เทพมังกรสงครามอหังการ - Dragon Marked War God ตอนที่ 28 เสียงอันทรงพลัง
แปลไทยโดย Takumi Kun
************************************************************************
"ท่านเจ้าเมือง ข้าขออภัยข้าเป็นเพียงแค่ผู้รับใช้ ข้ายังไม่ต้องการที่จะตาย"
คนอีกคนหนึ่งได้วิ่งตรงไปยังลีชานเย่ว์และโขกหัวต่อหน้าลีชางเย่ว์ ชายคนแรกโขกหัวให้คือหยางเซี่ยว ส่วนชายคนที่สองนามว่าจางชัน
พวกเขาทั้งคู่ผู้ที่มาเยือนเจียงเจิ้นไห่และเคยจงรักภักดีกับเขานั่นเอง
หยางเซี่ยว จางชาน พวกเจ้ามันเนรคุณ ท่านเจ้าเมืองดูแลพวกเจ้าเป็นอย่างดี แต่เจ้าทำตัวไร้ค่าเช่นนี้ได้อย่างไร
โจวเป่ยเฉินต่อว่าพวกเขา
"ไอ้พวกบ้า ไร้ประโยชน์ อย่าได้เรียกตัวเองว่าเป็นบุรุษอีก"
ชายร่างอ้วนกล่าวอย่างโมโห
"ปล่อยพวกเขาไปเถอะ แต่ละคนนั้นมีความต้องการไม่เหมือนกัน ไม่จำเป็นที่จะต้องมาตายด้วยกัน ในเมื่อเจ้ามีโอกาสรอดชีวิต ก็อย่าทำให้มันสูญเปล่า"
เจียงเจิ้นไห่กล่าวออกมา
"แม้ข้าต้องตาย ข้าจะไม่คุกเขาเยี่ยงสุนัขและโขกหัวให้เด็ดขาด"
โจวเป่ยเฉินพูดแดกดันพวกเขา
"ข้าจะตายเยี่ยงบุรุษ และ18ปีให้หลังข้าจะเป็นคนที่มีเกียรติอีกครั้ง"
ชายร่างผอมกล่าวพร้อมทุบตรงอกเขา
ผู้เชี่ยวชาญฉีไห่ที่เหลือก็ไม่ต้องการที่จะคุกเข่าให้ พวกเขาล้วนมีศักดิ์ศรีของตน เจียงเจิ้นไห่ได้ดูแลพวกเขาอย่างดีในระยะเวลาที่ผ่านมา ถ้าหากพวกเขาได้หันหลังให้ศัตรูในยามที่ตระกูลเจียงวิกฤต พวกเขาคงไม่มีหน้าที่จะเรียกตนเองว่าบุรุษ
ในอีกด้านหนึ่ง ลีชานเย่ว์ได้มองทั้งสองที่ได้คุกเข่า "ทั้งคู่ลุกขึ้นได้ ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า แต่พวกเจ้าทั้งคู่จะต้องฆ่าเจียงเจิ้นไห่ซะ"
ลีชานเย่ว์มองตรงไปยังเจียงเจิ้นไห่
ลีชางเย่ว์ไม่ได้สังหารเจียงเจิ้นไห่ด้วยตัวของเขา แต่ให้คนของเจียงเจิ้นไห่เป็นผู้สังหารเจ้านายตัวเอง นั่นทำให้เจียงเจิ้นไห่ตายอย่างอนาถ
"อะไรนะ"
ชายทั้งสองตะโกนออกมาพร้อมกัน พวกเขาไม่คาดคิดว่าหลี่ชางเย่ว์จะต้องการให้พวกเขาทำเช่นนี้
"เป็นอะไรไปล่ะ ถ้าพวกเจ้าไม่ทำมันล่ะก็ ข้าจะสังหารพวกเจ้าเดี๋ยวนี้"
หลี่ชางเย่ว์พูดกดดัน ด้วยพลังของแก่นแท้มนุษย์ล้อมรอบศรีษะพวกเขา หยางเซี่ยวและจางชัน ทำให้พวกเขาหายใจอย่างลำบาก
พวกเขามองซึ่งกันและกัน ขบฟันและผงกศรีษะพร้อมกัน
หลังจากนั้นพวกเขายืนขึ้นและเดินตรงไปหาเจียงเจิ้นไห่
"ท่านเจ้าเมือง พวกข้าขออภัย"
ทั้งคู่ได้ปลดปล่อยพลังหยวนออกมา เพื่อที่จะรอดชีวิตไม่มีทางเลือกที่จะต้องทำเช่นนี้
"ไอ้เวรเอ๊ย"
โจวเป่ยเฉินเป็นคนแรกที่ตะโกนออกมา เขาและตาแก่ผอมพุ่งไปราวสายลมและโจมตีคนทรยศทั้งสองด้วยทักษะที่ทรงพลังที่สุด
ตูมมมมมมมมมม
คนทรยศทั้งสองต่างรู้สึกผิด พวกเขารู้ตัวว่าไม่สามารถเอาชนะโจวเป่ยเฉินและผู้ที่เคียดแค้นพวกเขาได้ พวกคนทรยศได้ถูกฝ่ามือซัดปลิวไปร่วงสู่พื้นดินไม่ไกลมากนัก
"ฮึ่ม"
หลี่ชานเย่ว์สบถออกมาอย่างเย็นชา เขาได้ใช้พลังหยวนอันทรงพลังใส่โจวเป่ยเฉินและคนอื่นๆกระเด็นกลับไป ตาแก่อ้วนผอมทั้งคู่ที่มีทักษะด้อยกว่าได้กระอักเลือดออกมา ความแตกต่างระดับพลังกับหลี่ชานเย่ว์มันมากเกินไป
"พวกเจ้ามันแค่ผู้เชี่ยวชาญฉีไห่แค่ไม่กี่คน กล้าที่จะตอบโต้งั้นรึ?"
หลี่ชานเย่ว์ทำตัวเขาอยู่เหนือทุกคน
"ท่านผู้นำตระกูลหลี่ ไม่มีความจำเป็นต้องพูดใดๆกับพวกมันหรอกขอรับ แค่สังหารพวกมันและจับตัวเจ้าบ้าเจียงเฉินมาก็พอ"
มู่หรงเทียนพูดอย่างโหดร้าย
"ตกลง สังหารพวกมันทั้งหมด ขยี้คฤหาสน์เจ้าเมือง อย่าให้มีผู้ใดเหลือรอด"
หลี่ชานเย่ว์ออกคำสั่งอย่างเหี้ยมโหด เขาเป็นผู้ไร้ปราณี
ปังงง ๆๆๆ
เมื่อหลี่ชานเย่ว์กล่าวจบ คนจากตระกูลหลี่ทั้งหมดได้ปลดปล่อยพลังหยวนของตนออกมาในเวลาเดียวกัน พลังหยวนที่เกรี้ยวกราดดั่งพายุที่ทรงพลัง
"เจ้ากล้าดีเช่นไร!!!!"
ในช่วงเวลาที่เหมาะสมเช่นนี้ มีบางอย่างเปลี่ยนแปลงขึ้น น้ำเสียงที่ทรงพลังออกมาจากจุดๆหนึ่งในคฤหาสน์ตระกูลเจียง เสียงดังกึกก้องดั่งฟ้าผ่าลงมาจากท้องฟ้า ทุกๆคนได้ยินถึงความเกรี้ยวกราดที่สะท้อนออกมา เพียงแค่สามคำที่ออกมาทำให้ทุกคนขวัญหายหมด
ตูมมมมม !!
เสียงระเบิดได้ยินกันถ้วนหน้า ทุกคนเห็นถึงหลังคาเรือนที่พักในบริเวณคฤหาสน์เกิดระเบิดขึ้น บรรยากาศเปี่ยมไปด้วยแรงกดดันอันหนักหน่วง
จากนั้นเกิดการระเบิดตัวของอากาศขึ้น มีเปลวเพลิงสีแดงรูปร่างเหมือนมังกรขนาดตัวกว่า 3 เมตร ว่ายท่ามกลางทะเลเพลิงกลางอากาศ คลื่นพลังที่มองไม่เห็นแผ่นมาจากมังกร ก่อให้เกิดพายุเพลิงขึ้นมา
โฮกกกกกกกก…….
พลังวิญญาณอันมหาศาลได้แผ่กระจายไปทั่วคฤหาสน์เจ้าเมือง
"ช่างเป็นพลังวิญญาณที่ทรงพลังอะไรเช่นนี้ กระทั่งวิญญาณข้ายังสั่นสะท้าน ผุ้ที่สามารถสร้างแรงกดดันวิญญาณนี่มัน …ต้องอยู่ในระดับแก่นแท้สวรรค์เป็นแน่"
หน้าของหลี่ชานเย่ว์ถอดสีในทันที
"การผสมผสานระหว่าพลังวิญญาณและเปลวเพลิง การการควบคุมเพลิงที่สมบูรณ์แบบนี่ มีนักแปรธาตุที่ทรงพลังอยู่บริเวณนี้ด้วยหรือนี่!!"
"พลังวิญญาณของผู้เชี่ยวชาญระดับแก่นแท้สวรรค์! ผู้เชี่ยวชาญระดับแก่นแท้สวรรค์อยู่ที่นี่!"
ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์ทั้งสองได้มองเปลวเพลิงบนท้องฟ้าด้วยท่าทีตกตะลึง พวกเขาสามารถรับรู้ได้ว่าพลังวิญญาณอันมหาศาลที่อยู่ภายในทะเลเพลิงนั้น แรงกดดันระดับนั้นเป็นของคนที่อยู่ในระดับแก่นแท้สวรรค์
ผู้คนจากตระกูลเจียงต่างตกตะลึง พวกเขาต่างดูเปลวเพลิงที่อยู่ด้านบนเรือนที่พัก ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
"ที่นั่นเป็นที่ๆเฉินเอ๋อร์อยู่"
เจียงเจิ้นไห่ตกตะลึงงันจนอ้าปากค้าง
"ช่างเป็นพลังวิญญาณที่มหาศาลอะไรเช่นนี้ ผู้เชี่ยวชาญระดับนั้นได้มาอยู่ในห้องนายน้อยตั้งแต่เมื่อไรกัน?"
โจวเป่ยเฉินบ่นพึมพำกับตัวเอง
"ข้ากำลังทำการบ่มเพาะอยู่ที่นี่ พวกเจ้ากล้าดีอย่างไรมารบกวนการบ่มเพาะของข้า ตาย!"
เสียงอันทรงพลังได้ออกมาอีกครั้งหนึ่ง เสียงนั้นดังก้องไปถึงจิตวิญญาณผู้คน มันสามารถที่จะรบกวนจิตใจของผู้คนได้ง่ายดาย
"ท่านผู้ทรงเกียรติ พวกข้าขออภัยด้วย พวกข้าไม่ทราบว่าท่านอยู่ที่นี่ โปรดอภัยให้พวกข้าที่ไปรบกวนท่านด้วยเถิด ท่านผู้ทรงเกียรติ ข้ามีนามว่า หลี่ชานเย่ว์ ผู้นำตระกูลหลี่จากเมืองสีชาด ข้าขอเชิญท่านผู้ทรงเกียรติได้ไปบ่มเพาะบริเวณตระกูลข้า ข้าจะสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับท่านขอรับ ท่านผู้ทรงเกียรติ เมืองฟ้าหอมเล็กเกินไปสำหรับท่าน มันไม่เหมาะสมกับบุคคลระดับท่านขอรับ"
หลี่ชานเย่ว์ได้ลดพลังทั้งหมดของเขาและคารวะขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาพูดสุภาพที่สุด ไม่กล้าที่จะยั่วยุผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์ผู้นี้
"ไสหัวไปซะ!"
ทะเลเพลิงสั่นสะท้าน และมีเสียงตะโกนออกมา
ใบหน้าของผู้คนตระกูลหลี่เปลี่ยนไป พวกเขาไม่กล้าแม้สร้างเสียงใดๆ มิใช่เพราะกลัวแรงกดดัน แต่พวกเขากลัวผู้เชี่ยวชาญระดับแก่นแท้สวรรค์ที่จะมีโทสะและสังหารพวกเขาทั้งหมด
"ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าสามลมหายใจออกไปจากที่นี่ซะ หากพวกเจ้าไม่ออกไปเจ้าจะถูกเผาผลาญจนเป็นเถ้าถ่าน"
เสียงอันทรงพลังดังก้องอีกครา ทะเลเพลิงบนท้องฟ้ากำลังขยายพื้นที่กว้างขึ้น ในขณะเดียวกัน ดาบเพลิงขนาดยักษ์ได้ต่อไปที่คอของหลี่ชางเย่ว์
หลี่ชางเย่ว์กลัวมาก แม้เขาเป็นถึงระดับแก่นมนุษย์ขั้นปลาย แต่เขายังไม่สามารถที่จะเทียบกับระดับแก่นแท้สวรรค์ได้ นอกจากนี้เขายังไม่ทราบว่า คนผู้นี้คือใคร แต่การควบคุมเพลิงที่สมบูรณ์และพลังวิญญาณอันมหาศาลนั้นทำให้เขาผวา
"ผู้นำตระกูล พวกเราจะทำยังไงต่อดีขอรับ"
ผู้เชี่ยวชาญแก่นมนุษย์คนอื่นถามด้วยสีหน้าซีดเซียว
"ที่ตระกูลเจียงนั้นมีผู้เชี่ยวชาญขั้นแก่นแท้สวรรค์อยู่ หากพวกเราทำให้เขาโกรธล่ะก็พวกเราได้ตายอยู่ที่นี่ กลับกันก่อน แล้วค่อยหาทางแก้แค้นทีหลัง"
หลี่ชานเย่ว์ออกมา แม้เขาไม่ต้องการที่จะปล่อยไปอย่างง่ายดายก็ตาม แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่กล้าที่จะกระทำการใดๆ แม้เขาจะยืมมือผู้กล้าหาญไปเสี่ยง แต่ดาบเพลิงขนาดยักษ์ที่จ่อคอหอยเขาอยู่ ใครจะไปรู้ว่ามันอาจจะพุ่งไปที่เขา สังหารเขาก็เป็นได้
"ไสหัวไปเดี๋ยวนี้!"
เสียงราวสายฟ้าฟาด ความกดดันมากกว่าก่อนหน้านี้ ดาบเพลิงยักษ์สั่นสะท้าน มันพร้อมที่จะฟาดฟันใส่เขาได้ทุกเวลา
หลี่ชานเย่ว์หวาดกลัวอย่างมาก ไม่กล้าที่จะชักช้าอีก เขาจ้องไปทางเจียงเจิ้นไห่และหันกลับไปยังทางเข้า "ไปเถอะ"
"ช้าก่อน"
เสียงดังขึ้นอีกครั้ง "ทิ้งคนจะตระกูลมู่หรงไว้ที่นี่"
สีหน้าของมู่หรงเทียนเปลี่ยนไปซีดขาวในทันที เขามองไปยังหลี่ชานเย่ว์ด้วยสีหน้าวิงวอนอย่างน่าสงสาร แต่ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์ลึกลับนั่นทำให้เขาเกือบตายเพราะหวาดกลัว แม้แต่หลี่ชางเย่ว์ยังถอนตัวกลับเพราะชายลึกลับ ถ้าเขาถูกทิ้งไว้ ก็มีแต่ความตายที่จะมาเยือน
"มู่หรงเทียน เจ้าอยู่ที่นี่ซะ"
หลี่ชางเย่ว์พูดขึ้นอย่างเฉยเมยและไม่ได้เหลียวกลับมามองเป็นครั้งที่สอง เขาให้สัญญาณให้คนของเขาทั้งหมดตามไปและทิ้งมู่หรงเทียนเอาไว้ มู่หรงเทียนนั้นไม่มีความหมายสำหรับเขา ถ้ากล้าที่จะสู้กับผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์เพราะมู่หรงเทียนนั่นเป็นเรื่องบ้าบอสิ้นดี
"ผู้นำตระกูลหลี่ แล้วพวกข้าล่ะขอรับ"
หยางเซี่ยวและจางชันลุกขึ้นจากพื้นและพุ่งไปยังทางเข้า แต่พวกเขาถูกโจวเป่ยเฉินตาแก่อ้วนขวางเอาไว้ ผู้คนจากตระกูลเจียงได้เคลื่อนไหวพร้อมกันและจับตัวมู่หรงเทียนเอาไว้
แรงกดดันอันมหาศาลและทะเลเพลิงได้สลายหายไปในช่วงที่หลี่ชางเย่ว์ได้กลับไปพร้อมกับคนของเขา ทุกๆคนในคฤหาสน์ต่างงุนงง บางคนแอบเช็ดเหงื่อของพวกเขา เมื่อครู่ที่ผ่านมาพวกเขาเกือบต้องตายซะแล้ว
ตอนนี้ทุกคนต่างรู้สึกโล่งใจ ใครจะไปคิดว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญระดับสูงอาศัยอยู่ในคฤหาสน์เจ้าเมือง และเสียงอันทรงพลังนั้นสามารถไล่ผู้นำตระกูลหลี่กลับไปได้
"พี่โจว จับกุมพวกเขาก่อน"
เจียงเจิ้นไห่กล่าวแก่โจวเป่ยเฉินก่อนที่จะเดินตรงไปที่เรือนที่พักของเจียงเฉิน
เจียงเจิ้นไห่ได้ดันประตูเข้าไปก็พบกระเบื้องปูพื้นนั้นแตกกระจาย เขามองดูหลังคาเรือนพักมีหลุมขนาดยักษ์อยู่ เหมือนกับว่าผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์ลึกลับผู้นั้นเคยอยู่ที่ห้องนี้มาก่อน
เจียงเจิ้นไห่เดินไปยังด้านหน้าของเรือนที่พักของเจียงเฉิน ประตูปิดสนิทอยู่ เขาได้ยกแขนของเขาขึ้นเพื่อเตรียมเคาะประตู แต่เขาหยุดตัวเองไว้ก่อน ถ้าหากมีผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์อยู่ในห้องล่ะก็ มันเป็นการหยาบคายต่อคนผู้นี้ที่จะเข้าไป
เจียงเจิ้นไห่ได้หันหลังกลับ เขาเชื่อว่าเจียงเฉินสามารถอธิบายให้เขาฟังได้เมื่อเจียงเฉินออกมาจากห้อง
ในห้องนั้นเจียงเฉินได้นอนแผ่อยู่บนเตียงสีหน้าซีดขาว เขาได้หมดสติไป มีเลือดเต็มเตียง ดูเหมือนว่าเขาจะกระอักเลือดออกมา
ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์ลึกลับ? แน่นอนว่าไม่ใช่ ในที่พักนี้มีเพียงผู้เดียวนั่นคือ เจียงเฉิน
ตอนนั้นเจียงเฉินได้ใช้ทักษะเพิ่มพูนพลังวิญญาณ ทำให้พลังวิญญาณของเขาได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในช่วงเวลาหนึ่ง เลื่อนขึ้นถึงระดับแก่นแท้สวรรค์ชั่วคราวนั้นสามารถทำให้เจียงเฉินข่มขู่หลี่ชางเย่ว์ให้กลับไปได้ ทำให้ทุกคนเชื่อว่ามีผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์อยู่ที่ห้องของเจียงเฉิน
วิธีที่ใช้มันละเมิดหลักการสวรรค์ ฝืนธรรมชาติ แน่นอนเป็นสิ่งที่เจียงเฉินทำได้เพียงผู้เดียว เจียงเฉินนั้นเคยเป็นถึงเซียนผู้ยิ่งใหญ่ในโลก แค่ทักษะเพิ่มพูนจิตวิญญาณก็สามารถที่จะช่วยเลื่อนระดับพลังวิญญาณได้ช่วงขณะหนึ่งนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ต้นทุนที่ต้องใช้มันก็มากตามไปด้วย วิญญาณของมนุษย์นั้นเป็นส่วนที่อ่อนแอที่สุดในร่างกายมนุษย์และเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ วิญญาณนั้นเป็นแหล่งที่มาของทุกสิ่งหากวิญญาณบาดเจ็บ มันยากที่จะรักษา
เจียงเฉินนั้นหมุนเวียนใช้ทักษะเพิ่มพูนจิตวิญญาณเพื่อเพิ่มพลังวิญญาณของเขาให้อยู่ในระดับแก่นแท้สวรรค์ชั่วคราว สร้างความเสียหายให้แก่จิตวิญญาณเขา แรงกดดันที่เขาใช้ทำให้เขาหมดแรง นั่นเป็นเหตุที่ว่าเขาหมดสติไปทันทีหลังจากที่หลี่ชานเย่ว์กลับไป
********************************************
โปรดติดตามตอนต่อไป…….