เถ้าแก่ขั้นเทพ! - ตอนที่ 59-60
ตอนที่ 59 : รู้สึกอย่างไรบ้าง?
“ยินดีต้อนรับ” เสียงอ่อนนุ่มดังรับตั้งแต่เข้าสู่ด้านในร้าน
เมื่อกู่หยุนซีและเจียงเหวิ่นฉางได้เห็นต้นเสียง ทั้งสองจึงอดไม่ได้ที่จะนิ่งงัน
เส้นผมและดวงตาสีม่วง ใบหน้างดงาม เป็นโฉมงามผู้ไร้ซึ่งที่ติ กล่าวได้ว่าเป็นตัวตนงดงามสมบูรณ์แบบในโลก
แม้เป็นพวกนางทั้งสองก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉา
มีผู้ฝึกตนเพียงน้อยนิดที่ทราบเรื่องราชวงศ์สัตว์อสูร และส่วนใหญ่นั้นต่างเลือกที่จะเมินเฉย
นอกจากนี้ สถานที่อย่างสถาบันวิญญาณเมฆายังมีคนของเผ่าพันธุ์สัตว์อสูร…
เห็นได้ชัดว่าคนทั้งสองไม่ทราบตัวตนของเหยาซือหยาน
“ต้องการรับชมหรือซื้อหาอันใดดี?”
เหยาซือหยานมองสตรีงดงามทั้งสองก่อนจะนิ่งงันไปและจึงค่อยเผยยิ้มกล่าวถาม
“หือ? โอ้ เอ่อ คือ พวกเรา…”
รับชมเหยาซือหยานยิ้มให้ ใบหน้ากู่หยุนซีจึงอดไม่ได้ที่จะแดงขึ้นมาอย่างไม่ทราบเหตุผล คำของนางตะกุกตะกัก เป็นนางไม่ทราบว่าควรกล่าวอะไรตอบกลับไปดี
อีกทางหนึ่ง เจียงเหวิ่นฉางได้สติเร็วกว่า นางกล่าวถามด้วยความแปลกใจ “เป็นเสมียนของร้านแห่งนี้หรือ?”
เถ้าแก่ร้านนี้คิดอะไรถึงให้คนสวยเช่นนี้มาเป็นเสมียนประจำร้าน?
กู่หยุนซีและเจียงเหวิ่นฉางต่างหันสายตามองทางลั่วฉวนที่หน้าประตูพร้อมกัน
ลั่วฉวนจามออกพร้อมเกิดความสงสัยในใจ
กำลังก็อยู่ระดับที่สองแล้ว ไฉนจึงยังจะเป็นหวัดอีก?
เรื่องราวช่างแปลก
เหยาซือหยานพยักหน้ารับและกล่าวคำเบา “ถูกต้อง ข้าคือเสมียนของร้านแห่งนี้เอง”
“หือ? สองคนนั้นทำอะไรกัน?” กู่หยุนซีพบเห็นสองพี่น้องปู้จนกล่าวถามด้วยความสงสัย
ขณะนี้ปู้หลี่เกื๋อและปู้ฉืออีกำลังต่อสู้กับสัตว์อสูรด้วยกำลังเพียงอย่างเดียวที่หอคอยแห่งการทดสอบ ด้วยสมาธิจดจ่อจึงไม่ทราบว่าภายนอกนั้นเกิดอะไรขึ้น
แน่นอนว่าที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะทั้งสองเลือกปิดการรับรู้จากภายนอกเอาไว้ด้วย
“เป็นเกมใหม่ที่เพิ่งเข้าร้าน ทดลองรับชมดูก่อนได้” เหยาซือหยานเผยยิ้มกล่าวคำอธิบาย
คนทั้งสองพยักหน้ารับ จากนั้นจึงตามเหยาซือหยานไปดูทางด้านหลังของปู้ฉืออีและปู้หลี่เกื๋อ
รับชมภาพที่แสดงผลบนหน้าจอ คนทั้งสองจึงประหลาดใจ
“หรือนี่จะเป็นทั้งสองกำลังประสบเรื่องเช่นเดียวกับที่แสดงให้เห็นอยู่?” เจียงเหวิ่นฉางกล่าวถามพร้อมชี้ไปทางหน้าจอ
หรือสิ่งนี้จะเป็นอาวุธวิเศษอย่างหนึ่ง? เจียงเหวิ่นฉางอดไม่ได้ที่จะคาดเดาอยู่ภายใน
“อันตราย!”
เสียงอุทานร้องดังจากปากของกู่หยุนซี
ปู้หลี่เกื๋อที่เผยตัวบนหน้าจอถูกสัตว์อสูรกัดและตกตาย
ถัดจากนั้นในพริบตา หน้าจอจึงกระพริบ ร่างของปู้หลี่เกื๋อปรากฏขึ้นอีกครั้ง
คนทั้งสองพบเห็นจึงอดไม่ได้ที่จะเกิดความประหลาดใจ เหยาซือหยานเผยยิ้มพร้อมกล่าวอธิบาย “ข้ากล่าวไปแล้ว นี่คือเกม ตายก็เพียงภายในเกม ฟื้นคืนชีพได้ในพริบตา”
“ซีเอ๋อ คิดอยากลองเล่นดูไหม?”
เจียงเหวิ่นฉางดึงเสื้อกู่หยุนซีพร้อมกล่าวถามด้วยความคิดอยากลอง
มันเปรียบดังรับชมผู้อื่นเล่นเกมในร้านจนเกิดอยากเข้าไปเล่นด้วยตนเองบ้าง
หากเป็นตัวเอง บางทีอาจไม่จบที่ตรงนั้น!
ด้วยพบเห็นปู้หลี่เกื๋อถูกสังหารเมื่อครู่ เจียงเหวิ่นฉางจึงรู้สึกว่าหากเป็นตนเอง การโจมตีเหล่านั้นย่อมสามารถหลบเลี่ยงพร้อมตอบโต้ได้!
กู่หยุนซีพยักหน้ายิ้มรับ “แน่นอน สิ่งที่เรียกว่าเกมนี้ช่างน่าสนใจนัก”
“ค่าลงทะเบียนสร้างบัญชีเล่นเกมหนึ่งร้อยผลึกวิญญาณต่อคน และค่าเล่นสิบผลึกวิญญาณต่อชั่วโมง แต่ละคนสามารถเล่นได้วันละสามชั่วโมง” พบเห็นคนทั้งสองตัดสินใจได้ เหยาซือหยานจึงเผยเสียงกล่าวข้อตกลงการใช้บริการ
ทั้งกู่หยุนซีและเจียงเหวิ่นฉางต่างพูดกล่าวกันไม่ออก
เหตุใดพวกนางจึงตกหลุมพรางนี้ได้…
กระนั้นทั้งสองก็ไม่ใช่ขาดแคลนเงินทอง เป็นผลให้ส่งมอบผลึกวิญญาณอย่างไม่ลังเล จากนั้นจึงเริ่มเข้าสู่เกมด้วยเหยาซือหยานคอยชี้แนะ
“โอ้! เหมือนจริงมาก เหมือนยืนอยู่บนทุ่งหญ้าจริงเลย!”
“ใช่แล้ว! น่าเสียดายนักที่ร่างกายพวกเราไม่มีพลังวิญญาณ!”
“ระวังตัวด้วย เหมือนดังที่เห็นไปแล้ว อีกครู่หนึ่งจะมีสัตว์อสูรเข้ามาโจมตี…”
ตอนที่ 60 : อาวุธที่อุกอาจ
“อะไรกัน!”
เพียงไม่นาน เสียงร้องอุทานของคนทั้งสองจึงดังให้ได้ยิน
โดยไม่ต้องหันไปมอง เหยาซือหยานทราบว่าคนทั้งสองถูกสัตว์อสูรในหอคอยแห่งการทดสอบสังหารแล้ว
กู่หยุนซีและเจียงเหวิ่นฉางปรากฏบนทุ่งหญ้าอีกครั้งหนึ่ง สีหน้าต่างเผยความหวาดกลัวไม่ปิดบัง
ในใจพวกนางขณะนี้ ภาพฉากที่โดนหมาป่าสีเทาขย้ำยังติดค้าง
อย่างไรแล้วพวกนางก็ไม่ใช่โฉมงามธรรมดา ดังนั้นจึงเผยร่องรอยความไม่เต็มใจออกมา
“ไม่อยากจะเชื่อ! นี่เราถึงกับสังหารมันไม่ได้!”
“ใช่! อีกครั้ง! วันนี้ต้องผ่านชั้นแรกให้ได้!”
ถัดจากนั้นจึงเป็นห้วงเวลาแห่งการทรมาน
พวกนางถูกหมาป่ายักษ์สังหารครั้งแล้วครั้งเล่า
“อึก!”
ตกตายหลายสิบครั้ง เจียงเหวิ่นฉางจึงไม่อาจทนได้ไหวอีก
นางถอดหมวกออกพร้อมกรีดร้องเสียงดัง “ไม่ไหวแล้ว! ห้าสิบรอบแล้ว! ถึงกับตายตั้งห้าสิบรอบแต่ทำไมยังผ่านชั้นแรกไปไม่ได้!”
เหยาซือหยานยังคงเผยอาการสงบ
แต่หากมองให้ดี ในดวงตาของนางจะเจือซึ่งรอยยิ้มแฝงเอาไว้
เพราะลั่วฉวนบอกกล่าวต่อนางเมื่อเช้าถึงความเป็นเสมียนมืออาชีพ ไม่ว่าลูกค้าทำเรื่องราวอะไรออกมา สีหน้าต้องสงบอยู่โดยเสมอ
เว้นแต่ว่าจะอดไม่ไหวจริง…
ขณะนี้เจียงเหวิ่นฉางพลันหันมองหน้าจอของกู่หยุนซี เสียงร้องอุทานจึงดังออก
“ทำไมใช้พลังวิญญาณได้? แล้วนั่นอาวุธงั้นหรือ?!”
ที่บนหน้าจอ กู่หยุนซีกำลังถือของมีคมยาวหนึ่งเมตร ร่างนั้นพุ่งทะยานออก
รอบกายนางคือหมาป่ายักษ์สามตัวที่รุมล้อม
แม้กู่หยุนซีเผชิญเรื่องราวยากลำบาก กระนั้นก็ยังต้านรับไว้ได้
เหยาซือหยานกระแอมไอพร้อมเผยยิ้ม “ดังที่เห็น ว่ามันจะมีตราร้านค้าที่มุมบนขวาของหน้าต่างข้อมูล”
“มันคืออะไรกัน?”
เจียงเหวิ่นฉางเผยความสงสัย
นางได้เห็นหน้าต่างข้อมูลมาก่อน กระนั้นไม่ได้ตระหนักว่ามีตราของร้านค้าแห่งนี้ประดับเอาไว้ นางเพียงสมาธิจดจ่ออยู่แต่กับหมาป่ายักษ์
พบเห็นสีหน้าเจียงเหวิ่นฉาง เหยาซือหยานค่อยทราบกระจ่าง
นางกล่าวตอบ “หากสามารถผ่านชั้นแรกได้โดยอาศัยเพียงกำลังกายคนทั่วไป แม้เป็นโหมดง่ายก็ถือว่ายอดเยี่ยมทัดเทียมขอบเขตทดสอบเต๋า”
เจียงเหวิ่นฉางเผยยิ้มเก้กัง “ว่าอะไร? ฮ่าฮ่า ถึงกับเป็นเช่นนี้…”
นางถึงกับมองข้ามเรื่องนี้ไป หากเหยาซือหยานเป็นเพียงเสมียนประจำร้านธรรมดา เช่นนั้นมีหรือจะทราบข้อมูลเหล่านี้
ขอบเขตทดสอบเต๋า ในสำนักที่หยั่งรากลึกอย่างยาวนาน มันมากพอที่จะเป็นกำลังรบอันสูงสุดได้!
ด้วยสวมใส่หมวกอีกครั้งพร้อมเข้าสู่ในเกม เจียงเหวิ่นฉางจึงเปิดตราร้านค้าที่เหยาซือหยานแนะนำ
ไม่ช้าหน้าต่างใหม่จึงปรากฏที่ตรงหน้าของนาง
เหล่านี้มีทั้งอาวุธและระดับการฝึกฝน
จากคนทั่วไปสู่ขอบเขตทดสอบเต๋า แต่ละขอบเขตนั้นแบ่งออกเป็นเก้าระดับ
เจียงเหวิ่นฉางเกิดข้อสงสัย นางจะสามารถมีความสามารถระดับขอบเขตทดสอบเต๋าในเกมนี้ได้งั้นหรือ?
ส่วนทางด้านอาวุธก็ค่อนข้างน่าสนใจ
ดังที่ทราบกันดี อาวุธที่ใช้โดยผู้ฝึกตนในทวีปเทียนหลันนั้นเรียกหากันว่าอาวุธวิญญาณ
ก็เหมือนดังขอบเขตของผู้ฝึกตน มันมีการจัดเรียง แบ่งออกเป็นสวรรค์ โลกา ลึกลับ และแรกเริ่ม
ยิ่งระดับสูงเพียงใดก็ยิ่งทรงอำนาจ
แน่นอนว่ายังมีเรื่องความสามารถในการควบคุม
เหนือกว่าสี่ระดับดังกล่าว ยังมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ อาวุธจักรพรรดิ และอาวุธเซียนในตำนาน!
และที่หน้าต่างเบื้องหน้านี้ ระดับสูงสุดที่มีคือนักรบศักดิ์สิทธิ์
นอกจากสิ่งของเหล่านี้แล้ว เจียงเหวิ่นฉางยังมีข้อสงสัยในส่วนอื่นที่เหลือ
อะไรคือปืนกล?
ทำไมรายละเอียดจึงกล่าวว่าพลังโจมตีเทียบเท่าอาวุธลึกล้ำ?
ทั้งยังไม่ต้องใช้ออร่าแต่อย่างใดด้วย?!
ทั้งยังมียานพิฆาตดารา จากชื่อนั้นสมควรเป็นสิ่งที่สามารถทำลายดวงดาวได้?
*ผู้แปล ยานพิฆาตดารา หรือสตาร์เดสทรอยเยอร์ เป็นการล้อเลียนชื่อยานอวกาศจากภาพยนตร์เรื่องสตาร์วอร์*
และระดับนั้นออกจะอุกอาจเกินไปแล้ว ถึงกับกล่าวว่าทัดเทียมอาวุธศักดิ์สิทธิ์!
……
ไม่พลาดการอัพเดตตอนใหม่ ติดตามได้ที่ : https://bit.ly/32ciG6V