เถ้าแก่ขั้นเทพ! - ตอนที่ 83-84
ตอนที่ 83 : เริ่มคุ้นเคย
“ที่พบเห็นเป็นภาพปรากฏ คือพวกเขาเหล่านั้นกำลังเล่นเกมอยู่” ลั่วฉวนกล่าว
ดวงตาเหล่าไป่เบิกกว้าง สีหน้านี้เผยความเหลื่อเชื่อ
จากถ้อยคำของเถ้าแก่ ไม่ใช่หมายความถึงในเกมได้ต่อสู้กับสัตว์อสูรจริง ๆ งั้นหรือ?!
และจากภาพที่เห็น มันแทบไม่ต่างอะไรกับโลกแห่งความเป็นจริง!
“เถ้าแก่ ขอข้ารับชมได้หรือไม่?” เหล่าไป่กล่าวถาม
ลั่วฉวนพยักหน้ารับ
ด้วยลั่วฉวนอนุญาตแล้ว เหล่าไป่จึงเดินไปทางด้านหลังปู้หลี่เกื๋อที่กำลังเล่นเกมพร้อมรับชมด้วยความจริงจัง
ร้านเล็กแห่งนี้ ถึงกับมีของที่น่าสนใจไม่ขาด
กระนั้นในใจของเหล่าไป่ ภายในขณะนี้ราวกับพายุก่อตัว
ระหว่างรับชม เหล่าไป่ยิ่งมายิ่งเกิดความหนักอึ้งที่ภายใน
เขาทราบแล้วว่าเกมของลั่วฉวนนั้นหมายถึงอะไร
ระหว่างที่รับชม เมื่อเกิดความผิดพลาด ปู้หลี่เกื๋อจะถูกสัตว์อสูรสังหาร
แต่แล้วในอึดใจ ร่างนั้นจะฟื้นคืนชีพอย่างไร้ซึ่งรอยขีดข่วนพร้อมกลับเข้ารับศึกต่อสู้
“หากของเช่นนี้สามารถใช้ในกองทัพ ประสบการณ์การต่อสู้ของทหารจะมีแต่เลิศล้ำมากขึ้น อย่างน้อยก็เพิ่มพูนได้หลายเท่า!”
“ผู้ฝึกตนสามารถใช้สิ่งนี้หาประสบการณ์การต่อสู้ภายในเกม โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บที่ภายนอกแต่อย่างใด!”
“ถึงกับมีวัตถุเช่นนี้อยู่ในโลก!”
ความคิดหลากหลายปรากฏขึ้นในใจเหล่าไป่ไม่หยุด
เพราะผ่านศึกการสู้รบ นั่นหมายถึงได้รับประสบการณ์ต่อสู้อันล้ำค่า ทั้งยังไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย!
กับของดีเช่นนี้ หากผู้อื่นบอกกล่าวต่อเหล่าไป เขาคงไม่คิดเชื่อ
ประสบการณ์ต่อสู้หากไม่ได้รับจากการศึกของจริงจะได้รับจากที่ใดกันได้?
แต่ตอนนี้ ความคิดนั้นต้องแปรเปลี่ยนอย่างสิ้นเชิง!
“สามชั่วโมงผ่านไปเร็วนัก!”
เสียงถอนหายใจดังออก เหล่าไป่ค่อยดึงสติกลับคืนมาได้
กู่หยุนซีและเจียงเหวิ่นฉางถอดหมวกออกแทบจะพร้อมกันและสูดลมหายใจเข้าลึก
ทั้งสองส่ายศีรษะ ขณะนี้ลดทิ้งความคิดอื่นที่รบกวนจิตใจออกไป
หอคอยแห่งการทดสอบนี้สมจริงเกินไป!
มันแทบไม่อาจหาข้อแตกต่างอะไรกับโลกจริงได้!
“ผู้นี้คือ?”
ทั้งสองตระหนักได้ว่าเหล่าไป่อยู่บริเวณด้านหลังที่นั่ง กู่หยุนซีจึงกล่าวถาม
“ไป่หง” เหล่าไป่ตอบคำ
เขาย่อมได้เห็นตราสัญลักษณ์รูปเมฆ และทราบว่าตัวตนคนทั้งสองนี้คือศิษย์ของสถาบันวิญญาณเมฆา
“ไป่หง? ยอดฝีมือทดสอบเต๋าแห่งเทียนชิง เหล่าไป่ผู้นั้น?” เจียงเหวิ่นฉางเผยอาการตื่นตะลึง
“เหล่าไป่?” กู่หยุนซีเผยสีหน้าประหลาดใจ
เห็นได้ชัด ว่าพวกนางทราบเรื่องของเหล่าไปกันอย่างดี
ถัดจากนั้น ทั้งสองจึงแนะนำตัวเองโดยคร่าว
“พวกเจ้าทั้งสองไม่ใช่ศิษย์สถาบันวิญญาณเมฆาหรือ? ไฉนมาที่นี่ได้?” เหล่าไป่เอ่ยถามด้วยความสงสัย
“เหวิ่นฉางและข้าพบเห็นมีคนเปิดร้านในตรอกไกลห่างเช่นนี้ ดังนั้นจึงเข้ามารับชมด้วยความสงสัย!” กู่หยุนซีเผยยิ้มบาง “และสินค้าที่เถ้าแก่นำมาขายหาได้ธณรมดาไม่! ด้วยมาเยือนนครจิ่วเหยาครั้งนี้ ผลการเก็บเกี่ยวทั้งหมดล้วนมาจากร้านต้นตำรับแห่งนี้!”
เจียงเหวิ่นฉางพยักหน้ารับเป็นการเห็นพ้อง
นางเองก็คิดเห็นเช่นเดียวกัน
จากนั้นสายตาทั้งสองจึงหันมองไปทางลั่วฉวน
ลั่วฉวนยังคงเผยสีหน้าเฉยชาไม่ไหวติงแต่อย่างใด
ทั้งสองทราบดีว่าลั่วฉวนก็เป็นเช่นนี้ หากตอบสนองจึงผิดปกติแล้ว
ขณะนี้เองที่ปู้ฉืออีได้ตระหนักว่าในร้านมีความเคลื่อนไหว ดังนั้นจึงออกจากเกมและถอดหมวกออก
“คำนับเหล่าไป่แล้ว” ปู้ฉืออีกล่าวออกทันทีที่เห็นเหล่าไป่
เหล่าไป่พยักหน้ารับพร้อมเผยยิ้ม “สาวน้อยจากตระกูลปู้ ครั้งล่าสุดที่พบเห็นยังเป็นทารกน้อย หลายปีผันผ่านได้กลายเป็นโฉมงามคนหนึ่งแล้ว”
ตอนที่ 84 : แข็งแกร่งขึ้นแล้ว?
ปู้ฉืออีเผยรอยยิ้มเขินอาย
ขณะเดียวกันนั้น นางก็เรียกปู้หลี่เกื๋อและเจียงเฉิงจวินออกมา
เดิมทั้งสองกำลังเข้าสู่ช่วงเข้าด้ายเข้าเข็ม ขณะนี้ถูกรบกวนจึงโกรธไม่น้อย
แต่เมื่อได้พบเห็นเป็นเหล่าไป่ ความคิดเหล่านั้นจึงเลือนหาย
ทั้งสองต่างรู้จักเหล่าไปเป็นอย่างดี
“ยินดีที่ได้พบเหล่าไป่” ปู้หลี่เกื๋อและเจียงเฉิงจวินเผยความนอบน้อม
ขณะเดียวกันนี้ก็มีคำถามเกิดขึ้นภายในใจ ไฉนเหล่าไป่จึงมาเยือนร้านเถ้าแก่?
ปู้หลี่เกื๋อค่อยนึกขึ้นได้ ว่าเหล่าไป่ครั้งหนึ่งเคยมายังร้านของเถ้าแก่
โคล่าที่จักรพรรดิเทียนชิงส่งมาให้ ก็เป็นเหล่าไป่ซื้อหาไป
เหล่าไป่พยักหน้ารับ
ถัดจากนั้น ปู้ฉืออีและกู่หยุนซีต่างแนะนำตัวต่อกัน
เหล่านี้เป็นลูกค้าของเถ้าแก่ ดังนั้นจึงคุ้นเคยต่อกันได้ไม่ยาก
เหยาซือหยานเองก็ละออกจากเกมมาแล้ว
พบเห็นเหล่าไป่ ดวงตาของนางต้องหรี่ลงเล็ก
ขอบเขตทดสอบเต๋าระดับที่แปด ถือเป็นกำลังอันยอดเยี่ยมสำหรับมนุษย์
ร่างกายเหล่าไป่ขณะนี้พลันต้องชะงัก
เมื่อถูกเหยาซือหยานมองมา เขารู้สึกราวกับถูกสิ่งชวนสะพรึงจับจ้อง กล้ามเนื้อนั้นอดไม่ได้ที่จะหดเกร็ง
เขาไม่คาดคิด ว่าสตรีที่อยู่ข้างกายลั่วฉวนจะทรงอำนาจถึงเพียงนี้!
มันเป็นพลังอำนาจขนาดที่เขาไม่อาจต่อต้านได้แม้ความคิด!
แต่แล้วขณะนี้ เหยาซือหยานได้แนะนำตัวว่าเป็นเสมียนประจำร้าน
นางพยักหน้ารับพร้อมเผยรอยยิ้มอ่อนจางอันงดงาม “เสมียนของร้านต้นตำรับ เหยาซือหยานยินดีที่ได้พบ”
เหล่าไป่หาได้กล้าเมินเฉย คำต้องตอบรับโดยทันที “ยินดีที่ได้พบผู้อาวุโส! เรียกหาข้าเป็นไป่หงก็ได้!”
เพียงอึดใจก่อนหน้า เขาก็ทราบแล้วว่ากำลังของเหยาซือหยานห่างไกลจากตนเองเพียงใด!
หากพลังวิญญาณของเหล่าไป่คือแม่น้ำเชี่ยวกราก ของเหยาซือหยานก็เป็นมหาสมุทรอันกว้างใหญ่!
ระหว่างทั้งสองแทบไม่อาจเทียบเปรียบกันได้!
ช่องว่างระหว่างขอบเขตทดสอบเต๋าและราชันนั้นยิ่งใหญ่!
ขณะเดียวกันนี้ ภายในใจเหล่าไป่มีแต่ความตื่นตะลึง!
เสมียนประจำร้านยังมีกำลังเพียงนี้ เช่นนั้นเถ้าแก่เล่า?
เพียงคิดก็ไม่กล้าแล้ว!
ดังนั้น เหล่าไป่จึงได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ภายในใจ
ด้วยกำลังของเหยาซือหยาน เถ้าแก่สามารถให้มาเป็นเสมียนประจำร้าน เรื่องนี้ชวนสะท้านสะเทือนจิตใจเกินไป
เถ้าแก่ผู้นี้เป็นผู้ยิ่งใหญ่มาแต่ใด…
ต้องกล่าวที่ตรงนี้ ว่าเมื่อวานจี้เทียนเฮาไม่รู้ว่าฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเช่นไร…
กับบุคคลระดับนี้ หาเรื่องด้วยไม่ต่างอะไรขอให้ฆ่า!
อีกทางหนึ่ง กู่หยุนซีและเจียงเหวิ่นฉางต่างมองกันเองด้วยสีหน้าประหลาดใจยามได้ยินคำของเหล่าไป่
เมื่อครู่พวกนางได้ยินอันใด?
เหล่าไป่ถึงกับเรียกเหยาซือหยานเป็นผู้อาวุโส?
นี่เป็นภาพหลอนประสาทที่เห็นไปเองหรือไม่?
เหยาซือหยานก็เพียงเสมียนประจำร้าน มีหรือจะแข็งแกร่งไปกว่าเหล่าไป่ที่ขอบเขตทดสอบเต๋า?
ฝ่ายปู้หลี่เกื๋อทั้งสามทราบตัวตนของเหยาซือหยานดี นางคือราชวงศ์สัตว์อสูร กระนั้นก็ไม่คาดคิดว่ากำลังแท้จริงทรงอำนาจเป็นล้นพ้น
เหล่าไป่ถึงกับเผยความนอบน้อมเป็นดังผู้อาวุโส
ผ่านไปครู่หนึ่ง คนทั้งสามจึงเกิดระแวดระวังขึ้นมา
“ข้าก็เพียงเสมียนประจำร้านของเถ้าแก่” เหยาซือหยานเผยยิ้มบาง
จากนั้นนางจึงหันสายตาไปมองลั่วฉวนที่อยู่ด้านหลังโต๊ะ
แต่ก็เท่านั้น อีกฝ่ายไม่ตอบสนองเหมือนที่เคยเป็น
ไม่ช้า ความสนใจของหลายคนจึงหันกลับมองไปยังร่างเหยาซือหยาน
“เหล่าไป่ ท่านมาที่นี่ด้วยเรื่องใดกัน?” ปู้ฉืออีกล่าวถามด้วยความสงสัย
เหล่าไป่พยักหน้ารับ “องค์เหนือหัวให้สัญญาว่าจะนำค่าชดเชยมาส่งมอบ ข้าจึงเป็นผู้นำมาส่งให้เถ้าแก่”
ค่าชดเชย?
กู่หยุนซีและเจียงเหวิ่นฉางเกิดความสงสัยกันขึ้นมา
ไม่ใช่ว่าเหล่าไป่คือผู้อยู่ข้างกายจักรพรรดิเทียนชิงหรอกหรือ?
ไฉนจึงต้องนำค่าชดเชยมามอบให้เถ้าแก่?
ผู้คนที่เหลือได้แต่เผยสีหน้าเปี่ยมแน่นด้วยความสงสัย
พวกเขาต่างนึกขึ้นได้ ว่าเมื่อคืนนี้ที่ภัตตาคารเซียนวิหคอมตะเกิดเรื่องราวใดขึ้น
ปู้ฉืออีได้รับฟังจากปู้หลี่เกื๋อที่กลับมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
ตอนนั้น จี้อู๋ฮุยกล่าวว่าจะมอบห้าหมื่นผลึกวิญญาณให้เถ้าแก่ในฐานะค่าชดเชย แต่ก็ไม่ได้คาดคิด ว่าจะเป็นการเร่งรีบนำมาส่งมอบให้ในวันนี้