หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 48 นักพรตฉางเสวียนรู้สึกอิ่มเอมใจ

  1. หน้าแรก
  2. เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน
  3. ตอนที่ 48 นักพรตฉางเสวียนรู้สึกอิ่มเอมใจ
Prev
Next

ตอนที่ 48 นักพรตฉางเสวียนรู้สึกอิ่มเอมใจ

 

จวบจนความมืดมิดปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณ เหล่าผู้อาวุโสของทั้งสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่นั่งอยู่ภายในตำหนักไท่เสวียนจึงได้ทยอยเดินกันออกมา

 

ตามธรรมเนียมเหล่าผู้อาวุโสที่สนิทสนมจะกลับออกไปพร้อมกัน เพราะมีการจัดที่พักไว้ใกล้กัน

 

ผ่านไปครู่หนึ่งเหล่าผู้อาวุโสของทั้งสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างพากันทยอยกลับไปพักผ่อน บัดนี้จึงเหลือเพียงเจ้าสำนักของทั้งสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ยังคงอยู่ในตำหนักไท่เสวียนเท่านั้น

 

“พี่สวีตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว พวกเราสองคนก็ควรกลับไปพักผ่อนได้แล้วกระมัง ? ”

 

นักพรตฉางเสวียนลุกขึ้นยืน ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแดงก่ำเล็กน้อยเพราะฤทธิ์สุรา

 

ทว่าสวีฉิงเทียนกลับยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ราวกับมิได้คิดจะกลับไปพักผ่อนแต่อย่างใด

 

เขามีท่าทีลังเลเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพร้อมกับเอ่ยว่า “พี่เหอได้โปรดช้าก่อน เวลานี้ภายในใจข้ายังมีข้อสงสัยมากมายนัก หวังให้พี่เหอช่วยไขความกระจ่างให้กับข้าด้วย”

 

‘มีข้อสงสัยงั้นหรือ ? ’

 

นักพรตฉางเสวียนชะงักไปเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของสวีฉิงเทียน จึงค่อย ๆ นั่งลงอีกครั้ง

 

เขารู้อยู่แล้วว่าเจ้าเฒ่าสวีฉิงเทียนต้องมีแผนการอะไรบางอย่างเป็นแน่

 

คงจะเป็นเรื่องที่หลี่ฉางหมิงเปลี่ยนไปบำเพ็ญเพียรวิถีกระบี่ และเรื่องผู้อาวุโสที่เขากล่าวถึงก่อนหน้านี้คือเทพองค์ใดเป็นแน่

 

แต่เรื่องนี้สำคัญเยี่ยงนี้ ต่อให้สวีฉิงเทียนจะถามออกมาด้วยความจริงใจ เขาก็มิอาจที่จะให้คำตอบได้

 

หากสวีฉิงเทียนเกิดไปทำลายความสงบของท่านบรรพจารย์เย่เข้า ก็จะกลายเป็นความผิดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนไปด้วย

 

เช่นนั้นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับท่านบรรพจารย์เย่ เขามิมีทางบอกให้สวีฉิงเทียนรู้อย่างแน่นอน

 

แม้นักพรตฉางเสวียนจะคิดเช่นนั้น แต่ก็ยังคงตอบกลับไปตามมารยาทว่า “พี่สวีพวกเราสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีมิตรภาพอันดีมาหลายพันปี ท่านมีข้อสงสัยอันใดก็เอ่ยออกมาได้เลย สิ่งใดที่ข้ารู้ย่อมต้องบอกให้ท่านทราบอยู่แล้ว”

 

“พี่เหอในเมื่อท่านพูดเช่นนี้ข้าก็ขอถามตามตรงก็แล้วกันนะ”

 

เมื่อเห็นนักพรตฉางเสวียนพยักหน้าให้ สวีฉิงเทียนจึงเอ่ยถามอย่างมิอ้อมค้อมอีก “ข้าอยากรู้ว่า ผู้ใดเป็นผู้ชี้แนะให้ผู้สืบทอดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนเปลี่ยนไปบำเพ็ญเพียรวิถีกระบี่ รวมทั้งผู้อาวุโสที่ท่านเอ่ยถึงก่อนหน้านี้เป็นผู้ใดกัน ? ”

 

หลังจากจบคำถาม ใบหน้าของนักพรตฉางเสวียนก็ยังคงมีรอยยิ้มประดับอยู่เช่นเดิม ก่อนจะส่ายศีรษะไปมา

 

‘เหมือนสิ่งที่เขาคิดไว้มิมีผิด’

 

‘ที่คืนนี้สวีฉิงเทียนมีท่าทางครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา ก็คงเพราะคิดถึงเรื่องนี้อยู่สินะ’

 

“พี่สวีเรื่องนี้ข้ามิรู้จะพูดเช่นไรดี”

 

นักพรตฉางเสวียนแสร้งทำเป็นลำบากใจ หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงค่อย ๆ เอ่ยขึ้นว่า “ความจริงแล้วผู้อาวุโสที่ข้ากล่าวถึงนั้น เป็นผู้อาวุโสท่านหนึ่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน ส่วนผู้อาวุโสท่านนี้เป็นใครกันแน่นั้น ต้องขออภัยด้วยที่ข้ามิอาจบอกได้”

 

สวีฉิงเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะถามออกมาตรง ๆ “เท่าที่ข้าทราบดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนของพวกท่านมีผู้อาวุโสสูงสุดเพียงมิกี่คน หรือว่าจะมีผู้อื่นอีกเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

 

นักพรตฉางเสวียนยิ้มออกมาโดยมิได้มีพิรุธใด ๆ แม้แต่น้อย “พี่สวีเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน เกี่ยวข้องกับผู้อาวุโสของเรา ข้าต้องขออภัยด้วยที่มิอาจบอกเรื่องนี้ให้ท่านทราบได้จริง ๆ เช่นนั้นโปรดอย่าทำให้ข้าลำบากใจไปมากกว่านี้เลยดีกว่า”

 

ท่าทางหนักแน่นของนักพรตฉางเสวียน ทำให้สวีฉิงเทียนทำได้เพียงพยักหน้าอย่างจนใจ ก่อนจะลุกขึ้นและเดินออกไปจากตำหนักไท่เสวียน

 

แม้สวีฉิงเทียนจะมิได้มีท่าทีดึงดันและคำพูดที่ดูมิพอใจ แต่การเฝ้ารอถึงครึ่งค่อนวันแต่กลับมิได้รับคำตอบใด ๆ คาดว่าอารมณ์ของเขาตอนนี้คงมิได้ดีเท่าไรนัก

 

นักพรตฉางเสวียนมองเงาที่เดินจากไปของสวีฉิงเทียน ก่อนจะยกยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ

 

จากนั้นจึงได้ลุกขึ้นและเดินออกมาที่หน้าประตูตำหนักไท่เสวียน พร้อมกับยืนเอามือไพล่หลังไว้

 

และค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองจันทราที่ลอยเด่น ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ ขณะนั้นภายในใจก็รู้สึกอิ่มเอมใจขึ้นมา

 

เป็นเวลาหลายพันปีแล้วที่เขาได้เป็นเจ้าสำนักดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน กล่าวได้ว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนนั้นสืบทอดต่อกันมาหลายแสนปีแล้วนับตั้งแต่เปิดสำนักมา พวกเขาล้วนอยู่เหนือดินแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นบนโลกมนุษย์มาหลายแสนปี แต่บัดนี้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนกลับเริ่มถดถอยลง

 

ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ของหอคัมภีร์ ช่วงที่รุ่งเรืองที่สุดดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนนั้น เคยมีศิษย์ในสำนักอยู่เกือบแสนคน แต่บัดนี้กลับเหลือเพียงหลักหมื่นเท่านั้น

 

อีกทั้งเวลานั้นยังเรียกได้ว่ามีอัจฉริยะถือกำเนิดขึ้นอย่างมากมายอีกด้วย มิเช่นนั้นคงมิมีบันทึกว่ามีศิษย์เกือบสิบคนที่บรรลุเป็นเซียน

 

แต่บัดนี้พลังวิญญาณภายในสำนักศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนกลับเริ่มเหือดแห้งลง การที่แดนจิตต่าง ๆ จะปรากฏอัจฉริยะบำเพ็ญเพียรนั้นน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย

 

แต่ที่เขาคาดมิถึงก็คือการปรากฏตัวขึ้นของท่านบรรพจารย์เย่ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนจึงกลับมามีความหวังขึ้นอีกครั้ง

 

ทั้งเรื่องพลังเหนือธรรมชาติที่บ่มเพาะอัจฉริยะบำเพ็ญเพียรหลายคนให้แก่ยอดเขากระบี่วิญญาณ และมอบอักษรพู่กันที่แฝงโอกาสมิมีที่สิ้นสุดให้แก่ลู่อู๋ซวง นอกจากนั้นยังชี้แนะหลี่ฉางหมิงให้เปลี่ยนมาบำเพ็ญเพียรวิถีกระบี่

 

ท้ายสุดยังมอบโชคนับอนันต์ให้ทั้งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนด้วยภาพวาดทิวทัศน์ภาพนั้นอีกด้วย สิ่งเหล่านี้จึงช่วยยับยั้งการเสื่อมถอยของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนได้

 

เวลานี้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนถือว่าพัฒนาขึ้นจากเดิมมากทีเดียว

 

เพราะหลังจากที่เขานำภาพวาดไท่เสวียนฉางชิงกลับมา ก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าพลังวิญญาณภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนเริ่มบริสุทธิ์และเพิ่มมากขึ้น

 

มิหนำซ้ำทั้งว่าที่ผู้สืบทอดหญิงเยี่ยงลู่อู๋ซวง หรือหลี่ฉางหมิงผู้สืบทอดที่เปลี่ยนมาบำเพ็ญวิถีกระบี่ ความแตกฉานในวิถีกระบี่ของทั้งคู่ล้วนเรียกได้ว่าพัฒนาอย่างก้าวกระโดด

 

คิดถึงตรงนี้นักพรตฉางเสวียนก็อดที่จะน้ำตาคลอขึ้นมาอย่างห้ามมิได้

 

ขณะเดียวกันเขาก็ได้พึมพำกับตนเองว่า “ดีที่มีท่านบรรพจารย์เย่อยู่ มิเช่นนั้นข้าอาจจะกลายเป็นคนบาปของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนก็เป็นได้ ! ”

 

………………………..

 

เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อแสงสีเงินยามเช้าจับขอบฟ้า ศิษย์ที่มีหน้าที่ในการจัดงานหลายร้อยคนก็ได้มารวมตัวกันยังลานด้านล่างของตำหนักไท่เสวียน เพื่อคอยจัดเวลาประลองรวมทั้งเวลาเข้านั่งชมให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

 

เวลาผ่านไปเกือบสามชั่วยาม หลังจากศิษย์หลายร้อยคนที่เข้ามาเตรียมสถานที่ในการประลองกลับไปแล้ว

 

บนลานกว้างก็ปรากฏเวทีประลองมากมายกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ สองฝากฝั่งถูกจัดให้เป็นที่นั่งชมและสามารถจุคนดูได้ถึง 200 คน

 

ช่วงเที่ยงวัน ศิษย์สายหลักรวมทั้งศิษย์สายตรงของทั้งสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างก็มารวมตัวกันที่ลานประลอง

 

หลังจากนักพรตฉางเสวียนและสวีฉิงเทียนได้กล่าวเปิดการประลองตามธรรมเนียมแล้ว ศิษย์สายหลักและศิษย์สายตรงของทั้งสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็เริ่มขึ้นไปยังเวทีประลองการต่อสู้

 

นอกจากนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับศิษย์สายหลักและศิษย์สายตรงของทั้งสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนในฐานะเจ้าภาพยังได้จัดเตรียมรางวัลเอาไว้ให้อีกด้วย

 

ส่วนเจ้าสำนักทั้งสองอย่างนักพรตฉางเสวียนและสวีฉิงเทียนนั้น หลังจากการประลองการต่อสู้เริ่มต้นขึ้นแล้ว พวกเขาก็จะทำการประลองหมากล้อมกันที่ภูเขาด้านหลังตำหนักไท่เสวียน

 

ณ ภูเขาหลังตำหนักไท่เสวียน

 

ท่ามกลางต้นไม้เขียวชอุ่มทั้งเล็กใหญ่ที่ดูราวกับคลื่นในมหาสมุทร มีป่าไผ่ตั้งตระหง่านและเต็มไปด้วยพลังวิญญาณมากมาย แต่กลับเป็นสถานที่ที่เงียบสงบยิ่ง

 

นักพรตฉางเสวียนและสวีฉิงเทียนนั่งประจันหน้ากันอยู่บนศาลาหลังหนึ่ง ตรงกลางระหว่างคนทั้งคู่มีกระดานหมากล้อมที่ดูเก่าแก่วางอยู่

 

“พี่สวี ได้ยินมาว่าความแตกฉานในวิถีหมากของท่านนั้นก้าวกระโดดขึ้นอย่างมาก เช่นนั้นข้าว่าครานี้เรามิต้องเดิมพันรางวัลอะไรกันดีกว่า”

 

แม้จะกล่าวเช่นนั้นแต่ใบหน้าของนักพรตฉางเสวียน กลับยังคงมีรอยยิ้มที่เยือกเย็นประดับอยู่

 

“พี่เหอหากไร้ซึ่งของรางวัล การประมือครั้งนี้ก็คงหมดสนุกลงไปมาก”

 

สวีฉิงเทียนยิ้มสบาย ๆ ออกมา “เอาเช่นนี้ก็แล้วกัน วันนี้ข้าให้ท่านเดินหมากก่อน 5 ตัวเป็นเยี่ยงไร ? ”

 

“เดินหมากก่อน 5 ตัวงั้นหรือ ? ”

 

นักพรตฉางเสวียนมีสีหน้าประหลาดใจขึ้นมาทันที

 

แม้ท่าทางจะดูประหลาดใจเพียงใด แต่ภายในใจของนักพรตฉางเสวียนกลับมิได้ตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "ตอนที่ 48 นักพรตฉางเสวียนรู้สึกอิ่มเอมใจ"

4.1 8 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

INVINCIBLE โลกอมตะ
INVINCIBLE โลกอมตะ
มีนาคม 12, 2022
Crazy  Leveling  System
Crazy Leveling System
พฤษภาคม 17, 2022
ปกข้ามีดาวเทียมในยุคสามก๊ก
ข้ามีดาวเที่ยมในยุคสามก๊ก
กรกฎาคม 9, 2023
Gate of God
Gate of God
พฤษภาคม 17, 2022
ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art
ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art
มีนาคม 12, 2022
ดาบพิโรธสวรรค์
ดาบพิโรธสวรรค์
มีนาคม 12, 2022
Tags:
ฝึกฝน, สายดมกาว, สายมโน, เทพเซียน, แนวต่างโลก
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz