เกิดใหม่กับระบบไร้พ่าย - Chapter 14 – รักษาการประมุข
ตั้งแต่ที่มันเหมือนกับวิดีโอเกม ระบบเลเวลอัพ…
ตั้งแต่ที่เขาฆ่าสัตว์เพื่อเลเวลอัพ…
ตั้งแต่ที่เขาทำเควส…
ตั้งแต่ที่เขาฆ่าคนเพื่อได้ไอเทม…
แล้วมันจะไม่มีบอสตัวสุดท้ายได้อย่างไร?
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีบอสตัวสุดท้าย!
ลั่วเทียนคากหวังมาโดยตลอด.เขาคิดถึงเรื่องราวของบอสตัวสุดท้ายว่ามันจะปรากฎตัวแบบไหน.
สิ่งเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าบอสตัวสุดท้ายเป็นมนุษย์และความจริงมันคือประมุขตระกูลลั่ว ลั่วจินชาน.นี่มันเหมือนกับบอสตัวสุดท้ายในตำนานที่อยู่ในร่างของมนุษย์?
ตอนนี้ลั่วเทียนตื่นเต้นมาก!
แสงสีทองที่เข้ามาในตาของลั่วเทียนขณะที่เขาคลานและจ้องมองไปที่ลั่วจินซานอย่างไม่กระพริบตา.
ตอนนี้ลั่วจินซานเป็นเหมือนกับสาวสวยที่มีเสน่ห์และเซ็กซี่ ราวกับว่าเธอกำลังเปลื้องผ้าทีละชิ้นและดึงดูดเขาอย่างเต็มที่.
นี่มันดึงดูเกินไปแล้ว!
“อึก.”
ลั่วเทียนกลืนน้ำลายไปอึกหใญ่ขณะที่เขาถูมือของเขาด้วยความยินดี, “บอสตัวสุดท้าย บอสตัวสุดท้าย ในที่สุดก็ปรากฎตัวมาให้ฉันเห็น. 5555+…”
“ฉันจะเล่นกับแกให้ตาย ฉันจะเล่นแกให้ตายในรูปแบบต่างๆ ฉันมีหลายวิธีให้แกตาย…”
อะไรคือส่วนที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของวิดีโอเกม?
แน่นอนมันคือการเจอบอสตัวสุดท้าย.มันก็เหมือนกับการวิ่งไปด้วยอาหารที่หัวใจบีบรัด.บอสตัวสุดท้ายหลายถึงประสบการณ์และของที่ดรอปออกมาเยอะแยะ.
เพียงแค่คิดว่าจะได้มันสักอย่างมันน่าตื่นเต้นมาก!
แน่นอน…
มีช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้นและช่วงเวลาแห่งความเศร้า.
ตอนนี้ลั่วเทียนเต็มไปด้วยความเศร้า.เมื่อเห็นบอสตัวสุดท้ายเขายังไม่มีความสามารถที่จะฆ่ามันความเจ็บปวดนี้เป็นเรื่องที่เขาไม่อาจทนได้.
แม้ตอนนี้เขาจะไม่มีแถบสีแดงและสีน้ำเงินปรากฎ เขาก็ยังบาดเจ็บสาหัส เขาไม่สามารถหยุดยั้งการโจมตีของเขาที่อยู่ในระดับเจ็ดก่อตั้ง มันทำให้เขารู้สึกกดดัน.
“อดทน!”
“บิดาจำเป็นต้องอดทน!”
“แค่รอให้บิดาไปเดะก้นเจ้า.บสวตัวสุดท้ายมันอาจจะให้ค่าประสบการณ์และไอเทมมากมายระเบิดออกมา. อุวะ 555+…” ปากของลั่วเทียนโค้งขึ้นเผยให้เห็นรอบยิ้มที่ตื่นเต้น.
ด้วยการแสดงออกบนใบหน้าของเขาลั่วเทียนต้องหักห้ามใจ.
บรรดาสาวกของตระกูลลั่วที่อยู่ในลานฝึดซ้อม เขาคิดว่าพวกนี้เป็นลูกแกะ.
ความโกรธของลั่วเสียวซานไม่สามารถลดลงได้เขาวิ่งไปหาลั่วเจียงซาน.
จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ลั่วเทียนและพูด “พี่ใหญ่ ไอ้สุนัขพันธุ์ทางนี่ทำให้ลูกชายของข้าได้รับบาดเจ็บ ไม่ว่าอย่างไรเราต้องฆ่าเขาในวันนี้!”
หลังจากที่พูดอยู่นั้น…
ลั่วเสียวซานโคจรพลังภายในของเขาและจ้องมองไปที่ลั่วเทียน “สุนัขพันธุ์ทาง ไปตายเพื่อข้า!”
ลั่วเทียนไม่ได้ขยับเพียงแต่มองไปที่ลั่วเสียวซาน ยิ้มเงียบๆและพูดว่ากับตัวเองว่า “มอนเตอร์ชั้นสูงที่มีชื่อแดงจะโจมตีอัตโนมัติหรอ?”
ร่างทั้งร่างของลั่วเสียวซานเป็นสีแดง แม้แต่ชื่อของเขาก็เป็นสีแดง.
บางประเภทของ “มอนเตอร์” ภายในเกมก็จะโจมตีผู้คนอัตโนมิต.และที่เท้าของลั่วเสียงซานมีแสงสีทองเรืองรองออกมาแสดงว่าเขาต้องเป็นมอนเตอร์ขั้นสูง.
“พอ!”
ลั่วจินซานคำรามออกไปที่ลั่วเซียวซานก่อนที่เขาจะเคลื่อนไหวจากนั้นก็หยิบยาขวดเล็กๆขึ้นมาแล้วกล่าวว่า: “การบาดเจ็บของหยู่เอ๋อไม่รุนแรงมากนัก เอายาจิตวิญญาณสงบให้เขา3เม็ด.”
“ยาจิตวิญญาณสงบ?”
“ยารักษาระดับสอง ยาจิตวิญญาณสงบ? ประมุขใจกว้างมาก!”
ทุกคนเริ่มที่กระซิบกระซาบและมีความอิจฉาบนใบหน้า.
ลั่วเสียวซานเอายาไปแล้วกล่าวว่า “พี่ใหญ่ไอ้สุนัขบัซบทำลายคนจนบาดเจ็บและใครอีกหลายคนในลานฝึกซ้อมทั้งยังทำลายกฏของบรรพบุรุษเรา ตามหลักแล้วเราสามารถไล่เขาออกจากตระกูลลั่วได้.”
จะต้องไม่ทำร้ายคลอื่นในลานฝึกซ้อม นี่เป็นกฎของตระกูล.
ดวงตาของเปิงเลี่ยกว้างขึ้นและมีความโกรธปกคลุมทั้งๆที่หน้าของเขาซีด จากนั้นเขาก็ตะโกนเสียงดัง “ไอ้เด็กลั่วหยู่เป็นคนแรกที่เคลื่อนไหว ถ้าจะมีใครบางคนทำผิดกฏ เป็นมันที่จะต้องไปก่อน.”
ดวงตาของลั่วเสียวซานจ้องมองเปงเลี่ยออกไปด้วยความโกรธและสาปแช่งออกมาว่า “ไอ้ขยะนี่มันคิดว่ามันเป็นอะไร? เจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะพูดที่นี่.”
ลั่วเทียนหรี่ตาและก้าวออกไปด้านหน้าก่อนที่จะยิ้มออกมา “กฎของตระกูลลั่วบอกว่าใครก็ตามที่เคลื่อนไหวเป็นคนแรกนั่นเป็นคนผิด.ลั่วหยู่เป็นคนแรกที่เข้ามาโจมตีข้า ดังนั้นแม้ว่าข้าจะทำให้มันตายก็ไม่มีผิดไปมากกว่านี้อีกแล้ว.”
ลั่วเสียวซานยิ้มเย็น“ลูกชายของข้าเป็นคนแรกที่เคลื่อนไหว? ใครในที่นี่เป็นพยายานได้?”
“ข้า!” เฟิงเลี่ยตะโกนออกมาก่อนที่จะไปอยู่ด้านข้างลั่วเทียน เขาเฝ้าดูลั่วเสียวซานอย่างระมัดระวังราวกับว่าเขาจะเข้าโจมตีลั่วเทียน.
รอยยิ้มของลั่วเสียวซานยังไม่ได้หายไปก่อนจะกล่าวว่า “นอกจากเจ้าแล้วมีใครอีกไหม?”
ลั่วเทียนกวาดตามมองไปที่สาวกรอบๆตระกูลลั่วที่กำลังก้มหน้า.ไม่มีใครอยากจะเป็นพยาน.นี่เป็นครอบครัวของสุนัขบัดซบที่ชื่อตระกูลลั่วในตอนนี้?
ลั่วเสียวซานยิ้มและกล่าวว่า “มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่เป็นพยาน? มันไร้ประโยชน์เนื่องจากเจ้าเป็นคนรับใช้ของเขา.
ดูเหมือนว่าไอ้เศษขยะสองตัวนี้จะทำลายกฎของตระกูลลั่ว.ท่านผู้นำโปรดตัดสินตามกฏของตระกูลลั่ว.”
ขณะที่เขากำลังพูดอย่างนี้ลั่วเสียวซานได้จ้องมองไปที่ลั่วเทียนด้วยความตั้งใจฆ่าก่อนที่จะพูดกับตัวเองอย่างเงียบๆ “ไอ้สุนัขพันธุ์ทางเมื่อพี่ใหญ่ขับไล่แกออกจากตระกูลเมื่อไหร่ข้าจะส่งเจ้าไปพบกับพยายมเอง.”
“5555….”
ลั่วเทียนหัวเราะและพูดอย่างเย็นชาออกมาว่า “ถ้าเราพูดถึงกฎทั้งหมดนี้แล้ว บิดาคนนี้จะสนทนาเอง!”
“ไอ้ลูกสุนัขตัวนี้กล้าผายลมกับนายน้อย มันไม่ใช่การดูถูกนายน้อยที่ฝ่าฝืนกฏของบรรพบุรุษหรือไม่? ตากฎของตระกูลข้าสามารถฆ่ามันได้โดยที่กฏไม่สามารถทำอะไรข้าได้”
“เนื่องจากลูกชายยังไม่รู้จักดี ซึ่งก็หมายความว่าพ่อของมันก็ไม่รู้จักดี.”
“ลั่วเสียวซาน บิดาหมายถึงเจ้า เจ้าเข้ามาในลาดฝึกซ้อมทันทีและโจมตีออกมาอย่างรุนแรงต่อข้าไม่ใช่ว่านี่เป็นการฝ่าฝืนกฎของสนามฝึกฝนหรอ?”
“ปากของเจ้าก็ยังพูดว่า ‘สุนัขพันธุ์ทาง’ นี่ ‘สุนัขพันธุ์ทาง’ นั่น โดยมีประมุขตระกูลลั่วเฝ้ามองอยู่นี่ไม่ได้หมายความเจ้าได้ทำผิดกฎของตระกูลลั่ว?”
“แม้ของเจ้าเลี่ยงดูพี่น้องด้วยอึ ดังนั้นแม้เจ้าก็ต้องกินอึด้วย?”
เสียงของเขานุ่มนวลก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นเสียงกรีดร้องหลังประโยคสุดท้ายของเขา.ลั่วเทียนจ้องไปที่ลั่วเสียวซานราวกับจะกินเลือดกินเนื้อของเจา “เจ้าต้องการจะพูดกับบิดาอีกหรือไม่?เจ้าไม่มีคุณสมบัติเป็นผุ้อาวุโสตระกูลลั่ว.
เจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรอว่า ‘ไม่มีคุณสมบัติ’ หมายถึงอะไร?”
ลั่วเทียนเน้นย้ำเกี่ยวกับการเป็นนายน้อยตระกูลลั่วทพให้ใบหน้าของลั่วจินซานลืดครึ้มและมีประกายไฟในดวงตาของเขา.
การเป็นผู้รักษาการประมุขเป็นดังหนามที่ทิ่มจิตใจของเขา.
แม้ว่าตอนนี้เขาจะคุมกำลังทั้งหมดของตระกูลลั่วแต่ลั่วเทียนยังไม่ตายดังนั้นเมื่อเขาถึงวัยเหมาะสมเขาจะกลายเป็นผู้นำคนใหม่ของตระกูลลั่ว.
วิธีเดียวที่เขาจะลบคำว่า“รักษาการ” ออกจากชื่อของเขามีวิธีเดียวคือฆ่าลั่วเทียน!
เมื่อมาถึงจุดนี้กลายเป็นว่าเขาไม่อาจจะชะลอไปได้อีกต่อไปแล้ว!
ใบหน้าของลั่วเสียวซานกลายเป็นสีม่วงก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสีดำ. เขาไม่แม้แต่ที่จะสาปแช่งลั่วเทียนได้หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขารู้สึกแย่ขณะที่กัดฟันแน่นอย่างรุนแรง.
ความโกรธของเขาพุ่งเข้าสู่สวรรค์เขารีบวิ่งออกไปเหมือนคนบ้า “ไอ้สุนัขพันธุ์ทาง ข้าจะฆ่าแก!”“ดูนั่น….”
“ทุกคนก็มองออกว่าลั่วเสียวซานข่มขู่ข้าและข้าก็กลัวจริงๆ.”
ลั่วเทียนแสร้งทำเป็นกลัวและขนาดเขลาก่อนที่จะพูดว่า“รักษาการณ์ประมุขคุณก็เห็นใช่มั๊ย? ลั่วเสียวซานคนนี้กำลังดูถูกนายน้อยและบอกอีกว่าจะฆ่าข้า.”
ถ้ามันเป็นไปตามกฎเราไม่สับแขนสับขาเขางั้นหรอ?”
ใบหน้าของลั่วจินซานจมมิดก่อนที่จะกลับมาเป็นปกติและพูดว่า “เสียวซาน ใจเย็น!”
“ปล่อยข้าพี่ใหญ่ วันนี้ข้าจะถลอกหนังของมัน!” ผมของลั่วเสียวซานลุกชี้ชันขึ้น.ทุกครั้งที่เขามองออกไปยังการแสดงถูกๆของลั่วเทียนความโกรธของเขาแล่นผ่านสมอง.
ลั่วเทียนมืองไปที่ลั่วเสียวซานด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มและดูน่ารังเกียจ มันเกือบจะเหมือนว่าเขาพูดว่า“ยังไงข้าก็เป็นฝ่ายถูก ถ้าเจ้าอยากจะกัดก็มาถ้าเจ้ากล้า.”
ลั่วเทียนสามารถทำแบบนี้ได้เพราะรักษาการณ์ประมุขไม่อาจปล่อยให้เขาตายที่ลานฝึกซ้อมได้.
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรที่เขาจะต้องกลัวที่นี่.
แม้แต่ในอนาคต…
ฮี่ๆ… ใครจะรู้ว่าใครเป็นฝ่ายฆ่า.
ลั่วจินซานได้ดึงลั่วเสียวซานกลับและยิ้มน้อยๆ“ลิ้มที่แหลมคมนัก ข้าหวังว่าการประลองล่าสัตว์ เจ้าจะมีพลังเหมือนอย่างปากของเจ้าและเป็นประมุขตระกูลลั่วในอนาคต.”
หลังจากนั้นลั่วจินซานก็พูดกับลั่วเฉียวซานว่า “เนื่องจากนายน้อยตระกูลลั่วอยากจะประลองล่าสัตว์แน่นอนว่าเขาสามารถทำได้โดยอัตโนมัติ บัณทึกชื่อของเขาอย่างรวดเร็ว.”
ลั่วเฉียวซานเขียนชื่อของลั่วเทียนทันที.
ขณะที่ลั่วจินซานกำลังจะจากไปลั่วเทียนก็ได้เรียกเขาและยิ้มว่า“ผู้รักษาการณ์ประมุข ด้วยนายน้อยตระกูลลั่ว ข้ามีคุณสมบัติที่จะนำพี่ชายเข้าร่วมด้วยหรือไม่?”
ลั่วจินซานหันกลับมาและยิ้มเย็น.
โดยไม่รอการตอบกลับลั่วเทียนหัวเราะ “ข้าพูดออกไปเพื่อให้เขาได้เข้าร่วม ไม่ว่าจะได้หรือไม่ข้าก็ยังพาเขาไปอยู่ดี อย่างไรก็ตามท่านเป็นผู้รักษาการณ์ประมุขไม่มีสิทธิจะแทรกแซง.”
“ถูกต้อง ข้าเป็นผู้รักษาการณ์ประมุข…?”
“นี่ นี่ อย่าไป! ผู้รักษาการณ์ประมุข??”——————¹ – การพูดว่าหยู่เอ๋อ เป็นการเรียกขานถึงลูกชายของเขาด้วยความรัก.