เกิดใหม่กับระบบไร้พ่าย - Chapter 25 – สกิลในตำนาน – เสน่ห์
Chapter 25 – สกิลในตำนาน – เสน่ห์
ในพื้นที่อื่นๆ โจวเฮิ่นหร่านอยู่นี่.(เปลี่ยนจากโจวเฮนรัน)
เขาได้ใช้ความได้เปรียบจากความเร็วของเขาและยังคงยั่งยุกระทิงเดือดฟ้าคะนองในเวลาสั้นๆกระทิงตัวนี้ก็เดืดถึงขีดสุด.เขาที่ยาวของมันได้ขุดดินได้อย่างยอดเยี่ยมทุกๆที่ ที่มันไป.
ด้วยการยั่วยุของโจวเฮิ่นหร่านกระทิงเดือดก็กำลังมุ่งหน้าไปยังที่ๆลั่วเทียนอยู่อย่างรวดเร็ว
โจงเฮิ่นหร่านได้ยืนอยู่บนกิ่งไม้ที่หนาแน่นก่อนที่จะมองไปยังที่ไกลๆด้วยความเยาะเย้ย
จากตรงนี้เขาเห็นลั่วเทียนและกลุ่มของเขากำลังฆ่าสัตว์ปีศาจ จากนั้นเขาก็พูดด้วยความเย็นชา.“แค่ไปสู่ความตาย เมื่อเจ้าตายความสมดุลของตระกูลลั่วจะแตกและการต่อสู้กับแบบกองโจรจะเริ่มต้นขึ้น. เราไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเป็นจำนวนมากในการที่จะกลืนตระกูลของเจ้าโดยตระกูลโจว และในตอนนี้ตระกูลโจวจะกลายเป็นผู้ปกครองเมืองภูเขาหยกแห่งนี้ 5555…”
“ครึ่นๆ…”
เสียงย่ำเท้าที่พัดมากับสายลมทำให้โจวเฮิ่นหร่านขมวดคิ้ว.เหงื่อเย็นปรากฎอยู่บนหลังของเขาก่อนที่จะกระโดดลงพื้นอย่างปลอดภัย.จากนั้นก็คุยกับตัวเองด้วยความกลัว “สัตว์ปีศาจระดับ 4 น่ากลัวเป็นอย่างมาก.”
กระทิงเดือดฟ้าคะนองคือสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังและคงกระพันอย่างในบรรดาสัตว์ปีศาจระดับ 4 .มันมีอำนาจที่กดขี่และการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด ความอ่อนแอเดียวของมันคือความเร็ว.
ความเร็วที่ช้าเกิดจากร่างกายของมันที่เหมือนกับถูกเขาขนาดย่อมๆ ไม่มีทางที่จะเร็วขึ้นแม้ว่ามันต่องการ.
มันเป็นเช่นนี้เองจึงทำให้โจวเฮิ่นหร่านสามารถยั่วยุมันได้อย่างมาก.เขาได้ใช้ความเร็วหลังจากที่เป็นขั้นก่อตั้งและพามันมาจากลานล่าสัตว์ของตระกูลลั่ว.
เหล่าสาวกตระกูลลั่วที่อยู่ในบริเวณล่าสัตว์ก็เป็นดั่งนกที่บินหนีออกไปทุกทิศทาง.
แต่…
มีบางคนที่หลบหนีไป แต่มีบางคนที่วิ่งเข้าหามัน.
“เจ้าจะได้ยินไหมว่าลั่วหลินกำลังไปหาลั่วเทียน?”
“สถานที่ลั่วเทียนอยู่คือที่เดียวกบเจ้ากระทิงนั่น.นั่นคือสัตว์ปีศาจระดับ 4 ระดับอยู่ยงคงกระพัน ไม่ใช่ว่าเขากลัวตาย?”
“บับซับ ขนากได้เคษขยะสารเลวอย่างลั่วเทียนยังไม่กลัวกระทิงนั่น ทำไมเราต้องกลัวด้วย? ไปกันเถอะเราไปดูการแสดงที่ดี.”
“ท่านไม่ต้องการที่จะมีชีวิต”
“แน่นอนว่าข้าต้องการมีชีวิต แต่ถ้าข้าสามารถช่วยนายน้อยลั่วหลินในการกำจัดขยะลั่วเีทยนได้ คนนั้นก็จะได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากประมุข เมื่อถึงเวลานั้นจะไม่เพียงกลายเป็นสาวกหลักแต่ยังอยู่ในถังอีกด้วย?”
“มันนานแล้วและเราก็ยังไม่ได้ฆ่าสัตว์ปีศาจสักตัว ถ้าเราช่วยนายน้อยลั่วหลินได้เราจะได้รับประโยชน์มากมาย”
“ไปๆๆ ไปให้หมดและเราก็ไปต้อนรับนายน้อยคนใหม่.”————–เมื่อลั่วเทียนเสียชีวิตลั่วหลินจะกลายเป็นนายน้อยคนใหม่เลยทันที
ถ้าใครบางคนจูบกับนายน้อยตระกูลลั่วได้ แม้ว้าจะไม่สามารถกลายเป็นสาวกหลักได้ แต่พวกเขาก็จะได้ผลประโยชน์อย่างมากในระยะยาว.
สาวกที่ไม่ได้ฆ่าสัตว์ร้ายใดๆต่างมีความคิดแบบนี้เหมือนกันหมด.
กระทิงเป็นสิ่งมีชีวิตอันตรายจริงๆ แต่สิ่งที่ล่อใจว่าจะเป็นสาวกหลักของตระกูลลั่วนั่นก็แข็งแกร่งมาก.
เมื่อมีคนใดคนนึงก็จะมีคนที่สองและท้ายที่สุดก็จะเป็นกลุ่มคนเหล่านี้ จากนั้นก็กลายเป็นว่าทุกคนไม่สนใจชีวิตของพวกเขาและเริ่มเคลื่อนไหวไปยังลั่วเทียน
——————กระทิงเดือดฟ้าคะนองกำลังเข้ามาใกล้และสัตว์ปีศาจวิ่งอยูุ่ทุกที่ ลั่วเทียนกำลังฆ่าสัตว์ปีศาจอย่างบ้าคลั่งแต้มประสบการณ์ของเขาเพิ่มอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็พูดตัวเอง “อีกแค่นิดเดียวเท่านั้นและข้าก็จะเวลอัพ…”
พื้นที่โดยรอบถูกยึดไว้ด้วยสัมผัสวิญญาณของเขา
สิ่งที่เขาเป็นห่วงคือเหล่าสกวกตระกูลลั่วที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาเหล่านั้นอยู่ข้างลั่วหลิน.
นอกเหนือจากนี้กระทิงก็กำลังเข้ามาใกล้เขาทุกขณะ
เกิดอะไรถ้ามันมาถึง สัตว์ปีศาจแต่เดิมไม่ได้ไล่ตามเขา แต่เมื่อมันเจอเขามันจะไม่กลายเป็นโกรธมากขึ้นอีก? และมันยังวิ่งมาทางเขาเรื่อยๆ นี่เป็นการกระทำโดยใครบางคน
คนที่กล้ายุ่งกับสัตว์ปีศาจระดับ 4 มันไม่ง่ายเลยไม่ว่าจะเป็นใคร?
ลั่วเทียนไม่ได้เสียเวลาในการคิดถึงคำถามแบบนี้ สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้คือการสร้างความก้าวหน้า!ถ้าเขาต้องการจะอยู่ต่อเขาต้องสร้างความก้าวหน้า!
โลกนี้เป็นไปตามกฏแห่งป่า มีแค่คนที่แข็งแกร่งเท่านั้น การมีชีวิตต่อไปหมายความว่าต้องเข็มแข็งกว่าคนอื่น กบฏทั้งหลายสามารถหายไปได้ด้วยหัมดเพียงหมัดเดียว!
“ตอนนี้!”
ด้วยทำสั่งของลั่วหลินแผนคนที่อยู่ตรงนั้นก็พุ่งออกไปข้างหน้า!
“วูซซซ~”
“วูซซซ~”
“วูซซซ~”
ทั้งแปดคนกระโดดลงมาพร้อมกับดาบที่ชี้ไปยังลั่วเทียนและดวงตามีแต่ความต้องการฆ่า.
ปากของลั่วเทียนหัวเราะก่อนจะยิ้ม“เจ้าอ้วนเล่น ถอยออกไปก่อน”
ฟางเล่ยกวาดตาของเขาผ่านไปยังทั้งแปดคนและแสดงรอยยิ้มโง่ๆออกมา “เจ้านายข้ายังมีสัตว์ปีศาจอีกไม่กี่ตัวที่นี่ข้าไม่มีเวลามากในการตัดหัวพวกมัน.ท่านยุ่งกับเรื่องของท่านไป ข้าจะทำตามหน้าที่ของข้าเอง.”
เขาสงบมากและไม่รู้สึกกดดันเลย หลังจากที่เขาพูดเขาก็ยุ่งกับการกระทำของเขาเท่านั้น.
ร่างของหลี่ซูเอ๋อร์กระพริบขึ้นและป้องกันด้านหน้าของลั่วเทียน เธอชี้ดาบของเธอไปยังคนนึงและพูดว่า “ข้าอยากจะเห็นคนที่กล้าทำร้ายพี่ใหญ่ลั่วเทียนของข้านัก.”
หลี่ซูเอ๋อร์มองไปด้วยความโกรธขณะที่อยู่บนอากาศและประกาศเกี่ยวกับทุกคนที่กล้ายุ่งกับลั่วเทียน สิ่งนี้หมายความว่าหญิงสาวคนนี้จะต่อสู้โดยใช้ชีวิตของเธอเป็นเดิมพัน.
แปดคนนี้อยู่ในระดับที่ 6 ขั้นพื้นฐาน!
พวกเขาทั้ง6แข็งแกร่งและมีพลังมากในเวลาเดียวกัน การจัดการกับคนที่อยู่ในระดับด้วยกันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก!
เมื่ออยู่ในระดับเดียวกันๆไม่มีโอกาสชนะเมื่อมันเป็น 1:8!
แต่…
การแสดงออกของลั่วเทียนกลายเป็นสงบอย่างมากและมันก็กลายเป็นรอยยิ้มอยู่ที่ปากของเขาก่อนจะพูดว่า. “สาวน้อยข้าจะดูแลเรื่องนี้เอง.”
“ไม่.”
“พี่ใหญ่ลั่วเทียนพวกเขามีความแข็งแกร่งอยู่ในขั้นพื้นฐานระกับ 6 ท่านมีเพียงแค่คนเดียวพวกเขามีแปดคนดังนั้นข้าไม่มีวันปล่อยให้พวกเขาทำร้ายท่าน.” หลี่ซูเอ๋อร์ไม่ได้ขยับตัวออกไปขณะที่มีสีหน้ารุนแรง.
การกระทำของหลี่ซูเอ๋อร์ทำให้ลั่วหลินสาปแช่งอยู่ในใจ “แก นังแพศยา!”
เนื่องสถานะที่โดดเด่นของหลี่ซูเอ๋อร์ทั้ง8ก็ไม่ได้ทำอะไรมากและรอคำสั่งเพิ่มเติมจากลั่วหลิน
ลั่วหลินก้าวออกมาและกระพริบไปด้านหน้าของหลี่ซูเอ๋อร์และกล่าวอย่างนิ่มนวลว่า “น้องสาวซูเอ๋อร์ทำไมเจ้าถึงมาอยู่กับเศษขยะตัวนี้?”
“แกนั่นแหละขยะ.”
“พี่ใหญ่ลั่วเทียนของข้าไม่ใช่ขยะ” หลี่ซูเอ๋อร์จ้องมองอย่างขึงขังและพูดว่า“ลั่วหลินเจ้าเป็นคนที่ข้ารังเกียจมากที่สุดดังนั้นได้โปรดอย่างเรียกข้าว่าน้องสาวซูเอ๋อร์.”
ตาของลั่วหลินเปลี่ยนไปขณะที่ขมวดคิ้วเบาๆ “น้องสาวซูเอ๋อร์ เจ้าควรออกมาได้แล้ว”
“ข้าบอกแล้วว่าไม่ให้เรียกน้องสาวซูเอ๋อร์ ข้าไม่ใช่น้องสาวเจ้า ข้าจะไม่ขยับไปไหนทั้งนั้นไม่มีทางที่ข้าจะยอมให้เจ้าทำอะไรพี่ใหญ่ลั่วเทียนได้.”หลี่ซูเอ๋อร์เต็มไปด้วยความชอบธรรมและไม่ได้ถอยห่าง.
ลั่วเทียนได้ลอบเคลื่อนไหวออกจากการช่วยเหลือของเธออย่างลับๆ
ตั้งแต่โบราณมามีแต่วีรบุรุษช่วยหญิงงาม แต่ไม่เคบมีหญิงงามช่วยวีรบุรุษ ลั่วเทียนรู้สึกตลกในใจ.
ลั่วหลินกลายเป็นมืดลงและไฟแห่งความโกรธก็ขึ้นมาถึงศีรษะ “แกนังแพศยา มาให้พิดามีอะไรด้วยสิ!”
ในทันที…
ลั่วหลินก็ขยับตัว.
ดบไปที่หน้าของหลี่ซูเอ๋อร์.
ความช๊อคปรากฏขึ้นเธอไม่คิดว่าลั่วหลินจะลงมือทันที ดังนั้นเธอจึงไม่มีเวลาเตรียมตัว.
เธอไม่ได้เตรียมพร้อมแต่ลั่วเทียนเตรียมพร้อม
ในขณะที่ลั่วหลินขยับลั่วเทียนก็ขยับก่อนที่จะโยนเธอออกไปอีกฝั่ง.
“ผลัก”
ด้วยพลังของฝ่ามือที่มาปะทะกับกำปั้น แขนของลั่วเทียนก็รู้สึกราวกับกำจะหลุดออกไปจากร่างของเขา เขาไม่คิดเลยว่าลั่วหลินจะทะลวงไปอีกขึ้นแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งหรือความเร็วขั้นพื้นฐานระดับ 6 ไม่อาจเปรียบได้กับระดับ 9.
ตาของลั่วเทียนมืดลงขณะที่เขากระเด็นไปข้างหลังขณะที่รู้สึกเจ็บแขนอย่างรุนแรง.
เสียงไชโยโผล่ออกมาจากบริเวณรอบๆ.
“นายน้องลั่วหลินทรงพลังเป็นอย่างมาก.”
“เศษขยะลั่วเทียนไม่ได้เป็นฝ่ายตรงข้ามของเขาเลย.”
“เรียกตัวเองว่าเป็นนายน้อยตระกูลลั่ว…เขาไม่แม้แต่จะรับฝ่ามือของนายน้อยลั่วหลินได้ เพียงแค่ไปข้างหน้าและยอมรับความตาย.”
มีสาวกตระกูลลั่วมาชุมนุนกันอย่างมาก.
การปะทะกันทำให้ลั่วเทียนกระเด็นออกไปไกลขณะลั่วหลินยืนอยู่กลางแสงไฟ ความรู้สึกนี้ทำให้เขาแย่มาก.
ลั่วหลินลุกขึ้นยืนอย่างยิ้มแย้ม “เศษขยะต้องการที่จะสู้กับข้า? เพียงแค่เจ้าคิดก็หมายถึงความตายแล้ว.”ขณะที่เขาพูดอยู่มือของเขาก็คว้าตัวหลี่ซูเอ๋อร์เอาไว้และยิ้มอย่างชั่วร้าย “สาวน้อยแสนงาม บิดาคนนี้จะมอบความรักให้กับเจ้าเองในคืนนี้. 5555…”
เขาค่อยๆลูบแก้นของหลี่ซูเอ๋อร์ทำให้เธอสั่นสะท้านและหน้าซีดเป็นอย่างมาก ความแข็งแกร่งของเธอคือขั้นพื้นฐานระดับ 7 เธอไม่สามารถต่อต้านลั่วหลินที่อยู่ในระดับ 9 อย่างสมบูรณ์.
ความกลัวปรากฎอยู่บนใบหน้าของหลี่ซูเอ๋อร์
ลั่วเทียนระเบิดความโกรธของเขาไว้ที่กำปั้น “ลั่วหลินเจ้ากำลังหาเรื่องตาย!’
“ข้าหาเรื่องตาย?”
“555…”
ลั่วหลินเริ่มที่จะหัวเราะเสียงกังไปในอากาศ แต่ก็หยุดลงทันที การแสดงออกถึงความสนใจของเขาก็ปรากฎขึ้นอยู่เต็มใบหน้า “สาวกตระกูลลั่วจงฟัง ถ้ามีหมัดไหนที่ทำร้ายลั่วเทียนได้พวกเจ้าก็จะได้หัวสัตว์ปีศาจไปหนึ่งหัว.ฉีกเขาจะได้สอง แทงเขาจะได้สาม ทุกคนที่มีส่วนร่วมจะได้รับหัวของสัตว์ปีศาจและจะกลายเป็นสาวกหลักของตระกูลลั่วทันที.”
ขณะที่เสียงของเขาจบลง ฝูงชนก็ดุเดือดด้วยความตื่นเต้นทันที
ความโลภปรากฎด้วยในสายตาของพวกเขาทันทีขณะที่จ้องมองลั่วเทียนด้วยความตื่นเต้น พวกเขาทั้งหมดเริ่มวิ่งไปด้านหน้าเพื่อล้อมลั่วเทียน
นี่เป็นสถานการณ์ที่อันตราย!
ลั่วหลินชี้ไปที่ลั่วเทียนและหัวเราะออกมาว่า “แก ไม่มีใครระวังหลังให้แกและแกก็ไม่มีพลังเมื่อจำเป็น แกมีคุณสมบัติอะไรมาต่อสู้กับข้า? อะไรที่เจ้าต้องการมาท้าทายข้า? 5555…”
ไม่ว่าพลัง Berserk จะเป็นเช่นไรก็ไม่มีทางที่จะจัดการกับคนอื่นได้.
ยังไม่ได้พูดถึงยังคงมีลั่วหลินที่อยู่ขั้นพื้นฐานระดับ 9.
ในขณะนี้ลั่วเทียนได้เข้าสู่กับดักแห่งความตาย!
“กึกๆๆ…”
กระทิงเดือดฟ้าคะนองทำลายต้นไม้ต้นใหญ่ จากนั้นก็มองไปยังกลุ่มคนที่มาชุมนุนอยู่ที่นี่ก่อนที่จะมีเสียงกึกก้องดังออกมา.
กระทิงเดือดห้าคะนองโกรธเหมือนกับคิงคอง มันมีควันสีขาวออกมาจากจมูกของมัน มีกลิ่นอายที่น่าหวาดหวั่นออกมาจากร่างกายของมันทำให้ดูเหมือนว่าจะมีพลังออกมาไม่หยุด!
เบื้องหน้าเป็นกระทิงเดือดฟ้าคะนองและเบื้องหลังเป็นลั่วหลินและกลุ่มสาวก.
ไม่ว่าจะมองมุมไหนทุกอย่างก็จะพาลั่วเทียนไปสู่ความตาย.
ลั่วเทียนรู้สึกหงุดหงิดและเมื่อเสือโคร่งตาเขียววิ่งหนีมาทางเขา เขาก็ได้ทุบมันลงอย่างโหดร้าย.
“ติ๊ง!”
“ขอแสดงความยินดีผู้เล่นลั่วเทียนได้สังหารเสือโคร่งตาเขียว.คุณจะได้รับค่าประสบการณ์ 200 และพลังปราณ 20 แต้ม…”
“ติ๊ง!”
“ขอแสดงความยินดีผู้เล่นลั่วเทียนเลเวลอัพ.คุณได้เลื่อนระดับขึ้นมาเป็นขั้นพื้นญานระดับ 7!”
“ติ๊ง!”
“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นลั่วเทียน สำหรับการเพิ่มระดับและได้รับราววัลจากการเข้าถึงขั้นพื้นฐานระดับ7—ทักษะเสริมการต่อสู้ ทักษะเวทเสน่ห์!”
“ห๊ะ?”
“เวทเสน่ห์ คาถาที่ใช้โดยพ่อมดในเกม The Legend of Mir?”
“ชิบหายแล้ว!”
เลือดของลั่วเทียนเดือดอย่างบ้าคลั่ง!