดดันแก่ทุกๆคน

"ดูนั่น! เหยี่ยวขนาดยักษ์ มาด้วยพลังมหาศาล"

"สวรรค์! นี่มันราชันย์ปีศาจระดับแก่นแท้สวรรค์ มันมาที่นี่ด้วยเหตุอันใด?"

…………………………………………..

หลายๆคนมองไปยังเหยี่ยวดำยักษ์ด้วยความตกตะลึง ในเมืองแห่งนี้สิ่งมีชีวิตที่อยู่ระดับแก่นแท้สวรรค์ไม่เคยปรากฎตัวมาก่อน

ณ ตระกูลหยาน

เจียงเฉินได้มองไปบนฟ้าพร้อมขมวดคิ้ว ด้วยสายตาของเขาสามารถบอกได้อย่างง่ายดายว่ามันอยู่ระดับใด เหยี่ยวดำนี่อยู่ระดับแก่นแท้สวรรค์จุดสูงสุดของขั้นต้น และใกล้ที่จะทะลวงเข้าสู่แก่นแท้สวรรค์ขั้นกลาง

หวงต้ามองไปยังเหยี่ยวดำ ทันใดนั้นก็เกิดรอยยิ้มบนหน้ามันอย่างไม่ทราบสาเหตุ 

"ราชันย์ปีศาจขั้นแก่นแท้สวรรค์"

หยานเจิ้นหยุนตะลึงอย่างมาก สงครามระหว่างตระกูลหลี่และตระกูลหยานใกล้จะเริ่ม แต่ทันใดนั้นราชาปีศาจขั้นแก่นแท้สวรรค์ได้ปรากฎตัว การปรากฎตัวของมันเพียงตัวเดียวทำให้เมืองปั่นป่วน และบางทีมันอาจจะสร้างความปั้นป่วนยิ่งกว่านี้

เหยี่ยวดำได้บินขึ้นเหนือเมืองและขยับตัวเล็กน้อย สายตาของมันมุ่งไปยังทิศทางที่ตระกูลหลี่ตั้งอยู่

"ที่นี่มีสมบัติบางอย่างอยู่! แม้มันจะซ่อนมิดชิด ข้าสามารถที่จะหาพวกมันได้! ด้วยกลิ่นที่คุ้นๆ….มันเป็นวิญญาณอสูรเหยี่ยวปีกโลหิต! ฮ่าฮ๋าฮ่า เหยี่ยวปีกโลหิต!"

ทันใดนั้นเหยี่ยวดำก็หัวเราะเสียงดังออกมา มันเก็บปีกและกลายเป็นร่างชายแก่มันลงจอดหน้าคฤหาสน์ตระกูลหลี่

เหยี่ยวปีกโลหิตเป็นเหยี่ยวสายพันธุ์หายาก มันเป็นสายเลือดชั้นสูงในหมู่เหยี่ยว เหยี่ยวดำยักษ์เองก็เป็นเหยี่ยวเช่นกัน เขาจึงมีประสาทสัมผัสในการรับรู้สิ่งที่เกี่ยวกับเผ่าพันธุ์ตน นี่สาเหตุที่เหยี่ยวดำสามารถที่จะสัมผัสได้อย่างง่ายดาย

เหยี่ยวดำยักษ์นั่นไม่เคยคิดว่าจะมีวิญญาณอสูรของเหยี่ยวปีกโลหิตอยู่ในเมืองเล็กๆ หากเขาได้วิญญาณอสูรนี้ไป เขาสามารถที่จะดูดซับสายเลือดเหยี่ยวปีกโลหิตได้และสืบทอดความสามารถโดยธรรมชาติของมัน ทำให้ตัวของมันเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นทั่วร่าง

ภายในเรือนที่พักของตระกูลหลี่ ทุกๆคนต่างให้ความสนใจกับเหยี่ยวดำขนาดยักษ์ เหยี่ยวดำขนาดยักษ์ตอนนี้ได้อยู่ในรูปลักษณ์ของชายแก่ ทันใดนั้นมันร่อนลงตรงหน้าหลี่ชางเย่ว์ ตาของเขาเฉียบคมดั่งดาบจ้องทุกๆคนก่อนที่สุดท้ายลงมาอยู่ตรงหน้าหลี่ชางเย่ว์

"ส่งดวงจิตอสูรเหยี่ยวปีกโลหิตมาเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นแล้วข้าจะสังหารทุกๆคนไม่ให้เหลือรอด"

สิ่งแรกที่เหยี่ยวดำทำคือข่มขู่นั่นเอง

************************************************************************

โปรดติดตามตอนต่อไป………………….

 

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "Dragon Marked War God ตอนที่ 60 ตกศู่ความโกลาหลอย่างฉับพลัน"

4.2 21 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz