เทพมังกรสงครามอหังการ - Dragon Marked War God ตอนที่ 53 เจ้าปีศาจตัวน้อย
แปลไทยโดย Takumi Kun
ตรวจ เรียบเรียง Subaru-Kyun
=====================================================
เสียงโอดครวญสร้างความหวาดผวาให้แก่ทุกคน ดาบของเจียงเฉินไม่เพียงแค่แทงไปยังไหล่ของหลี่ชานหมิง มันยังตัดผ่านเส้นประสาทของเขา นอกจากนี้ดาบของเจียงเฉินปกคลุมด้วยเพลิงอันร้อนแรง ตอนนี้ได้เกิดการเผาไหม้บนร่างกายเขา ความเจ็บปวดแบบนี้ แม้แต่ยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ยังไม่สามารถทนได้
ถ้าพูดกันตามตรง เพียงแค่ดาบนั้นไม่สามารถที่จะทำให้ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ แต่ความเจ็บปวดจากบาดแผลที่เจียงเฉินทำไว้นั้นเกินกว่าจะจินตนาการได้ ภายใต้การเจ็บปวดอย่างรุนแรงหลี่ชานหมิงทั้งสั่นทั้งร้องโหยหวนอย่างสิ้นลาย มันไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้
เคร้ง….
ดาบในมือของหลี่ชานหมิงตกลงบนพื้น
เจียงเฉินค่อยๆดึงวิญญาณทมิฬเชือดเฉือนออกจากไหล่ของหลี่ชานหมิง ดาบดึงออกมาทุกๆนิ้ว เลือดไหลทะลัก เลือดโดนความร้อนของดาบแผดเผา และมันเหือดแห้งก่อนตกสู่พื้น
ฉากนี้ทำให้ทุกๆคนเสียวไปถึงแก่นกระดูก ทั้งสี่คนจากตระกูลหลี่ไม่เหลือสีบนหน้าพวกเขา ในใจพวกเขานั้นมีแต่ความสิ้นหวัง หมดกัน วันนี้ไม่มีโอกาสเหลือสำหรับพวกเขาอีก แม้แต่หลี่ชานหมิงยังโดนเจียงเฉินจัดการ เสาหลักของพวกเขากำลังจะตาย ไม่ต้องกล่าวถึงก็รู้ว่าอะไรรอเขาอยู่
แม้แต่คนจากตระกูลหยานยังต้องกลั้นหายใจ เมื่อพวกเขาได้เห็นสภาพของหลี่ชานหมิงในตอนนี้ พวกเขาช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย นี่เป็นสิ่งที่โหดร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ โชคดีที่เจียงเฉินอยู่ข้างเดียวกับพวกเขา …หากเขาเป็นศัตรูล่ะก็ความตายของพวกเขานั้นคงไม่ต่างจากหลี่ชานหมิง
"ข้าบอกเจ้าแล้ว เจ้านั้นหลงระเริงกับระดับแก่นแท้มนุษย์มาก ข้าก็บอกแล้ว 'อย่ามายั่วยุข้า มิฉะนั้นผลที่ตามมาจะร้ายแรงนัก' แต่เจ้าก็ยังไม่ฟัง …..เฮ้อ……"
เจียงเฉินพูดอย่างเฉยเมย ดาบในมือเขาได้วางลงบนคอของหลี่ชานหมิง
"เจียงเฉิน หากเจ้าสังหารข้า บิดาข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่"
ร่างกายของหลี่ชานหมิงสั่นภายใต้แรงกดดันของเจียงเฉิน เขาได้สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปแล้ว ตอนนี้เขาทำได้เพียงนำชื่อหลี่ชางเย่ว์มาขู่เจียงเฉิน
"ข้าบอกเจ้าไปก่อนหน้าแล้วนี่ หลี่ชางเย่ว์จะตายโดยที่ไม่มีทายาทสืบสกุล"
สำหรับเจียงเฉินคำขู่ของหลี่ชานหมิงนั้นไม่ต่างจากการผายลม , ผายลมแบบเงียบๆอีกด้วย เขาได้กดวิญญาณทมิฬลงบนคอของหลี่ชานหมิง ดวงตาของลีชานหมิงกระพริบถี่มาก ตาของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เพียงไม่นานตาของเขาได้สูญเสียแววตาไป ชีวิตของเขาก็จากไปแล้ว
ตุบ!
ในที่สุดหลี่ชานหมิงก็ร่วงลงบนพื้นด้วยหน้าของเขาแหงนดูท้องฟ้า เขาตายตายังเปิดอยู่ ก่อนเขาตายเขาได้เสียใจในความพ่ายแพ้ของเขา
"หลี่ชานหมิงตายแล้ว?"
"พี่ใหญ่เจียงเฉินสังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์โดยฐานการบ่มเพาะฉีไห่ขั้นกลาง?"
"เขาได้ช่วยชีวิตพวกเราเอาไว้"
………………………………………………………………………
คนจากตระกูลหยานมองเจียงเฉินด้วยท่าทางหลากหลายอารมณ์ ปิติยินดี เป็นปลื้ม ชื่นชม หวาดกลัว นับถือ…..พวกเขาได้เห็นถึงด้านที่น่าหวาดกลัวของชายหนุ่มผู้นี้ เขานั้นเหมือนเจ้าปีศาจตัวน้อย หากเขาเป็นศัตรู จุดจบของพวกเขาคงไม่โสภา
"น้องเจียง พวกเราจะทำเช่นไรกับคนจากตระกูลหลี่ทั้งสี่คนนี้ดี?"
หยานหยางถามขึ้นมา ทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้ให้เจียงเฉินเป็นหัวหน้าของพวกเขา
เจียงเฉินหันกลับไปและเดินตรงไปยังคนที่เหลือรอดทั้งสี่ ทั้งสี่คนต่างรู้สึกเหมือนท้องฟ้าหมุนรอบตัวพวกเขาและร่างกายพวกเขาไม่ใช่ของพวกเขาเอง หนึ่งในพวกเขายืนตัวสั่นและโงนเงนเนื่องจากความหวาดกลัวสุดขีด
"พวกเจ้าทั้งสี่คนมีใครอยู่ตระกูลที่ขึ้นตรงกับตระกูลหลี่บ้าง"
เจียงเฉินถาม
ทั้งสี่ตื่นตระหนก พวกเขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดเจียงเฉินถึงถามคำถามนี้ นั่นเพราะเขาวางแผนจะไปเล่นงานหนึ่งในตระกูลที่ขึ้นตรงกับตระกูลหลี่ต่างกันงั้นรึ? ราชาปีศาจน้อยช่างน่าสะพรึงกลัวนักดูเหมือนว่าเขาจะสังหารแต่ละคนด้วยวิธีแตกต่างกัน
ชายหนุ่มสองคนกลืนความหวาดกลัวลงไปและก้าวออกมา พวกเขาพูดเสียงสั่น "พวกข้าทั้งสองไม่ได้มาจากตระกูลหลี่ ตระกูลของพวกข้าขึ้นตรงกับตระกูลหลี่เพื่อความอยู่รอดเพียงเท่านั้น"
ทั้งสองที่ยืนตรงหน้าเจียงเฉินนั้นไม่เลวเลย นั่นเพราะพวกเขาคงรู้ว่าร้องขอชีวิตล้วนไร้ค่า เจียงเฉินไม่ให้พวกเขารอดกลับไปได้อยู่ดี
"เข้าใจล่ะ ทั้งสองไม่จำเป็นต้องตายละนะ หยานหยางสังหารอีกสองคนซะ"
เมื่อได้ยินสิ่งที่เจียงเฉินพูดออกมา ทั้งสองคนที่เหลือนั้นเบิกตากว้าง ทันใดนั้นรู้สึกว่าสมองพวกเขาหยุดทำงาน
'เกิดอะไรขึ้น? ราชาปีศาจน้อยจะปล่อยพวกเราไปงั้นรึ?เหตุใดเจียงเฉินถึงไม่สังหารพวกเขา? อย่าบอกนะว่าจู่ๆเขาก็เกิดความปรานีขึ้นมาถึงได้ไว้ชีวิตพวกเรา?ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุใด พวกเราไม่ต้องคิดให้มาก พวกเขานั้นมีความสุขที่สามารถอยู่ต่อได้ นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการ
ชายหนุ่มทั้งสองน้ำตาคลอเบ้า พวกเขารู้สึกเหมือนสำลักความสุขโดยที่ไม่ได้ใช้มัน ความปิติยินดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาคือสามารถที่จะอยู่ต่อได้ รู้สึกดีมากที่ยังมีชีวิตอยู่
อ๊ากกกกกก
ขณะที่ทั้งสองกำลังชื่นชมโชคของตัวเองได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านหลังพวกเขา สองคนจากตระกูลหลี่โดนดาบจำนวนมากแทง คนจากตระกูลหยานไม่ได้สนใจอะไรมากนักกับการสังหารคนตระกูลลีทั้งสอง เพราะคนพวกนี้ได้พยายามที่จะสังหารพวกเขาก่อนหน้านี้ หากไม่ใช่เพราะเจียงเฉิน คนพวกนี้ก็ตายแล้ว
"ทั้งสองคน นำร่างของหลี่ชานหมิงไปด้วย นี่เป็นเมตตาที่นายน้อยผู้นี้มอบให้ ตอนนี้ข้าได้สังหารมันไปแล้ว มันเป็นเรื่องที่สมควรแล้วที่จะนำร่างของเขาไปคืนแก่บิดาของเขา หลี่ชางเย่ว์"
เจียงเฉินเก็บวิญญาณทมิฬเชือดเฉือนช้าๆก่อนที่เขาจะเก็บยุทธภัณฑ์ระดับต่ำอีกชิ้นไปด้วย
ทุกๆคนต่างเกือบล้มลงบนพื้นเมื่อพวกเขาได้ยินเจียงเฉินพูดว่าเขาเป็นคนมีเมตตา แม้แต่หวงต้าที่กำลังดูอยู่ยังรู้สึกแปลกใจ
"สวรรค์ เจ้าหนุ่มนี่มันน่ารังเกียจยิ่งกว่าข้าเสียอีก"
หวงต้าทำท่ารังเกียจคำพูดที่ออกมาจากปากของเจียงเฉิน แม้แต่หยานหยางและคนอื่นๆต่างเช็ดเหงื่อเย็นช้าๆ 'พี่ใหญ่เป็นคนมีเมตตา? จุดประสงค์ของเจ้าคือใช้ร่างไร้วิญญาณของหลี่ชานหมิงยั่วโมโหหลี่ชานเย่ว์ตะหากเล่า'
"ไอ้พวกบ้าทั้งสองมัวรออะไรอีกล่ะ? รีบพาร่างนายน้อยไปสิ หรือเจ้าคิดจริงๆหรือว่าข้าจะไม่ฆ่าเจ้าด้วยดาบของข้าและเผาไปพร้อมๆกับหลี่ชานหมิง"
เจียงเฉินต่อว่าทั้งคู่ที่ยืนค้างอยู่กับที่
"ขอรับ!"
ทั้งสองคนสั่นเพราะความกลัว พวกเขาไม่กล้าที่จะปฎิเสธ พวกเขาพยุงร่างไร้วิญญาณของหลี่ชานหมิงขึ้นมาและวิ่งออกจากที่นี่เหมือนเหินเวหาไป พวกเขาไม่คิดว่าเจียงเฉินจะล้อเล่น พวกเขาไม่มีข้อสงสัยเมื่อเขาพูดว่าจะสังหารพวกเขาด้วยดาบและเผาพวกเขา
"พี่ใหญ่เจียง ทำไมปล่อยพวกมันไปล่ะ?"
หยานจงถามด้วยสีหน้างุนงง
"อย่าได้กังวล พวกมันอายุไม่ยืนหรอก"
เจียงเฉินยักไหล่พร้อมตอบอย่างหน้าตาย
เจียงเฉินโยนดาบในมือให้หยานหยาง ตาของหยานหยางส่องประกาย เขารับดาบนั้นทันที
"น้องเจียง นี่มันยุทธภัณฑ์ระดับต่ำเชียวนะ มันแพงมากๆ ข้าจะรับมันไว้ได้อย่างไร"
หยานหยางพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเอียงอาย ยุทธภัณฑ์ระดับต่ำนั้นมีค่ามหาศาลแม้เขายังมียุทธภัณฑ์ระดับต่ำอยู่ที่ตัวเขาเอง แต่นั่นเป็นของที่ตระกูลหยานให้ใช้ชั่วคราว เขาจะต้องคืนมันเมื่อเขากลับไป แต่เจียงเฉินให้เป็นของขวัญแก่เขา หากจะเป็นการโกหกถ้าเขาบอกว่าไม่ชอบมัน
"จริงหรือ? หากเจ้าอายที่จะรับมันข้าจะให้หยานจง"
เจียงเฉินเอามือขึ้นมาและยื่นออกไปจะเอากลับคืน หยานหยางรีบถอยหลังพร้อมรอยยิ้ม "ไม่อายแล้วล่ะ ไม่เลย! นี่เป็นของขวัญจากน้องเจียงเฉิน ข้าจะมอบให้ผู้อื่นได้เช่นไร"
หยานจงที่ยืนข้างๆยักไหล่ด้วยความผิดหวัง
"ไปกันเถอะ พวกเราควรที่จะลงจากเขาได้แล้ว คนจากตระกูลหลี่เองก็ตายหมดแล้ว ตอนนี้ผู้สมัครเข้าสำนักกระบี่สวรรค์เหลือเพียงพวกเจ้าเท่านั้น"
เจียงเฉินพูดทั้งรอยยิ้ม
ทุกๆคนรีบรักษาบาดแผลตัวเองและเตรียมที่จะลงเขา พวกเขายังมีเวลาเหลืออยู่ แต่ไม่มีจุดหมายที่จะอยู่บนเขาต่อ วันนี้ภายใต้การนำของเจียงเฉิน ตระกูลหยานได้มีชัยชนะในการต่อสู้ครั้งนี้จะส่งผลถึงอนาคตของพวกเขาด้วย ตอนนี้เหล่าอัจฉริยะตระกูลหลี่ทั้งหมดได้จากไปหมดสิ้น ในขณะที่เหล่าอัจฉริยะจากตระกูลหยานยังคงอยู่ และด้วยหยานเฉินหยู่ผู้มีชีพจรเก้าหยินอีก เพียงแค่ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีตระกูลหลี่ก็จะถูกตระกูลหยานกลืนกินไป หลังจากนั้นพวกเขาก็จะควบคุมเมืองสีชาดได้อย่างสมบูรณ์
หวงต้ายืนขึ้นมาและตามหลังเจียงเฉินอย่างมีความสุข ทุกๆคนจ้องหมาตัวนี้ทันที พวกเขารู้สึกคุ้นเคยกับหมาตัวนี้ด้วยเหตุใดก็ไม่รู้
"พวกเจ้ากำลังจ้องหาอะไร ไม่เคยเห็นหมาหน้าตาดีรึ? จิ๊จิ๊ บิดาที่อยู่ตรงนี้ไม่ใช่หมาเฟ้ย"
หวงต้าจ้องและต่อว่าพวกเขา
อะ..ไร..กัน..นี่…….หมาพูดได้แถมยังหลงตัวเองสุดๆอีก
ในขณะนั้นภายนอกภูเขา มีไม่กี่คนได้รออยู่ เฉินซวงและอีกสองจากสำนักกระบี่สวรรค์กำลังเสวนาและผ่อนคลาย หลี่ชางเย่ว์กำลังยิ้มร่าได้ไปคุยกับหยานเจิ้นหยุนบ้างบางครา แต่หยานเจิ้นหยุนนั้นดูเย็นชาและเป็นกังวล
"หยานเจิ้นหยุน ตอนนี้นะ ข้าล่ะกลัวว่าคนของพวกเจ้าคงตายหมดแล้วล่ะ"
หลี่ชานเย่ว์พูดออกมาพร้อมยิ้มกว้าง
"มันต้องเป็นคนของเจ้ามากกว่ามั้งที่ตายแล้วน่ะ"
หยานเจิ้นหยุนจ้องหลี่ชางเย่ว์เขม็ง เขาต้องการที่จะกระโจนเข้าใส่มันและฉีกปากนั่นเสีย
"ฮี่ฮี่ หยานเจิ้นหยุนข้ารู้ว่าเจ้ารู้สึกแย่แค่ไหน แต่เจ้าต้องรู้จักเรียนรู้ที่จะยอมรับความจริงเสียบ้างนะ เจ้าควรที่จะกลับไปวางแผนใหม่ หากเหล่าอัจฉริยะทั้งหมดในตระกูลได้ตกตายหมด จะสักกี่ปีหนอที่จะอยู่ได้ก่อนตระกูลหยานจะไม่เหลือใคร"
หลี่ชางเย่ว์พูดออกมาด้วยสีหน้าพึงพอใจอย่างมาก
"ฮึ่ม! การประเมินยังไม่สิ้นสุด เจ้าจะรู้ผลได้เช่นไร"
หยานเจิ้นหยุนแค่นเสียง ฮึ ออกมาอย่างเย็นชา
"อ๊ะ มีบางคนออกมาแล้วล่ะ"
ยอดฝีมือแก่นมนุษย์จากตระกูลหลี่ตะโกนบอก ทุกๆคนหันไปยังชายหนุ่มสองคนที่ออกมาจากภูเขาอย่างไม่ลังเล หนึ่งในนั้นได้แบกร่างไร้วิญญาณบนบ่า
เมื่อหลี่ชางเย่ว์เห็นทั้งสอง ความมั่นใจของเขาได้แปรเปลี่ยน
ไม่นานนัก ทั้งสองได้มาคุกเข่าต่อหน้าหลี่ชานเย่ว์และวางร่างของหลี่ชานหมิงไว้บนพื้น
เหวอ …. อู้ว…
บรรยากาศตึงเครียดขึ้นมาทันใด รวมทั้งเฉินซวงและอีกสองคน ทุกๆคนต่างดูร่างไร้วิญญาณของหลี่ชานหมิง แล้วตกตะลึง ตาของพวกเขาบ่งบอกเลยว่าไม่น่าเชื่อ หลี่ชานหมิงเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์และเขาได้ตาย นี่มันไม่น่าเชื่อ
"ฮ่าฮ๋าฮ๋า หลี่ชางเย่ว์ นี่คือผลลัพธ์ที่เจ้ารอรึ?"
หยานเจิ้นหยุนหัวเราะเสียงดัง อารมณ์ของเขาดีสุดๆ
"พูด!!! ใครเป็นคนฆ่าเขา"
หลี่ชางเย่ว์โกรธจัด แผลบนใบหน้าสั่นสะเทือนทำให้หน้าเขาดูน่ากลัวมาก
"มันเป็น จะ..เจียง…..เจียงเฉิน…"
"ทุกๆคน….ทุกคนตายกันหมด"
ทั้งสองพูดออกมาเสียงสั่น พวกเขาเอ่ยชื่อเจียงเฉินอย่างยากลำบาก พวกเขานั้นกลัวเจียงเฉินมาก น่าสะพรึ่งกลัว ชายหนุ่มคนนั้นน่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว
"อะไรนะ"
หลี่ชางเย่ว์คำรามเสียงดัง ความโกรธของเขาปะทุอีกครั้ง และเขาได้กลายเป็นดั่งสิงห์ที่กำลังจะระเบิดความกราดเกรี้ยวสุดๆ "เจียงเฉิน! เจียงเฉิน! เจ้าได้ฆ่าบุตรชายข้าทั้งสามคน! นี่เป็นความผิดของมัน ข้าจะต้องตายโดยไม่มีบุตรสืบสกุล! ข้าจะหั่นแกเป็นล้านชิ้น! เป็นล้านชิ้น!"
หลี่ชางเย่ว์เดือดดาลเหนือคำบรรยาย บุตรชายทั้งสามได้ตายหมดแล้ว เขาไม่มีอัจฉริยะให้คาดหวังอีกแล้วตอนนี้
"เมื่อทุกคนตายกันหมด พวกเจ้าทั้งสองก็ไม่ต้องอยู่ต่อ!"
หลี่ชางเย่ว์ได้แผ่จิตสังหารที่น่าเหลือเชื่อออกมา และซัดฝ่ามือใส่หัวของชายหนุ่มทั้งสอง
************************************************************************
To be continue…..♥