เถ้าแก่ขั้นเทพ! - ตอนที่ 25-26
ตอนที่ 25 : พรสวรรค์
ในความเป็นจริง ทุกครั้งที่ลั่วฉวนกล่าวคำเหล่านี้ออก ภายในใจของเขาก็เจ็บปวดไม่ใช่น้อย
แม้สีหน้าภายนอกยังคงเรียบเฉย ทว่าหากพิจารณาให้ถี่ถ้วน จะพบว่าแววตาของลั่วฉวนเผยความลำบากใจออกมา
หากได้ร่วมการค้ากับจักรวรรดิเทียนชิง เช่นนั้นหนึ่งวันจะขายได้เพียงใด?
เพียงแรกเริ่มก็สมควรได้รับนับแสนผลึกวิญญาณแล้วด้วยซ้ำ!
ตามส่วนแบ่งหนึ่งในสิบสำหรับเจ้าของร้านหนึ่งดาว นั่นหมายความถึงเขาจะได้รับส่วนแบ่งหนึ่งหมื่นผลึกวิญญาณในทุกวัน!
ช่างน่าปวดใจ!
ช่างรวดร้าวนัก!
“บุรุษผู้ซึ่งมีชะตาให้เป็นเจ้าของร้านสุดแกร่ง เจ้าของร้านต้องไม่ละโมบในเงินตรา!”
ด้วยจังหวะเวลาอันพอเหมาะ ระบบเผยตัวออกกล่าวคำแนะนำแก่ลั่วฉวน
ลั่วฉวนจึงได้แต่หัวเราะรับ
หลังจากนั้น เพราะได้กินแท่งเครื่องเทศเข้าไปแล้ว เหล่าไป่จึงซื้อหาโคล่าอีกขวดหนึ่ง
กระนั้นยามจ่ายผลึกวิญญาณออก เหล่าไป่กลับรับรู้ได้ถึงอารมณ์ของลั่วฉวนที่ไม่ค่อยดีเท่าใดนัก เป็นผลให้เขาต้องเร่งรีบเผ่นหนีออกจากร้านเสียก่อน
พระราชวังนครหลวง
จี้อู๋ฮุยรับชมชายชราผู้ซึ่งเดินทางกลับมาถึงด้วยใบหน้าใคร่สงสัย
ไม่เกินเลยหักหากจะกล่าวว่าก่อนหน้านี้เพียงไม่นาน ทั้งนครจิ่วเหยาต้องประสบชะตากรรมเกือบล่มสลาย
“เหล่าไป่ เกิดเรื่องราวใดขึ้น? บอกเล่าให้ข้าได้ทราบ”
เหล่าไป่เผยยิ้มขื่นขม จากนั้นจึงบอกเล่าต่อจี้อู๋ฮุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
หลังจากได้ยินถึงอำนาจอันลึกลับที่ซุกซ่อนในนครหลวงที่มาเปิดร้านค้าอยู่ จี้อู๋ฮุยจึงอดไม่ได้ที่จะร้องออกพลางหัวเราะ
“ผู้อาวุโสท่านนี้ก็นะ…” หลังได้ทราบเรื่อง จี้อู๋ฮุยจึงพยักหน้า จากนั้นจึงกล่าว “เป็นคนที่มีเอกลักษณ์เสียจริง”
“องค์เหนือหัวกล่าวได้ถูกต้องแล้ว บรรพบุรุษท่านนั้นไม่ใช่แข็งแกร่งแล้วอหังการ ทว่านี่เป็นเพียงข้าคาดเดา ตัวเขานั้นสมควรข้ามผ่านขอบเขตทดสอบเต๋า และได้ก้าวสู่ขอบเขตราชันอันเป็นตำนานกล่าวขานแล้ว!” เหล่าไป่เผยคำออก
“ขอบเขตราชัน…”
จี้อู๋ฮุยกลายเป็นเงียบงัน สีหน้าอับจนเผยออก
แม้จักรวรรดิเทียนชิงกว้างใหญ่ ผู้แข็งแกร่งที่สุดนั้นยังคงอยู่เคียงข้าง จักรพรรดิแห่งเทียนชิงยังเป็นขอบเขตทดสอบเต๋าระดับที่เก้า
แน่นอนว่าจักรวรรดิเทียนชิงคงอยู่มายาวนานนับหมื่นปีแล้ว อย่างไรก็ต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลัง
“ในเมื่อผู้อาวุโสท่านนั้นเปิดร้านในตรอกไกลห่าง ทั้งยังมีกฎอันซับซ้อนภายในร้าน ข้าก็คาดหวังให้ไม่มีผู้คนมากมายไปรบกวนสร้างปัญหาให้”
จี้อู๋ฮุยขมวดคิ้วพลางคาดเดา
“เหล่าไป่ ข้อมูลที่ผู้อาวุโสท่านนั้นเปิดร้านภายในนครจิ่วเหยา เรื่องนี้ต้องเหยียบไว้ให้มิด!”
เหล่าไป่พยักหน้ารับเห็นพ้อง
หากลั่วฉวนทราบการตัดสินใจของคนทั้งสอง ก็เกรงว่าตัวเขาจะกระอักเลือดออกมาคำโตแล้ว
เพราะที่เขาคาดหวัง คือให้ผู้คนในนครจิ่วเหยาได้ทราบว่าร้านนี้มีตัวตนคงอยู่
ของมีดีในตัว แต่แล้วเพียงไม่กี่คำของคนเพียงหนึ่ง กลับตัดสินใจให้สกัดข้อมูลของร้านนี้ไว้ทุกวิถีทาง!
คนทั้งสองกล่าวได้ว่าทำได้ยอดเยี่ยม…
“ว่าไปแล้ว…” เหล่าไป่คล้ายเพิ่งนึกขึ้นได้ ขณะนี้นำขวดบรรจุของเหลวสีดำออกมาจากแหวนมิติ
“นั่นคืออะไร?” จี้อู๋ฮุยกล่าวถามด้วยความสงสัย
“เป็นของที่ขายในร้านบรรพบุรุษท่านนั้น นามว่าโคล่าขอรับ” เหล่าไป่กล่าวอธิบาย “ตามสรรพคุณที่เขียนเอาไว้ เมื่อดื่มเข้าไปแล้วจะรักษาอาการบาดเจ็บไม่ถึงตายได้โดยทันที!”
“ทว่ามูลค่าของโคล่านี้ค่อนข้างถูก เพียงแค่สิบผลึกวิญญาณเท่านั้น”
“ว่าอะไรนะ?!” ดวงตาจี้อู๋ฮุยพลันต้องเบิกกว้าง
จักรวรรดิเทียนชิงทรงอำนาจ นครจิ่วเหยาอยู่ใกล้เคียงเทือกเขาจิ่วเหยา ดังนั้นมันจึงมียาวิเศษจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฎในธรรมชาติ
ทว่าที่เป็นเช่นแท่งเครื่องเทศและโคล่า เทียบกับผลลัพธ์ที่ได้แล้วเช่นนี้ไม่อาจหาที่ใดได้อีก
“บุตรแห่งบ้านตระกูลขุนนางใต้ถูกลอบสังหารเมื่อหลายวันก่อนไม่ใช่หรือ? ได้ยินมาว่ามีบาดแผลทมิฬซ่อนเร้นไม่อาจรักษา เช่นนั้นส่งโคล่าขวดนี้ไป”
จี้อู๋ฮุยปราดเปรื่อง เขาหาทางทดสอบสรรพคุณของโคล่าขวดนี้ได้แทบจะในทันที
ตอนที่ 26 : รางวัลจากระบบ
ใช้จ่ายเพียงแค่สิบผลึกวิญญาณก็สามารถซื้อใจขุนนางใต้ได้ในพริบตา กล่าวได้ว่าจักรพรรดิจี้อู๋ฮุยนั้นปราดเปรื่องอย่างยิ่ง
กระนั้นที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน คือลูกค้าคนแรกของร้านลั่วฉวนจะเป็นปู้หลี่เกื๋อ!
เหล่าไปพยักหน้ารับเห็นพ้อง
ทว่าจี้อู๋ฮุยดูลังเล เขาคิดคล้ายจะกล่าวอะไรออกมาทว่าไม่กล่าว
“เหล่าไป่ ยังมีอื่นใดอีกหรือไม่?” จี้อู๋ฮุยเผยยิ้มกล่าวถาม
เหล่าไปจึงมองที่จี้อู๋ฮุยก่อนจะกล่าว “บอกกล่าวต่อองค์เหนือหัว ขอท่านได้อย่าโกรธเกรี้ยว”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…”
จี้อู๋ฮุยกลายเป็นหัวเราะรับ “เหล่าไป่ มีอันใดจงกล่าวต่อจักรพรรดิผู้นี้ อย่างไรข้าก็ยังเป็นข้า”
เหล่าไป่จึงกล่าว “ผู้อาวุโสท่านนั้นได้สังหารจ้าวตำหนักน้อยฉู่หยุนเฟย ผู้ซึ่งเป็นสายเลือดตรงของตำหนักจันทราสีเงินที่นครจิ่วเหยาแห่งนี้”
จี้อู๋ฮุยกล่าวไม่ออก
“เรื่องนี้…”
เมื่อดึงสติกลับคืนมาได้ จี้อู๋ฮุยจึงต้องสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะรู้สึกปวดหัวอย่างมากล้ำ
ตอนนี้เขาค่อยเข้าใจ ว่าเหตุใดเหล่าไป่จึงกล่าวคำเช่นนั้นก่อนจะบอกเล่าออกมา เรื่องเช่นนี้ได้ทราบมีผู้ใดบ้างไม่ปวดเศียร?
จ้าวตำหนักน้อยแห่งตำหนักจันทราสีเงินตกตายที่นครจิ่วเหยา แม้ไม่ใช่โดยคนของจักรวรรดิเทียนชิง อย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่รอดพ้นความรับผิดชอบ
ทว่าผู้ซึ่งลงมือเป็นผู้อาวุโสระดับชวนสะพรึง จี้อู๋ฮุยแทบไม่ทราบว่าจะไปสะสางเรื่องนี้อย่างไร
หลังคิดไปครู่หนึ่ง จี้อู๋ฮุยจึงรู้สึกว่านี่มันเป็นเผือกร้อนยากจะโยนออก…
“ช่างมัน” จี้อู๋ฮุยถอนหายใจ “จ้าวตำหนักน้อยแห่งตำหนักจันทราสีเงินตกตายที่นครจิ่วเหยา ตาเฒ่าฉู่หยางผิงคงไม่ปล่อยวางเป็นแน่ ทว่าจักรวรรดิเทียนชิงของข้าก็ไม่ใช่ที่ให้พวกมันก่อการได้ตามใจชอบ!”
“หากพวกมันกล้าก่อการที่นี่ ข้าก็ไม่ลังเลที่จะเปิดค่ายอาคมคุ้มกันใหญ่อีกครั้งหนึ่ง!”
“องค์เหนือหัว…”
การศึกก่อนหน้าจบสิ้นไปแล้ว ความวุ่นวายไม่มีใดอีก ท้องฟ้าขณะนี้กระจ่างโล่ง
ประชากรแห่งนครจิ่วเหยาต่างถอนหายใจโล่งอก เพราะวิกฤตเบื้องหน้าของพวกเขาเพิ่งผ่านพ้น
แม้เกือบทุกผู้คนได้เห็นภาพฉากอันตระการตาก่อนหน้า ทว่าพวกเขาไม่ทราบเรื่องลั่วฉวน ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของร้านแห่งหนึ่งในตรอกซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมือง
“น่าอึดอัดนัก อยากได้เครื่องฉายภาพจิตวิญญาณนั่นบ้างจริง เจ้าสิ่งนั้นเอามาทำประโยชน์ได้หลากหลาย!”
ที่บนเก้าอี้หิน ลั่วฉวนกำลังบ่นพลางนึกเสียใจขณะนึกถึงเรื่องราวก่อนหน้าที่เกิดขึ้น
ลั่วฉวนมั่นใจ ว่าหากมีมันจะทำให้เขาโฆษณาร้านได้อย่างง่ายดาย!
“ระบบ” ลั่วฉวนเรียกดังภายในใจด้วยอารมณ์เหนื่อยหน่าย
“เจ้าของร้านมีอะไรหรือ?” เสียงระบบดังตอบกลับ
“ฉันไล่คนก่อเรื่องในร้านออกไปแล้ว ไม่คิดจะมอบการสุ่มโชคหรือรางวัลจากทางระบบอะไรสักหน่อยเลยหรือยังไง?” ลั่วฉวนเอ่ยถาม
ระบบเงียบงันไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงกล่าวตอบ “รางวัลนั้นถูกส่งออกไปแล้ว ขอให้เจ้าของร้านตรวจสอบด้วย”
เดิมลั่วฉวนคิดว่าจะได้รับคำตอบไร้เยื่อใยจากระบบ ที่ไม่คาดคิดคือจะได้รับคำตอบเช่นนี้กลับมา
“ดีเลย สมแล้วที่เป็นระบบที่เข้าใจฉันดีที่สุด!” ลั่วฉวนอดไม่ได้จนโพล่งคำออก
ทว่าระบบไม่ตอบคำใดกลับมาแล้ว
แต่ลั่วฉวนไม่คิดสนใจแต่อย่างใด
กับผู้คน รางวัลย่อมเป็นสิ่งล่อตาล่อใจยิ่งกว่า
“ทักทายเถ้าแก่!”
เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้น
และถ้อยคำก็ช่างคุ้นเคย
ลั่วฉวนทราบว่าผู้ใดมาเยือน ดังนั้นจึงไม่คิดลืมตารับชม
เสียงเปิดขวดดัง ร่างของปู้หลี่เกื๋อจึงปรากฏตรงสายตาลั่วฉวน
รับชมปู้หลี่เกื๋อสักเล็กน้อย ลั่วฉวนจึงเมินเฉย
กระนั้นปู้หลี่เกื๋อไม่เก็บมาใส่ใจ เขาเร่งรีบกล่าวคำถาม “เถ้าแก่ ก่อนหน้านี้ลงมือไปใช่หรือไม่?”
“เป็นผู้มีดวงตามืดบอดคิดทำลายร้านแห่งนี้ ดังนั้นจึงสังหารทิ้งไปแล้ว” ลั่วฉวนตอบคำเบาราวกับเพิ่งถอนวัชพืชหน้าร้านไป
……
ไม่พลาดการอัพเดตตอนใหม่ ติดตามได้ที่ : https://bit.ly/32ciG6V