เถ้าแก่ขั้นเทพ! - ตอนที่ 31-32
ตอนที่ 31 : ช่วยชีวิต
สำหรับผู้คนส่วนใหญ่ สตรีที่บาดเจ็บคือผู้ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง
ทว่าด้วยฐานะเจ้าของร้านต้นตำรับแห่งนี้ ปัญหาดังกล่าวลั่วฉวนสามารถแก้ไขได้ง่ายดาย
ด้วยเพียงการเดินลงไปหยิบขวดโคล่าจากชั้นวางที่ด้านล่าง จากนั้นจึงป้อนให้สตรีที่อ่อนแรงได้ดื่มโดยตรง
ส่วนผลลัพธ์ของการดื่มโคล่านั้น คงไม่ต้องกล่าวถึงแต่อย่างใด
บาดแผลที่ร่างกายนั้นเริ่มฟื้นฟูด้วยอัตรามองเห็นด้วยตาเปล่าเพียงชั่วลมหายใจ กระทั่งแผลเป็นก็ไม่หลงเหลือไว้ให้พบเห็น
กระดูกที่หักก็กลับคืนสภาพดังเดิมพร้อมผสานกับกล้ามเนื้อโดยสมบูรณ์จนเกิดเสียงก๊อกแก๊กภายในร่าง
คิ้วของสตรีผู้นี้เริ่มขมวดเล็กน้อย คิดว่าเป็นเพราะนางทราบเรื่องที่ความเจ็บปวดในร่างกายเลือนหาย
ทว่านางยังไม่ตื่น เพราะนางยังขาดซึ่งเรี่ยวแรง
หากเป็นเมื่อหลายวันก่อน ลั่วฉวนคงไม่ทราบว่าสถานการณ์นี้ควรทำอย่างไรต่อดี
ทว่าเมื่อครู่นี้เองที่เขาเพิ่งได้รับไวน์หยก
ในสถานการณ์เช่นนี้ที่ต้องการคืออะไร?
นั่นก็คือการฟื้นคืนกำลังให้แก่ชีวิต
ลั่วฉวนอดไม่ได้ที่จะสงสัย ว่าระบบได้คาดการณ์ถึงเรื่องที่เขาจะช่วยสตรีผู้นี้ในค่ำคืนนี้ จึงเป็นผลให้เขาได้รับไวน์หยกมา
น้ำหมักผลไม้เริ่มออกฤทธิ์ กำลังวังชาจึงเริ่มแผ่กระจายสู่ทั่วร่างของสตรีที่นอนอยู่
แก้มของนางแปรเปลี่ยนเป็นสีแดง ไม่ว่าผู้ใดรับชมต่างก็ต้องกล่าวว่างดงาม
ขณะลั่วฉวนคิดให้นางดื่มไวน์หยกเป็นแก้วที่สอง คิ้วนั้นพลันกระตุกพร้อมลืมตาตื่นขึ้น
ดวงตาสีม่วงงดงามกำลังจับจ้องที่ลั่วฉวน
เส้นผมและดวงตาสีม่วง ไม่ว่ามองอย่างไรก็ผิดธรรมชาติของมนุษย์
ทว่าลั่วฉวนเป็นใคร?
เขาคือผู้ที่ผ่านดวงดาวสีครามมายังต่างโลกแห่งนี้!
ลั่วฉวนเคยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เขาย่อมทราบเรื่องความแตกต่างทางชาติพันธุ์
สตรีตรงหน้าก็แค่อาจจะมียีนส์ที่พิเศษ
ลั่วฉวนและนางต่างมองหน้ากันเอง
เวลาผ่านไปทั้งคู่ก็ยังคงเงียบงัน
ลั่วฉวนรู้สึกคันที่หัวใจทว่ายากเกาได้ สถานการณ์เช่นนี้เขาควรกล่าวอะไร?
พอดีเป็นเถ้าแก่ร้านนี้ เพราะฝนตกจึงเบื่อไปเหม่อมองภายนอก แล้วก็พบนางร่วงหล่นจากฟ้าเลยช่วยเอาไว้?
ไม่ว่าพูดกล่าวทางไหน มันก็คล้ายดูไม่ดีใช่หรือไม่?
ผู้อื่นไม่ทราบ ทว่าเวลานี้ภายในใจเหยาซือหยานนั้นคลุ้มคลั่งประหนึ่งเกิดพายุขึ้น
การโจมตีก่อนหน้าเป็นนางต้องใช้แก่นอสูรพร้อมเรี่ยวแรงกายใจหมดสิ้น กำลังของทั้งกายนางคือเหือดหายไม่หลงเหลือ!
แต่ตอนนี้เล่า?
ไม่เพียงแต่อาการบาดเจ็บหายดี แต่กำลังวังชายังกลับมาเต็มเปี่ยมจนแทบล้น?!
