เกิดใหม่กับระบบไร้พ่าย - Chapter 45 – ลองแตะพวกเขา
Chapter 45 – ลองแตะพวกเขา
โกรธ!
ไม่ช้าความโกรธก็แผ่กระจายออกจากร่างของลั่วเทียน.
“เจ้าสามารถยุ่งกับข้าได้ แต่เจ้าไม่สามารถยุ่งกับพวกเขาได้.”ความโกรธของลั่วเทียนที่ปล่อยออกมาทางเสียงขณะที่เขามองลั่วจินซานอย่างรุนแรง.
“โกรธ?”
“5555…”
“สำหรับเจ้าที่โกรธออกมาแสดงว่าพวกเขามีความสำคัญมากกับเจ้า ตอนนี้ข้าโล่งใจขึ้นมาก.”ลั่วจินซานหัวเราะอย่างเยือกเย็น.
เฉพาะคนที่ใส่ใจเขาจะโกรธกับเรื่องนี้ วิธีนี้เขาจึงไม่กังวลกับลั่วเทียนที่จะหลบหนี.
เมื่อถึงจุดนั้น…
ด้วยความคิดของลั่วจินซานเขาได้คิดถึงแกนปีศาจ เขาไม่สามารถที่จะไม่หัวเราะอย่างชั่วร้ายกับความคิดของตนเองได้.
ในเวลานั้น…
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่ชั่วช้าของลั่วจินซาน ลั่วเทียนเกือบจะปล่อยออฟติมัสไพมร์ออกไปยังพวกเขา เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป.
ลั่วเทียนไม่สนว่ามอนเตอร์ระดับ 4 จะเป็นฝ่ายตรงข้ามเขาหรือไม่.
แต่สิ่งเดียวในหัวใจของเขาคือการให้ลั่วจินซานไปเล่นกับความตาย!
ความคิดเหล่านี้กำลังเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งจนเกือบถึงจุดที่ลั่วเทียนไม่อาจหักห้ามได้.
“55555…”
“โกรธอีก โกรธขึ้นอีก ไอ้สุนัขบัดซบ ถ้าเจ้ากล้า เจ้าก็เข้ามา ถ้าเจ้ากล้าที่จะโจมตี นั่นหมายความว่าเจ้ากำลังโจมตีอาวุโสของตระกูลลั่ว ความผิดนี้หมายความว่าข้าสามารถลงโทษเจ้าได้โดยตรง.” ลั่วเซี่ยวซานเริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เขาไม่อาจระงับอาการดีใจเมื่อเห็นลั่วเทียนโกรธ.
“พี่ใหญ่ลั่วเทียนอย่าเคลื่อนไหว.”
“เจ้านายเราสบายดี.”
หลี่ซูเอ๋อร์และฟางเล่ยพวกเขาทั้งสองวิ่งเข้ามา.
หลี่ซูเอ๋อร์เหลือบไปมองที่ลั่วจินซานก่อนที่จะมองที่ลั่วเทียนและกล่าวว่า “พี่ใหญ่ลั่วเทียนท่านสามารถสบายใจกับการฝึกฝนของท่านได้ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเรา.”
ฟางเล่ยพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ไม่ต้องห่วงเจ้านาย ถ้ามีใครกล้าที่จะสัมผัสเส้นผมของน้องสพใภ้คนนี้ข้าจะส่งเข้าไปถึงความตาย!”
เมื่อได้ยินว่าน้องสะใภ้หน้าของหลี่ซูเอ๋อร์เริ่มแดงขึ้นหัวใจของเธอยังคงวาบหวามแต่เธอยังคงกลอกตาและมองไปที่ฟางเล่ย “อ้วนเล่ยเจ้าพูดเรื่องอะไร?”
ฟางเล่ยหลบเลี่ยงสายตาของซูเอ๋อร์และมองไปที่ลั่วเทียนพร้อมกับยิ้มอย่างโง่ๆ
“ลั่วเทียนตราบเท่าที่เจ้าปรากฎตัวในวันนัด จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขา แต่…” ลั่วจินซานนยิ้มเย็น.“เจ้าควรจะรู้ว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง.”
“ถ้าเจ้าไม่ปรากฎตัวใน 8 วัน คงรู้ว่าจะเกิดอะไร.”ลั่วจินซานได้แสดงออกมาว่าเขาได้ชนะลั่วเทียน.
“สำหรับสาวสวยแบบนี้เข้าไม่ต่อต้านเท่าไรนัก 555” ลั่วเซียวซานหัวเราะขณะมองที่หลี่ซูเอ๋อร์.
ลั่วเทียนถอนหายใจเพื่อระบายความโกรธออก จากนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อพูดกับลั่วจินซาน “ลั่วจินซานฟังให้ดี.”
“ถ้าเจ้ากล้าที่จะทำอะไรไม่ดีกับพวกเขา ข้าจะฝังเจ้าพร้อมกับครอบครัว.”
“ลั่วเซียวซานเจ้าก็เหมือนกัน!”
“หยุดทำเสียงหึ่งๆเหมือนแมลงวันสักที เชื่อไหมว่า ถ้าเจ้ายังยั่วยุข้าคนนี้ ข้าจะตบเจ้าให้ตาย!”
“นอกจากนี้ลั่วชางซานและคนที่เหลือที่พวกเจ้าเรียกว่าคนระดับสูงของตระกูลลั่ว –ข้าจะจดจำใบหน้าของทุกคนที่นี่ ถ้าพวกเขาสูญเสียแม้แต่ผมเส้นเดียวข้าจะบิดหัวของเจ้าออกมาด้วยตัวเอง ข้าลั่วเทียนรับประกันได้ ถ้าเจ้าไม่เชื่อมาข้างหน้าและทดสอบข้า.”
คุกคาม?
ไม่! นี่เป็นความหยิ่งผยองที่มีมากที่สุดเท่าที่เขามี!
หากคำพูดเหล่านั้นมันเต็มไปด้วยความอยากจะฆ่า!
ขณะที่เขาพูดคำเหล่านั้นร่างกายของลั่วเทียนได้ส่งกลิ่นอายที่กดดันออกมาอย่างมาก มันทำให้คนอื่นรู้สึกอึดอัดซึ่งทำให้ลั่วจินซานประหลาดใจเล็กน้อย
“คำพูดที่อุกอาจนัก! ลั่วเทียนดูเหมือนเจ้าจะตีค่าตนเองสูงไปแล้ว.”
“เจ้าคิดว่าเจ้ามีพลังมากเลยหรอ?”
“เจ้าเป็นแค่สาวกนอกของตระกูลลั่วและลืมแซ่ของเจ้าไปแล้ว? เราไม่ใช่ขยะอย่างกับสาวกนอก!”
คำพูดของสาวกชั้นสูงเหมือนกับปัสสาวะลงคำพูดของลั่วเทียน
ตาของลั่วเทียนกวาดมองดูและยิ้มออกมาจางๆ “ลองพยายามแตะพวกเขา!”
“ข้าจะแตะพวกเขาตอนนี้ เจ้าคิดว่าบิดาจะกลัวเศษขยะ?”
ขณะที่เขาพูดร่างของปราณพื้นฐานขั้น9ก็เคลื่อนไหวตบลงมาที่ฟางเล่ย.
“บัดซบ เจ้าคิดจะท้าทายขีดจำกัดของบิดา?”ตาของลั่วเทียนลึกลงและร่างเขาก็หายออกไป เมื่อเขาปรากฎอีกครั้งมือขวาของเขาก็เหมือนกับกระสุนปืนใหญ่“รนหาที่ตาย!”
“ปัง!”
หลังจากนั้นก็เกิดการปะทะกัน สาวกคนนั้นบาดเจ็บอวัยวะภายในของเขา ผลปะทะทำให้เขาพุ่งขึ้นไปบนอากาศก่อนที่จะตกลงมาและไม่มีสัญญาณชีวิต.
เขาตาย!
หมัดเดียวตายทันที!
ระบบแจ้งเตือน.
ลั่วเทียนไม่ได้มองสาวกที่ตาย แต่เขากวาดตามองไปยังคนอื่นและพูดด้วยความโกรธและกดดัน “บัดซบใครอีก? มีใครอยากจะลองอีกบ้าง?”
ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปเนื่องจากว่าพวกเขาไม่คิดว่าลั่วเทียนจะมีพลังขนาดนี้ พวกเขาไม่คิดเลยว่าลั่วเทียนจะฆ่าคนต่อหน้าอาวุโสตระกูลลั่วและเป็นสาวกชั้นสูงที่มีชื่อเสียงของตระกูลลั่วที่ถูกฆ่าไป นี่…ในช่วงสั้นๆไม่มีใครยอมรับความจริงนี้ได้และรู้สึกอึดอัดใจเหมือนกับโดนบิด.
หน้าลั่วจินซานเปลี่ยนไปเป็นหน้าเกลียดเนื่องจากลั่วเทียนทำต่อหน้าต่อตาของเขาและไม่เครารพเขามันทำให้ความรู้สึกของเขาไม่พอใจ
ลั่วเซี่ยวซานเป็นเหมือนปืนใหญ่ขณะที่เขาระเบิดกลิ่นอายเข้ากดดัน “ลั่วเทียน เจ้าสุนัขพันธ์ทาง! เจ้ากล้าที่จะฆ่าคนในตระกูล? ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีชีวิตที่ยาวนานเกินไปแล้ว!”
“สารเลว!”
“ลั่วเซียวซานเจ้าจะร้องไห้ต่อหน้าบิดาคนนี้! ข้าจะย้ำคำเดียวของข้า ถ้าเจ้ามีความกล้าหาญเจ้าสามารถทดสอบความอดทนของบิดาคนนี้ได้!”ลั่วเทียนรู้สึกอึดอัดหลังจากที่ได้รับความกดดันจากลั่วเซียวซาน แต่เขาพยายามที่จะเพิกเฉยและยังแสดงความยโสออกมา.
“อุกอาจนัก!”
ลั่วเซียวซานโกรธเกรี้ยวขณะที่จ้องมองลั่วเทียนและโจมตีฝ่ามือออกไป…
ลั่วจินซานป้องกันการกระทำของลั่วเซียวซานและยิ้มน้อยๆ “ลั่วเทียน ข้าไม่คิดว่าความแข็งแกร่งของเจ้าฟื้นคืนมาในระดับหนึ่ง น่าตกใจจริงๆ…”
ในเวลาไม่กี่วันเขามีความสามารถในการฆ่าคนที่อยู่ขั้นพื้นฐานระดับ 9 ความแข็งแกร่งนี้น่ากลัวมาก
“พี่ใหญ่หยุดปกป้องไอ้สารเลวนี้ได้แล้ว การฆ่าคนในตระกูลนั่นหมายความว่าเขาจะถูกตัดสินให้ตายทันที!” ลั่วเซี่ยวซานกล่าวอย่างบ้าคลั่ง
ชื่อที่ลอยอยู่บนหัวลั่วเซียวซานเป็นสีแดง สีแดงของเลือด
ลั่วเทียนเฝ้าระวังอย่างรอบคอบ
ใบหน้าของลั่วจินซานสงบและกล่าวว่า“ลั่วเทียน จำที่ข้าพูดไว้ พวกเขาจะปลอดภัยใน 8 วัน แต่หลังจาก 8 วันข้าไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้.”
สงบ – ลั่วจินซานที่กำลังสงบน่ากลัวมาก.
การแสดงออกของลั่วจินซานทำให้ลั่วเทียนตกใจ เขามองไม่เห็นว่าลั่วจินซานกำลังคิดอะไร บางทีเขาอาจจะวางแผนน่ากลัวอะไรอีก?
ลั่วเทียนไม่ใส่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก เขาเดินไปหาซูเอ๋อร์และพูด “สาวน้อยข้าจะกลับมาเร็วๆนี้!”
“อืม! ำี่ใหญ่ลั่วเทียนระวังตัวด้วย อย่างกังวลเพราะพวกเขาไม่กล้าที่จะทำอะไรข้า.”รอยยิ้มที่ขี้เล่นของซูเอ๋อร์ปราศจากความกลัว.
เมื่อเห็นรอยยิ้มนั้นหัวใจของลั่วเทียนสงบลง จากนั้นเขาก็เดินไปหาฟางเล่ย.
โดยไม่รอข้าลั่วเทียนพูกกับฟางเล่ยที่กำลังยืดตัว“ไม่ต้องห่วงเจ้านาย ข้าจะปกป้องน้องสะใภ้และไม่ยอมให้เธอได้รับอันตรายแม้แต่น้อย.”
ลั่วเทียนยิ้มและพูด“อ้วนเล่ย ใครก็ตามที่กลั่นแกล้งเจ้า พวกมันจะต้องขดใช้จนมารดาของมันก็ไม่อาจจำได้.”
“เข้าใจแล้ว 555…”
“โอ้ใช้ ข้ายังมีบางอย่างที่ต้องการให้เจ้าทำ.”
“เพียงบอกมาเจ้านาย.”
หลังจากนั้นลั่วเทียนก็กระซิบข้างหูให้ฟางเล่ยได้ยินเท่านั้น.
หลังจากได้ยินอย่างนั้นคิ้วของฟางเล่ยก็ขมวดและหัวเราะ“ไม่ต้องห่วงเจ้านายข้าจะดูแลมัน”
หลังจากที่ออกคำสั่งบางอย่างลั่วเทียนก็หันกลับมาและเหลือบมองที่ลั่วจินซานจาของลั่วเทียนกลายเป็นลุ่มหลงและคาดหวังถึงความตื่นเต้น เขาราวกับมองลั่วจินซานที่กำลังล่อนจ้อนอยู่ก่อนที่เขาจะพูดว่า “แค่รอข้า ข้าจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน.”
ลั่วจินซานไม่เอะใจอะไร แต่เมื่อเห็นดวงตาของลั่วเทียนเขาก็สั่นอย่างไม่รู้ตัว.
ลั่วเทียนหันไปมองรอบๆและรีบมุ่งหน้าไปยังเทือกเขาวิญญาณ.
ฟางเล่ยและหนี่ซูเอ๋อร์ถูกพาไปยังตระกูลลั่วโดยลั่วชางซาน
ลั่วจินซานมองอย่างน่ากลัวเมื่อเขามองไปยังทิศทางที่ลั่วเทียนไป ถ้าไม่เพราะเขาพยายามที่จะหาแก่นปีศาจเขาคงจะฆ่าลั่วเทียนไปแล้ว
แต่…
เขารู้สึกดีกับการแข่งในคืนนี้เพราะหลี่ซูเอ๋อร์และฟางเล่ยเป็นคนที่กล้าหาญ ด้วยพวกเขาที่อยู่ในมือเขาสามารถใช้พวกเขาควบคุมการกระทำของลั่วเทียน.
“ต้องการต่อสู้กับข้า? บิดาของเจ้ายังไม่อาจเอาชนะข้าได้เศษขยะอย่างเจ้าไร้เดียวสาจริงๆ.”ลั่วจินซานยิ้มก่อนที่จะพูดอย่างคุกคาม “เซี่ยวซานตามไปดูเขาว่าเขาบ่อเพาะอย่างไร แต่เจ้าก็ต้องระวังด้วยเช่นกัน.”รอยยิ้มของลั่วเซี่ยวซานปรากฎขึ้นบนใบหน้าขณะที่เขากำลังหัวเราะภายใน “เจ้าสุนัขพันธุ์ทางดูสิว่าบิดาจะดูแลเจ้าเยี่ยงไร!”
(TL:You damn mixed breed dog/ เป็นหมาขี้เรื้อนก็ดูจะไม่ไหวอะนะ)ใครจะดูแลใครกันแน่?!