หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 70 ทุกสิ่งกระจ่างและเงื่อนไขของเจ้าสำนักจื่อชิง

  1. หน้าแรก
  2. เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน
  3. ตอนที่ 70 ทุกสิ่งกระจ่างและเงื่อนไขของเจ้าสำนักจื่อชิง
Prev
Next

ตอนที่ 70 ทุกสิ่งกระจ่างและเงื่อนไขของเจ้าสำนักจื่อชิง

 

ทุกคนต่างตกตะลึงกับภาพตรงหน้าไปชั่วขณะ

 

‘ช่างน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก ! ’

 

‘แม้จะเป็นเพียงภาพวาดทิวทัศน์แต่กลับแฝงไว้ด้วยพลังอันน่าอัศจรรย์ถึงเพียงนี้ ทั้งยังสามารถทำลายพลังอันน่ากลัวของอาวุธเทพจำแลงลงได้อย่างง่ายดาย’

 

‘เช่นนั้น ! ’

 

‘ผู้ใดเป็นคนวาดภาพนี้กัน ? ’

 

“โอ๊ย ไม่ เป็นไปมิได้ ! ”

 

ขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึงอยู่นั้น เสียงแหลมเล็กที่เต็มไปด้วยความน่าสะพรึงกลัวก็ดังขึ้นอีกครั้ง

 

ทุกคนที่ได้ยินเสียงนั้นต่างก็หันไปมอง เห็นเป็นจิตวิญญาณอาวุธที่มีเปลวไฟสีดำแผดเผารอบกายกำลังสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ดูหวาดกลัวจนถึงขีดสุด

 

“เป็นไปมิได้ ข้าถูกผนึกมาแสนนาน เหตุใดยุคนี้ยังมีเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ได้…”

 

เปลวไฟสีดำปะทุขึ้นอย่างรุนแรง จิตวิญญาณอาวุธส่ายหน้าไปมา พร้อมกับก้าวถอยหลังไปอย่างซวนเซ

 

“ฟิ้ว ! ”

 

ทันใดนั้นภาพอันน่าอัศจรรย์พลันปรากฏ

 

ภาพวาดไท่เสวียนฉางชิงค่อย ๆ ลอยขึ้นไปเรื่อย ๆ ก่อนจะหยุดค้างอยู่กลางอากาศที่สูงหลายร้อยจั้ง ก่อนจะกางออกและคว่ำหน้าลงกับพื้น

 

มิกี่อึดใจต่อมาก็ได้ส่องลำแสงที่นุ่มนวลอบอุ่นออกมา ราวกับแสงตะวันยามเช้าปกคลุมไปทั่วทั้งเขาไท่เสวียน

 

หมอกมงคลเข้าปกคลุมทั่วทุกยอดเขา ไอหมอกไหลเอื่อย ห้อมล้อมดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนเอาไว้ ดูสงบร่มเย็นราวกับแดนเซียนก็มิปาน

 

มินานภาพที่อัศจรรย์พันลึกก็ปรากฏขึ้น

 

เมื่อเหนือยอดเขาทั้งหลายได้ปรากฏภาพซ้อนมากมายขึ้น ก่อนจะคล้อยต่ำลงมาซ้อนทับยอดเขาแต่ละยอด

 

ทันใดนั้นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากค่ายกลป้องกันภูผาพลันมลายหายไป นั่นหมายความว่าค่ายกลป้องกันภูผาตอนนี้ได้ถูกปิดลงแล้ว

 

เหล่าผู้อาวุโสและศิษย์ของทั้งสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เห็นภาพตรงหน้า ต่างก็เต็มไปด้วยความงุนงง

 

“นี่มันเรื่องอะไรกัน”

 

แม้แต่ละคนจะเกิดความสงสัยขึ้นภายในใจมากมาย แต่เวลานี้ภายในใจของพวกเขากลับสงบลงราวกับสายธาราไหลนิ่ง จึงทำได้เพียงจ้องมองภาพตรงหน้าเงียบ ๆ เท่านั้น

 

“ตึง ! ”

 

แต่จู่ ๆ ก็เกิดเสียงทุ้มต่ำดังทำลายความเงียบขึ้นมาอีกครั้ง

 

เมื่อทุกคนหันไปมอง ก็พบจิตวิญญาณอาวุธที่แบกระฆังสำริดอยู่นั้น ได้จำแลงเป็นลำแสงโดยอาศัยโอกาสที่ค่ายกลป้องกันภูผาถูกปิดลง เพื่อหลบหนีออกจากที่นี่

 

ทว่าสุดท้ายกลับส่งเสียงดังสนั่น ราวกับชนเข้ากับกำแพงเหล็กกล้า

 

ทันใดนั้นคลื่นพลังอันรุนแรงก็ได้พุ่งเข้าชนจนรอบ ๆ จิตวิญญาณอาวุธปรากฏรอยแยกขึ้นทันที

 

“ปล่อยข้าออกไปเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นข้าจะทำให้ที่นี่กลายเป็นนรกให้ดู ! ”

 

เปลวไฟสีดำปะทุอย่างรุนแรง จิตวิญญาณอาวุธที่แบกระฆังสำริดไว้ด้านหลังส่งเสียงคำรามกึกก้องออกมา

 

“อ๊าก ! ”

 

ภาพวาดไท่เสวียนฉางชิงเปล่งลำแสงสีขาวออกมา และปกคลุมจิตวิญญาณอาวุธที่ล้อมรอบด้วยเปลวไฟสีดำเอาไว้ภายในพริบตา

 

“โอ๊ย ! ”

 

เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังก้องไปทั่วทั้งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน

 

คนของทั้งสองสำนักที่ได้ยินเสียงนี้ต่างก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ด้วยความหวั่นเกรง

 

นี่คืออาวุธเทพจำแลงในตำนาน เป็นยอดอาวุธแห่งยุคเลยก็ว่าได้

 

แต่สุดท้ายเพียงแค่ภาพวาดไท่เสวียนฉางชิงปล่อยลำแสงออกมา กลับทำให้มันส่งเสียงร้องอย่างทรมานถึงเพียงนี้ได้

 

และสิ่งที่ทุกคนสงสัยยิ่งกว่านั้นก็คือ นั่นมันคือแสงอะไรกันแน่ !

 

มินานหลังถูกลำแสงสีขาวส่องลงมาปกคลุม เปลวไฟสีดำที่ปะทุอยู่รอบกายจิตวิญญาณอาวุธก็ค่อย ๆ สลายไป จนในที่สุดก็เผยร่างที่แท้จริงของจิตวิญญาณอาวุธออกมา

 

ร่างที่แท้จริงของเขาเป็นชายร่างผอม ผมสีดำยาวประบ่า สีผิวขาวซีดจนน่ากลัว รอบกายเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นเน่า ดูน่ากลัวยิ่งนัก

 

เวลานี้เขากำลังคุกเข่าอยู่กลางอากาศ ระฆังสำริดที่ลอยอยู่เหนือศีรษะแผ่แสงสีเขียวออกมา ราวกับกำลังต้านทานพลังอันน่ากลัวของลำแสงสีขาวอยู่

 

“เป็นไปมิได้ เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์นี้มิควรปรากฏในยุคนี้ ข้ามิยอม ข้ามิยอม ! ”

 

จิตวิญญาณอาวุธส่งเสียงคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง เสียงแหบแห้งยังคงแหลมเล็ก แต่ในน้ำเสียงนั้นกลับเต็มไปด้วยความขัดเคืองปนโศกเศร้า

 

สิ้นเสียงของจิตวิญญาณอาวุธก็เกิดเสียงปังดังขึ้น เป็นเสียงของจิตวิญญาณอาวุธที่ถูกลำแสงสีขาวที่แฝงไว้ด้วยพลังอันน่ากลัวโจมตี

 

“อ๊าก ! ”

 

หลังจากลำแสงสีขาวส่องกระทบร่างของจิตวิญญาณอาวุธ จิตวิญญาณอาวุธพลันส่งเสียงคำรามออกมาอย่างน่าเวทนา ราวกับถูกแผดเผาจริง ๆ

 

แต่มิกี่อึดใจต่อมา จิตวิญญาณอาวุธก็แปรเปลี่ยนเป็นลำแสงนุ่มนวลหลอมรวมไปกับระฆังสำริดใบนั้น ก่อนจะจำแลงเป็นลำแสงสีเขียวอันงดงามพุ่งไปทางตำหนักไท่เสวียน

 

เหล่าผู้อาวุโสและศิษย์ของทั้งสองสำนักที่ได้เห็น ต่างก็มองหน้ากันด้วยสีหน้าสับสน

 

‘นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ? ’

 

‘เหตุใดระฆังสำริดจึงพุ่งไปทางตำหนักไท่เสวียน แล้วเกิดอะไรขึ้นกับจิตวิญญาณอาวุธงั้นหรือ ? ’

 

สวีฉิงเทียนที่ดูอ่อนแรงและยังคงมีใบหน้าซีดขาวเม้มริมฝีปากที่แห้งผากเล็กน้อย “พี่เหอ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่งั้นหรือ ? ”

 

ฟังจบนักพรตฉางเสวียนที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเวทีประลองเวทีหนึ่ง ลังเลเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยตามตรงว่า “ระฆังสำริดใบนั้นได้ถูกประสานเข้ากับตราประทับไท่เสวียนโดยสมบูรณ์ และตอนนี้มันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของค่ายกลป้องกันภูผาแล้ว”

 

ค่ายกลป้องกันภูผาเป็นรากฐานของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน เช่นนั้นเจ้าสำนักอย่างนักพรตฉางเสวียน จึงสามารถรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี

 

หลังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นักพรตฉางเสวียนจึงเอ่ยขึ้นมาอีกครั้งว่า “พี่สวี ดูท่าข้าคงมิสามารถคืนอาวุธเทพจำแลงชิ้นนี้ให้ท่านได้แล้ว เช่นนั้นท่านบอกเงื่อนไขมาเถิด ข้าจะพยายามทำให้ได้”

 

สวีฉิงเทียนรวมทั้งเหล่าผู้อาวุโสของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อชิง มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันทีที่ได้ยินนักพรตฉางเสวียนเอ่ยเช่นนั้น

 

‘นั่นมันอาวุธเทพจำแลงในตำนานเชียวนะ ! ’

 

‘แม้แต่ในสมัยบรรพกาลก็ยังนับว่าเป็นสมบัติล้ำค่า ยิ่งมิต้องพูดถึงในยุคนี้’

 

‘แต่บัดนี้กลับถูกประสานรวมกับค่ายกลป้องกันภูผาของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนไปเสียแล้ว ! ’

 

คิดถึงตรงนี้เหล่าผู้อาวุโสของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อชิง ต่างสบตากันอย่างมิพอใจ

 

ผู้อาวุโสท่านหนึ่งจึงเอ่ยด้วยความโมโหว่า “เจ้าสำนักไท่เสวียน นี่เป็นอาวุธเทพจำแลงในตำนาน หาใช่เศษเหล็กธรรมดาไม่”

 

“พี่จ้าว ท่านระวังคำพูดหน่อยก็ดี ! ”

 

นักพรตหยวนเจี้ยนที่มีนิสัยมุทะลุตอบโต้ผู้อาวุโสท่านนั้นทันที “อาวุธเทพจำแลงชิ้นนี้เป็นเพราะเจ้าสำนักของพวกเจ้าพ่ายแพ้ให้แก่ศิษย์พี่ฉางเสวียน อีกทั้งบัดนี้ ระฆังสำริดใบนี้ก็ถูกประสานรวมกับค่ายกลป้องกันภูผาของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนโดยสมบูรณ์แล้ว หากจะแยกออกมาย่อมเกิดปัญหาใหญ่เป็นแน่”

 

จ้าวฉางชุนจึงเอ่ยอย่างมิยอมแพ้ว่า “เช่นนั้นเจ้าจงบอกมา ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนของพวกเจ้ามีอะไรที่เหนือกว่าอาวุธเทพจำแลงชิ้นนี้บ้าง ? ”

 

เป็นนักพรตหยวนเจี้ยนที่พูดอะไรมิออก

 

สวีฉิงเทียนมองนักพรตฉางเสวียน และลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยอย่างแน่วแน่ว่า “พี่เหอ ข้าตัดสินใจแล้วหากท่านสามารถรับปากข้าอย่างหนึ่งได้ ต่อไปดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนของท่านก็เก็บอาวุธเทพจำแลงชิ้นนี้ไว้เถิด”

 

นักพรตฉางเสวียนนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะเหลือบมองภาพวาดไท่เสวียนฉางชิงที่ยังลอยอยู่กลางอากาศ พลางเม้มริมฝีปาก “นอกเสียจากภาพวาดไท่เสวียนฉางชิงอันเป็นเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนภาพนี้ เชิญเจ้าบอกมาได้เลย”

 

สวีฉิงเทียนยิ้มออกมาอย่างเข้าใจ “พี่เหอ ข้าหวังจะได้พบท่านบรรพจารย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนสักครั้งหนึ่ง”

 

“หืม ? ! ”

 

นักพรตฉางเสวียนถึงกับขมวดคิ้วมุ่น ท่าทางเคร่งเครียด แต่สุดท้ายก็มิได้เอ่ยสิ่งใดออกมา

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "ตอนที่ 70 ทุกสิ่งกระจ่างและเงื่อนไขของเจ้าสำนักจื่อชิง "

4.1 8 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

600
ที่หลบภัยของฉัน อัพเลเวลไม่จำกัด
ตุลาคม 7, 2022
e1d05327c9d1dc4
ไรเดอร์แหวกมิติ
กุมภาพันธ์ 22, 2023
Iam in Hollywood
Iam in Hollywood
มีนาคม 12, 2022
Warlock Apprentice
Warlock Apprentice
สิงหาคม 31, 2025
Banished Disciple’s Counterattack
Banished Disciple’s Counterattack
มีนาคม 12, 2022
ราชันบัลลังก์เลือด
ราชันบัลลังก์เลือด
มีนาคม 12, 2022
Tags:
ฝึกฝน, สายดมกาว, สายมโน, เทพเซียน, แนวต่างโลก
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz