เถ้าแก่ขั้นเทพ! - ตอนที่ 45-46
ตอนที่ 45 : ขอซื้อทั้งหมดนี่!
โจวหู่พยักหน้ารับ จากนั้นจึงบอกกับคนทั้งสี่ด้านหลังให้เข้าไปในร้าน
“นี่ตาฝาดหรือ ร้านนี้ถึงกับประดับด้วยเครื่องแก้ว?!”
“ตอนนี้ค่อยเชื่อคำที่พวกเว่ยฉิงจู่พูดแล้ว ถึงกับมีเครื่องแก้วหลากสีสันและบริสุทธิ์เพียงนี้ แม้เป็นพระราชวังหลวงยังอาจไม่มีมากมายเท่านี้…”
เมื่อเข้ามาในร้านแล้ว กลุ่มคนถึงกับแทบดวงตามืดบอดเพราะเครื่องแก้ว
“ยินดีต้อนรับ คิดซื้อหาอันใดดี?”
เสียงหวานกล่าวให้การต้อนรับ
โจวหู่และคณะจึงหันมองไปทางต้นเสียง แต่แล้วฝีเท้านั้นกลับต้องชะงักถอยหลัง
สตรีผู้มีเส้นผมและดวงตาสีม่วงได้ยืนอยู่ด้านหลังโต๊ะรับรอง ใบหน้านั้นกำลังเผยยิ้มแย้มให้
สตรีผู้นี้ไม่ใช่เฒ่าชรา ทว่าเยาว์วัยเฉกเช่นเถ้าแก่ร้าน
หรือจะเป็น… เถ้าแก่เนี้ย?
ท่ามกลางคนกลุ่มนี้ แข็งแกร่งที่สุดคือโจวหู่ที่อยู่ขอบเขตโชคชะตาระดับที่เก้า
เพราะขอบเขตพลังต่ำต้อยกว่า ดังนั้นจึงเป็นปกติที่จะไม่ทราบตัวตนของเหยาซือหยาน
“เถ้าแก่เนี้ยของร้านนี้หรือ?” โจวหู่กล่าวถามด้วยความสงสัย
สีหน้าของเหยาซือหยานตอนนี้จึงค่อยแข็งกระด้าง
แม้เป็นครั้งที่สองแล้วที่ถูกผู้อื่นเรียกหาเป็นเถ้าแก่เนี้ย เหยาซือหยานก็ยังคงไม่ชิน
นางส่ายศีรษะก่อนจะเผยยิ้ม “เป็นเพียงเสมียนของร้าน”
ได้ยินดังนี้ คนทั้งห้าจึงหันสายตามองทางลั่วฉวนที่ประตูร้าน
เสมียนสาวสวยงดงามเช่นนี้ เถ้าแก่ไม่ทราบว่าคิดอันใดอยู่กันแน่
โจวหู่ตอบสนองรวดเร็ว เขากระแอมไอเสียงเบาก่อนจะแปรเปลี่ยนเรื่องสนทนา “พวกเรามาเพื่อซื้อแท่งเครื่องเทศและโคล่า”
นามแท่งเครื่องเทศและโคล่า ก็เป็นกลุ่มคนได้ยินจากเว่ยฉิงจู่
เหยาซือหยานพยักหน้ารับ จากนั้นจึงชี้ไปทางด้านในร้าน “เหล่านั้นอยู่ตรงนั้น และทางร้านเราเพิ่งมีสินค้าใหม่ เป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทางด้านนั้น เชิญไปรับชมได้ตามสะดวก”
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป?
เมื่อได้ยินชื่ออันแสนแปลกประหลาด โจวหู่และคณะจึงเหม่อไปครู่
พวกเขาไม่ทราบด้วยซ้ำว่าแท่งเครื่องเทศและโคล่าคืออะไร แต่แล้วตอนนี้มีเพิ่มมาใหม่อีกหนึ่งอย่าง
หรือจะเป็นชื่อของยาวิเศษ?
ด้วยความสงสัย คนทั้งห้าจึงไปยังชั้นวางพร้อมพิจารณาเนื้อหาที่เขียนบรรยายเอาไว้
หลังอ่านครบถ้วน คนทั้งห้าจึงต้องสูดลมหายใจเข้าปอดลึก สีหน้าแต่ละคนล้วนแตกตื่นเสียยิ่งกว่าตอนได้เห็นเครื่องแก้วครั้งเข้าร้านเสียอีก!
“ทราบแล้วว่าเหตุใดเว่ยฉิงจู่และผู้อื่นถึงสามารถสังหารอสูรหมาป่าสีม่วงได้…” โจวหู่พึมพำกับตนเอง
“หัวหน้า พวกเราซื้อดีหรือไม่?”
“เครื่องเทศราคาหนึ่งร้อยผลึกวิญญาณ โคล่าราคาสิบผลึกวิญญาณ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็ราคาสิบผลึกวิญญาณ เหล่านี้ค่อนข้างแพงไปบ้าง!”
“ผายลม! ผลลัพธ์เช่นนี้กล่าวว่าแพงงั้นหรือ? นี่ไม่ต่างอะไรกับให้เปล่าด้วยซ้ำ?!”
“อย่าได้โกรธแล้ว ขอระงับโทสะ ข้าหมายความถึง…”
คนทั้งสี่ต่างเผยยิ้มเก้กัง สุดท้ายจึงหันสายตามองไปทางโจวหู่
เพราะโจวหู่คือผู้ตัดสินใจ
โจวหู่หันมองทางสี่คนก่อนจะหัวเราะออก “น้องชายทั้งหลาย คิดถามงั้นหรือ? ซื้อสิ!”
“ลูกพี่ใจกว้างนัก!”
“ฮ่าฮ่า ลูกพี่อย่างไรก็ใจกว้างเสมอ”
ได้ยินคำชม โจวหู่จึงอดไม่ได้ที่จะเผยยิ้ม
มันเป็นเพราะพวกเขาไม่ตระหนี่ถี่เหนียวต่อกัน ดังนั้นพี่น้องกลุ่มนี้จึงสามารถร่วมหน่วยกันได้ด้วยดี
“แต่ละคนให้ซื้อโคล่าห้าขวด บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปห้าถ้วย และหนึ่งแท่งเครื่องเทศก็แล้วกัน”
หลังพูดคุยกันเสียงเบาอยู่ครู่หนึ่ง โจวหู่จึงตัดสินใจจำนวนที่จะให้ซื้อหา
ส่วนไวน์หยกนั้น พวกเขาทำได้เพียงแต่เมินเฉยต่อมัน
กับราคาหนึ่งแสนผลึกวิญญาณ ต่อให้ขายคนทั้งห้าเป็นทาสก็ยังไม่พอซื้อ!
“ต้องขออภัย ร้านของเรามีกฎอยู่ หนึ่งคนสามารถซื้อสินค้าได้อย่างละชิ้นต่อวันเท่านั้น”
เสียงหวานของเหยาซือหยานดังขึ้นอย่างถูกจังหวะ
“ว่าอะไร? มีกฎเช่นนั้นด้วย?” โจวหู่อดไม่ได้ที่จะนิ่งงันไปยามได้ทราบคำ
สีหน้าของคนทั้งสี่ก็หาได้แตกต่างกันเท่าใดนัก
ไม่ว่าเป็นร้านใดในโลก กฎเกณฑ์เช่นนี้ไม่คล้ายเคยได้ยินมาก่อน
ตอนที่ 46 : เถ้าแก่ควรบอกแต่แรก!
เหยาซือหยานพยักหน้ารับ “เป็นกฎของทางร้าน”
“ตามนั้นก็แล้วกัน” โจวหู่ไหวไหล่อย่างช่วยไม่ได้ “งั้นซื้อหาคนละหนึ่ง แบบนี้ก็ช่วยประหยัดผลึกวิญญาณได้ไม่น้อย”
จากนั้นคนทั้งห้าจึงซื้อโคล่าหนึ่งขวดพร้อมแท่งเครื่องเทศ รวมถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จากนั้นค่อยเดินไปหาเหยาซือหยานและจ่ายค่าสินค้า
“หือ? นี่อะไร?”
โจวหู่ได้ตระหนักยามนี้ ว่ามันมีเครื่องจักสีขาวเงินตั้งอยู่มุมหนึ่ง น้ำเสียงต้องกล่าวถามด้วยความสงสัย
“สิ่งนี้เรียกว่าเครื่องทำน้ำร้อน” เหยาซือหยานอธิบาย
กล่าวถึงตรงนี้ เหยาซือหยานจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากลั่วฉวน
นางทราบก็เพียงชื่อ ส่วนที่เหลือลั่วฉวนยังไม่ได้บอกอันใดกับนาง
“เครื่องทำน้ำร้อน ชื่อก็บอกแล้ว ในเครื่องนั่นก็มีน้ำร้อน”
จากภายนอกร้าน เสียงเบาค่อยของลั่วฉวนส่งผ่านเข้ามา
“ใส่น้ำร้อนกับบะหมี่กึ่งสำเร็จ จากนั้นสรรพคุณที่ได้คือเพิ่มความเร็วการฝึกฝน”
สีหน้างงงันของคณะโจวหู่เผยออก
ต้องใช้ด้วยกัน? อะไรคือใช้ด้วยกัน?
ลั่วฉวนจึงถอนหายใจ
นี่จึงเป็นข้อเสียของต่างโลก ผู้คนที่นี่ไม่มีความรู้ว่าบะหมี่กึ่งนั้นต้องรับประทานอย่างไร
ฝีเท้าก้าวเดินไปทางชั้นวาง ลั่วฉวนคว้าบะหมี่กึ่งมาถ้วยหนึ่ง จากนั้นฉีกเปิดถ้วยอย่างชำนาญ ก่อนที่จะโรยผงเครื่องปรุง และค่อยนำส้อมออกจากถ้วย
บะหมี่กึ่งสำเร็จถูกนำไปวางจุดปล่อยน้ำของเครื่องทำน้ำร้อน จากนั้นน้ำเดือดพร้อมไอน้ำจึงไหลรินออกมา
“ก็แค่นี้ รอสักห้านาทีก็ได้แล้ว” ลั่วฉวนกล่าวพลางปิดฝาถ้วยบะหมี่กึ่งพร้อมส้อมวางไว้ด้านบน
ขณะนี้เองที่เขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเหมือนมีอะไรไม่ถูกต้อง
“เป็นอะไรกันไป? ไฉนทำสีหน้าแบบนั้น?”
ไม่เพียงแต่โจวหู่ ทว่าเหยาซือหยานก็ยังเผยอาการตื่นตะลึง
“เถ้าแก่ น้ำที่ออกจากเครื่องทำน้ำร้อนเมื่อครู่นี้…”
หลังกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เสียงเหยาซือหยานจึงสั่นเครือ
“ก็แค่น้ำพุแห่งชีวิตทั่วไป” ลั่วฉวนตอบกลับอย่างเฉยชา
“น้ำพุ… น้ำพุแห่งชีวิตทั่วไป?!”
เหยาซือหยานคิดอยากกระอักออกเป็นเลือด
น้ำพุแห่งชีวิต มันคือนามของน้ำพุซึ่งล้ำค่าที่สุดของราชวงศ์สัตว์อสูรก่อนที่จะเกิดวิวัฒนาการขึ้น มันประกอบด้วยออร่าอันหนาแน่นที่ไม่ทราบว่าเหนือล้ำกว่ายาวิเศษไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า
ในหมู่ผู้ฝึกตนนั้นเป็นสิ่งยากพบเห็น และทุกครั้งที่มันปรากฏ ส่วนใหญ่จะต้องเผยตัวในโรงประมูล
เพียงหนึ่งหยดก็มูลค่าหลายร้อยผลึกวิญญาณแล้ว
“อยากได้น้ำร้อนหรือ?” ลั่วฉวนหันไปกล่าวถามคณะของโจวหู่
“แน่นอน!”
คนทั้งห้าตอบพร้อมกันโดยไม่คิดลังเล
เหยาซือหยานจึงมองที่ดวงตาของลั่วฉวนคล้ายคิดตำหนิ กระนั้นที่ได้รับตอบกลับคือไม่สนใจ
อย่างไรที่นี่นางก็เป็นเสมียน ส่วนอีกฝ่ายนั้นเป็นเถ้าแก่
“บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ใช้บริการเครื่องทำน้ำร้อนครั้งหนึ่งมูลค่าหนึ่งร้อยผลึกวิญญาณ” น้ำเสียงลั่วฉวนกล่าวเนิบนาบ
“เถ้าแก่ ของแบบนี้ก็ควรขายพร้อมกันแจ้งราคาทีเดียว!”
โจวหู่หันมองทางลั่วฉวนด้วยสีหน้าจริงจัง เป็นเขารู้สึกว่าเรื่องนี้คล้ายถูกหลอกลวงเข้าให้
ทว่าน้ำพุแห่งชีวิตที่ต้องใช้ใส่กับบะหมี่กึ่งสำเร็จนี้ อย่างไรก็มีมูลค่าที่ต้องจ่าย
ไม่กี่นาทีถัดจากนั้น คนทั้งห้าจึงต่อแถวเรียงรายตรงประตูหน้าร้าน แต่ละคนต่างถือถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ลั่วฉวนรับชม ไม่ทราบว่าเพราะอะไร แต่ภาพฉากเช่นนี้ชวนแปลกตากับสถานที่อยู่บ้าง
คณะของโจวหู่เปิดฝาถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จ จากนั้นไอน้ำจึงเข้าปะทะกับใบหน้าคนทั้งห้า
ไม่เพียงแต่อัดแน่นด้วยพลังวิญญาณ ทว่ายังมีกลิ่นหอมอันพิเศษที่ทำให้จิตใจต้องหวั่นไหว
ทั้งห้าคนต่างมองกันเอง จากนั้นจึงร่วมกันลิ้มรสอาหารจากต่างโลก
ทันใดนี้ เสียงสูดเส้นบะหมี่จึงดังได้ยินทั่วทั้งตรอก…
ทางด้านเหยาซือหยาน บะหมี่กึ่งสำเร็จที่ลั่วฉวนต้มเมื่อครู่มอบให้นาง ขณะนี้ก็กำลังซดน้ำลิ้มรสอยู่
ลั่วฉวนนั้นคิดเป็นอื่น ชีวิตก่อนหน้านี้ของตนไม่ทราบว่ากี่ครั้งกันที่ต้องพึ่งพาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพื่อรอดชีวิต สำหรับตอนนี้ เขาไม่คิดอยากนึกถึงเรื่องราวเหล่านั้นสักเท่าใดนัก…
……
ไม่พลาดการอัพเดตตอนใหม่ ติดตามได้ที่ : https://bit.ly/32ciG6V