หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

เทพมังกรสงครามอหังการ - Dragon Marked War God ตอนที่ 25 กฎแห่งความโหดร้าย

  1. หน้าแรก
  2. เทพมังกรสงครามอหังการ
  3. Dragon Marked War God ตอนที่ 25 กฎแห่งความโหดร้าย
Prev
Next

แปลไทยโดย Takumi Kun

************************************************************************

สถานการณ์เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นอีกครั้ง ความหวังของเหล่าผู้เชี่ยวชาญตระกูลมู่หรงกลับคืนมา โดยเฉพาะคนที่ยอมแพ้และถอดใจ ในอีกด้านหนึ่ง บรรดาคนของตระกูลเจียงดูตื่นเต้นและกังวลปะปนกัน

นายน้อยของพวกเขาแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งเมื่อเขาได้ทะลวงผ่านระดับฉีไห่ อย่างไรก็ตามมู่หรงเจิ้นไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญฉีไห่ทั่วไป เป็นบุคคลที่ใกล้ที่จะเข้าสู่ระดับแก่นมนุษย์ และฐานะหนึ่งในสองพยัคฆ์เมืองฟ้าหอม มันไม่ง่ายที่จะปะทะกับเขา จะพูดได้ว่าเหตุผลที่ตระกูลมู่หรงได้อยู่เหนือผู้อื่นหลายๆปีเพราะเขา มู่หรงเจิ้น

แต่นายน้อยเจียงเฉินได้สร้างปาฎิหารย์หลังปาฎิหารย์ เขาไม่เคยทำอะไรที่เขาไม่มั่นใจหลังจากที่ได้เปลี่ยนแปลงไป เขาเป็นผู้ที่อาจหาญที่จะท้าทายมู่หรงเจิ้น เขาจักต้องมีความมั่นใจในการเอาชนะมู่หรงเจิ้นเป็นแน่

ปัง!!

มู่หรงเจิ้นปลดปล่อยพลังหยวนมหาศาลออกมา พลังของผู้ที่อยู่ระดับสุดท้ายของระดับฉีไห่ช่างน่าสะพรึงยิ่งนัก

มู่หรงเจิ้นได้พุ่งสายตาไปยังเจียงเฉินที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา เขาพยายามที่จะค้นหาทักษะแท้จริงของเจียงเฉิน แต่น่าเสียดาย ที่เขาไม่ได้พบอะไรเลย

หน้าของเจียงเฉินยังดูสงบ ผ่อนคลาย แววตาของเขาไม่ได้เปิดเผยอะไรทั้งสิ้น เขาเปรียบดั่งภูเขาที่มั่นคง ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่ามันสูงใหญ่เพียงใด ความมั่นใจของเขาเหมือนของขวัญจากพระเจ้าที่ทำให้เขาไม่สั่นคลอนใดๆในทุกสิ่งที่เขาทำ

"เจ้าหนุ่ม ขอให้ข้าเห็นหน่อย ว่าอะไรที่ทำให้เจ้ามีความมั่นใจขนาดนี้"

มู่หรงเจิ้นเริ่มบุกโดยเหวี่ยงแขนออกไป พลังลมกรดที่สร้างจากพลังหยวนเปรียบกับคลื่นยักษ์ถาโถมใส่เจียงเฉิน

"เยี่ยม"

เจียงเฉินตาเป็นประกาย เขาต้องการคนแบบนี้มาเป็นคู่ต่อสู้อยู่ ตราประทับมังกรในจุดตันเถียนได้สั่นสะเทือน ทันใดนั้นพลังหยวนอันแข็งแกร่งได้ถูกปลดปล่อยออกมา ด้วยระดับพลังหยวนที่เจียงเฉินได้ปลดปล่อยออกมานั้นรุนแรงกว่าของมู่หรงเจิ้นยิ่งนัก

โอววว โอววว…..

สายลมอันแข็งแกร่ง ผู้ที่อยู่ใกล้พวกเขาต่างถูกพัดออกไป ทุกคนต่างตกตะลึงพลังหยวนที่เจียงเฉินปลดปล่อยออกมารุนแรงกว่าของมู่หรงชานเสียอีก

ปังงงง

คลื่นพลังปราณได้โถมเข้าหากัน ได้เกิดแรงระเบิดอากาศขึ้นทันทีที่ปะทะ แรงระเบิดส่งผลต่อพื้นดิน ทำให้แผ่นกระเบื้องลอยขึ้นมา

"คนอะไรเนี่ย"

มู่หรงเจิ้นตกตะลึง เขาได้พุ่งเข้าหาเจียงเฉินทันที หากเจียงเฉินได้จู่โจมเขามากกว่านี้มันยิ่งอันตรายมากขึ้น เขารู้สึกถึงอันตรายได้ โชคชะตาความเป็นความตายของคนตระกูลมู่หรงขึ้นอยู่กับการต่อสู้ครั้งนี้ ถ้าว่าเขาแพ้ทุกอย่างก็จะมลายหายไป

ตูมมมมม…

พลังหมัดของมู่หรงเจิ้นทำให้อากาศสั่นสะเทือน หมัดของเขาเต็มไปด้วยพลังหยวนเพียงแค่เสี้ยววินาทีหมัดนั้นก็จะถึงตัวเจียงเฉิน

ตาของเจียงเฉินลุกวาว เขาชอบการต่อสู้แบบนี้มาก มันสามารถตรวจสอบทักษะการต่อสู้ของเขาได้เป็นอย่างดี

ยังไงก็ตามครั้งหนึ่งเจียงเฉินเคยเป็นถึงเซียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใต้หล้า มันช่างแตกต่างกับตอนนี้เหลือเกิน เขาทำการบ่มเพาะทีละเล็กทีละน้อย ทุกคนที่อยู่จุดสูงสุดผ่านการต่อสู้มานับไม่ถ้วน เหยียบย่ำกระดูกกว่าพัน เลือดชโลมตลอดการเดินทางของพวกเขา

ปังงงงงง

หมัดที่เปล่งแสงที่คลุมด้วยพลังหยวนทั้งสองเข้าปะทะกันทำให้กระแทกผู้อื่นกระเด็นไปตามๆกัน เหมือนนำเหล็กไปฟาดใส่คนอื่น ดั่งอากาศรอบตัวพวกเขาเกิดการระเบิด

เจียงเฉินก้าวถอยหลังสองก้าวและพยุงร่างเขา เขาจ้องไปที่มู่หรงเจิ้นและเห็นว่ามู่หรงเจิ้นถอยเพียงก้าวเดียว แต่ท่าทางของมู่หรงเจิ้นตะลึงหนักกว่าเก่า

"เจ้าบ้านี่เป็นสัตว์ประหลาดรึไง? พลังหมัดของเขารุนแรงถึงสองหมื่นห้าพันจิน มันเป็นพลังทั้งหมดของข้าเชียวนะ"

มู่หรงเจิ้นมีความรู้สึกหลายๆอย่าง เขาไม่เคยพบผู้ที่มีกำลังมากมหาศาลเช่นนี้มาก่อน ยังไงก็ตามเขายังเหนือกว่าด้วยพลังหมัดนั้น แต่เขาเสียดายที่สร้างบาดแผลให้เจียงเฉินไม่ได้เลย

ในทางด้านตรงข้าม เจียงเฉินยืนยิ้มอยู่ ดูจากสีหน้าของเขาบ่งบอกได้ว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา ใช่ เขาได้ถอยหลังถึงสองก้าว แต่เจียงเฉินได้รู้ว่ามู่หรงเจิ้นรู้สึกแย่ยิ่งกว่าเขา

มู่หรงเจิ้นได้เปรียบเรื่องพลังหยวน แต่เมื่อเทียบความแข็งแกร่งของร่างกายเขาไม่สามารถเทียบเจียงเฉินผู่ซึ่งฝึกตนด้วยการบ่มเพาะร่างแปลงมังกรได้

ในความเป็นจริงร่างกายครึ่งร่างของมู่หรงเจิ้นได้ชาไปชั่วขณะ

"ดีมาก"