นอกจากนี้ ดวงตาของนางยังหันมองที่ไวน์หยกในมือของลั่วฉวน ความตื่นตะลึงในสายตาของนางแทบไม่อาจเก็บไว้ได้มิด
ด้วยกำลังวังชามากล้นเพียงนี้ เกรงว่าน้ำพุแห่งชีวิตของราชวงศ์สัตว์อสูรจะยังไม่อาจเทียบเปรียบได้ด้วยซ้ำ
เรื่องราวนั้นชัดเจน บุรุษลึกลับตรงหน้าได้ช่วยรักษานางเอาไว้
หากเทียบเปรียบกับมนุษย์ สัตว์อสูรส่วนใหญ่นั้นสัตย์ซื่อมากกว่า ไม่เกินเลยนักที่จะกล่าวว่าเหล่านั้นอยู่ร่วมด้วยกันได้ดีกว่ามนุษย์ที่ชอบขัดแย้งกันเอง
“ขอบคุณที่ช่วยชีวิตเล็กจ้อยนี้เอาไว้”
เหยาซือหยานสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะกล่าวออกด้วยความจริงจัง
เมื่อกล่าวออกไปแล้ว นางจึงรู้สึกสับสนอยู่เล็กน้อย
ตามปกตินางคงต้องหาทางตอบแทนความเมตตาของลั่วฉวน ทว่าตอนนี้แม้แต่อาการบาดเจ็บและกำลังของนางยังฟื้นคืนกลับมา กระนั้นระดับการฝึกฝนได้เสียหายไปแล้ว นางไม่ทราบว่าเมื่อใดจึงสามารถฟื้นคืนสู่ขอบเขตราชันได้อีกครั้ง อย่างไรแล้วอสูรนักบวชอู๋เซี่ยงผู้นั้นก็ต้องมาล่านางอีกครั้งเป็นแน่
ขณะนี้นางกำลังครุ่นคิดถึงความวินาศตั้งแต่ถือกำเนิด ภายในก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความอับจนขึ้นมา
ทว่าลั่วฉวนหาได้ทราบเรื่องหรือคิดสนใจแต่อย่างใดไม่
เขาเพียงพยักหน้ารับ “ไม่เป็นไร อันที่จริงเจ้าร่วงหล่นจากฟ้าลงมาที่นี่ ข้าก็เลยช่วยไว้เท่านั้น”
จากนั้นลั่วฉวนจึงครุ่นคิดไปพักหนึ่งก่อนจะกล่าว “ขอแนะนำตัว ข้าคือเถ้าแก่ร้านแห่งนี้ นามลั่วฉวน เรียกหาเป็นเถ้าแก่ลั่วก็ได้”
ด้วยความลังเลเล็กน้อย เหยาซือหยานตอบคำกลับ “นามข้าเหยาซือหยาน”
ราวกับคนทั้งสองไม่ใช่ประเภทช่างพูด ดังนั้นบรรยากาศจึงกลับกลายเป็นอึดอัดไปชั่วขณะหนึ่ง
ตอนที่ 32 : ระบบไม่ใช่ตลาดสด
ไม่ช้าความเงียบงันจึงคลายออก
โครก~
เสียงอันน่าอับอายดังขึ้น ใบหน้างดงามของเหยาซือหยานกลับกลายเป็นแดงก่ำ
ตอนนี้นางค่อยจดจำได้ ว่าหลายวันแล้วที่ผ่านพ้นทัณฑ์สายฟ้าก่อนเผชิญเหตุการณ์หลบหนี
และตลอดระยะเวลานั้นนางไม่ได้มีอะไรตกถึงท้องเลย
แม้เป็นผู้ฝึกตนที่ใช้พลังวิญญาณจากฟ้าดินดำรงชีพ กระนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นเช่นนั้นได้โดยตลอด
และด้วยอาการบาดเจ็บของเหยาซือหยานหายดีแล้ว ทว่าจิตใจยังคงอ่อนแรงและไม่มีทางฟื้นคืนได้โดยง่าย
“หิวหรือ?”
ลั่วฉวนมองสตรีที่เขินอายตรงหน้าก่อนจะกล่าวถามตรงไปตรงมา
เหยาซือหยานเพียงพยักหน้ารับด้วยใบหน้าแดงก่ำ หากยังจะกล่าวถามย้ำว่าหิวหรือไม่ เช่นนั้นก็คงเป็นเรื่องเสียมารยาทแล้ว
ด้วยถอนหายใจออก ลั่วฉวนจึงตัดสินใจ
“รอที่นี่ เดี๋ยวไปหาอะไรมาให้กิน”
ถัดจากนั้น ลั่วฉวนจึงไปยังครัวภายในร้าน
ก่อนหน้านี้ลั่วฉวนก็มีปัญหาด้านการกิน ทว่าก็มักแก้ไขได้โดยการกินที่ภัตตาคารใกล้เคียง
อย่างไรแล้วปู้หลี่เกื๋อก็แวะเวียนมาทุกวี่วัน ลั่วฉวนก็ไม่ใช่คนตระหนี่ถี่เหนียวอะไร
ส่วนแบ่งหนึ่งในสิบจะเป็นของเจ้าของร้าน ลั่วฉวนจึงขอให้ระบบถอนส่วนแบ่งหนึ่งในสิบออกมา
รับชมห้องครัวทันสมัย ลั่วฉวนจึงอดไม่ได้ที่จะเผยยิ้ม
ช่วงวันเปิดร้านเขาไม่เคยทำอาหารเอง แต่เลือกไปยังภัตตาคารใกล้เคียงเพื่อความสะดวก
ซึ่งเขาก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าวันต้องทำอาหารเองจะมาถึงเร็วขนาดนี้!
