ตอนที่ 681: ความตกใจของอาณาจักรฉินหวง
วันนี้เจียงหยางเค่อได้ริเริ่มที่จะหาเจี้ยนเฉินและขอโทษเขา หวังว่าเขาจะสามารถลบความบาดหมางที่เคยเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาก่อนหน้านี้ แต่อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินรู้สึกโล่งใจมากกว่าที่จะได้ยินคำขอโทษนี้
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินใช้เวลา 3 วันต่อไปในคฤหาสน์เจียงหยาง ครั้งเดียวที่เขาก้าวออกจากคฤหาสน์คือตอนที่เขาไปเยี่ยมภรรยาและบุตรชายของเคนดัล สภาพความเป็นอยู่ของซานได้กระตุ้นความปรารถนาของเจี้ยนเฉินให้กลายเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 โดยเร็วที่สุด
นี่เป็นเพราะเขาได้เรียนรู้วิธีที่จะช่วยซานที่จะบ่มเพาะอีกครั้งหลังจากที่อาวุธเซียนของเขาถูกทำลาย สิ่งที่เขาต้องทำคือการกลายเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 เนื่องจากไม่เพียงแต่พวกเขาสามารถช่วยคนพิการให้ฟื้นตัวได้ แต่เขายังฟื้นความสามารถในการบ่มเพาะได้
เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงได้รับความสามารถพิเศษในการรักษา มีคนบอกว่าพวกเขาสามารถชุบชีวิตคนตายได้ ตราบเท่าที่มีเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 มีความแข็งแกร่งเพียงพอ ดังนั้น การฟื้นฟูผู้ที่อาวุธเซียนของเขาถูกทำลายจึงไม่เป็นปัญหาเลย
หลังจากวันที่สามแล้ว กลุ่มคนกลุ่มใหญ่ ๆ อาจจะยืนอยู่รอบ ๆ ลานหลักของคฤหาสน์เจียงหยาง แม้แต่ราชาก็อยู่ที่นั่น แต่ละคนล้อมรอบเจี้ยนเฉินด้วยสายตาไม่เต็มใจ วันนี้เป็นวันที่เจี้ยนเฉินกำลังจะจากไป แต่ทุกคนก็ไม่เต็มใจที่จะกล่าวลาเขาเลยด้วยซ้ำ
"เซียงเอ๋อ เจ้าต้องทำงานอย่างเร็วที่สุด เมื่อเจ้าเสร็จสิ้นสิ่งที่เจ้าต้องทำ เจ้าต้องกลับมาบ้านและพักอยู่ที่บ้านอีกในครั้งต่อไป" ไป๋หยุนเทียนกล่าวกับเจี้ยนเฉินด้วยความเต็มใจ
"เซียงเอ๋อ เจ้าสามารถปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าจัดการกับเรื่องเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องทำงานอย่างหนักด้วยตัวเอง" เจียงหยางป้าพูด
“เซียงเทียน..”
พวกผู้ใหญ่ของตระกูลเจียงหยางและราชาแห่งอาณาจักรเกอซุนเริ่มให้ข้อคิดเห็นและคำแนะนำที่ดีแก่เขา ราวกับว่ามันดูราวกับว่าพวกเขากังวลอย่างมากกับเจี้ยนเฉินเช่นกัน
ในขณะที่เจี้ยนเฉินเป็นเซียนผู้คุมกฎ ทว่าเขากลับไม่ได้ยโสแต่อย่างไร เขายังปฏิบัติต่อผู้อาวุโสด้วยความเคารพและฟังอย่างจริงจังต่อคำพูดของพวกเขา ด้วยการพยักหน้าเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาพูดอะไรบางอย่าง
ตอนนี้หยูเฟิงหยานเดินไปข้างหน้าเพื่อคว้ามือของเจี้ยนเฉินและพูดขอร้องเขาว่า "เซียงเอ๋อ ไม่มีข่าวหรือจดหมายติดต่อจากพี่รองของเจ้ามาบ้างเลย ถึงตอนนี้เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับที่อยู่ของนาง ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า เซียงเอ๋อ ป้ารองของเจ้าหวังว่าเจ้าจะสามารถตามหาพี่สาวของเจ้า ลูกสาวคนเดียวของป้ารอง"
ใบหน้าของเจี้ยนเฉินเคร่งขรึมขึ้น เมื่อมองไปที่ป้ารองของเขา เขาสัญญาว่า "ป้ารอง ท่านสามารถมั่นใจได้เลยว่า ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหาที่อยู่ของพี่รอง"
เจี้ยนเฉินรู้สึกเป็นห่วงมาก เมื่อตอนที่พี่รองหายตัวไป เมื่อตอนที่ยังเด็ก ผู้ที่ดูแลเขานอกเหนือจากแม่คือเจียงหยางหมิงเยว่ ความห่วงใยของนางต่อเขามากกว่าพ่อของเขาเอง
"เซียงเอ๋อ ข้ารู้สึกสบายใจขึ้นแล้ว ตอนนี้ข้าสามารถหวังว่า หมิงเยว่ ผู้โง่งมของข้า จะกลับมาบ้านปลอดภัยและอยู่เคียงข้างข้า" หยูเฟิงหยานพูด ใบหน้าของนางไม่ค่อยสบายใจ เนื่องจากอาการปวดใจ นางกำลังเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งเลวร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้น สิ่งเดียวที่นางต้องการตอนนี้คือหลักฐาน
หลังจากอำลาผู้คนในคฤหาสน์เจียงหยาง เขาได้จากไปโดยทิ้งให้ไป๋ไฮอยู่ เพราะเขาได้กลับมาเพื่อยืนยันตัวตนของท่านตาเขา ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องจัดการกับกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี ดังนั้นเจี้ยนเฉินจึงไม่สามารถอยู่ได้นานเกินไป
เจี้ยนเฉินต้องการให้ไป๋ไฮอยู่ในคฤหาสน์เจียงหยางก่อน อย่างไรก็ตามไป๋ไฮเคยใช้เวลาอยู่อย่างเงียบ ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดังนั้นเขาจึงไม่ชอบความอึกทึกภายในคฤหาสน์เจียงหยาง นี่เป็นเหตุผลที่เขาไปกับเจี้ยนเฉิน ไปยังกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี นอกจากนี้ยังมีเซียนผู้คุมกฎอีกสองสามคนอยู่ด้วย ดังนั้นถ้าเขารู้สึกเบื่อหน่าย อย่างน้อยเขาก็ยังมีคนพูดคุย
เจี้ยนเฉินและไป๋ไฮเดินทางด้วยกันโดยใช้พลังมิติ ทะยานผ่านท้องฟ้าสูง พวกเขาเดินทางไปที่เมืองทหารรับจ้างอย่างรวดเร็ว
ในพระราชวังของอาณาจักรฉินหวง ราชานั่งอยู่บนบัลลังก์ เบื้องหน้าเขามีชายหนุ่มคนหนึ่งสวมเกราะเงิน
"หวู่เจี้ยน เจ้าไม่ได้อยู่ในอาณาจักรเกอซุนหรือหรือ ? ทำไมเจ้าถึงกลับมา ? ดูเหมือนว่าเจ้าจะเหนื่อยล้าไม่น้อย บางทีอาจจะมีเรื่องสำคัญเกิดขึ้นในอาณาจักรเกอซุน ? " ราชาแห่งอาณาจักรฉินหวงกล่าวอย่างสนิทสนมด้วยรอยยิ้ม
"องค์ราชา ที่จริงแล้ว หวู่เจี้ยนมีบางสิ่งที่สำคัญมากที่จะต้องรายงานในเวลานี้ ไม่กี่วันที่ผ่าน ผู้พิทักษ์จักรพรรดิเจี้ยนเฉินประสบความสำเร็จในการตัดผ่านจากเซียนสวรรค์เป็นเซียนผู้คุมกฏ" บนใบหน้าที่อ่อนล้าของชายหนุ่มนั้นมีรอยยิ้มเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาเต็มไปด้วยความสุข
"อะไรนะ ! เจี้ยนเฉินได้ตัดผ่านเป็นเซียนผู้คุมกฎแล้ว ! " กษัตริย์ก็ผุดลุกขึ้นยืนและจ้องมองชายหนุ่มอย่างไม่เชื่อ
"พะยะค่ะ องค์ราชา ผู้พิทักษ์จักรพรรดิกลายเป็นเซียนผู้คุมกฎ เขายังมาพร้อมกับเมฆสีรุ้งที่ทะลุท้องฟ้าภายในรัศมีห้าหมื่นกิโลเมตร เขาทำให้เกิดคลื่นความตื่นตระหนกที่ยิ่งใหญ่ในบริเวณนั้น" หลังจากพูดเช่นนั้น ชายหนุ่มหยุดชั่วคราวก่อนที่จะกล่าวต่อ" นอกจากนี้ ตาของเขาปรากฏขึ้นอย่างฉับพลันแล้ว ตาของเขายังเป็นเซียนผู้คุมกฏอีกด้วย"
กษัตริย์ไม่สนใจเรื่องการปรากฏตัวอย่างฉับพลันของตาของเจี้ยนเฉิน ในขณะนี้เขารู้สึกตกใจอย่างยิ่งที่มีข่าวว่าเจี้ยนเฉินกลายเป็นเซียนผู้คุมกฎ
"เป็นไปได้เยี่ยงไร ! เจี้ยนเฉินได้กลายเป็นเซียนผู้คุมกฏ น่าเหลือเชื่อมากเมื่อดูจากอายุของเขาแล้ว" กษัตริย์พึมพำกับความรู้สึกฟุ้งซ่าน ถึงแม้ว่าเขาจะเงียบสงบ คลื่นที่ยิ่งใหญ่พาดผ่านหัวใจของเขา
ก่อนหน้านี้ข่าวที่ว่าเจี้ยนเฉินเป็นเซียนสวรรค์ก่อนอายุ 50 ปีทำให้เขารู้สึกตกใจมาก ตอนนี้เพียงไม่กี่ปีหลังจากนั้น เขาก็ได้พัฒนาตัวเองจากเซียนสวรรค์เป็นเซียนผู้คุมกฎ ด้วยความเร็วที่ดีขึ้นนี้จะทำให้ผู้คนกลัว
"ข้าจะไปรายงานเรื่องนี้ต่อผู้พิทักษ์จักรพรรดิผู้ทรงเกียรติทั้งสี่คนเร็ว ๆ นี้"
ราชาไม่กล้าที่จะหน่วงเวลาและรีบออกไปที่พระราชวังฉินสวรรค์
ไม่นานหลังจากที่ราชาเสด็จพระราชดำเนินไป มีชายหนุ่มวัยกลางคนอีกคนหนึ่งที่สวมเกราะทองเข้ามาจากข้างนอก
“อืม ? นั่นต้องเป็นหัวหน้าองครักษ์ของพระราชวัง ออโดร บางทีอาจจะมีบางอย่างที่ต้องรายงานต่อราชา เจ้าจึงมาที่นี่" เมื่อเห็นชายวัยกลางคน ฉินหยวนเผยรอยยิ้มที่คุ้นเคย
"ฉินหวู่เจี้ยน นี่เป็นเจ้า เจ้าไม่ได้อยู่ที่อาณาจักรเกอซุนกับที่ปรึกษาจักรพรรดิหรอกหรือ ? บางทีเจ้าทั้งสามคนพึ่งกลับมา ? " ออโดรและฉินหวู่เจี้ยนมีความสัมพันธ์ที่ดี เขาพูดด้วยความประหลาดใจ
ฉินหวู่เจี้ยนส่ายหัวและพูดว่า "ไม่เป็นความจริง ข้ากลับมาครั้งนี้เพราะข้ามีข่าวสำคัญที่ต้องรายงานต่อองค์ราชา ข้าจะไม่อยู่นานเกินไปในพระราชวัง ? บางทีเจ้าอาจมีข่าวสำคัญในการรายงาน ? ถ้าข้าจำได้อย่างถูกต้อง ตำแหน่งในฐานะหัวหน้าองครักษ์ของพระราชวังเป็นงานที่เรียบง่ายและใช้งานง่าย เนื่องจากเป็นเวลาหลายศตวรรษนับตั้งแต่เหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นในพระราชวัง "
ท่าทางของออโดรค่อย ๆ ขึงขังมากขึ้นและพูดว่า "ถูกต้อง สำหรับศตวรรษที่ผ่านมา ในพระราชวังจริง ๆ แล้วมันก็ปลอดภัยแล้ว แต่ตอนนี้มันแตกต่างกันไปแล้ว เมื่อเร็ว ๆ นี้ข้าได้รับรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าอย่างต่อเนื่อง ว่ามีผู้ที่หายตัวไปอย่างไม่มีเหตุผลในพระราชวังของเรา เช่น คนรับใช้ในพระราชวัง ขันที และแม้แต่องครักษ์หลายสิบคนที่ทำงานภายใต้ข้ารวมถึงหัวหน้าที่แข็งแกร่ง เซียนสวรรค์ พวกเขาหายไปราวกับว่าพวกเขากำลังระเหยกลายเป็นน้ำ ด้วยอำนาจของข้า ไม่ว่าข้าจะสืบสวนเช่นใด ข้าก็ไม่สามารถหาพวกเขาเจอได้ เจ้าไม่คิดว่าเรื่องนี้แปลกงั้นหรือ ? "
"เกิดอะไรขึ้น ? " ฉินหวู่เจี้ยนพึมพำกับตัวเองด้วยขนคิ้วที่ยกขึ้นจากอาการตกใจ หลังจากนั้นเขากล่าวว่า "ไม่ยากที่จะอธิบายว่า ทำไมสิ่งต่าง ๆ เช่นนี้เกิดขึ้น นั่นคือถ้าเกิดขึ้นในอาณาจักรเล็ก ๆ แต่เพื่อให้เกิดขึ้นจริงในพระราชวังที่มีการรักษาอย่างหนักของราชวงศ์ฉินหวงของเรานั้นน่าแปลกใจมาก หลังจากทั้งหมดมี 4 ผู้พิทักษ์จักรพรรดิคอยดูแลพระราชวัง แม้การเคลื่อนไหวน้อยที่สุดจะไม่หลุดรอดสายตาของพวกเขาทั้งสี่"
"ใช่ ข้ารู้สึกว่ามันแปลก ข้าได้ตรวจสอบเรื่องนี้เป็นเวลาหลายวันแล้ว แต่ข้าไม่พบอะไรเลย นี่เป็นเหตุผลข้าต้องรายงานเรื่องนี้ต่อองค์ราชา"
"น่าเสียดายที่เจ้ามาช้าไปหน่อย องค์ราชากำลังเสด็จไปยังพระราชวังฉินสวรรค์ ออโดร เจ้าจะต้องรอสักครู่"
…
ในพระราชวังฉินสวรรค์อันยิ่งใหญ่ ผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสี่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดรวมตัวกัน เขานั่งอยู่รอบโต๊ะสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่และไม่ไกลนัก ราชาก็ยืนฟัง เขาไม่ได้แสดงความกลัวที่เขามีอยู่และยังคงแสดงความเคารพ
"เจ้าพูดจริงหรือไม่ที่ว่าเจี้ยนเฉินได้กลายเป็นเซียนผู้คุมกฎ ? " ผู้พิทักษ์จักรพรรดิเปิดปากถาม ท่าทางของเขาเคร่งขรึมและเขาก็ห่วงเรื่องนี้มาก
ราชาตอบอย่างสุภาพว่า "ท่านผู้พิทักษ์จักรวรรดิ นี่เป็นข่าวที่นำโดยฉินหวู่เจี้ยนที่ประจำการอยู่ในอาณาจักรเกอซุน เขามั่นใจเต็มร้อยว่าเจี้ยนเฉินเป็นเซียนผู้คุมกฏแล้ว นอกจากนี้ในเวลานั้นเมฆสีรุ้งได้ปรากฏตัวไปทั่วท้องฟ้ารัศมี 50,000 กิโลเมตร
"เนื่องจากเมฆสีรุ้งได้ปรากฏตัว เซียนผู้คุมกฏได้ถือกำเนิดขึ้นมาอย่างแน่นอน ดูเหมือนเจี้ยนเฉินจะกลายเป็นเซียนผู้คุมกฏจริง ๆ" ผู้พิทักษ์จักรพรรดิกล่าว
"แต่ตอนนี้เขาพึ่งจะอายุเท่าไหร่เอง ? เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาได้มีส่วนร่วมในงานชุมนุมทหารรับจ้างที่เมืองทหารรับจ้าง ดังนั้นเขากลายเป็นเซียนผู้คุมกฎได้เร็วเช่นนี้ได้อย่างไร ? นี่มันนับว่าเป็นความบ้าคลั่งยิ่งนัก"
"เขายังอายุไม่ถึง 50 ความจริง การตัดผ่านไปสู่ขอบเขตเซียนผู้คุมกฎด้วยวัยที่เยาว์เพียงนี้ นี่เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ ตอนนี้เจี้ยนเฉินกลายเป็นเซียนผู้คุมกฎ เจ้าคิดว่าเราควรจะบอกเขาหรือไม่ ? ด้วยการสนับสนุนของเขา อาณาจักรฉินหวงของเราควรจะเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก"
"ครั้งสุดท้ายที่เจี้ยนเฉินกลับมา ดูเหมือนว่าจะมีเซียนผู้คุมกฎที่ทรงพลังอีกคน พร้อมด้วยสัตว์อสูรระดับ 7 ที่ติดตามเขา นี่เป็นจุดแข็งที่เราต้องให้ความสำคัญ ในความเห็นของข้า เราควรจะบอกเรื่องนี้กับเจี้ยนเฉิน บางทีเราอาจจะได้เซียนผู้คุมกฎเพิ่มขึ้นอีก 3 คนจากเหตุนี้ "