เจียงเจิ้นไห่ตะโกนออกมา การแสดงพลังของเจียงเฉินทำให้เขาตกใจมาก

"กระบวนท่าเหยี่ยวทมิฬ"

มู่หรงเจิ้นตะโกนออกมา เขาได้ใช้ทักษะที่มีพลังมากที่สุดของเขาออกมา เพื่อที่จะเอาชนะเจียงเฉิน

ทักษะการจู่โจมของเหยี่ยวทมิฬเป็นทักษะระดับมนุษย์ขั้นกลาง เป็นที่รู้กันว่าทักษะนี้มีความรุนแรงและพลังอันมหาศาล และเป็นทักษะที่เลื่องชื่อของมู่หรงเจิ้น

ฟ้าวว

มู่หรงเจิ้นกระโดดสูงกว่าเมตรบนอากาศ เสียงเหมือนอินทรีย์ถลาลม ท่าร่างของเขาเหมือนอินทรีย์เตรียมที่จะจู่โจม และเมื่อรวมกับพลังหยวนของเขาได้พุ่งเข้าหาเจียงเฉิน ในตาของเจียงเฉินเห็นว่าเหยี่ยวดำได้ถลาลงมาจู่โจมเขา

"ท่านผู้นำตระกูลใช้ทักษะยุทธเหยี่ยวทมิฬ ครั้งนี้เจียงเฉินไม่สามารถรับมันได้แน่"

"ทักษะการต่อสู้ระดับมนุษย์ขั้นกลาง ทรงพลังยิ่งนัก เจียงเฉินเป็นเพียงแค่ระดับฉีไห่ขั้นต้น เขาไม่มีหวังที่จะต้านทานการโจมตีนั่นแล้วล่ะ พวกเรารอดแล้วครานี้"

ทุกๆคนในตระกูลมู่หรงมีสีหน้ามีความสุข ทักษะของมู่หรงชานไม่ใช่สิ่งที่สามารถปะทะด้วยได้ง่าย

"เฉินเอ๋อร์ระวังตัวด้วย นี่คือทักษะอันเลื่องชื่อของมู่หรงเจิ้น เจ้าอย่าได้ดูถูกมัน"

เจียงเจิ้นไห่รีบเตือนเจียงเฉิน

เจียงเฉินหาได้สนใจคำเตือนของเจียงเจิ้นไห่ไม่ สีหน้าเขายังดูสงบเยือกเย็น ตราประทับมังกรและพลังหยวนในตันเถียนเขาเดือดพล่าน และพลังรวมอยู่ที่นิ้วมือผ่านทางร่างกายเขา

วิ้งงงงงงงงงๆ

แสงสีทองครอบคลุมนิ้วของเขารวมกับพลังหยวนที่แท้จริงของเขา ทำให้แถบนั้นสั่นสะเทือนทันใดนั้นเจียงเฉินได้ชี้นิ้วใส่

ฟ้าววววว

อากาศได้ถูกตัดผ่านทุกคนเห็นแสงสีทองขนาดยักษ์ที่ส่องสว่างยามค่ำคืน พุ่งเข้าใส่มู่หรงเจิ้นอย่างหยุดไม่ได้

"อะไรน่ะ!!"

มู่หรงเจิ้นตะโกนอย่างไม่น่าเขื่อ จากประสบการณ์ของเขาสามารถบอกได้เลยว่า ลำแสงดัชนีสีทองเป็นทักษะที่มีระดับสูงกว่าระดับมนุษย์ พลังของดัชนีได้ล็อคเขาลงและปิดผนึกบริเวณโดยรอบและพุ่งมาราวสายฟ้าฟาดไม่มีทางที่เขาจะหลบได้ เขาทำได้เพียงโจมตีตอบ

"เข้ามาเลย!!!"

มู่หรงเจิ้นขบฟันแน่น ความดุดันปรากฎบนดวงตาเขา เขาได้ใช้พลังหยวนทั้งหมดใส่เข้าไปในการจู่โจมของเหยี่ยวดำ เขาไม่อยากจะเชื่อว่าผู้เชี่ยวชาญระดับฉีไห่ขั้นปลายอย่างเขาจะแพ้ให้กับเด็กเมื่อวานซืนที่อยู่แค่ระดับฉีไห่ขั้นต้น

ตูมมมมมม…..

ลำแสงสีทองได้เข้าปะทะกับการจู่โจมของเหยี่ยวดำทำให้บริเวณแถบนั้นราบเป็นหน้ากลอง อากาศได้ถูกฉีกออก ลำแสงดัชนีสุริยะของเจียงเฉินได้ทำลายการจู่โจมของเหยี่ยวดำที่มู่หรงเจิ้นใช้ก็แตกกระจุยเป็นชิ้นๆ มันไม่สามารถที่จะปะทะได้แม้เสี้ยววินาที

ตูมม

มู่หรงเจิ้นได้ร่วงกระแทกพื้นดินที่อยู่ห่างไปกว่า 30 เมตร พื้นผิวหินได้แตกกระจายจากการกระแทกครั้งนี้

อั่ก อ่อก…..

มู่หรงเจิ้นได้กระอักเลือดออกมา หน้าของเขาซีดขาว แม้ว่าดัชนีสุริยะนิ้วเดียวยังไม่สามารถสังหารมู่หรงเจิ้นได้ แต่ก็ทำให้พละกำลังเขาตกลงกว่า 90 เปอร์เซนต์

ทุกคนตกใจแม้แต่เจียงเจิ้นไห่เองก็ตกใจอ้าปากค้าง เขาและนักสู้คนอื่นๆจากตระกูลเจียงไม่อย่ากเชื่อในสิ่งที่เขาเห็น แววตาพวกเขาเต็มไปด้วยความชื่นชมต่อเจียงเฉิน

ไม่มีใครคิดว่ามู่หรงเจิ้นจะมาพ่ายแพ้เช่นนี้

"ทักษะที่เจียงเฉินใช้นั้นอยู่สูงกว่าระดับมนุษย์ ซึ่งไม่มีทักษะไหนอยู่ระดับสูงแบบนี้ในเมืองฟ้าหอม ข้าแปลกใจจริงผู้ใดเป็นคนสอนเขา และมอบทักษะเหล่านี้ให้"

เจียงเจิ้นไห่บ่นพึมพำกับตัวเขาเอง มันยังไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เจียงเฉินเปลี่ยนไป

ทุกๆคนในตระกูลมู่หรงต่างสูญเสียความหวัง หน้าซีดขาว แม้แต่มู่หรงชานยังถูกเจียงเฉินเล่นงาน ตระกูลมู่หรงสูญเสียเสาหลักของตระกูล พวกเขาไม่สามารถเทียบตระกูลเจียงได้อีกในเมืองฟ้าหอม

"เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้"

มู่หรงเจิ้นพยายามพยุงตัวขึ้นมานั่ง มือนึงจับไปที่หน้าอกของเขา เขาส่ายหัว เขาไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งเขาจะถูกเด็กเมื่อวานซืนเล่นงาน โดยที่ระดับต่ำกว่าตัวเขาอีกด้วย

"ผู้แพ้เป็นฝ่ายผิดเสมอ มู่หรงเจิ้น เจ้ามีอะไรจะสั่งเสียไหม"

เจียงเฉินเดินตรงเข้ามาหามู่หรงเจิ้น เขานำมือข้างนึงของเขาไขว้หลังและมองเย้ยหยันมู่หรงเจิ้นที่อยู่บนพื้นอย่างเย็นชา ดั่งเขาเป็นราชาผู้ถือครองความเป็นความตายของผู้อื่น

"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า …..สนุก สนุกจริงๆ ….ค่อกๆ"

มู่หรงเจิ้นหัวเราะเสียงดัง เขาได้พ่ายแพ้ แต่เขาไม่ได้พ่ายแพ้ให้กับศัตรูของเขาเจียงเจิ้นไห่ แต่เขาได้พ่ายแพ้ให้กับไอ้ตัวโง่ไร้ประโยชน์ซึ่งเขาไม่เคยที่จะแยแสช่างเป็นเรื่องน่าขันเสียจริง

เขาได่รับการต่อว่ามากมายในฐานที่พ่ายแพ้และเขาไม่สามารถที่จะปลดปล่อยพวกเขา แต่เขาก็ยอมรับว่าตัวเขาพ่ายแพ่แล้ว

"ข้าแพ้แล้ว แต่ข้าอยากให้เจ้าเมตตาไว้ชีวิตลูกหลานข้าด้วย"

มู่หรงเจิ้นยังคงอ้อนวอน

เจียงเฉินยอมตกลง มู่หรงเจิ้นยังมีความเป็นคนดีรักครอบครัวแม้ความตายจะอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว เจียงเฉินจึงตัดสินใจที่จะมอบความตายอย่างรวดเร็วและไม่เจ็บปวดให้

ตูม!!

เจียงเฉินได้จู่โจมโดยไร้ความเห็นใจ ซัดฝ่ามือใส่มู่หรงเจิ้น ทันใดนั้นทัศนวิสัยของมู่หรงเจิ้นเริ่มพล่ามัว และได้ร่วงตกลงสู่พื้นดิน ในที่สุดหนึ่งในสองพยัคฆ์แห่งเมืองฟ้าหอมก็จากไป

เจียงเฉินได้สังหารมู่หรงเจิ้น เพราะเขาไม่ต้องการที่จะให้โอกาสใดๆแก่ศัตรู ไม่ว่าเขาจะยอมปล่อยครอบครัวของมู่หรงเจิ้นหรือไม่ มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับมู่หรงเจิ้นอีก

"ท่านผู้นำ!!"

"ท่านพ่อออออออออออออออ"

คนทั้งหมดจากตระกูลมู่หรงร่ำไห้ ในฐานะที่พวกเขาเป็นลูกหลานของมู่หรงชาน พวกเขามองเจียงเฉินด้วยความเคียดแค้น เจียงเฉินมันเป็นฆาตกร ฆาคนโดยที่ไม่กระพริบตาเวลาที่เขาได้ฆ่าคน

เจียงเฉินยังดูสงบนิ่ง ภาพที่เห็นนี่มันไม่ได้ส่งผลใดๆต่อเขา ความโหดร้ายเป็นคำที่ดีที่สุดที่บ่งบอกถึงโลกของการฝึกตน ผู้อ่อนแอย่อมเป็นเหยื่อของผู้ที่แข็งแกร่ง ในโลกของเจียงเฉิน ศัตรูก็ยังเป็นศัตรูวันยังค่ำ เขาต้องทำลายให้สิ้น ถ้าแสดงความเห็นอกเห็นใจแก่ศัตรู จะได้รับประสบการณ์อันเจ็บปวดตามมาแน่นอน

"เฮ้อออ"

เจียงเจิ้นไห่ถอนหายใจออกมา เขารู้สึกเสียดายนิดหน่อย การต่อสู้ตลอดสามปีที่ผ่านมาได้มาถึงจุดจบ

"เฉินเอ๋อร์เอ๋ย ในเมื่อตระกูลมู่หรงโดนทำลายแล้ว จะทำเช่นไรกับผู้คนเหล่านี้?"

เจียงเจิ้นไห่ถามเจียงเฉิน

"ผู้ที่มีสกุลมู่หรงให้ทำลายการบ่มเพาะของพวกมันซะ และตัดแขนไปข้างนึงจากนั้นเนรเทศออกจากเมืองฟ้าหอม ไม่อนุญาตให้กลับมาเหยียบที่นี่อีก"

เจียงเฉินพูดอย่างเย็นชา เขาได้ตัดสินชะตากรรมของผุ้คนเหล่านี้เรียบร้อยแล้ว

…………………………………………………………………………………………………

โปรดติดตามตอนต่อไป…………

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "Dragon Marked War God ตอนที่ 25 กฎแห่งความโหดร้าย"

4.2 21 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz