หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 74 โชคชะตาของหนานกงเสวียนจี

  1. หน้าแรก
  2. เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน
  3. ตอนที่ 74 โชคชะตาของหนานกงเสวียนจี
Prev
Next

ตอนที่ 74 โชคชะตาของหนานกงเสวียนจี

 

หลังจากได้สติเย่ฉางชิงจึงพยักหน้าให้กับหนานกงเสวียนจี

 

ขณะที่เขากำลังจะยกหมากขาวให้หนานกงเสวียนจี แต่หนานกงเสวียนจีกลับเป็นฝ่ายเอ่ยเชิญขึ้นมาเสียก่อน “ผู้อาวุโส เชิญ ! ”

 

เย่ฉางชิงชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะมองหนานกงเสวียนจีอีกครั้ง

 

ปกติแล้วการทายหมากเริ่มเดินนั้น จะให้ฝ่ายที่ผู้อาวุโสกว่าเป็นผู้กำหมากขาวเอาไว้ในมือ

 

จากนั้นฝ่ายที่อายุน้อยกว่าจะเป็นฝ่ายหยิบหมากดำออกมาหนึ่งหรือสองตัว เพื่อทายว่าเป็นเลขคู่หรือเลขคี่

 

หมากดำหนึ่งตัวทายว่าเลขคี่ หมากดำสองตัวทายว่าเลขคู่ หากทายถูกหมากดำก็จะได้เริ่มเดินก่อน

 

แต่เวลานี้หนานกงเสวียนจีกลับให้เขาเป็นฝ่ายกำหมากขาว ส่วนตัวเองกำหมากดำ จากนั้นค่อยตัดสินว่าฝ่ายไหนจะได้เป็นผู้เริ่มเดินก่อน

 

เย่ฉางชิงคิดถึงตรงนี้ก็อดที่จะนิ่วหน้ามิได้

 

‘หนานกงเสวียนจีผู้นี้ถ่อมตัวเกินไปหรือเปล่า ? ’

 

ถ้าเป็นความแตกฉานในด้านอักษรพู่กัน ภาพวาดและพิณ เขาคิดว่าในโลกเซียนแห่งนี้ฝีมือของเขาก็มิน้อยหน้าใครเช่นกัน

 

แต่เรื่องการเดินหมากนั้น สำหรับเขาแล้ว หลายปีมานี้ราวกับการปิดประตูสร้างเกวียน1 มาตลอด

 

มิเคยได้เดินหมากกับคนที่มีฝีมือจริง ๆ มาก่อน จึงมิมั่นใจว่าฝีมือของเขาในตอนนี้จะยังสามารถเอาชนะใครได้อยู่หรือไม่

 

แต่หนานกงเสวียนจีผู้นี้ดูก็รู้แล้วว่าเป็นยอดฝีมือในการเล่นหมากล้อม แต่กลับให้เขาได้ถือหมากขาว ส่วนตัวเองกลับเป็นคนทายแทน

 

หรือว่าเพราะความแตกฉานในด้านอักษรพู่กันและภาพวาดของเขานั้นสูงส่งมาก จนอีกฝ่ายคิดว่าความแตกฉานในด้านหมากล้อมของเขาก็ต้องมิธรรมดาเช่นกัน ?

 

อืม !

 

มีความเป็นไปได้ !

 

ใช่แล้ว ต้องเป็นเช่นนี้แน่ !

 

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เย่ฉางชิงจึงยื่นมือออกไปคว้าหมากขาวจำนวนหนึ่งมากำเอาไว้

 

สำหรับเขาแล้ว ตั้งแต่มายังโลกเซียนแห่งนี้ก็ได้ศึกษาการเดินหมากมาตลอด ฝีมือของเขาคงมิแย่มากกระมัง

 

อีกทั้งที่นี่มีเพียงพวกเขาสองคน ใครจะถือหมากขาวหรือหมากดำก็มิเห็นจะเป็นอะไรอยู่แล้ว

 

เมื่อเห็นเย่ฉางชิงกำหมากขาวขึ้นมา หนานกงเสวียนจีเองก็ได้หยิบหมากดำสองตัวขึ้นมาอย่างมิลังเล

 

หมากดำสองตัวหมายความว่าหากหมากขาวเป็นเลขคู่ หมากดำของเขาจะได้เดินก่อน แต่หากเป็นเลขคี่ นั่นเท่ากับว่าเย่ฉางชิงจะได้เป็นฝ่ายเดินก่อน

 

ทั้งคู่สบตากันเล็กน้อย ก่อนเย่ฉางชิงจะยิ้มออกมา และวางหมากขาวในมือลงกลางกระดาน

 

หลังจากนับดูแล้วพบว่าเป็นเลขคู่ หนานกงเสวียนจีที่ถือหมากดำไว้จึงได้เป็นฝ่ายเริ่มเดินก่อน

 

หนานกงเสวียนจีใช้นิ้วทั้งสองคีบหมากดำตัวหนึ่งขึ้นมาทันที ก่อนจะกวาดตามองบนกระดานอย่างครุ่นคิด แล้วจึงค่อย ๆ วางหมากลง

 

“ฟิ้ว ! ”

 

แต่ในวินาทีที่หนานกงเสวียนจีวางหมากลงไปนั้น ราวกับมีลมพัดผ่าน

 

ทำให้ผมและคิ้วที่ยาวและเป็นสีขาวโพลนของเขาปลิวไสว อดมิได้ที่จะหรี่ตาลง

 

แต่มิรู้ว่าด้วยเหตุใด ตอนนี้ดูเหมือนว่าสีหน้าของเขาจึงเคร่งขรึมขึ้นเยี่ยงนี้

 

เย่ฉางชิงเหลือบมองหนานกงเสวียนจีเล็กน้อย แล้วจึงหยิบหมากสีขาวตัวหนึ่งวางลงยังจุดดาวที่อยู่ติดกับหมากดำ

 

หนานกงเสวียนจีขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วจึงวางหมากต่ออย่างรวดเร็ว

 

เพียงชั่วมิกี่อึดใจทั้งคู่ก็ได้วางหมากไปกว่ายี่สิบตัวแล้ว

 

ต้องบอกว่าความแตกฉานในด้านหมากล้อมของหนานกงเสวียนจีนั้นหาใช่ธรรมดาไม่ การวางหมากที่รวดเร็วแต่กลับจัดวางอย่างพิถีพิถัน

 

นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่ศึกษากลหมากมานานหลายปี แต่มิเคยพบคู่ต่อสู้ที่มีฝีมือสูสีเช่นนี้ เช่นนั้นเย่ฉางชิงจึงรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก หลังจากอยู่ในโลกเซียนแห่งนี้มาหลายปี ช่างเป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่งนัก

 

ขณะที่เย่ฉางชิงกำลังพร่ำบอกตัวเองในใจ จู่ ๆ หนานกงเสวียนจีก็แข็งค้างไปอย่างมิทราบสาเหตุ

 

ใบหน้าของเขาซีดขาว หน้าผากมีเหงื่อเย็น ๆ ผุดขึ้นมา หัวคิ้วขมวดมุ่น สองนิ้วคีบหมากเอาไว้ตัวหนึ่งแต่กลับมิมีทีท่าว่าจะวางลงแต่อย่างใด

 

อีกทั้งดวงตาคู่นั้นที่เบิกกว้างจนแทบจะถลนออกมานอกเบ้า นัยน์ตาขาวปรากฏเส้นเลือดปูดโปนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดูน่ากลัวยิ่งนัก

 

‘หนานกงเสวียนจีผู้นี้เป็นอะไรไป เมื่อครู่ยังดี ๆ อยู่เลย เหตุใดจู่ ๆ ถึงชะงักไปเยี่ยงนี้ ราวกับมิรู้ว่าควรวางหมากเยี่ยงไรดี ? ’

 

เย่ฉางชิงเงยหน้าขึ้นมอง เมื่อเห็นว่าหนานกงเสวียนจีมิยอมวางหมากเสียที

 

ท่าทางของหนานกงเสวียนจีเช่นนี้ เขาจึงอดที่จะสงสัยขึ้นมามิได้

 

ผ่านไปเกือบครึ่งก้านธูป

 

หนานกงเสวียนจีก็ยังมิมีทีท่าจะวางหมากแต่อย่างใด ใบหน้าตอนนี้ดูเคร่งเครียดราวกับถูกมนต์สะกด

 

เย่ฉางชิงเม้มปากเล็กน้อยอย่างหงุดหงิด ก่อนที่ดวงตาเรียวยาวของเขาจะมีแสงเปล่งประกายขึ้นมา ราวกับคิดบางอย่างขึ้นมาได้พอดี

 

ในโลกที่เขาเคยอยู่ได้มีคนกล่าวไว้ว่า มีผู้อาวุโสด้านหมากล้อมบางคนเวลาเดินหมากจะระมัดระวังทุกย่างก้าว ทุกครั้งที่วางหมากในสมองจะมีการวาดแผนผังของทั้งกระดานเอาไว้ ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงก็จะสร้างเกมที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

 

เย่ฉางชิงมองหนานกงเสวียนจีอย่างครุ่นคิด ก่อนจะพูดกับตัวเองว่า ‘หรือว่าหนานกงเสวียนจีผู้นี้จะเป็นยอดฝีมือเช่นนั้นเหมือนกัน ? ’

 

แต่แล้วเย่ฉางชิงก็สะบัดศีรษะไล่ความคิดนั้นออกไปทันที ตอนนี้พวกเขาพึ่งจะวางหมากไปคนละสิบตัวเท่านั้น ต่อให้เป็นยอดฝีมือที่สมองจะวาดแผนผังของทั้งกระดานเอาไว้ ก็มิน่าจะใช้เวลานานถึงเพียงนี้ !

 

อีกทั้งท่าทางของหนานกงเสวียนจีตอนนี้ ราวกับถูกธาตุไฟเข้าแทรกอย่างไรอย่างนั้น

 

‘หรือว่าฝีมือในด้านหมากล้อมจะยังมิถึงขั้น แต่ฝืนคิดกลหมากจนสุดท้ายกลับติดอยู่ในวังวนความคิดงั้นหรือ ? ’

 

‘มีความเป็นไปได้ ! ’

 

‘ใช่แล้ว ! ’

 

‘ต้องเป็นเช่นนี้แน่ ! ’

 

เวลาผ่านไปอีกหนึ่งก้านธูป

 

เมื่อเห็นหนานกงเสวียนจียังคงนั่งนิ่งมิขยับเขยื้อน เย่ฉางชิงก็ส่ายหน้าอย่างผิดหวัง ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปทางโต๊ะน้ำชา

 

แต่แท้จริงแล้วหนานกงเสวียนจีในตอนนี้ หาได้เป็นเช่นที่เย่ฉางชิงคิดไม่

 

สำหรับหนานกงเสวียนจี เมื่อครู่มิใช่เพียงหมากตัวที่สิบของเย่ฉางชิงเท่านั้น แต่นับว่าเป็นการเดินหมากที่เทพเนรมิตขึ้นก็ว่าได้ เพียงพริบตากลับทำให้กลหมากที่เขาวางเอาไว้ในตอนแรกสับสนวุ่นวายไปหมด จนเขามิรู้ว่าควรจะแก้กลหมากที่ตัวเองสร้างไว้เช่นไร หรือควรจะสร้างกลหมากใหม่ดีกว่า

 

อีกทั้งตอนนี้จิตสำนึกของเขายังถูกดึงดูดเข้าไปในโลกอันลึกลับอีกใบ

 

ภายในโลกแห่งนี้มีเพียงสีขาวและดำ และเขากำลังนั่งอยู่บนพื้นสีดำ

 

เมฆดำเหนือศีรษะคล้อยต่ำลงมา พื้นที่โดยรอบถูกปกคลุมไปด้วยพลังมหาศาล

 

นอกจากนี้ราวกับมีเสียงแห่งเต๋าดังมาจากที่ไกล ๆ บางครั้งก็เหมือนดนตรีสวรรค์ที่สอดประสานกัน ทำให้จิตใจสงบและสดชื่น บางครั้งก็ราวกับเหล่าเซียนกำลังขับขาน ช่างอัศจรรย์ยิ่ง

 

แน่นอนว่าเขาเองก็ได้รับพลังอันน่ากลัว จากโลกที่ลึกลับราวกับแดนเซียนแห่งนี้เช่นกัน

 

แม้จะเป็นปรมาจารย์เช่นหนานกงเสวียนจี หลังจากได้รับพลังเช่นนี้ความแข็งแกร่งของจิตใจยังถูกบดขยี้ลงได้ภายในพริบตา ราวกับมดปลวกก็มิปาน

 

ดูก็รู้ว่าความกดดันที่หนานกงเสวียนจีได้รับในเวลานี้น่ากลัวเพียงใด !

 

แต่สิ่งนี้ก็นับได้ว่าเป็นโชคดีของเขาด้วย ขณะที่เผชิญกับพลังอันน่ากลัวอยู่นั้น รอบกายกลับถูกปกคลุมไปด้วยคลื่นปราณอันบริสุทธิ์ ทั้งยังมีเสียงดนตรีแห่งเต๋าดังมาเป็นระลอกอีกด้วย

 

เขาตกอยู่ในวังวังวนเช่นนั้นจนมิรู้ว่าเวลาได้ผ่านไปนานเพียงใด ราวกับหนานกงเสวียนจีค่อย ๆ ค้นพบวิถีทางแห่งการบรรลุขั้นต่อไปได้แล้ว เหมือนโซ่ที่พันธนาการเขามาเกือบพันปีในที่สุดก็ค่อย ๆ คลายออก

 

แต่ในตอนนั้นเองเสียงลึกลับที่แยกมิออกว่าเป็นเสียงของบุรุษหรือสตรีก็ได้ดังขึ้นในสมองของเขา

 

ขณะเดียวกันเสียงนั้นกลับเต็มไปด้วยอำนาจ ราวกับเสียงของเทพก็มิปาน

 

1 ปิดประตูสร้างเกวียน สุภาษิตจีนมีความหมายว่า ยึดเอาความคิดของตัวเองเป็นหลักโดยมิสนความเป็นจริง

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "ตอนที่ 74 โชคชะตาของหนานกงเสวียนจี"

4.1 8 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

หงส์สยายปีก
หงส์สยายปีก
มีนาคม 12, 2022
The Demon God Pesters : The Ninth Lady of the Doctor
The Demon God Pesters : The Ninth Lady of the Doctor
มีนาคม 12, 2022
IF the Deep sea forgets you  ขอเพียงให้ทะเลได้ลืมเธอ
IF the Deep sea forgets you ขอเพียงให้ทะเลได้ลืมเธอ
มีนาคม 12, 2022
Gate of God
Gate of God
พฤษภาคม 17, 2022
legend of swordman
legend of swordman
มีนาคม 12, 2022
Global Online Survival เอาชีวิตรอดในโลกออนไลน์
Global Online Survival เอาชีวิตรอดในโลกออนไลน์
มีนาคม 12, 2022
Tags:
ฝึกฝน, สายดมกาว, สายมโน, เทพเซียน, แนวต่างโลก
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz