วิถีสู่สวรรค์ - PTH5 เคยวาดแค่ภาพหญิงเปลือย
เมื่อของเหลวที่ได้จากหญ้าธูปเงินและบุบผาเพลิงแข็งตัว เว่ยสั่วนำไปย่างไฟครู่หนึ่งก่อนจะได้กระดาษสีแดงฉานออกมา จากนั้นวาดอักขระลงไปบนกระดาษ
ฟูม!
ชั่วพริบตานั้น จู่ๆเปลวเพลิงกลุ่มหนึ่งก็ลุกโหมขึ้นพร้อมกับกระดาษยันต์ที่มอดไหม้
“ผู้อาวุโสเขียว ท่านบอกวิธีข้าถูกหรือเปล่า? ทำไมจู่ๆมันถึงระเบิด!” เขม่าจากการลุกไหม้ทำให้ใบหน้าของเว่ยสั่วดำ ผมเผ้ายุ่งเหยิง
“เจ้าไม่เคยวาดอักขระมาก่อนเลยเหรอ?” ชายชราขมวดคิ้ว
“ข้าจะไปเคยได้ยังไง?”
“เจ้านี่มันไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ” ชายชราหัวเราะ “เห็นท่าทางมั่นใจของเจ้าข้าก็นึกว่าเจ้าเคยสร้างยันต์มาก่อน แต่กลายเป็นว่าเจ้าไม่เคยสร้าง เป็นเพียงมือใหม่ที่ไม่เข้าใจอะไรเลย… การจะสร้างยันต์ที่สมบูรณ์จำเป็นต้องรู้จักอักขระซะก่อน อักขระคือเส้นสายที่วาดขึ้นจากความเชื่อมโยงของโลก แต่ละอักขระกอรปด้วยข่ายอาคมขนาดเล็กมากมาย หากวาดอักขระไม่ถูกต้องแม้เพียงนิด ยันต์ก็จะไม่สมบูรณ์… เจ้าคิดว่าวาดอักขระให้ดูคล้ายก็สร้างยันต์ได้งั้นเหรอ? เจ้าคิดว่าการสร้างยันต์หรืออาวุธมันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ชายชราหัวเราะ แต่เว่ยสั่วไม่ได้โกรธ สีหน้าเคร่งเครียดจริงจัง แม้ว่าบุบผาเพลิงจะดูเหมือนเพลิงที่ทรงพลัง แต่นั่นก็เป็นแค่เพียงรูปลักษณ์ ส่วนแมงป่องเพลิงเพลิงที่ชื่อฟังดูร้ายกาจ แต่เพลิงที่มันสร้างได้ไม่ควรจะรุนแรงขนาดนี้
“เลิกหัวเราะได้แล้ว ข้าไม่ได้ทำอะไรที่จะทำให้มันระเบิด แต่จู่ๆมันกลับระเบิด! นี่ท่านบอกข้าถูกจริงหรือเปล่า?”
“ถ้าข้าบอกเจ้าผิดมันจะไม่ระเบิดด้วยซ้ำ”
เว่ยสั่วตระหนักถึงความสำคัญของอักขระ และตั้งใจจะลองวาดมันอย่างจริงจัง
การระเบิดของยันต์เมื่อครู่ทำให้ภาพสาวงามของเว่ยสั่วถูกเผาทำไปส่วนหนึ่ง ทำให้เขาเสียดายเป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้น การระเบิดของยันต์เมื่อครู่ ได้สร้างแรงระเบิดที่รุนแรง อย่างน้อยก็เทียบเท่าการจู่โจมของเขตขั้นทะเลศักดิ์สิทธิ์ที่ 5
ที่สำคัญ ยันต์เมื่อครู่แทบจะไม่ได้ผลาญปราณของเว่ยสั่วเลย
หากเทียบกันแล้ว วิชาที่เว่ยสั่วฝึกฝนอยู่ตอนนี้มีนามว่า วิชากระบี่วารี เป็นวิชาที่สร้างปราณกระบี่วารีจู่โจม ด้วยระดับพลังในเขตขั้นทะเลศักดิ์สิทธิ์ที่ 2 ของเขา หากโจมตีอย่างต่อเนื่องจะใช้ปราณกระบี่วารีได้เพียง 20 ครั้ง แต่หากเปลี่ยนเป็นยันต์เพลิงเมื่อครู่ ต่อให้ใช้ยันต์ไป 100 แผ่นก็ไม่มีปัญหา
ยันต์ที่ไม่ได้ผลาญปราณมากนักนับเป็นที่ต้องการของตลาด หากมีศิลาวิญญาณมากพอก็สามารถซื้อเป็นภูเขาเลากาได้ ราคาของยันต์ระดับล่างทั่วไปจะขายได้เพียงครึ่งศิลาวิญญาณระดับล่าง แต่หากเทียบอานุภาพของมันแล้ว ยันต์ที่เว่ยสั่วสร้างทรงอานุภาพกว่าหลายเท่าตัว
หากเว่ยสั่วสร้างยันต์เพลิงได้สำเร็จ ด้วยอานุภาพที่รุนแรงของมัน และด้วยปราณที่ผลาญน้อยกว่า ย่อมขายได้ในราคาสูง
“เด็กน้อย อย่าใช้โลหิตแมงป่องเพลิงสูญเปล่า ต่อให้เป็นผู้ที่เชี่ยวชาญด้านอักขระ หากจะเรียนรู้อักขระใหม่อย่างน้อยต้องใช้เวลาร่วมครึ่งเดือนถึงจะสำเร็จ เพราะฉะนั้นหากเจ้าคิดจะวาดอักขระให้สำเร็จภายในเวลาไม่กี่วัน ข้าแนะนำว่าเลิกฝันซะเถอะ หากเจ้าคิดจะใช้โลหิตแมงป่องอย่างสูญเปล่า สู้เอามาให้ข้ากินซะยังจะดีกว่า”
“เงียบไปเลย ถ้าข้าวาดอักขระล้มเหลวข้าจะโทษว่าเป็นเพราะท่าน แล้วเดี๋ยวจะได้ลิ้มรสฉี่ของข้าอีกรอบ”
ภายในบ้านหลังน้อย เว่ยสั่วสูดหายใจลึก จ้องมองพู่กันวาดอักขระในมือแล้วนำไปจุ่มโลหิตแมงป่องเพลิงที่บรรจุเอาไว้ในขวด
การสร้างยันต์คครั้งแรกล้มเหลว เขาจึงตั้งใจฝึกสร้างยันต์และวาดอักขระ
เขาจ้องมองอักขระตัวอย่างในทุกรายละเอียดอยู่นาน จากนั้นจึงพู่กันที่ชุ่มด้วยโลหิตแมงป่องเพลิง บรรจงวาดอักขระลงบนกระดาษยันต์ที่ทำขึ้นจากหญ้าธูปเงินและบุบผาเพลิง
ผู้ที่ไม่เคยสร้างยันต์มาก่อน ขั้นแรกต้องฝึกฝนการวาดอักขระ โดยการใช่พู่กันจุ่มหมึกวาดลงบนแผ่นไม้ที่เรียบลื่นก่อน จากนั้นลองวาดลงบนแผ่นไม้ที่ขรุขระเพื่อให้ทราบถึงความตื้นลึกหนาบางของผิวสัมผัส เมื่อฝึกฝนจนเชี่ยวชาญแล้ว จึงเริ่มลองวาดลงบนแผ่นกระดาษยันต์จริง การฝึกฝนเช่นนั้นเป็นการเพิ่มความสำเร็จในการสร้างยันต์
ด้วยที่กระดาษยันต์ใช่ว่าจะทำขึ้นง่ายๆ คนทั่วไปที่ต้องการฝึกฝนจะเริ่มจากแผ่นไม้แทน แต่ด้วยสถานที่ที่เว่ยสั่วอยู่ มีทุกสิ่งที่จำเป็นต่อการสร้างกระดาษยันต์อยู่มากมาย เขาจึงฝึกวาดลงกระดาษยันต์โดยตรง
แม้จะกล่าวว่าสูญกระดาษยันต์ไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่ก็ทำให้เว่ยสั่วพบว่าการวาดยันต์ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะกระดาษยันต์แต่ละแผ่นไม่ได้เรียบลื่นเหมือนกันทุกแผ่น มีบางส่วนที่แตกต่างกัน
ผ่านไป 7 วัน เว่ยสั่วทำกระดาษยันต์ขึ้นหลายแผ่น จนฝีมือในการทำกระดาษของเขาเพิ่มพูนไปมาก กระดาษเรียบขึ้น กระจ่างใสมากขึ้น จนเทียบได้กับกระดาษยันต์ระดับกลางที่กระจ่างใสราวกับกระจกสะท้อน
เมื่อทุกสิ่งถูกเตรียมพร้อมมาอย่างเต็มที่ เว่ยสั่วลองวาดอักขระลงบนกระดาษยันต์ของตนอีกครั้ง นำพู่กันที่ใช้ปลายจุ่มโลหิตแมงป่องเพลิง บรรจงวาดลงไปบนกระดาษ เมื่อโลหิตซึมผสานเข้ากับกระดาษยันต์ จากสีโลหิตเข้มแปรเปลี่ยนราวกับสีของเพลิงกระะจ่างใส เหงื่อเม็ดโตผุดออกจากกลางหน้าผาก สีหน้าจริงจัง ดวงตาจับจ้องอักขระที่บรรจง ทุกท่วงท่าที่ขยับพู่กันแม่นยำเฉียบคม
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม เว่ยสั่วตวัดพู่กันเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อยกเปลายพู่กันขึ้น อักขระที่อยู่บนกระดาษยันต์เปล่งแสงสีแดงจางพร้อมกับความร้อนที่แผ่วบาง
“คาดไม่ถึงว่าจะทำสำเร็จ!” ชายชราที่เฝ้ามองเว่ยสั่วเงียบ อุทานขึ้นในใจ ดวงตาเบิกกว้างด้วยความไม่อยากเชื่อ
กระดาษยันต์สีแดงสด อักขระเปล่งแสงเรืองรองพร้อมกับความร้อนอ่อนจาง ราวกับมีเพลิงไหลเวียนอยู่ภายในอักขระจริงๆ
ยันต์เพลิงสมบูรณ์ไร้ที่ติ!
“นี่…เจ้าไม่เคยวาดอักขระมาก่อนจริงเหรอ?” ชายชรากล่าวถามพลางจ้องมองเว่ยสั่ว
“ไม่เคย” เว่ยสั่วดูราวกับเหน็ดหนื่อยไม่น้อย แต่ก็ส่ายหน้าพลางกล่าว “ก่อนหน้านี้ข้าเคยวาดแต่ภาพสตรีเปลือยเปล่า อกขาวอวบอิ่มก็เท่านั้น…”…