วิถีสู่สวรรค์ - PTH10 เห็นเป็นศิลาวิญญาณ
“มีโอสถเพลิงกระจ่างหรือเปล่า?” เว่ยสั่วกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้อยากพูดคุยกับจิ้งจอกเฒ่ามากนัก
“โอสถเพลิงกระจ่าง? มีสิ แต่เจ้าจะเอาไปทำอะไร?” ชายชรากล่าวถามด้วยความประหลาดใจ
“ช่วงนี้มีคนต้องการแมงป่องเพลิง ข้าจะออกไปล่าพวกมันมาขาย เลยอยากได้โอสถไปป้องกันตัว ไม่งั้นหากเกิดเรื่องไม่คาดฝัน ข้าคงถูกพวกมันเผาตาย” เว่ยสั่วกล่าว
“มีคนโง่ซื้อแมงป่องเพลิงไปจริงๆสินะ… เรื่องโอสถไม่เป็นปัญหา” ชายชราหัวเราะก่อนจะแบมือออกมา “แต่เจ้าก็คงรู้กฏกันดี ว่าต้องจ่ายศิลาวิญญาณมาก่อน”
เว่ยสั่วจ้องมองชายชราพลางกล่าว “โอสถฟื้นปราณ 1 ขวด และยันต์หลบหนีอีก 1 แผ่น ราคาเท่าไหร่?”
“โอสถฟื้นปราณและอักขระหลบหนี รวมกันแล้วราคา 1 ศิลาวิญญาณ รวมกับโอสถเพลิงกระจ่างก็เป็นทั้งหมด 2 ศิลาวิญญาณระดับล่าง”
เว่ยสั่วพยักหน้า “แล้วยันต์เพลิงระดับ 4 แผ่นนึงราคาเท่าไหร่?”
“ยันต์เพลิงระดับ 4?” ชายชราขมวดคิ้ว “ราคา 2 ศิลาวิญญาณ”
เว่ยสั่วนำเอายันต์เพลิงที่ซุกเอาไว้ในอกเสื้อออกมา ยื่นให้ชายชราดู “แล้วนี่หล่ะ?”
“นี่…” ชายชราจ้องมองแผ่นยันต์ที่เปล่งความร้อนอ่อนจางพลางฉวยไปดู
“เว่ยสั่ว เจ้าไปได้ยันต์เพลิงระดับ 1 มาจากไหน… อักขระที่วาดลงไปไม่ธรรมดาจริงๆ”
“ไม่สำคัญ… ว่าแต่ข้าใช้เจ้านี่จ่ายแทนได้หรือเปล่า?” เว่ยสั่วดึงเอายันต์เพลิงจากมือของชายชรากลับมา
“ถึงข้าจะรู้จักเจ้ามานานหลายปี แต่ใช่ว่าข้าจะเชื่อใจเจ้า ต้องขอลองก่อน” ชายชรากล่าวพลางนำเว่ยสั่วเข้าไปยังหลังร้าน
“ถ้ามันระเบิดมา ร้านของท่านจะพังเอานะ” เว่ยสั่วกล่าวพลางเตรียมกระตุ้นยันต์เพลิงในมือ
เริ่มถ่ายปราณเข้าไปในภายยันต์ ก่อนที่มันจะส่งเสียง ฟูม~ แผ่นยันต์ลุกโหมด้วยเพลิง ลูกบอลเพลิงที่ร้อนแรงก่อตัว อานุภาพของมันทำให้รู้สึกร้อนผ่าวที่มือ แต่นั่นก็ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง
ครั้งแรกที่เขาลองใช้ยันต์ ด้วยความที่เพิ่งสร้างสำเร็จเป็นครั้งแรกจึงตื่นเต้นจนเกินไป ไม่ได้ตามความรู้สึกที่ได้จากยันต์ ยามนี้สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า มีปราณของเขาเคลือบกลุ่มก้อนเพลิงเหล่านี้เอาไว้ไม่ให้พวกมันกระจายตัวออกไป
เขาชี้มือไปยังผนังร้าน บอลเพลิงในมือพุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็ว
“ตูม!”
