หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

เทพมังกรสงครามอหังการ - Dragon Marked War God ตอนที่ 59 ในกรณีนี้

  1. หน้าแรก
  2. เทพมังกรสงครามอหังการ
  3. Dragon Marked War God ตอนที่ 59 ในกรณีนี้
Prev
Next

 

แปลไทยโดย : Takumi Kun

ตรวจทาน       : Subaru-Kyun

************************************************************************

"หยู่น้อยเจ้าได้ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้มนุษย์แล้วรึ!"

เจียงเฉินรู้สึกเหมือนเขาโดนตบหน้าเลย แต่รอยยิ้มของเขานั้นไม่ได้ลดลงไปด้วย ยิ่งหยานเฉินหยู่แข็งแกร่งขึ้นเท่าไรเขายิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น

หลังจากนั้น ชีพจรเก้าหยินเป็นภาวะกายศักดิ์สิทธิ์โบราณ และมันขึ้นชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์หมายความว่าบุคคลทั่วไปไม่สามารถที่จะเปรียบได้ กายศักดิ์สิทธิ์สำหรับมนุษย์เหมือนกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในหมู่สัตว์ปีศาจ พวกเขาเป็นที่โปรดปรานของสวรรค์ ความเร็วในการบ่มเพาะนั้นเหนือกว่าทุกๆคน นอกจากนี้มันไม่ได้จำกัดแค่ความเร็วในการบ่มเพาะขณะที่พวกเขายังมีความสามารถโดยธรรมชาติของพวกเขาได้อย่างดี แต่ละคนในหมู่พวกเขานั้นล้วนทรงพลังอย่างแท้จริง คนที่มีกายศักดิ์สิทธิ์โบราณนั้นไม่สามารถที่จะตัดสินได้โดยสามัญสำนึก

"ท่านพี่เจียงเฉิน ที่ข้ามีเป็นแบบนี้ได้ทั้งหมดเป็นเพราะท่านแท้ๆ ท่านได้ช่วยชีวิตข้าไว้ ข้ายังไม่แสดงความขอบคุณใดๆแก่ท่านเลย"

หยานเฉินหยู่พูดตามตรง

"แล้วหยู่น้อยจะตอบแทนท่านพี่อย่างไรหรือ?"

เจียงเฉินพูดด้วยร้อยยิ้มชั่วร้าย

"งั้นแต่งงานกับเขาซะ จัดให้ไว หยุดทำตัวหวานเลี่ยนต่อหน้าข้าได้แล้ว"

หวงต้าไม่สามารถทนได้อีก

"เจ้าหมานิสัยไม่ดี"

หยานเฉินหยู่จ้องหวงต้า เมื่อนางได้ยินเขาพูดว่าแต่งงาน หน้าของนางแดงก่ำ และเมื่อนางคิดถึงเรื่องนี้นางก็อายม้วน

หวงต้าเผยฟันขาวออกมาและพยายามหยอกสาวน้อยไร้เดียงสาผู้นี้ แต่สิ่งที่หยานเฉินหยู่พูดออกมาทำให้มันหยุดทันที

"เจ้าหมาน้อย! อย่าพูดเรื่องไร้สาระนะ"

ตุบ!

แค่ได้ยินการเรียกตนเองว่า "เจ้าหมาน้อย" สามารถจัดการหวงต้าได้ทันใด มันได้ร่วงลงพื้นเจียงเฉินที่ยืนข้างๆมันได้เริ่มหัวเราะเสียงดังออกมาทันที หยู่น้อยผู้ไร้เดียงสาจัดการหวงต้าได้ หมายความว่าเจ้าหมานี่ได้พบกับศัตรูตามธรรมชาติของมัน

หวงต้าได้ยืนขึ้นจากพื้นช้าๆ มันโมโหและน้ำตามันก็ไหลออกมาจากตามัน 'ยัยหนูนี่กล้าเรียกข้าว่าเจ้าหมาน้อย? บัดซบ ส่วนไหนของข้าที่เล็กกันฟะ? เจ้าสามารถที่จะหาหมาตัวอื่นที่แกร่งกว่าได้ได้รึเปล่า? อุก บิดาผู้นี้ไม่ใช่แม้กระทั่งหมา'

"ตกลง รีบออกจากที่นี่กันดีกว่า"

เจียงเฉินพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

"ท่านพี่เจียงเฉินคนจากนิกายกระบี่สวรรค์ไปไหนแล้วหรอคะ?"

ในระหว่างทาง หยานเฉินหยู่ได้ถามขึ้น

"ข้าได้สังหารพวกมันทั้งหมดแล้วล่ะ"

เจียงเฉินตอบหน้าตาย

สีหน้าของหยานเฉินหยู่แสดงออกมาถึงความไม่สบายใจในทันที แต่ก่อนนางเคยได้ยินเจียงเฉินพูดถึงการสังหารผู้คน เมื่อมองไปเจียงเฉินได้ถอนหายใจออกมาในใจ สาวน้อยผู้นี้ช่างอ่อนหัดและไร้เดียงสาเสียจริง

ชีพจรเก้าหยินนั้นทำให้นางต้องอยู่แต่ในตระกูลหยานโดยที่ไม่มีโอกาสออกมาข้างนอกสักครั้ง สาวน้อยไร้เดียงสาผู้ไม่มีประสบการ์ณในโลกภายนอก การที่สังหารคนเป็นสิ่งที่ผิดปกติและเป็นเรื่องไกลตัวนาง

"หยู่น้อย เจ้าอาจจำเป็นต้องทำมันในอนาคตนะ"

เจียงเฉินจับไหล่หยู่น้อยอย่างนิ่มนวล หยานเฉินหยู่มีชีพจรเก้าหยิน เมืองสีชาดเล็กๆไม่สามารถที่จะรั้งนางไว้ได้ตลอดไปและไม่ช้าก็เร็วนางจะต้องก้าวเข้าสู่โลกแห่งการฝึกตนอย่างแท้จริง หากจะให้ชีพจรเก้าหยินได้เติบโต การสังหารเป็นก้าวที่ไม่สามารถมองข้ามได้

"ข้าไม่ต้องการสังหารคนนิ"

หยานเฉินหยู่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง สำหรับนางแล้วการสังหารเป็นเรื่องที่โหดร้าย

เจียงเฉินไม่ได้ตอบสนองกับคำพูดของนาง เขาแค่ยิ้ม สาวน้อยผู้นี้ได้ออกไปยังโลกภายนอกครั้งแรก นางจำเป็นต้องลงมือแน่เมื่อถึงเวลา

หวงต้ายังตะลึงไม่หายไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำตลอดทาง การที่โดนเรียกว่าหมาน้อยนั้นเป็นความพ่ายแพ้ของมันอย่างแท้จริง

ภายในโถงประชุมตระกูลหยาน

หยานเจิ้นหยุนได้เดินเข้าเดินออกห้องโถง ผู้อาวุโสท่านอื่นๆดูเป็นกังวลอย่างมาก ชีพจรเก้าหยินของหยานเฉินหยู่เพิ่งตื่น และไม่เพียงแค่นั้นโรคร้ายที่ได้ทำให้นางทุกข์ทรมานก็ได้รับการรักษาแล้ว นางได้ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้มนุษย์แล้ว นี่เป็นสิ่งที่ควรจะเฉลิมฉลอง แต่ตอนนี้ไม่มีผู้ใดหัวเราะออกแม้แต่คนเดียว

"ข้าสงสัยว่าน้องเจียงเฉินกำลังทำสิ่งใดอยู่ตอนนี้…."

หยานเจิ้นหยุนพูดสิ่งที่กังวลออกมา

"หยู่เอ๋อร์ตอนนี้อยู่ระดับแก่นแท้มนุษย์แล้วด้วยชีพจรเก้าหยินที่ทรงพลัง นางสามารถช่วยน้องเจียงเฉินได้บ้างละนะ"

หยานหงไท่พูดขึ้น

"ท่านผู้นำตระกูลขอรับ น้องเจียงเฉินเป็นวีรบุรุษของตระกูลหยานของพวกเรานะขอรับ พวกเราไม่สามารถที่จะนั่งมองสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับเขาได้นะขอรับ!"

หยานหยางตะโกนออกมาเสียงดัง เจียงเฉินเป็นผู้ช่วยชีวิตของเขาเอาไว้ และตอนนี้เจียงเฉินได้พบกับอันตราย เขาไม่สามารถที่จะนั่งรออย่างสงบได้

"มันไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก ด้วยความสามารถของน้องเจียงเฉิน หากพวกเขาต้องการสังหารเขาจริงๆ มันไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำได้โดยง่าย"

หยานเจิ้นหยุนพูดออกมา เขาพยายามที่จะโน้มน้าวตัวเขาเอง ในความจริงแล้วเขากังวลเกี่ยวกับเจียงเฉินยิ่งกว่าใคร แต่ตระกูลหยานไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ สาเหตุแรก ทำไมพวกเขาถึงไม่สามารถทำสิ่งใดได้เพราะอนาคตของตระกูลหยาน พวกเขาไม่สามารถที่จะรุกรานนิกายกระบี่สวรรค์ได้

อย่างที่สอง หลี่ชางเย่ว์เกลียดเจียงเฉินเข้ากระดูกดำ ในที่สุดมันก็มีโอกาสที่จะได้แก้แค้นให้บุตรชายของมัน และมันไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆแน่ แน่นอนว่าเขาจะต้องส่งคนมาคอยจับตาดูตระกูลหยานอย่างใกล้ชิด หากหยานเจิ้นหยุนพยายามที่จะช่วย หลี่ชางเย่ว์จะพยายามหยุดเขาอย่างแน่นอน เหมือนตอนที่หยานเจิ้นหยุนได้หยุดหลี่ชางเย่ว์นอกภูเขาก่อนหน้านี้

เมื่อทุกๆคนที่นั่งในห้องโถงประชุมต่างแสดงท่าทีกังวลออกมา หยานเหมิงได้มาที่โถงประชุมด้วยสีหน้าปิติยินดีสุดขีด

"ท่านผู้นำตระกูลขอรับและท่านผู้อาวุโส! คุณหนูและน้องชายเจียงเฉินกลับมาแล้วขอรับ!"

"อะไรนะ! พวกเขากลับมาแล้ว"

สีหน้าเป็นกังวลได้เปลี่ยนเป็นมีความสุขในทันที พวกเขามองไปยังทางเข้าเห็นคนกำลังเดินเข้ามา ทั้งสามคน(?) คือเจียงเฉิน หยานเฉินหยู่ และด้านหลังพวกเขาเป็นหมาตัวใหญ่สีเหลือง

เมื่อพวกเขาเห็นเจียงเฉิน บรรยากาศที่น่าหดหู่ได้เปลี่ยนเป็นเฉลิมฉลอง

"ฮ่าฮ่า น้องเจียงเฉิน ดีจริงๆที่เห็นเจ้าสบายดี!"

หยานเจิ้นหยุนเริ่มหัวเราะดังๆออกมา

"น้องเจียง ศิษย์ทั้งสามจากนิกายกระบี่สวรรค์อยู่ไหนเหรอ?"

หยานหยางถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

"พวกมันโดนเผากลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว"

หวงต้าได้พูดออกมา มันพยายามให้คนอื่่นรู้ว่ามันมีตัวตนอยู่ ทุกๆคนต่างคุ้นๆกับหมาตัวนี้ นี่มันไอ้หมาที่ปากเสียสุดๆนี่ ภาพลักษณ์ได้ฝังลึกลงไปในใจทุกคน เจ้าหมานี่ทำให้ศิษย์นิกายกระบี่สวรรค์ไล่ตามมันมากว่าหมื่นไมล์ มันไม่สามารถที่จะดูถูกได้

แต่มันได้ตามเจียงเฉินมา พวกเขาไม่สามารถที่จะปฎิเสธมันได้

"จริงหรือ! น้องเจียงฆ่ามันทั้งหมด?"

หยานหยางมีสีหน้าตะลึงอ้าปากค้าง

"ถูกต้องแล้ว ข้าได้ทะลวงเข้าสู่ฉีไห่ขั้นปลายได้ในช่วงที่คับขันและจัดการเฉินซวง"

เจียงเฉินพูดอย่างเฉยเมย เขาได้ทำให้ทุกคนในห้องโถงตะลึงกันหมด ในตอนนั้นทุกๆคนในห้องโถงต่างมองไปยังชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า นอกเหนือจากอาการตะลึงแล้ว ยังดูไม่เชื่อในสายตาอีก

ในการที่จะเลื่อนระดับนี่มันง่ายขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไร? มันเหมือนโยนระเบิดใส่ทุกคนที่อยู่ที่นี่ตรงๆ  นอกจากนี้แม้เขาจะอยู่ระดับฉีไห่ขั้นปลาย เขาไม่น่าจะสามารถสังหารคนระดับแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางได้อย่างง่ายดาย อย่างไรเขาก็เป็นยอดฝีมือระดับแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางเชียวนะ ยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางอ่อนแอตั้งแต่เมื่อใดกัน?

หากไม่รู้จักเจียงเฉินดีพอ พวกเขาทั้งหมดอาจหัวเราะเจียงเฉินที่เล่าเรื่องโกหกกับทุกคน ก่อนที่จะดูหมิ่นเขาภายหลัง

ทุกๆคนต่างส่ายหัวไร้ซึ่งคำพูด หยานหยางรู้สึกทำอะไรไม่ถูก เมื่อเทียบกับเจียงเฉินแล้วใครจะกล้าเรียกตัวเองว่าอัจฉริยะ? คำว่าอัจฉริยะไม่สามารถที่จะจำกัดความในสิ่งที่เจียงเฉินเป็นอยู่ได้ ใช้คำว่าปีศาจแทน

"น้องเจียงเฉิน หยู่เอ๋อร์ การกลับมาของเจ้านั้นตอนนี้ได้รับรู้แล้วโดยคนจากตระกูลหลี่ บุตรทั้งสามของหลี่ชางเย่ว์ได้ตายหมด ดังนั้นเขาจะไม่ปล่อยไปง่ายๆแน่ หากเขาเกิดบ้าขึ้นมาคงจะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้แก้แค้น"

หยานเจิ้นหยุนพูดพร้อมขมวดคิ้ว

"เป้าหมายของหลี่ชางเย่ว์คือข้าเพียงคนเดียว หากท่านผู้นำตระกูลหยานรู้สึกว่ามันสร้างปัญหาให้ตระกูลหยานล่ะก็ ข้าก็จะออกไปทันที"

เจียงเฉินพูด

"มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นหรอกน้องเจียงเฉิน! เจ้าเป็นวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลหยาน แม้ข้าต้องแลกด้วยชีวิต ข้าหยานเจิ้นหยุนจะไม่ลังเลที่จะช่วยเจ้า! นอกจากนี้ในเมืองนี้ตระกูลหยานและตระกูลหลี่ต่างเป็นศัตรูกัน การต่อสู้ระหว่างพวกเรามันจะเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว"

หยานเจิ้นหยุนร้อนรนและรีบพูดออกมาอย่างจริงจัง

"ใช่แล้ว ที่เลวร้ายที่สุด มันจะเกิดการต่อสู้ที่รุนแรงขึ้นพวกเราไม่กลัวตระกูลหลี่ในขณะนี้!"

หยานหงไท่พูดทุกๆคนในที่นี้มีจิตวิญญาณสูง พวกเขาอาจจะไม่กล้าที่จะสู้กับนิกายกระบี่สวรรค์ แต่สู้กับตระกูลหลี่? พวกเขาจะไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว

"หากหลี่ชางเย่ว์เลือกที่จะสู้กับพวกเราเวลานี้ เขาจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน! นี่เป็นโอกาสใหญ่ของตระกูลหยาน"

เจียงเฉินพูด

"หมายความเช่นไรรึ น้องเจียงเฉิน?"

หยานเจิ้นหยุนถาม

"ท่านลองคิดดู นายน้อยทั้งสามของตระกูลหลี่ตายไปหมดแล้ว และอัจฉริยะเกือบทั้งหมดของตระกูลหลี่ได้ตกตายหมด! มันชัดเจนที่ขวัญกำลังใจของตระกูลหลี่จะตกต่ำ อย่างไรก็ตามตระกูลหลี่ได้หยั่งรากไว้ในเมืองนี้ลึก การตายของผู้เชี่ยวชาญฉีไห่ไม่กี่คนไม่ได้สร้างผลกระทบมากมายนักกับความแข็งแกร่งของพวกเขา สิ่งที่หลี่ชางเย่ว์จำเป็นต้องทำในตอนนี้คือพยายามให้ทุกคนใจเย็นลงและเพิ่มขวัญกำลังใจแต่เขาไม่สามารถ ตั้งแต่เขาไม่สามารถที่จะควบคุมอารมณ์โกรธของเขาไว้ได้ เขาฆ่าแม้แต่อัจฉริยะทั้งสองจากตระกูลอื่นที่ขึ้นตรงกับเขา"

ดวงตาเจียงเฉินส่องประกายด้วยความเฉลียวฉลาด เขาพูดต่อ "สิ่งที่หลี่ชางเย่ว์กระทำไปนั้นสร้างความผิดหวังให้แก่ตระกูลที่ขึ้นตรงกับเขา เขาใจสลายและคนของเขาเสียกำลังใจ ตอนนี้หากแม้พวกเขาจะรักษาความแข็งแกร่งไว้ พวกเขาไม่สามารถที่จะปกป้องพวกเขาจากตระกูลหยานได้"

คำพูดของเจียงเฉินทำให้ทุกคนที่อยู่ในโถงประชุมตาสว่าง

สิ่งที่เจียงเฉินพูดมานั้นถูกต้อง การต่อสู้ระหว่างตระกูลทั้งสองเปรียบดั่งสงคราม เมื่อทั้งสองฝ่ายมีกำลังรบใกล้เคียงกัน สิ่งที่ส่งผลต่อสงครามนั้นคือขวัญและกำลังใจของคนและการสนับสนุนจากคนของเขา เหล่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์จากตระกูลหลี่ต่างตกตายหมด ขวัญกำลังใจตกต่ำ เกือบที่จะไม่เหลือและหลี่ชางเย่ว์สังหารอัจฉริยะจากตระกูลที่ขึ้นตรงกับเขาด้วยตัวเองอีก นี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่ตระกูลหยานจะโจมตีพวกนั้น

"สิ่งที่น้องเจียงพูดมานั้นถูกต้องแล้ว หากตระกูลหลี่ต้องการสงครามแล้วก็พวกเราไม่ได้กลัว"

หยานหงไท่พูด

"ดี! ทุกๆคนเริ่มเตรียมตัวได้! รวบรวมกองกำลังรบของตระกูลพวกเรา! เตรียมตัวทำสงครามกับตระกูลหลี่!"

หยานเจิ้นหยุนพูดขณะที่เขาได้ปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมา

"ท่านผู้นำตระกูลหยาน ข้ามีบางอย่างที่ต้องการความช่วยเหลือจากท่าน"

เจียงเฉินพูด

"บอกข้ามาเถิด น้องเจียงเฉิน"

หยานเจิ้นหยุนตอบกลับอย่างสุภาพ

"ข้าต้องการให้ผู้อาวุโสไปอาศัยกับตระกูลเจียงที่เมืองฟ้าหอมเป็นเวลาสองสามวัน หากเขาสามารถไปได้ใจของข้าจะสงบได้"

เจียงเฉินพูดพร้อมมองไปยังหยานหงไท่

"น้องเจียงเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นกังวลว่าหลี่ชางเย่ว์จะส่งคนไปโจมตีตระกูลเจียง แต่ข้าคิดว่ามียอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์อยู่ภายในตระกูลเจียงมิใช่หรือ?"

หยานหงไท่ถามด้วยสีหน้างงงวย ทุกคนต่างเข้าใจได้ว่าเจียงเฉินกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของตระกูลเจียง แต่ที่นั่นมียอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์อยู่ที่นั่น เหตุใดถึงต้องมียอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์เพิ่ม?

"ยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ท่านนั้นมีอารมณ์ร้าย หากท่านผู้อาวุโสไปด้วยตัวเองล่ะก็มันจะสะดวกกว่า"

เจียงเฉินพูด มีแต่เขาที่รู้ว่าไม่มียอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ซ่อนตัวอยู่ที่คฤหาสน์ในตระกูลเจียง ด้วยกำลังของตระกูลเจียงไม่สามารถที่จะปกป้องตัวพวกเขาได้ มันเป็นเพราะเจียงเฉินต้องการที่จัดเตรียมในส่วนของเขาด้วย

หยานหงไท่เป็นยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลาย ตราบที่หลี่ชางเย่ว์ไม่ได้ไปด้วยตัวเอง หยานหงไท่สามารถที่จะปกป้องตระกูลเจียงได้อย่างปลอดภัย ตอนนี้ลีชานเย่ว์มุ่งเป้ามาที่เจียงเฉินและรู้ว่าเจียงเฉินอยู่หอคอยหมอกฝน เขาไม่ได้ออกจากเมืองสีชาด

************************************************************************

จบจ้า  To be continue….♥

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "Dragon Marked War God ตอนที่ 59 ในกรณีนี้"

4.2 21 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz