เจี้ยนเฉิน ซี่หวัง และผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าเต่าออกไปจากเมืองด้วยกัน พวกเขาบินอยู่ในอากาศในขณะที่เจี้ยนเฉินกำลังสำรวจยุทธภัณฑ์ราชาที่อยู่ในมือ เขาใช้มือของเขาสัมผัสไปที่ผิวของกระบี่ที่ส่องแสงเป็นครั้งคราวในขณะที่เขามองไปที่มันด้วยความชื่นชอบอย่างปิดบังไม่ได้
“ยุทธภัณฑ์ราชาช่างเหมาะกับข้าเสียจริง ข้าจะสามารถต่อสู้กับนักรบวิญญาณทะเล 15 ดาวธรรมดาได้เมื่อข้าต้องประมือกับพวกเขา” เจี้ยนเฉินพึมพำกับตัวเอง น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสุข
ยุทธภัณฑ์ราชาทรงพลังมากและไม่อ่อนด้อยเหมือนยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎ แม้แต่เซียนปฐพียังสามารถใช้ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นไปได้หลายระดับโดยไม่มีผลกระทบอะไร อย่างไรก็ตาม ยุทธภัณฑ์ราชาสามารถยิงปราณกระบี่ที่แหลมคมออกไปได้ด้วยตัวของมันเอง คนที่ระดับต่ำกว่าเซียนราชาไม่สามารถใช้มันได้ไม่เช่นนั้นคนที่ใช้มันจะได้รับบาดเจ็บก่อนที่จะไปทำร้ายคู่ต่อสู้ได้
ถ้าเจี้ยนเฉินต้องการที่จะใช้ยุทธภัณฑ์ราชา เขาต้องใช้พลังบรรพกาลเพื่อหมุนเวียนพลังป้องกันของเขาให้ไปถึงขีดสุด แบบนั้นเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บจากปราณกระบี่ อย่างไรก็ตามถึงจะเป็นแบบนั้น ปราณกระบี่จากยุทธภัณฑ์ราชาเมื่อตอนที่เขาชักดาบออกมาก็จะทิ้งรอยสีขาวไว้บนผิวของเขา
ผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าเต่าอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจในใจเมื่อเขาเห็นความแข็งแกร่งของร่างกายเจี้ยนเฉิน “เขาต้องเป็นผู้คุมกฎของเผ่าเต่าแน่ ความแข็งแกร่งของร่างกายของเขานั้นยอดมาก เขาเต็มไปด้วยคุณลักษณะพิเศษของเผ่าของพวกเรา”
“มียุทธภัณฑ์ราชาอยู่บนทวีปเทียนหยวนไม่มากเช่นกัน เฉพาะตระกูลโบราณถึงจะมีมันซักสองสามชิ้น ข้าไม่คิดเลยว่าข้าจะได้ของหายากมาโดยง่ายเช่นนี้” เจี้ยนเฉินยินดีมาก มันอาจจะมีราคาถึง 50 ล้านเหรียญผลึกชั้นยอด แต่สำหรับเจี้ยนเฉินแล้วแม้แต่ร้อยล้านเหรียญผลึกชั้นยอดก็ยังเทียบกับยุทธภัณฑ์ราชาไม่ได้ อย่าว่าแต่ห้าสิบล้านเลย
ทันใดนั้นเอง ตาของเจี้ยนเฉินก็หรี่เล็กลงอย่างรวดเร็ว เขาหันหน้าออกไปจากยุทธภัณฑ์ราชาในที่สุด ด้านหน้า แสงสีแดงแสบตาพุ่งตรงมาที่เขาด้วยความเร็วแสง มันเร็วมากจนสามารถเคลื่อนที่ได้หลายสิบกิโลเมตรในเวลาไม่ถึงวินาทีเดียว และกำลังเข้ามาใกล้เจี้ยนเฉินอย่างรวดเร็ว
ผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าเต่าเห็นแสงสีแดงนั่นเช่นกันและท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไป “ระวัง ผู้คุมกฎ” เขาปรากฎขึ้นต่อหน้าเจี้ยนเฉินในพริบตา และเหวี่ยงหมัดเปล่าเปล่าไปที่แสงสีแดงนั่น
อย่างไรก็ตาม มันดูเหมือนไม่มีตัวตนและจับต้องไม่ได้ หมัดของผู้อาวุโสสูงสุดพุ่งผ่านแสงสีแดงโดยไม่โดนอะไรเลยแม้แต่น้อย
แสงสีแดงพุ่งผ่านร่างของผู้อาวุโสสูงสุดและกระแทกเข้าโดยตรงที่เจี้ยนเฉิน ทันใดนั้นเอง เจี้ยนเฉินก็ส่องแสงสีแดงจ้าออกมา มันควบแน่นกันกลายเป็นดาบสีแดงจาง ๆ ที่ห้อยอยู่เหนือหัวของเจี้ยนเฉิน
“นะ นี่มันเป็นคำสั่งฆ่าสูงสุดจากศาลาวิญญาณสวรรค์ มันมีความสามารถที่จะผนึกความสามารถของคนคนหนึ่งเอาไว้ได้” ท่าทางของผู้อาวุโสสูงสุดเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเมื่อเขาเห็นแสงสีแดงเหนือหัวของเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินเริ่มรู้สึกเคร่งเครียด เขารู้สึกได้ถึงพลังงานที่แปลกประหลาดที่บุกรุกเข้าไปในร่างของเขา และเหมือนมีตาข่ายมาคลุมรอบปราณของเขาเอาไว้
“มันต้องการที่จะผนึกความแข็งแกร่งของข้า ! เจ้ากล้าดียังไง ! ” เจี้ยนเฉินโกรธเกรี้ยว เขาคิดแล้วพลังบรรพกาลในปราณของเขาก็ขับพลังมหาศาลออกมา มันพุ่งเพิ่มขึ้นในร่างกายเขาอย่างรวดเร็วและเต็มไปด้วยออร่าแห่งการทำลายล้าง ก่อนที่จะเปลี่ยนไปเป็นรูปมังกรที่เกรี้ยวกราด มันพุ่งเข้าไปที่พลังงานที่ผนึกเขาเอาไว้ด้วยพลังที่หยุดไม่ได้
พลังบรรพกาลปะทะเข้ากับพลังงานและพลังบรรพกาลก็เข้าหักล้างพลังงานนั้น อย่างไรก็ดี พลังงานธรรมดาหรือจะเทียบเท่ากับความแข็งแกร่งของพลังบรรพกาลที่เป็นเอกลักษณ์ได้ ? ในไม่ช้า พลังงานแปลกนั่นก็ถูกกลืนกินไปโดยพลังบรรพกาลอย่างช้า ๆ ก่อนที่จะหายไปหมดสิ้นโดยไม่มีร่องรอยเหลืออยู่
เจี้ยนเฉินรู้สึกได้ว่าพลังบรรพกาลของเขาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอีกครั้งหลังจากที่กลืนกินพลังงานแปลกนั้นไป อย่างไรก็ตาม ปริมาณที่เพิ่มนั้นมันน้อยมากจนไม่ได้สำคัญอะไร
แสงสีแดงที่อยู่รอบเจี้ยนเฉินค่อย ๆ จางหายไปหลังจากที่พลังงานประหลาดถูกกลืนกินไป
เสียงลมหวีดหวิวดังมาแต่ไกล คนสองคนพุ่งเข้ามาทางเจี้ยนเฉินด้วยความเร็วแสงในขณะที่พวกนั้นเปล่งจิตสังหารออกมา พวกนั้นไม่ได้มาดีแน่
“บ้าเอ้ย พวกนั้นเป็นจอมยุทธ 16 ดาว พวกมันเป็นคนของศาลาวิญญาณสวรรค์ หนีเร็ว ผู้คุมกฎ” ท่าทางของผู้อาวุโสสูงสุดน่ากลัวมาก และเขาหนีไปไกลในขณะที่ดึงเจี้ยนเฉินไปด้วย
อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงไม่เร็วไปก่วาจอมยุทธ 16 ดาว 2 คนนั้น ก่อนที่พวกเขาจะเคลื่อนไปได้เยอะ จอมยุทธ 16 ดาว 2 คนก็พุ่งข้ามหัวของพวกเขาไปและขวางทางเอาไว้
จอมยุทธ 16 ดาวเป็นชายหนุ่มที่ดูเหมือนอายุสามสิบกว่ากว่า พวกเขาใส่ชุดดำและรูปร่างลักษณะของพวกเขาก็ไม่ได้มีอะไรเด่นเป็นพิเศษ พวกเขาดูเหมือนกันเป๊ะเพราะพวกเขาเป็นฝาแฝด
ทั้งสองคนมองไปที่เจี้ยนเฉินในขณะที่จิตสังหารสั่นไหวในดวงตาของพวกเขา หนึ่งในนั้นเอ่ยออกมา “ข้าไม่คิดเลยว่าจะมีคนที่สามารถหนีได้หลังจากที่ถูกทำสัญลักษณ์คำสั่งฆ่าขั้นสูงจากศาลาวิญญาณสวรรค์ไปแล้ว”
“พวกเจ้าคือ ซูเทียนซีและซูหยุนซี จากแปดสุดยอดจอมยุทธมนุษย์ เจ้าเป็นคนนอกแต่เจ้ายังพยายามมาเอาชีวิตผู้คุมกฎของเผ่าเต่าของข้า เจ้าไม่ต้องการที่จะอยู่ในอาณาจักรทะเลอีกแล้วหรือไง ? ” ผู้อาวุโสสูงสุดตะโกนออกมา
ซูเทียนซีและซูหยุนซีหัวเราะออกมาพร้อมกัน “พวกเราอาจจะเป็นคนนอกแต่พวกเราทำงานให้กับศาลาวิญญาณสวรรค์ ไม่ใช่พวกเราที่ต้องการฆ่าเขาแต่เป็นศาลาวิญญาณสวรรค์ในครั้งนี้ คนเดียวที่เจ้าจะโทษได้ก็มีแต่เจ้าหนูนี่ที่ไปทำให้ศาลาวิญญาณสวรรค์โกรธ ตายซะ ! ” ดาบใหญ่ขนาดเท่าฝ่ามือปรากฎขึ้นที่มือของพวกเขาทั้งสอง พวกเขาเหวี่ยงมันออกไปทันที และยิงปราณดาบขนาดใหญ่ไปที่เจี้ยนเฉิน
แม้ว่าพวกเขาจะโจมตีออกมาอย่างธรรมดา แต่การโจมตีจากเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 ก็มีพลังที่จะทำลายรอบรอบได้ ปราณดาบทั้งสองตัดผ่านมิติด้วยคลื่นพลังที่รุนแรงและพุ่งตรงไปที่เจี้ยนเฉิน
“ข้าจะหยุดพวกเขาเอาไว้เอง ผู้คุมกฎ ได้โปรดหนีไป” ผู้อาวุโสสูงสุดร้องออกมา ร่างกายของเขาขยายออกอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนเป็นเต่าขนาดยาว 10 เมตรที่เป็นโล่กันเจี้ยนเฉินเอาไว้ เขาใช้กระดองเพื่อรับการโจมตีธรรมดาจากคนทั้งสองคน
ผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าเต่าอยู่ในชั้นสวรรค์ที่ 4 เขาอ่อนแอกว่าซูเทียนซีและซูหยุนซีเล็กน้อย แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของเขาคือพลังการป้องกัน แม้แต่เซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 ต้องการที่จะทำให้เขาบาดเจ็บ พวกเขาก็ต้องโจมตีอย่างสุดกำลังเท่านั้น
ผู้อาวุโสสูงสุดไม่ได้รับบาดเจ็บใดใดเลยหลังจากรับการโจมตีทั้งสอง เขาเหวี่ยงเจี้ยนเฉินออกไปไกล ก่อนที่จะหันไปสู้กับอีกทั้งสองคน เขาต้องการที่ถ่วงเวลาเอาไว้เพื่อให้เจี้ยนเฉินมีเวลาที่จะหนีได้
“ท่านพี่ ทำให้เจ้านี้วุ่นไว้ ข้าจะไปสังหารเป้าหมาย” ซูหยุนซีพูดอย่างไร้อารมณ์ เขาเริ่มเข้าไปต่อสู้กับผู้อาวุโสสูงสุด
“เอาล่ะ ข้าโจมตีเพียงครั้งเดียวก็สังหารเขาได้แล้ว” ซูเทียนซีพูดอย่างมั่นใจ และไล่ตามเจี้ยนเฉินไปทันที
“เจ้าอย่าบังอาจมาทำร้ายผู้คุมกฎ วิชาลับเผ่าเต่า โลกในกระดอง ! ” ผู้อาวุโสสูงสุดตะโกนออกมา กระดองของเขาหลุดออกมาจากร่างของเขา และลอยไปในอากาศและเปลี่ยนไปเป็นกระดองยักษ์ในพริบตา
กระดองขยายออกยาวหมื่นเมตร มันลอยอยู่ในอากาศเหมือนเมฆพายุ ทำให้รอบบริเวณมืดไปหมด
แรงดูดมหาศาลปรากฏขึ้นจากในกระดอง มันได้ดูดซูเทียนซีและซูหยุนซีเข้าไป ก่อนที่ผู้อาวุโสสูงสุดจะหายไปในกระดองด้วยตัวของเขาเอง เขาดูเหมือนหลอมรวมเข้ากับมัน
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! …
เสียงดังอื้ออึงออกมาเป็นระยะจากในกระดองและมันเริ่มที่จะสั่นไหวอย่างรุนแรงในอากาศ พลังแห่งการมีอยู่ที่ยิ่งใหญ่สามารถสัมผัสได้ลาง ๆ จากในกระดองก่อนที่มันจะหล่นลงมาจากท้องฟ้า มันกระแทกลงที่พื้นอย่างรุนแรงและทำให้เกิดหลุมใหญ่ที่ทำให้ผุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว ซูเทียนซีและซูหยุนซีกำลังต่อสู้กับผู้อาวุโสสูงสุดในกระดอง เขาสามารถจินตนาการได้เลยว่าการต่อสู้นั้นดุเดือดเพียงใด
ตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกายในขณะที่เขาจ้องไปที่กระดองที่กำลังสั่นสะเทือน เขารู้ว่าผู้อาวุโสสูงสุดจะถ่วงเวลาซูเทียนซีและซูหยุนซีเอาไว้ได้ไม่นานและพวกเขาจะหลุดออกมาในไม่ช้าแน่ เขาไม่สามารถหนีไปไกลได้ในระยะเวลาอันสั้นนี้ เขาลังเลว่าเขาควรจะร่ายเทพจุติเพื่อฆ่าทั้งสองคนนี้ดีหรือเปล่า
เขาต้องใช้อายุขัยอย่างน้อย 1,000 ปีในการที่จะสังหารเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 ถึง 2 คนได้ ในขณะที่เขาก็ไม่แน่ใจว่าทั้งสองคนนี้สามารถใช้ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนได้หรือไม่
ในตอนนี้เอง แสงสีฟ้าได้พุ่งเข้ามาหาเจี้ยนเฉินแต่ไกล ตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกายเครียดในขณะที่ยุทธภัณฑ์ราชาปรากฏขึ้นในมือของเขา เขาตัดผ่านแสงนั้นไปด้วยกลิ่นอายแห่งการทำลายล้าง
อย่างไรก้ตามแสงสีห้าได้ผ่านยุทธภัณฑ์ราชาไปและหายเข้าไปในร่างกายของเจี้ยนเฉิน ทันใดนั้นเอง มันก็เริ่มส่องแสงสีฟ้าสว่างจ้าออกมา มังกรอสรพิษสีฟ้าควบแน่นอยู่เหนือหัวของเขา มันอ้าปากกว้างของมันออกมาซึ่งเผยให้เห็นถึงฟันที่แหลมคมของมัน
“คำสั่งสังหารขั้นสูงของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ” ซี่หวังตะโกนออกมา ท่าทางของเขากลัวมาก
คำสั่งสังหารขั้นสูงจากศาลาเทพเจ้าอสรพิษก็เหมือนกับคำสั่งสังหารขั้นสูงจากศาลาวิญญาณสวรรค์ ไม่เพียงแต่มันจะทำให้เห็นเป้าหมายได้เด่นชัดขึ้น แต่มันยังมีความสามารถที่จะผนึกความแข็งแกร่งของเป้าหมายได้อีกด้วย
เจี้ยนเฉินหน้าไร้ซึ่งสีเลือด เขาไม่คิดว่าจอมยุทธจากศาลาเทพเจ้าอสรพิษจะปรากฏตัวออกมาด้วยในตอนนี้เช่นกัน สถานการณ์ของเขาในตอนนี้แย่มากขึ้นเรื่อย ๆ
เจี้ยนเฉินกลืนกินพลังงานของผนึกโดยใช้พลังบรรพกาลในตัวของเขา ในไม่ช้าเขาก็กลืนกินมันได้หมดสิ้น มีร่างพุ่งเข้ามาที่เจี้ยนเฉินด้วยความเร็วแสง เป้าหมายของมันคือเจี้ยนเฉิน
ตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกายไปด้วยความแน่วแน่ เขาเริ่มที่จะร่ายเทพจุติทันที เขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้วในตอนนี้
เจี้ยนเฉินทำผนึกมือขึ้นมาด้านหน้านหน้าอกของเขา เขายกมือขึ้นเหนือหัว และเงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาเริ่มกระบวนการในการร่ายทักษะ
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าคือคนที่ถูกทำสัญลักษณ์การสังหารขั้นสูงจากศาลาเทพเจ้าอสรพิษ เจ้าเป็นนักรบวิญญาณทะเล 14 ดาวธรรมดา แต่ศาลาเทพเจ้าอสรพิษก็ยังให้ความสำคัญกับเจ้าขนาดนี้ ถึงกับให้ข้าหลี่เฟิงซินมาที่นี่ด้วยตัวเอง การที่เจ้าต้องตายด้วยน้ำมือของข้าจะทำให้เจ้าพอใจไปจนถึงโลกหน้าเลยที่เดียว” หลี่เฟิงซินหัวเราะออกมาดังในขณะที่เขาเปล่งพลังที่กล้าเกร่งออกมา
หลี่เฟิงซินเห็นว่าเจี้ยนเฉินกำลังอยู่ในระหว่างการที่จะร่ายเทพจุติหลังจากนั้นไม่นาน เขาอุทานเบา ๆ ออกมาอย่างประหลาดใจแล้วพูด “เจ้าพยายามที่จะร่ายทักษะลับเพื่อที่จะหนีอย่างนั้นหรือ ? ข้าจะปล่อยให้เจ้าทำแบบนั้นได้ยังไง ? ” ความเร็วของหลี่เฟิงซินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เขามาถึงตรงหน้าเจี้ยนเฉินโดยเป็นเหมือนภาพพร่ามัวและเตะเขาเข้าไปที่หน้าอกโดยตรง
พรวด ! เจี้ยนเฉินกระอักเลือดออกมา การสะสมพลังสำหรับการใช้ทักษะต้องห้ามต้องใช้เวลาบ้างแต่หลี่เฟิงซินก็ไม่ได้ให้เวลากับเจี้ยนเฉินเลยแม้แต่น้อย ลูกเตะของเขาได้ไปรบกวนการเตรียมตัวของเจี้ยนเฉิน
