เกิดใหม่กับระบบไร้พ่าย - Chapter 32 – ไอ้อ้วนเล่ยเจ้าหล่อมาก
Chapter 32 – ไอ้อ้วนเล่ยเจ้าหล่อมาก
หลังจากที่มนต์เสน่ห์ไปแล้วและครบกำหนดสองชั่วโมง เมื่อถึงเวลานั้นมันจะกลับมาเป็นปกติและจะไม่อยู่ใตการควบคุมของลั่วเทียนอีกต่อไป.
ในช่วงเวลาที่เป็นสมุนนั้นมันสามารถเพิ่มเลเวลขึ้นได้ด้วยการฆ่าสัตว์ปีศาจตัวอื่นๆและมันก็เหมือนกับสัตว์ปีศาจปกติที่เลเวลอัพ พลังของมันก็จะเพิ่มตามด้วย.
กระทิงเลเวล 7 ในตอนนี้แข็งแกร่งกว่าสัตว์ปีศาจระดับ 5.
มันอยู่ภายใต้การควบคุมของลั่วเทียนตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ ลั่วเทียนได้อัพเลเวลมาสองครั้งแล้ว มันเป็นพื้นที่ที่ดีที่สุดภายใต้การควบคุมของเขากับสมุน ถ้าไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องกลับไปยังเมืองภูเขาหยกเขาก็ไม่ต้องการฆ่ามันจริงๆ.
ทั้งสามคนอยู่ถัดจากร่างของกระทิง.
ลั่วเทียนจึงเปิดระบบเพื่อดูว่ากระทิงได้กลับสู่สถานนะเดิมของมันแล้วและพูดว่า “นี่สาวน้อย ฟางเล่ย ในตอนนี้พวกเจ้าควรจะโจมตีกระทิงทันทีแต่เจ้าต้องหยุดเมื่อข้าบอกให้หยุด.”
“เอ๋.”
“โจมตีมัน? เรากำลังจะฆ่ามันหรอ? นั่นมันเป็นบอสพิเศษดังนั้นแค่รอข้าแสดงออกมา.”ฟางเล่ยกลืนน้ำลายไม่กี่ครั้ง เมื่อเขามองไปที่กระทิง มันเกือบจะเหมือนกับว่าเขากำลังมองสาวที่เปลือยกายอยู่ เขาเปิดเผยความกระหายที่จะทำให้คนสงสัยว่าเขามีงานอดิเรกซ่อนอยู่หรือไม่.
มนุษย์และสัตว์ นี่มัน…
นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจัดการได้.
ครั้งแรกที่ฟางเล่ยเหล่ตามองดูเขาก็มีอาการเหมือนๆกัน.
ลั่วเทียนรู้อย่างแน่นอนว่าเขาต้องการอะไรและยิ้มให้. “อ้วนเล่ย เจ้ากระหายเรื่องนี้อยู่นานแล้ว?”
“เอ๋?”
ฟางเล่ยเกาหัวและยิ้ม “ข้าไม่สามารถซ่อนมันจากเจ้านายได้จริงๆ ข้าไม่อาจปิดบังเมื่อมองไปที่กระทิงข้ารู้สึกถึงแรงกระตุ้นบางอย่างที่เกิดขึ้นในตัวของข้า แรงกระตุ้นนี้ทำให้ข้าอยากจะกินแก่นโลหิตของมันทั้งหมดทันที.”
นี่เป็นแรงกระตุ้นแบบเดิม.
มันเป็นความปราถนาที่ฟางเล่ยไม่อาจปฏิเสธได้
การบ่มเพาะของฟางเล่ยค่อนข้างพิเศษหลังจากนั้นไม่กี่วันลั่วเทียนก็เข้าใจวิธีการนี้ผ่านการดูดซับแก่นโลหิตของสัตว์ปีศาจของฟางเล่ยที่จะปรับแต่งให้มันเป็นพลังปราณและใช้มันเมื่อให้เขาทะลวงไปได้อย่างรวดเร็ว.
นี่เป็นเหตุให้เขาชอบกินเนื้อดิบและดูดซับแก่นโลหิต.
การย่อเพาะอย่างนี้ก็เหมือนกับการเลี้ยงสัตว์ตัวอื่นๆ ลั่วเทียนไม่สามารถช่วยได้ แต่สงสัยว่าตัวจริงของฟางเล่ยเป็นสัตว์ปีศาจหรือไม่?
สัตว์ปีศาจในร่างมนุษย์?
แม่ง เพียงแค่สัตว์ปีศาจระดับ 10 เท่านั้นที่จะเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ได้ เหล่าสัตว์ปีศาจที่มีค่าเท่ากับปราณจักพรรดิ์ที่มีพลังทำลายโลกนี้ได้.
ถ้าฟางเล่ยเป็นสัตว์ปีศาจในร่างมนุษย์เขาจะน่ากลัวมาก ยกเว้นแต่การบ่มเพาะของเขาที่อ่อนแอเกินไป.ลั่วเทียนไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากเกินไป.
อ้วนเล่ยเป็นพี่น้องของเขา ตราบเท่าที่เขาสามารถช่วยให้เขาทะลวงขั้นได้ ลั่วเทียนจะก็จะไปตามจับสัตว์ปีศาจอย่างไร้เงื่อนไขเพื่อให้ฟางเล่ยได้ดูดซับแก่นโลหิต.
“เริ่มกันเลย!”
ลั่วเทียนได้คิดและควบคุมกระทิง. “มันมีการป้องกันที่แข็งแกร่งมากดังนั้นพวกเจ้าต้องโจมตีแรงๆอย่างสุดความสามารถของเจ้า.”
“เข้าใจแล้ว!”
กระทิงเลเวล 7 ที่มีพลังชีวิต 20,000 หน่วย ด้วยหนังที่หนาของมันแน่นอนว่าเขาจะต้องใช้ความสามารถที่แข็งแกร่งที่สุดในการโจมตีเพื่อฆ่ามัน.
ลั่วเทียนกำหมัดหลวมๆและตะโกน “Berserk!”
“กึดๆๆๆ…”
ด้วยพลังของเขาที่เพิ่มขึ้นสองเท่าลั่วเทียนได้ออกหมักอย่างกับปืนใหญ่. “พยัคฆ์สายฟ้าจู่โจม!”
ซูเอ๋อร์ก็กระโดดไปบนอากาศขณะที่เสื้อผ้าสีขาวของเธอโบกสะบัดบนอากาศ เช่นเดียวกับเทพธิดาที่ลงมายังโลกมนุษย์เธอแทงดาบพร้อมกับพูดว่า “ระบำดาบล่องลอย.”
เกิดแสงออกมาจากดาบที่แทงออกไป.
ฟางเล่ยไม่รู้จักทักษะการต่อสู้ใดๆเลยดังนั้นการโจมตีของเขาจึงเรียบง่ายที่สุด เขาวิ่งไปด้าหน้าของกระทิงด้วยรอยยิ้ม จับเขาของมันก่อนที่กล้ามเนื้อของเขาจะผโป่งพอง เส้ดเลือดที่เต้นอย่างบ้าคลั่งปรากฏอยู่บนหัวล้านๆของเขาก่อนจะตะโกน “ขึ้น…”
“กร๊อบๆๆๆๆ…”
ข้อต่อกระดูกของฟางเล่ยส่งเสียงเหล่านั้น ที่ด้านหลังศรีษะของฟางเล่ยมีเงาของสัตว์โบราณที่ดุร้ายปรากฏและร่างกายของเขาก็เริ่มท่ี่จะเปลี่ยนเป็นสีแดง.
“มอออ…”
กระทิงคำรามออกมา.
ขณะเดียวกัน…
กระทิงที่เหมือนกับเนินเขาเล็กๆ ขาของมันก็หมดแรงและล้มลงกับพื้นทันทีอร่างอายของมันเริ่มเอียง ตอนนี้ขาฟางเล่ยได้ผังอยู่บนโคลนใบหน้าของเขาแดงสนิท เขาคำรามอีกรอบ “ย้ากกก…”
แขนของเขาไปข้างหลังขณะที่กระทิงลอยไปข้างหลังของเขา ขาของมันลอยอยู่บนอากาศขณะที่มันของด้วยความเจ็บปวด.
“โอ ชิบ!”
“ความแข็งแกร่งอะไรที่น่ากลัวขนาดนี้!” ลั้วเทียนงุนงงอย่างสมบูรณ์.
มันเป็นแรงของมนุษย์?
กระทิงอย่างน้อยๆก็หนักประมาณ 10,000-20,000 ปอนกำลังกระแทกกับพื้น? นี่มันเป็นอะไรที่แม่งโครตบ้าเลย.
ซูเอ๋อก็ตะลึงก่อนที่ดวงตาของเธอจะหรี่และหัวเราะเบาๆเท่านั้น.
เมื่อลั่วเทียนคิดว่ามันจบแล้ว ฟางเล่ยก็ยกกระทิงและทุ่มมันไปกับพื้นอีกครั้ง.
“ตูม!”
มันถูกยกและจากนั้นก็ถูกทุ่มไปกับพื้นอีกครั้ง
“ตูม!”
ยกขึ้นและทุ่มกับพื้น!
พื้นดินสั่นไหวอย่างรุนแรงและมันเหมือนกับความโกลาหลเกิดขึ้น.
ลั่วเทียนจ้องมองไปที่ฟางเล่ยพักนึงก่อนที่จะรีบพูดออกมา “วิปลาส…!”
“เร็วเข้า เราไม่มีเวลามาก.”
หลายจากตรั้งชั่วโมงแถบพลังชีวิตของกระทิงก็เหลือประมาณ 10,000 หน่วย ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าการป้องกันของมันแข็งแกร่งจริงๆ.
มันยืนอยู่ที่นั้นและให้ลั่วเทียนกับอีกสองคนโจมตีต่อไปและมันก็ยังไม่ตาย.
ถ้ามันไม่ได้อยู้ในการควบคุมของลั่วเทียน การเผชิญหน้ากับมันแบบปกติแทบจะเป็นไปไม่ได้.
ลั่วเทียนกำลังคิดว่าสัตว์ปีศาจที่อยู่ในระดับ 4 น่ากลัวมากและต้องระวังเมื่อเจอมันในอนาคต.
“สั่นไหว…”
“สั่นไหว…”
มีการโจมตีอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้กระทิงเหลือพลังชีวิตอีกแค่100หน่วยเท่านั้นและโจมตีอีกครั้งก็จะฆ่ามันได้ในเวลานี้ลั่วเทียนตะโกน “หยุดโจมตี!”
ทันใดนั้น…
สายตาของกระทิงก็เปลี่ยนไปและกลิ่นอายที่กระหายเลือดและโหดเหี้ยมก็ถูกปลอดปล่อยออกมาจาก ประกายไฟออกมาจากรูจมูกของมันกระแทกเข้ากับพื้นดิน ความกดดันที่หนักหนานั้นได้กดทับทั้งสามให้ยากที่จะหายใจ.
กระทิงเดือดฟ้าคะนองได้กลับมาเป็นปกติแล้ว!
เมื่อมันกับมาเป็นปกติแล้วหมื่นฟ้าผ่าได้ถูกเปิดใช้งาน เมฆพายุเริ่มก่อตัวขึ้นภายในไม่กี่วินาทีก่อนที่ฟ้าผ่านับหมื่นจะกระหน่ำออกมา ถึงเวลานั้นแม้ว่าพวกเขาจะมีชีวิตกี่ร้อยก็ไม่เพียงพอ!
ตาของลั่วเทียนหกแน่นและตะโกนออกมา “พวกเจ้าทั้งสองถอยออกไปเร็วๆ!”
“เจ้านาย ถ้าเราต้องตายเราจะตายด้วยกัน ไม่มีทางที่ข้าจะถอย.”
“พี่ใหญ่ลั่วเทียน ไม่ว่าอย่างไรเราจะอยู่ด้วยกัน.”
ทั้งสองคนพูดเกือบในเวลาพร้อมๆกัน.
ลั่วเทียนไม่ได้มีเวลาอธิบายหรือทั้งสามคนจะมอบชีวิตของเขาในตอนนี้ เขาเงยหน้าขึ้นมองไปที่พายุเมฆที่รวมตัวกันก่อนที่จะหัวเราะและพูดในใจ “Berserk!”
พลังงานที่ถูกส่งเข้ามาอย่างต่อเนื่องทำให้ความสามารถของเขาถูกเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด ก่อนที่กระทิงจะปล่อนฟ้าผ่านับหมื่น กำปั้นของลั่วเทียนก็ถูกปล่อยออกไปเหมือนกับฟ้าผ่า.
“ปัง!”
เมื่อมันเหลือเพียง 100 หน่วยก่อนจะหมดไปกระทิงก็ส่ายไปมาก่อนจะล้มลง.
เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนลั่วเทียนก็สงบลง เขาทำราวกับว่าเขากำลังรอคำตัดสินที่ศาล.
“ติ๊ง!”
“ขอแสดงความยินดีด้วยผู้เล่นลั่วเทียนได้ฆ่ากระทิงเดือดฟ้าคะนอง. คุณจะได้รับ 15,000 ค่าประสบการณ์และ 150 พลังปราณ…”
“ขอแสดงความยินดีด้วยผู้เล่นลั่วเทียนได้รับแก่นโลหิตกระทิงเดือดฟ้าคะนอง. คุณต้องการหลอมรวมหรือไม่?”
“ขอแสดงความยินดีด้วยผู้เล่นลั่วเทียนได้รับหมื่นฟ้าคำราม. คุณต้องการที่จะบ่มเพาะหรือไม่?”
“555…”
“555…”
มีความยินดีอยู่รอบๆลั่วเทียนขณะที่เขาหัวเราะออกมา “มันมา มันระเบิดออกมาจริงๆ! น่ากลัวเกินไปแล้ว!”สกิลโจมตีของวัวหมื่นฟ้าผ่า. สำหรับลั่วเทียนที่่จะต้องฆ่ามอนเตอร์เพื่อเพิ่มเลเวลของเขานี่เป็นสกิลจากพระเจ้าจริงๆ.
ทันทีที่เขาเปิดระบบดู.
ทักษะศิลปะการต่อสู้: หมื่นฟ้าคำราม [Myriad Thunder Roar(หมื่นฟ้าผ่าของวัว)]
เกรด: เกรด 4
ความชำนาญ: 0/1000
สิ่งที่ต้องใช้: 1000 พลังปราณ
รายละเอียดสกิล: ช่วงเริ่มต้นจะมีระยะ 5 เมตรและสายฟ้าโจมตี 100 ครั้ง การเพิ่มเลเวลหนึ่งเลเวลจะได้ความสามารถสองเท่าจากระดับก่อนหน้า ในระดับสุดท้ายจะมีระยะทาง 10 กิโลเมตรและมีฟ้าผ่า 10,000ครั้ง เมื่อสกิลเพิ่มระดับขึ้นพลังปราณที่เสียไปก็จะมากเช่นกัน ในระดับความสมบูรณ์แบบการใช้งานแต่ละครั้งจะกินพลังปราณมากกว่า 1 ล้านหน่วย.
“แม่ง ใชพลังมากเกินไป…1000 ปราณ? บิดาคนนี้ฆ่ามาตั้งนานยังมีพลังปราณไม่ถึง 4,000 หน่วย.” ลั่วเทียนไม่ได้มีความสุขกับเรื่องนี้ แต่เมื่อเห็นระดับความสมบูรณ์แบบช่วยไม่ได้ที่เขาจะน้ำลายไหล จากนั้นเขาก็พูดหยาบโลน: “ก่อนอื่นข้าต้องเปิดใช้งานระดับสมบูรณ์แบบของเบอร์เซิร์กและได้รับความแข็งแกร่ง 1,000เท่า จากนั้นก็เปิดหมื่นฟ้าคำราม สัตว์ร้ายทั้งหมดในรัศมี 10 กิโลเมตรรอบๆตัวฆ่าจะตายดังนั้นแต้มประสบการณ์จะบินมาหาข้าอย่างบ้าคลั่ง! น่ากลัวมาก เพียงแค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว!”
ในเวลาเดียวกัน…
“ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!”
เสียงหกครั้งที่ดังออกมาราวกับฟ้าผ่าลงมาจากสวรรค์ทั้งเก้า.
เสียงเหล่านี้มาจากภายในของฟางเล่ย ลั่วเทียนเงยหน้ามองและสังเกตเห็นแสงสีแดงเลือดล้อมรอบฟางเล่ยมันเริ่มชัดขึ้นจนดูราวกับว่าเขาอยู่ในหมอกเลือด.
ดุร้ายมากมันทำให้ทุกคนสั่นด้วยเพียงแค่สอง.
กลิ่นอายของฟางเล่ยเป็นอะไรที่ไม่มีีวันลืม.
ขณะที่กระทิงตายฟางเล่ยได้รีบวิ่งเข้าไปและดูดซับแก่นโลหิต จากนั้นเขาก็ได้ถูกเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเพียงแค่ดูดซับไปเล็กน้อยดันเถียนของเขาถูกกระตุ้นและระเบิดออกมาจนรู้สึกได้อย่างแท้จริง.
มันเป็นส่วนเล็กๆแต่มันก็ทำให้ฟางเล่ยฝ่าไปถึงหกด่าน!
นี่เป็นความเร็วที่ไม่เคยมีมาก่อน!
สิ่งสำคัญที่สุดคือฟางเล่ยสามารถกลืนแก่นปีศาจได้เช่นกัน เมื่อมันเข้าไปในร่างกายของฟางเล่ยแกนปีศาจฟ้าผ่าก็เหมือนกับถูกโยนลงไปในทะเลสาบ มันเริ่มต้นด้วยคลื่นเล็กๆก่อนที่จะกลายเป็นคลื่นขนาดใหญ่และก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่วุ่นวาย.
ด้วยแกนปีศาจที่เข้าสู่ร่างกายเขา เส้นเลือดสีดำบนหัวของเขาก็น่ากลัวมากยิ่งขึ้นขณะที่มองดูมันแผ่กลิ่นอายออกมาเล็กน้อย.
ฟางเล่ยกำหมัดของเขาและคำรามออกมาทำให้หลอกสีเลือดที่ล้อมร่างกายของเขากระจายหายไป จานั้นเขาก็ยิ่ม “นี่ เจ้านาย เพียงแค่อันเดียวก็ทะลวงผ่านไปถึง 6 ขั้น.”
“6ครั้ง?”
“ทะลวงด้วยความเร็วแสง? หดครั้งนี่มัน…” ลั่วเทียนคิดเสมอว่าการทะลวงผ่านของเขาเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเปรียบเทียบแล้วเขาก็อยากจะฆ่าตัวตาย.
แต่…
สำหรับฟางเล่ยการที่เขาแข็งแกร่งขึ้นมาจะทำให้ลั่วเทียนมีความสุขยิ่งขึ้น.
พวกเขาทั้งสองคนในที่สุดก็กำจัดชื่อเล่นที่เรียกว่าขยะออกไปได้.
หลายปีที่ผ่านมาเขาถูกรังเกียจโดยคนตระกูลลั่วและถูกหัวเราะเยาะโดนสาวกของตระกูล ตอนนี้ถึงเวลาที่จะต้องตอบแทนแล้ว.
“ตัวหัวของกระทิงออก.” มีความระยิบระยับในแววตาของลั่วเทียนขณะที่มองไปที่เมืองภูเขาหยกจากนั้นเขาก็พูดด้วยรอยยิ้มที่น่ากล้ว “ไปเถอะเราจะไปยังเมืองภูเขาหยกเพื่อเอาชนะลาสบอส!”