ลั่วฉวนเคยสงสัยว่าระบบทราบอนาคตหรือไม่ ดังนั้นจึงมีการจัดเตรียมห้องครัวเอาไว้เช่นนี้
“ช่างมัน ทอดไข่กับมะเขือเทศก็แล้วกัน จากนั้นก็บะหมี่สักชาม”
ลั่วฉวนที่ตัดสินใจได้จึงถอนหายใจก่อนจะลงมือ
ที่ทวีปเทียนหลันแห่งนี้ มันไม่มีพืชพรรณที่เรียกว่ามะเขือเทศ
“ระบบ เปลี่ยนเป็นมะเขือเทศสองลูกและไข่สองฟอง” ลั่วฉวนกล่าวภายในใจ
“ขอท่านจดจำไว้ว่าระบบคือระบบร้านค้าสุดแกร่ง ไม่ใช่ระบบร้านค้าตลาดสด!” เสียงที่คล้ายไม่พอใจของระบบดังตอบกลับมา
“รู้แล้วน่า” ลั่วฉวนพยักหน้ารับ “รีบเอามะเขือเทศกับไข่มาได้แล้ว”
ระบบถึงกับกล่าวต่อไม่ถูก
ท้ายที่สุดระบบจึงไปหามะเขือเทศและไข่มาให้ลั่วฉวน
แน่นอนว่าเขายังไม่ลืมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ผ่านไปครู่ กลิ่นหอมจึงค่อยลอยโชยมาจากครัว
“กินได้เลย” ลั่วฉวนนำบะหมี่พร้อมไข่ดาวมะเขือเทศมาให้เหยาซือหยาน
อาหารที่ลั่วฉวนทำอย่างไรก็ไม่มีทางเทียบเท่าพ่อครัวชื่อดัง ทว่าในสายตาของเหยาซือหยาน มันไม่ต่างอะไรกับอาหารเลิศรส
หากหิวโซ เช่นนั้นแม้เป็นหมั่นโถวก็บอกว่าหวานได้ นี่จึงเป็นความจริงอันเป็นนิรันดร์
“ขอบคุณ” เหยาซือหยานกล่าวคำเสียงเบา
สภาพจิตใจของนางขณะนี้กำลังขึ้นลง
มันเป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าถึงผู้คนที่อับจนหนทางเช่นนางตอนนี้
แต่ถึงอย่างไรลั่วฉวนก็คล้ายไม่รู้ความ กล่าวได้ว่าเขาเป็นโสดมาแล้วถึงสองชีวิต ดังนั้นจึงไม่ทันตระหนักถึงสายตาของนาง
เหยาซือหยานยังคงไม่ขยับ และเขาก็ไม่ใช่คนที่ใส่ใจมารยาทบนโต๊ะอาหาร ดังนั้นจึงเป็นฝ่ายเริ่มกินไข่ดาวมะเขือเทศพร้อมบะหมี่ก่อน
ทั้งสองเมื่อกินจนอิ่มเรียบร้อย ลั่วฉวนจึงค่อยลุกขึ้นเก็บกวาด
“ห้องอาบน้ำอยู่ทางนั้น คืนนี้พักที่นี่ก็ได้ ขอตัวก่อนแล้ว”
ถัดจากนั้นเขาจึงออกจากห้องไป
ที่ลั่วฉวนช่วยเหลือเหยาซือหยานเอาไว้ก็เพราะทำตามใจชอบ ขณะนี้เขาเองก็ไม่ทราบว่าควรทำอย่างไรต่อดี
รับชมลั่วฉวนออกไปแล้ว เหยาซือหยานจึงกัดริมฝีปากอย่างที่คิดกล่าวทว่าไม่กล่าวคำใดออก
ลั่วฉวนที่เข้ามาในชีวิต เป็นผลให้ใจที่เกลียดชังมนุษย์เป็นล้นพ้นของเหยาซือหยานต้องแปรเปลี่ยน
ในสายตาของเหยาซือหยาน ตัวตนของลั่วฉวนคือยอดบุรุษที่ซุกซ่อนตัวตนในเมืองใหญ่
นางขณะนี้คล้ายได้ทราบกระจ่าง ว่ามนุษย์ก็ยังมีสิทธิ์คบหาเป็นสหายกับสัตว์อสูรได้
ถูกต้องแล้ว
เหยาซือหยานทราบดี ว่าลั่วฉวนนั้นทราบตัวตนสัตว์อสูรของนางแต่แรก
อย่างไรเส้นผมและนัยน์ตาสีม่วงก็ไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์
นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมครั้งเหยาซือหยานเป็นมือสังหาร นางจึงต้องสวมใส่ชุดสีดำปกปิดทั้งร่างกายไว้โดยตลอด
……
ไม่พลาดการอัพเดตตอนใหม่ ติดตามได้ที่ :https://bit.ly/32ciG6V