หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 64 แค่ยอมแพ้ก็พอ

  1. หน้าแรก
  2. เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน
  3. ตอนที่ 64 แค่ยอมแพ้ก็พอ
Prev
Next

ตอนที่ 64 แค่ยอมแพ้ก็พอ

 

 

‘ยอดปรมาจารย์งั้นหรือ ? ’

 

ในสายตาของสวีฉิงเทียน มิว่าจะเป็นสติปัญญาหรือพรสวรรค์ในการบำเพ็ญเพียร ถานไถชิงเสวี่ยล้วนอยู่เหนืออินฉางเฟิงทั้งสิ้น

 

ผู้ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นว่าเป็นยอดปรมาจารย์จากถานไถชิงเสวี่ยได้ คนผู้นั้นยอมต้องมิใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน

 

อีกทั้งหลายวันมานี้เขาพยายามแทบทุกวิถีทาง เพื่อจะได้พบผู้อาวุโสลึกลับที่นักพรตฉางเสวียนพูดถึง

 

เขาอยากจะรู้นักว่าผู้อาวุโสลึกลับผู้นั้นเป็นคนเช่นไรกันแน่

 

แต่ถานไถชิงเสวี่ยกลับได้พบยอดปรมาจารย์ท่านหนึ่งในเขตของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน

 

เช่นนั้นหรือว่าผู้อาวุโสลึกลับที่นักพรตฉางเสวียนพูดถึง จะเป็นคนเดียวกับยอดปรมาจารย์ที่ถานไถชิงเสวี่ยบังเอิญไปพบเข้า ?

 

สวีฉิงเทียนคิดได้เช่นนั้นจึงเอ่ยขึ้นอย่างกระตือรือล้นว่า “ชิงเสวี่ย เจ้านั่งลงแล้วเล่าให้ข้าฟังสิว่ายอดปรมาจารย์ที่เจ้าเอ่ยถึงนั้นเป็นคนเช่นไรกัน ? ”

 

ถานไถชิงเสวี่ยลังเลเล็กน้อย “ท่านเจ้าสำนัก ผู้อาวุโสท่านนั้นคล้ายว่าเร้นกายอยู่ที่นั่น เช่นนั้นข้าหมายถึง…”

 

ถานไถชิงเสวี่ยพูดยังมิทันจบประโยค สวีฉิงเทียนก็โบกมือไปมาพลางหัวเราะออกมา “เด็กน้อย ข้าเข้าใจความหมายของเจ้าดี เจ้ามิต้องการให้ข้าไปรบกวนปรมาจารย์ท่านนั้นสินะ”

 

“ท่านเจ้าสำนัก ข้า…” ถานไถชิงเสวี่ยมีท่าทางอ้ำอึ้ง

 

“มิต้องกังวล พวกเรานั่งลงคุยกันก่อน เจ้ามิจำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้หรอก ข้าย่อมเข้าใจเรื่องนี้ดี การไปรบกวนการบำเพ็ญเพียรของผู้อาวุโสอาจทำให้ถูกลงโทษเอาได้สินะ”

 

จากนั้นสวีฉิงเทียนจึงได้นั่งลง ก่อนจะกล่าวกับถานไถชิงเสวี่ยอย่างหยอกล้อ

 

เมื่อได้ยินคำพูดของสวีฉิงเทียน ถานไถชิงเสวี่ยจึงหัวเราะออกมาอย่างอดมิได้ ก่อนจะพยักหน้าให้สวีฉิงเทียนพลางย่อตัวลงนั่ง

 

“เจ้าเล่าให้ข้าฟังหน่อยสิว่าเจ้าบังเอิญไปพบยอดปรมาจารย์ท่านนั้นได้เยี่ยงไรกัน ? ”

 

สวีฉิงเทียนหัวเราะออกมา เวลานี้เขาเหมือนผู้เฒ่าที่ใจดีคนหนึ่ง หาใช่คนที่เป็นเจ้าสำนักเหมือนทุกทีไม่

 

ถานไถชิงเสวี่ยกระพริบตาสองสามครั้ง ก่อนจะค่อย ๆ เล่าว่า “ท่านเจ้าสำนัก ความจริงแล้ววันนั้นตอนที่เราเดินทางผ่านดินแดนจิตแห่งหนึ่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน ศิษย์บังเอิญได้ยินเสียงพิณที่แฝงไว้ด้วยพลังเต๋าแห่งวิถีดนตรี เช่นนั้นศิษย์จึงตัดสินใจไปเสี่ยงดวงเพียงลำพัง สุดท้ายจึงได้พบเข้ากับยอดปรมาจารย์ท่านหนึ่งเข้าเจ้าค่ะ”

 

เพราะรู้ว่าตบะของสวีฉิงเทียนและเย่ฉางชิงนั้นต่างกันราวฟ้ากับเหว เช่นนั้นถานไถชิงเสวี่ยจึงเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้สวีฉิงเทียน โดยมิได้กังวลว่าสวีฉิงเทียนจะไปทำอะไรที่มิเหมาะสมเข้า

 

นางเล่าไปเรื่อย ๆ จนถึงยามดึกโดยมิรู้ตัว

 

“สูด ! ”

 

หลังถานไถชิงเสวี่ยเล่าจบ สวีฉิงเทียนก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ

 

‘เป็นยอดปรมาจารย์เช่นไรกันแน่’

 

‘สุนัขสีดำที่เลี้ยงอยู่ที่บ้านเป็นถึงราชาปีศาจที่บำเพ็ญเพียร’

 

‘บนชุดชามีหินหุนหยวนที่หาได้ยากยิ่งวางอยู่’

 

‘ภาพอักษรพู่กันและภาพวาดที่เขียนขึ้นส่ง ๆ กลับแฝงไว้ด้วยเจตจำนงแห่งเต๋าที่แท้จริงนับอนันต์’

 

‘แต่ที่น่าเหลือเชื่อที่สุดก็คือ เขากล้าวางอาวุธเทพชิ้นหนึ่งเอาไว้ที่ลานในบ้านเชียวหรือมิธรรมดาเลยจริง ๆ…’

 

‘เช่นนั้นยอดปรมาจารย์เยี่ยงนี้จะอยู่ขั้นใดกันนะ ? ’

 

‘น่าเหลือเชื่อ ! ’

 

‘ช่างน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก ! ’

 

คิดถึงตรงนี้สวีฉิงเทียนก็คิดถึงผู้อาวุโสลึกลับที่นักพรตฉางเสวียนเอ่ยถึงขึ้นมา

 

มินานเขาก็นำเรื่องของทั้งสองคนมาปะติดปะต่อกัน

 

‘เพียงแค่ชี้แนะหมากให้แก่นักพรตฉางเสวียน ก็สามารถเอาชนะเทพแห่งหมากอย่างหนานกงเซวียนจีได้’

 

‘แนะนำผู้สืบทอดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนเพียงเล็กน้อย ก็ก้าวหน้าในวิถีกระบี่อย่างรวดเร็ว ‘

 

‘หากมิมีสิ่งใดผิดพลาดล่ะก็ ศิษย์สายตรงที่สามารถเอาชนะอินฉางเฟิงได้ผู้นั้น ก็คงได้รับการชี้แนะจากยอดปรมาจารย์ท่านนี้เช่นกันสินะ’

 

สวีฉิงเทียนคิดไปคิดมา จู่ ๆ ก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา

 

“ท่านเจ้าสำนักเป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ ? ”

 

เห็นสวีฉิงเทียนขมวดคิ้วมุ่น ท่าทางเคร่งเครียดถึงขีดสุด ถานไถชิงเสวี่ยจึงอดที่จะถามขึ้นมาอย่างสงสัยมิได้

 

สวีฉิงเทียนได้สติทันทีที่ได้ยินประโยคคำถามเมื่อครู่ ก่อนโบกมือไปมาพร้อมรอยยิ้มแห้ง “ช่างน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก คาดมิถึงว่าในโลกนี้จะยังมียอดปรมาจารย์เช่นนี้อยู่ อีกทั้งยังอยู่ใกล้แค่เอื้อมถึงเพียงนี้”

 

ถานไถชิงเสวี่ยเอ่ยอย่างกระตือรือร้นขึ้นมาทันที “นอกจากนั้นท่านเย่ยังเป็นคนสุภาพและเรียบง่าย หลายวันมานี้ด้วยคำชี้แนะอย่างจริงใจของเขา ศิษย์จึงสามารถบรรลุขั้นก่อกำเนิดได้อย่างราบรื่น อีกทั้งในด้านดนตรีก็ยังก้าวหน้าขึ้นอย่างมากด้วยเจ้าค่ะ”

 

สวีฉิงเทียนพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะถามเป็นการหยั่งเชิงว่า “ที่เจ้ามิอยากเป็นเจ้าสำนักดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อชิงคนต่อไป ก็เพราะยอดปรมาจารย์ท่านนี้ใช่หรือไม่ ? ”

 

“อาจจะใช่เจ้าค่ะ”

 

ถานไถชิงเสวี่ยเอ่ยอย่างใช้ความคิด “หลายวันมานี้การอยู่กับท่านเย่ทำให้จิตใจของศิษย์เกิดการเปลี่ยนแปลง ระหว่างทางมาที่นี่ศิษย์คิดดีแล้วว่า ต่อไปจะละทิ้งของนอกกายและตั้งใจบำเพ็ญเพียรวิถีดนตรี เพื่อมิทำให้ท่านเย่ผิดหวังเจ้าค่ะ”

 

สวีฉิงเทียนมองถานไถชิงเสวี่ย ก่อนจะพยักหน้าอีกครั้ง “มิได้พบเจ้ามิกี่วัน มิเพียงแต่การบำเพ็ญเพียรของเจ้าจะก้าวหน้าไปอย่างมาก จิตใจของเจ้าเองก็ดูเหมือนเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ในเมื่อเจ้ามีความคิดเช่นนี้ ต่อไปข้าก็จะมิบังคับฝืนใจเจ้าอีก”

 

“ศิษย์ขอบคุณท่านเจ้าสำนักที่เข้าใจเจ้าค่ะ”

 

ถานไถชิงเสวี่ยลุกขึ้นยืนพร้อมเอ่ยว่า “ท่านเจ้าสำนัก นี่ก็เย็นมากแล้ว ศิษย์ขอตัวลาก่อนนะเจ้าคะ”

 

สวีฉิงเทียนเองก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน ท่าทางเต็มไปด้วยความปลื้มปิติ

 

เมื่อถานไถชิงเสวี่ยเดินจากไปแล้ว สวีฉิงเทียนจึงทอดมองออกไปยังด้านนอกอย่างใช้ความคิด พลางสลัดศีรษะไปมา “คาดมิถึงว่าภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนจะมียอดปรมาจารย์เช่นนี้เร้นกายอยู่ ช่างน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก”

 

“แต่ในเมื่อเป็นเขตของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน ก็เท่ากับว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนถูกกำหนดให้ผงาดขึ้น ขณะเดียวกันก็กำหนดให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อชิงถูกกดเอาไว้ด้วยเช่นกัน”

 

……………………………

 

อีกด้านหนึ่ง

 

นักพรตฉางเสวียนเองก็ได้เรียกหลี่ฉางหมิงและลู่อู๋ซวงมาที่ตำหนักไท่เสวียนเช่นเดียวกัน

 

“คารวะท่านอาจารย์ขอรับ ! ”

 

“คารวะท่านเจ้าสำนักเจ้าค่ะ ! ”

 

หลี่ฉางหมิงและลู่อู๋ซวงมาถึงตำหนักไท่เสวียนในเวลาไล่เลี่ยกัน ก่อนจะคำนับนักพรตฉางเสวียนอย่างนอบน้อม

 

“ข้าบอกแล้วว่าหากมิมีคนนอกอยู่ พวกเจ้ามิต้องพิธีรีตองต่อหน้าข้านักหรอก”

 

ใบหน้าของนักพรตฉางเสวียนประดับไว้ด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะรีบเข้าไปประคองทั้งสองคนให้ลุกขึ้น

 

“อาจารย์ ท่านเรียกข้าและศิษย์น้องอู๋ซวงมาเวลานี้มีเรื่องอันใดหรือขอรับ ? ” หลี่ฉางหมิงเอ่ยถามขึ้น

 

ลู่อู๋ซวงเองก็มองนักพรตฉางเสวียนด้วยสีหน้าสงสัยเช่นกัน

 

นักพรตฉางเสวียนจึงเอ่ยออกมาตามตรงว่า “สาเหตุที่ข้าเรียกพวกเจ้ามาก็คือ หากพรุ่งนี้ผู้สืบทอดหญิงของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อชิงต้องการที่จะประลองกับพวกเจ้า ก็ให้พวกเจ้ายอมแพ้เสีย”

 

“ยอมแพ้หรือขอรับ ? ”

 

สีหน้าของหลี่ฉางหมิงและลู่อู๋ซวงเปลี่ยนไปทันที พลางสบตากันอย่างอดมิได้

 

“ท่านเจ้าสำนัก เหตุใดต้องยอมแพ้ด้วยหรือเจ้าคะ ? ” เป็นลู่อู๋ซวงที่เอ่ยถามขึ้น

 

นักพรตฉางเสวียนจึงตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เพราะผู้สืบทอดหญิงของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อชิงผู้นี้ได้บรรลุขั้นก่อกำเนิดแล้ว อีกทั้งพรสวรรค์ของนางยังล้ำเลิศอย่างมาก เช่นนั้นแม้พวกเจ้าสองคนจะร่วมมือกันก็มิอาจที่จะเอาชนะนางได้”

 

เอ่ยถึงตรงนี้นักพรตฉางเสวียนก็ได้หันไปมองลู่อู๋ซวง

 

“อีกอย่างวันนี้อู๋ซวงได้เอาชนะผู้สืบทอดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อชิงได้ นั่นทำให้เกิดการสั่นสะเทือนมิน้อย เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องดีในรอบศตวรรษของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนของเราแล้ว”

 

หลี่ฉางหมิงขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางส่ายหน้าอย่างมิเข้าใจ “อาจารย์ ศิษย์มิเข้าใจขอรับ”

 

นักพรตฉางเสวียนจึงส่ายหน้ายิ้ม ๆ ก่อนจะเอ่ยต่อว่า “เรื่องบางเรื่องเราต้องมองจากภาพรวม พวกเจ้าจำคำของข้าไว้ก็พอ หากผู้สืบทอดหญิงของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อชิงขอประลองกับพวกเจ้าสองคน ให้พวกเจ้าขอยอมแพ้เท่านั้นก็พอ”

 

หลี่ฉางหมิงและลู่อู๋ซวงสบตากันครู่หนึ่ง หลังจากนั้นจึงพยักหน้ารับอย่างเงียบ ๆ

 

“เรื่องมีเท่านี้ พวกเจ้าสองคนกลับไปไตร่ตรองความรู้ที่ได้จากการประลองวันนี้เถอะ”

 

นักพรตฉางเสวียนเดินเข้าไปเอ่ยกับคนทั้งคู่ พลางตบบ่าเบา ๆ

 

“ศิษย์ขอตัวลา”

 

หลี่ฉางหมิงและลู่อู๋ซวงคาราวะอย่างนอบน้อม ก่อนจะหมุนตัวจากไป

 

นักพรตฉางเสวียนมองตามหลังของทั้งสองคน ด้วยใบหน้าที่ปลื้มปิติ

 

มินานแววตาของเขาก็เกิดประกายบางอย่างแวบผ่าน

 

‘ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ ข้าจะดูสิว่าเจ้าจะโต้กลับเยี่ยงไร’

 

‘ต่อไปก็แค่หาทางนำระฆังสำริดใบนั้นหลอมรวมเข้ากับค่ายกลป้องกันภูผา คงจะยั่วโมโหสวีฉิงเทียนได้มิน้อย’

 

คิดถึงตรงนี้นักพรตฉางเสวียนก็หัวเราะออกมา

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "ตอนที่ 64 แค่ยอมแพ้ก็พอ"

4.1 8 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

เฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลก (My Hermes System)
เฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลก (My Hermes System)
มีนาคม 12, 2022
ราชันสามภพ (นิยายแปล)
ราชันสามภพ
กรกฎาคม 6, 2023
Holistic Fantasy
Holistic Fantasy
มีนาคม 12, 2022
โปรดเรียกผมว่า “วีรบุรุษรีไซเคิล”
โปรดเรียกผมว่า “วีรบุรุษรีไซเคิล”
มีนาคม 12, 2022
Super Farm1
Super Farm
กุมภาพันธ์ 3, 2024
ฉันมีมานาไร้ขีดจำกัดในวันสิ้นโลก
ฉันมีมานาไร้ขีดจำกัดในวันสิ้นโลก
มีนาคม 12, 2022
Tags:
ฝึกฝน, สายดมกาว, สายมโน, เทพเซียน, แนวต่างโลก
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz