เกิดใหม่กับระบบไร้พ่าย - Chapter 34 – กินขี้ร้อนๆไม๊
Chapter 34 – กินขี้ร้อนๆไม๊
“ต่อไปลั่วเทียน!”
หลังจากเสียงตะโกนดังกล่าว บริเวณลานฝึกก็เงียบเป็นเป่าสาก.
หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเสียงหัวเราะก็ระเบิดขึ้น แม่แต่ผู้สูงอายุก็มีลักษณะเหมือนกับกำลังมองดูตลกอยู่.
“ก่อนหน้านี้เป็นขยะรับใช้ ตอนนี้เป็นนายขยะ ผลที่ได้ก็เหมือนกันและไม่อาจมีหัวสัตว์ปีศาจได้พร้อมกับได้รับ 0 แต้ม.”
“ไม่ควรที่จะทำให้ตัวเองมีความอัปยศเลย แค่นี้เขายังสูญเสียไม่พอ?”
“ข้าเดิมพันเลยว่าเขาคุ้นเคยกับการสูญเสียมากมากพอและและไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องเหล่านี้.”
การพูดคุยทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นและพวกเขาทั้งหมดก็เริ่มที่จะล้อเลียนลั่วเทียน.
แต่ก็มีสาวกบางคนที่ไม่ได้พูดอะไรและก็จ้องไปยังลั่วเทียนขณะที่เขากำลังเดินขึ้นไป
ที่ด้านบนเวทีลั่วเซี่ยวซานจ้องมองไปด้วยความหนวาเย็นในสายตาและพึมพัม “บัดซบ ไอ้สุนัขไร้ค้านี่ สมควรตายจริงๆ!”
ในสายตาของลั่วเทียนชื่อของเซี่ยวซานเป็นสีแดง.
“เทือกเขาวิญญาณเต็มไปอันตรายมากมายและเขายังไม่ตาย ชีวิตของเด็กคนนี้โชคดีอย่างมาก แต่เพียงแค่ออกมาอย่างมีชีวิตอยู่ก็ไร้ประโยชน์ เขาไม่หันไปมองดูรอบๆว่าเป็นแบบนั้นหรือเปล่า?” ลั่วชางซานหัวเราะน้อยๆ.
ลั่วจินซานยังคงมองไปด้วยใบหน้าที่รังเกียจ.
ลั่วเทียนกลับมาอย่างมีชีวิตนั่นทำให้เขาตกใจมาก แต่อย่างไรก็ตามเบื้องหลังลั่วเทียนยังมีลั่วชางซานที่เป็นภัยคุกคามกว่าเขามากนััก.
ภานในบริเวณลานฝึก.
ลั่วเทียนเดินไปหาเจ้าหน้าที่
ลั่วเฉินหัวเราะอย่างสุดตัวก่อนที่จะเดินออกไปขวางลั่วเทียนและพูดด้วยความรังเกียจ “ไม่จพเป็นที่จะต้องให้เศษขยะนี้แสดงตลก เนื่องจากยังไงเขาก็มีเพียง 0 แต้มเหมือนเดิม ทำไมต้องให้คนอื่นมาเสียเวลากับเขา.”
ใบหน้าของเขาแสดงออกมาอย่างมาก.
ดวงตาของเขาดูเหมือนกับลังพูดว่าทุกคนอยู่ใต้เขา เขาได้ทำลายประวัติศาตร์ตระกูลลั่วและจะได้เป็นที่หนึ่งในการล่าของปีนี้.
ชื่อเสียงของเขาจะต้องเพิ่มขึ้นภายใต้อิทธิพลของตระกูลลั่ว เมื่อได้หินหยวนการบ่อเพาะของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกขั้น ปีหน้าเขาก็จะมีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมการคัดเลือกของนิกายเมฆครามและไม่นานนักที่เขาจะเป็นสาวกภายนอก
ต้องขอบคุณกับความคิดนี้ มันยิ่งทำให้ลั่วเฉินแสดงออกมาทางใบหน้าอย่างมาก ถ้าไม่ใช้เพราะมีคนรอบๆอยู่ที่นี่จำนวนมาก เขาจะซัดลั่วเทียนกระเด็นออกไปจากลานฝึกแล้ว.
มุมปากของลั่วเทียนโค้งเป็นรอยยิ้มขึ้นขณะที่เขามองผ่านลั่วเฉิยไปอย่างสมบูรณ์.
สิ่งนี้ทำให้หน้าตาของลั่วเฉินบึ้งตึงยิ่งกว่าเดิม
ในขณะที่เขากำลังระเบิดออกมา ลั่วเทียนหันไปด้วยรอยยิ้มและพูดอย่างชอบใจ “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าข้ามีแต้มขึ้นมา?”
ลั่วเฉินตอบอย่างฉุนเฉียว “ถ้าแกได้คะแนนมากกว่าสิบ…”
ไม่ต้องรอลั่วเฉินพูดจบลั่วเทียนขัดขึ้น “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าแต้มของข้ามากกว่าเจ้า?”
“5555…”
“ลั่วเทียน สมองเจ้ามีแต่อึ?”
“เจ้าจะมีแต้มมากว่าข้างั้นรึ? ข้าเป็นคนที่ทำลายสถิติของตระกูลลั่วในทศวรรษที่ผ่านมา ถ้าเจ้ามีมากกว่า 10 แต้ม…” ลั่วเฉินพูดอย่างดูถูก.
โดยที่ไม่ปล่อยให้เขาจบประโยคลั่วเทียนขัดจังหวะอีกครั้ง “หยุดเดี๋ยวนี้ไอ้สารเลว จะเกิดอะไรขึ้นถ้าข้ามีแต้มมากกว่าเจ้า?”
ตาของลั่วเฉินเปลี่ยนไปก่อนที่จะตะโกนออกมา “ถ้าเจ้ามีแต้มมากกว่าข้า ข้าสามารถทำทุกอย่างได้เท่าที่เจ้าต้องการ แต่…ถ้าแต้มของเจ้าต่ำกว่าข้าและเจ้าต้องทำเพียงคุกเข่าโขกหัวและร้องเรียกข้าว่าปู่.”
“เจ้าแน่ใจว่าจะรักษาคำพูด?” ลั่วเทียนถามอย่างจริงจัง.
ลั่วเฉินตอบยทันที “แน่นอน เศษขยะอย่างเจ้าคิดจะทำให้ข้ากลัว? เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปได้ง่ายๆ?”ลั่วเทียนโบกมือไปที่ฟางเล่ย.
ฟางเล่ยวิ่งมาและยิ้มอย่างโง่เขลา “ครับ นายท่าน ต้องการอะไร?”
ลั่วเทียนพูดอย่างสนุกสนาน “เจ้าอ้วน เจ้าต้องการไอ้โง่นี่หรือไม่?”
ฟางเล่ยส่ายหัว “เพียงแค่คนเดียวเหมือนกับเมื่อไม่นานมานี้ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ท่านต้องการจะเอาอึนี่มาทำอะไร นายท่าน?”
“เพื่อให้บางคนกิน.” ลั่วเทียนยิ้มและพูด “เจ้าอ้วนฟางเล่ย ไปเอาอึบางอย่างออกมา มันจะต้องสดๆร้อนๆเหมือนกับพึ่งโผล่ออกมา ถ้ามันไม่สดข้าไม่ต้องการเข้าใจหรือไม่?”
ฟางเล่ยยิ้มจนเห็นฟันสีขาวของเขา “ครับ ข้าจะไปเอามาทันที.”
ใบหน้าของลั่วเฉินเปลี่ยนไปขณะที่เขากำหมัดแน่น มองไปที่ลั่วเทียนและต้องการบดชยี้ให้เขาตายถายใต้ฝ่าเท้าของเขา.
ลั่วเทียนไม่แม้แต่จะมองไปที่ลั่วเฉินอีกและเดินไปยังกลางลานฝึก ขณะที่มอบป้ายมิติสามแผ่น เขาพูดกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบว่า “พวกเจ้าต้องนับเร็วๆหน่อย เพราะอึที่เหมาะที่จะกินมากที่สุดคือตอนที่มันร้อนๆ.”ผู้รับผิดชอบต่างมองด้วยใบหน้าที่น่ารังเกียจของเขาก่อนที่จะคว้าป้ายและไปยังที่ว่างเพื่อเริ่มรวบรวมแต้มทั้งหมด.
“ระดับสองหมีเถื่อน…”
“ระดับสองสัตว์ปีศาจ?”
เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในการคำนวนตกใจและตรวจสอบอย่างรอบคอบและยังคงเริ่มนับต่อไป “ระดับสองหมีเถื่อน 5 แต้ม.”
“ลิงปีศาจแขนยาวก็เป็น…ระดับสอง.”
“งูตาเขียว สัตว์ปีศาจระดับสอง…”
เสียงการประกาศเกิดขึ้นในลานฝึกซ้อม.
ในตอนนี้พนักงานที่นับก็ยิ่งตกใจมากขึ้นเรื่อยๆ ป้ายใบแรกมีแต่สัตว์ระดับสอง – มันมีหัวของสัตว์มากกว่า 120 หัว.
นี่…
เหล่าอาวุโสที่อยู่ด้านบนสุดของเวทีลุกขึ้นยืนและวิเคราะห์หัวของสัตว์ปีศาจทุกตัวทมี่ออกมาจากป้ายมิติ.
การคำนวนป้ายมิติแผ่นแรกเสร็จลงและมีพึง 600 แต้ม เพียงป้ายเดียวก็ทิ่งลั่วเฉินอย่างไม่เห็นฝุ่น.
ใบหน้าของลั่วเฉินเปลี่ยนไปเป็นสีของตับหมู.
เมื่อทุกคนคิดว่ามันจบแล้วมันก็ยังมีป้ายมิติแผ่นที่สองอีกครั้ง
“จิ้งจอกวิญญาณชาด… 3… 3… สัตว์ปีศาจระดับ3?”
“สัตว์ปีศาจระดับ3ถูกฆ่า?”
“เป็นไปได้อย่างไร? แม่ว่าขยะลั่วเทียนจะกู้ความแข็งแกร่งเขากลับมาได้แต่เขาสามารถล่าสัตว์ปีศาจระดับสามได้อย่างไร?”
“สัตว์ปีศาจระดับสามมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับปราณก่อตั้งซึ้งเขาไม่มีทางที่จะฆ่ามันได้.”
“เขาต้องมีโชคของอคสุนัขเป็นอย่างมากที่ทำให้เขาได้รับหัวเหล่านั้น”
ไม่มีใครเชื่อเพราะผลลัพธ์มันเป็นไปไม่ได้ ลั่วเฉินออกไปด้านข้างด้วยท่าทางที่น่าเกลียดเพราะสถิติของเขาถูกทำลายภายในไม่ถึงครึ่งชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันถูกทำลายด้วยเศษขยะ.
ขณะที่ทุกคนยังคุยเรื่องนี้อยู่เจ้าหน้าที่ทำนับแต้มก็ยังดำแนินต่อไป “สัตว์ร้ายหางดำระดับสาม…”
“แมวหางเพลิงสามหางระดับสาม…”
“หมาป่าหินเหล็กระดับสาม…”
เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในการนะบคะแนนรู้สึกตื่นเต้นเนื่องจากเลือดของเขากำลังเดือดพล่าน พวกเขาไม่เคยเห็นหัวสัตว์ปีศาจระดับสามมากเท่านี้มาก่อนเลยในชีวิต!
ลายฝึกได้เงียบลงอย่างสมบูรณ์ บางคนแม้กระทั่งลืมหายใจและจ้องมองหัวสัตว์ปีศาจด้วยความอึดอัดเมื่อพนักงานดึงมันออกมา
ไม่มีนาทีต่อมา…
ป้ายที่สองก็ว่างเปล่าและมีหัวสัตว์ปีศาจระดับเท่านั้น รวมเป็น 500 แต้ม!
ตะลึงอย่างสมบูรณ์!
นอกเหนือจากความตะลึงอย่างสิ้นเชิงแล้วยังไม่มีคำอธิบายใดๆสำหรับคนที่่เข้าร่วม.
เช่นเดียวกับทุกคนที่คิดว่ามันจบแล้วเจ้าหน้าที่นับคะแนนตะโกนออกมา ร่างกายของเขาสั่นและดวงตาของเขากำลังออกจากเบ้า “4…4…สัตว์ปีศาจระดับ 4…”
เมื่อป้ายที่สามเปิดออกมา.
เขาที่ยาวของกระทิงเดือดฟ้าคะนองที่เหลือแต่หัวก็ออกมาจากป้ายมิติและตกลงบนพื้น
ตระกูลลั่วกลายเป็นโง่งม
สัตว์ปีศาจระดับ 4?!
ในประวิตศาตร์ของตระกูลลั่วไม่เคยมีอย่างนี้มาก่อน ลั่วเทียนฆ่ามันได้อย่างไร?
นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้ากล่าวว่าโชคของอึสุนัข.
ตะลึง นี่เป็นการทำให้คู่แข่งได้ตะลึงอย่างสมบูรณ์!
ใบหน้าของคนที่ล้อลั่วเทียนที่กำลังอ้าปากค้างและสามารถกลืนแมลงวันได้อย่างสมบูรณ์
ด้านบนเวทีลั่วจินซานรู้สึกประหลาดใจ แต่เขาก็จ้องมองอย่างโลภมากไปที่กระทิงและพูดกับตัวเอง “แก่นปีศาจ… เจ้าเด็กนี่มีแก่นปีศาจ!”
ในเวลานั้น…
ราวกับทุกคนในลานฝึกโดนฟ้าผ่าขณะที่มองไปยังหัวใหญ่ยักษ์นั่นโดยปราศจากเสียง.
ลานฝึกที่เคยมีชีวิตชีวาแต่เดิมได้เงียบเชียบและอาจได้ยินแม้กระทั้งเข็มตก!
ตาของลั่วจินซานแคบลงขณะที่เจตนาฆ่าปรากฎรอบๆตัวเขา…
ดวงตาของลั่วเซียวซานจ้องมองไปที่ลั่วเทียนและชื่อของเขาเริ่มที่จะเรืองแสงสีแดงราวกับว่าเขากำลังโจมตี.
เมื่อเห็นบอสทั้งสอง ลั่วเทียนเริ่มหมดความอดทน.
“สาวน้อย…”
“เมื่อบิดาเข้าไปยังปราณก่อตั้ง ข้าจะท้าทายพวกเขาอย่างน้อยสักครั้งนึง!”
“มันน่ายั่วยวนนักเมื่อคิดว่าบิดาคนนี้ไม่อาจจัดการมันได้ตอนนี้.”ตาของลั่วเทียนสว่างขึ้นและความกระหายในภายในก็ลุกขึ้น.
ในช่วงเวลาเดียวกัน…
ฟางเล่ยวิ่งออกมา “ให้ข้าพักบ้าง อึที่สดใหม่ได้มาถึงแล้ว.”
กลิ่นเหม็นฉุนแทรกซึมอยู่ในอากาศ
ลั่วเทียนหัวเราะเหมือนเด็กๆและเดินไปหาลั่วเฉินที่กำลังดูอย่างน่าเกลียด จากนั้นเขาก็ถามเจ้าหน้าที่ๆรับผิดชอบในการคำนวน “เจ้าบอกข้าหน่อยได้ไหมว่าตอนนี้ข้ามีคะแนนเท่าไร?”
เจ้าหน้าที่รับผิดชอบถอนหายใจออกมาก่อนจะตอบกลับ “1200 แต้ม!”
“วาาาาา…”
เมื่อคำพูดของพนักงานนับคะแนนจบ ฝูงชนก็ระเบิดความฮือฮาเนื่องจากทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเหมือนฝันและไม่มีใครสามารถทำได้.
สัตว์ระกับสองมากกว่าร้อย ห้าสิบสัตว์ระดับสาม และสิ่งที่เป็นเหมือนกับระเบิดขนาดใหญ่หัวสัตว์ระดับสี่ เพียงอย่างเดียวก็ทำลายสถิติของตระกูลลั่ว
ลั่วเทียนพิเศษมากเกินไป.
ภายของลั่วเทียนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงในสายตาของสาวกตระกูลลั่ว.
ผู้อาวุโสทั้ง 5 ที่อยู่บนเวทีต่างก็คิดเช่นเดียวกัน “เด็กคนนี้ไม่สามารถมีชีวิตได้!”
ลั่วเทียนยิ้ม “โอ้เยี่ยม นายน้อยลั่วเฉิน ถึงเวลาที่จะได้รับประทานอึแล้ว สิ่งที่ดีที่สุดคือการที่กินมันร้อนๆ ข้าได้ยินมาว่ารสชาติมันดีมากเมื่อมันยังร้อนๆ.”
กลิ่นไอลอยออกมาจากถังมี่ฟางเล่ยกำลังถืออยู่ กลิ่นที่เหม็นพอที่จะทำให้ชีวิตของเขาตายได้ เมื่อถึงมาด้านหน้าลั่วเฉินลั่วเทียนยกหัวแม้มือให้ฟางเล่ย. “อ้วนเล่ย เจ้าเป็นคนที่โหดร้ายอย่างมาก เจ้าสามารถหาอึที่สดใหม่มาได้จริงๆ.”
ลั่วเทียนรู้ว่าเพื่อที่จะได้รับของที่สดใหม่ขนาดนี้ ฟางเล่ยต้องวิ่งเข้าไปในห้องน้ำหญิง.ลั่วเฉินโกรธและพูดกับลั่วเทียนอย่างเย็นชา “ลั่วเทียนข้าเพียงแค่ล้อเล่นไปเรื่อย เจ้าไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริงใช่หรือไม่?”
“บัดซบ!”
“เจ้าหมายความว่าเจ้าจะไม่รักษาคำพูดของตัวเอง?” อารมณ์ของลั่วเทียนพุ่งสูงขึ้น.
ลั่วเฉินยิ้มและพูดอย่างเย็นชา “บิดาคนนี้ไม่ไม่รักษาคำพูดเจ้าจะทำอย่างไร?”
“เจ้า มันลูกกระหรี่.”
ลั่วเทียนสาดอึไปด้านหน้าลั่วเฉิน…