เปลวเพลิงที่ร้อนแรงลุกโหม แผ่พวบพุ่งออกหน้าต่างรอบทิศของร้าน ราวกับจะครอกทั้งร้านให้มอดไหม้
“บ้าเอ้ย!” หลังจากใช้ยันต์ เปลวเพลิงก่อตัว หากไม่มีสิ่งใดเคลือบพวกมันไว้ คงแผดเผามือจนหมดไหม้ แต่เมื่อมันสำแดงอานุภาพ แรกเริ่มที่ราวกับจะควบคุมมันได้ กลับกลายเป็นเกือบจะถูกมันแผดเผาไปด้วย
“เป็นยันต์ที่ดีจริงๆ” ชายชราจ้องมองผลของยันต์เพลิงด้วยความพึงพอใจ “เว่ยสั่ว ข้ารับข้อเสนอเจ้า ยันต์เพลิงนี้แลกกับโอสถฟื้นปราณ โอสถเพลิงกระจ่าง และยันต์หลบหนี”
…
“ดูนั่นเร็ว คนที่ออกมาจากร้านตรงนั้นหอบหญ้าพยัคฆ์กับเห็ดเหลืองออกมาเพียบ”
“ฮ่าฮ่า ดูผมมันสิ อย่างกับโดนเผามา”
“เจ้าไม่รู้อะไร มันอาจจะไม่ได้โดนเผามา แค่อยากสร้างเสียงหัวเราะให้ก็เท่านั้น…”
เว่ยสั่วมุ่งออกมาจากร้านเมื่อครู่ ก่อนจะเร่งมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่เรียกว่าภูเขาขจี
หลังจากแลกเปลี่ยนกับชายชราเมื่อครู่ไปแล้ว เขาได้สอบถามถึงสถานที่ที่มีแมงป่องเพลิงชุกชุม จึงได้รู้ว่าสถานที่แห่งนั้นมีนามว่าภูผาขจี อยู่ห่างจากเมืองจิตวิญญาณสูงสุดประมาณ 300 ลี้ ในภูเขาจะมีหลุมอุโมงค์สีแดง ภายในมีแมงป่องเพลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
หญ้าพยัคฆ์และเห็ดเหลืองที่เว่ยสั่วหาซื้อมานั้น ไม่ได้เป็นประโยชน์กับตัวเขา แต่มันเอาไว้ใช้ล่อแมงป่องได้
นอกเมืองจิตวิญญาณสูงสุด นิกายเพลิงสวรรค์ได้สร้างข่ายอาคมเคลื่อนย้ายไว้หลายแห่ง ซึ่งผู้ที่ไม่มีวิชาเหาะเหินสามารถเดินทางไปยังสถานที่ไกลๆได้ เพียงแต่ต้องจ่ายศิลาวิญญาณ แต่ด้วยเว่ยสั่วยากจนเขาจึงเลือกที่จะวิ่งไปแทน
ด้วยความที่เว่ยสั่วไม่ได้มีวิชาใดๆที่ช่วยในการเคลื่อนไหว เขาจึงใช้เวลาในการเดินทางหลายชั่วยาม กระทั่งคล้อยบ่าย เขาก็มาถึงยังเป้าหมาย
ภายในภูเขาแห่งนี้มีอุโมงค์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า เหมืองแร่แดง ขนาดความลึกอยู่ที่ 20 – 30 ลี้ ภายในอุโมงค์มีแร่สีแดงอยู่มากมาย แต่ด้วยที่ไม่มีผู้สนใจในแร่ชนิดนี้ เหมืองแห่งนี้จึงได้ถูกปล่อยทิ้งร้างไป มีเพียงเว่ยสั่วเท่านั้นที่มาเยือน
สิ่งที่เว่ยสั่วเตรียมตัวมาครั้งนี้คือ โอสถฟื้นปราณ ยันต์หลบหนี ยันต์เพลิง และยันต์เกราะะพิภพของเขาที่ยังใช้ได้
“จะทำได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตัวเจ้า”
เว่ยสั่วกล่าวพลางสำรวจพื้นที่รอบๆภายในเหมือง เมื่อไม่พบสิ่งผิดปกติ เขาก็เริ่มนำหญ้าพยัคฆ์และเห็ดเหลืองออกมาวางเอาไว้บนพื้น
ด้วยความที่กลิ่นของสมุนไพรทั้งสองค่อนข้างแรง ไม่นาน แมงป่องเพลิงก็เริ่มปรากฏตัวออกมา
“ฮ่าฮ่า ได้ผล!”
โลหิตแมงป่องเพลิงหนึ่งตัว เพียงพอให้สร้างยันต์เพลิงได้ 4 แผ่น แต่ด้วยอัตราความสำเร็จของเขายามนี้ อาจกล่าวได่ว่าแมงป่องเพลิงตัวหนึ่งสามารถนำไปสร้างยันต์ได้ 2 แผ่น ซึ่งน่าจะนำไปขายได้กำไรไม่น้อย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้มองแมงป่องเพลิงเหล่านี้เป็นอสูรอีกต่อไป มองว่าพวกมันคือศิลาวิญญาณมากกว่า จึงวิ่งเข้าหาพวกมันอย่างรวดเร็ว
เมื่อพวกมันสังเกตุเห็นเว่ยสั่วปรากฏตัว พวกมันเปลงเสียง ชี่ชี่ แต่ในชั่วพริบตาเดียวกัน ปราณกระบี่วารีกลับตรงเข้าฝ่าศีรษะของตัวที่ร้อง ปลิดชีพของมันลงอย่างรวดเร็ว…