วิกฤตโลกล่มสลาย Crisis : WorldDestruction - ตอนที่ 1 : หินอุกกาบาตพุ่งชนโลก
โลกกลับคืนสู่ยุคล่มสลายหลังจากการชนกันของดาวหางนอกโลก เศษหินของอุกกาบาตจำนวนมากมายสร้างความเสียหายให้กับดาวเทียมทั้งหมดที่โคจรอยู่นอกโลก การสื่อสารบนโลกกลายเป็นอัมพาตใช้การไม่ได้ การต่อสู้ระหว่างพระเจ้าและซาตาน เกือบจะกลายเป็นจุดจบของโลก ซาตานได้ทิ้งเมล็ดพันธุ์อันชั่วร้ายมากับเศษหินอุกกาบาต ชะตากรรมของมนุษย์โลกได้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล พระเจ้าได้ใช้พลังเฮือกสุดท้ายสร้างระบบช่วยเหลือขึ้นมา เพื่อหวังว่ามวลมนุษย์ที่เหลือรอดจากมหันตภัยครั้งนี้ จะสามารถเอาชีวิตรอด และแข็งแกร่งจนสามารถลุกขึ้นต่อสู้ได้ด้วยตนเอง
Crisis : WorldDestruction ตอนที่ 1 : หินอุกกาบาตพุ่งชนโลก
ดาวหาง 2 ดวง ได้ชนกันใกล้กับวงโคจรของดวงจันทร์ แรงระเบิดจากดาวหางทั้งสอง ทำให้วงโคจรของดวงจันทร์เปลี่ยนตำแหน่งไปจากเดิม การชนกันนี้เกิดขึ้นด้านหลังของดวงจันทร์ กว่านักดาราศาสตร์จะรู้สาเหตุก็ไม่ทันการณ์แล้ว แม้ว่าองค์กรอวกาศแห่งชาติจะระดมนักวิทยาศาสตร์ชั้นหัวกะทิต่างๆ มาช่วยกันวิเคราะห์ปัญหา แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งการพุ่งชนของหินอุกกาบาตได้ พวกเขาทำได้เพียงแจ้งให้ทุกประเทศเตรียมการรับมือกับเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยการอพยพผู้คนลงไปในหลุมหลบภัย และประกาศโซนปลอดภัยบนโลกที่รอดพันจากการพุ่งชนของหินอุกกาบาต
ครึ่งหนึ่งของดวงจันทร์เปลี่ยนกลายเป็นสีแดงเพราะเศษหินของอุกกาบาต เหตุการณ์นี้เกือบจะกลายเป็นจุดจบของโลก หากไม่ได้ดวงจันทร์ช่วยบดบังรัศมีของการระเบิดจากการชนกันของดาวหางทั้งสองดวงเอาไว้ ไม่เช่นนั้นเศษหินของอุกกาบาตจำนวนมากมายมหาศาลคงพุ่งชนเข้ากับโลกโดยตรง แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีเศษหินของอุกกาบาตอีกจำนวนนับไม่ถ้วนหลุดรอดผ่านออกมาและกำลังพุ่งตรงมายังโลก
มหันตภัยครั้งนี้ได้ลดจำนวนประชากรไปมากกว่า 70% ของโลก หลังจากหินของอุกกาบาตจำนวนนับไม่ถ้วนตกกระจายไปทั่วโลก ดาวเทียมทั้งหมดที่โคจรอยู่รอบโลกได้ถูกทำลาย เศษหินของอุกกาบาตมีสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกติดมาด้วย มันคือไวรัสที่สามารถแพร่ไปยังสิ่งมีชีวิตต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว มันคือเมล็ดพันธุ์อันชั่วร้ายที่ซาตานทิ้งเอาไว้
หลังจากนั้นไม่นานอาหารและน้ำก็เริ่มขาดแคลน เกิดการปล้นสะดมแย่งชิงอาหารกันไว้เว้นแต่ละวัน และสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้น ก็คือ เชื้อไวรัสที่ติดมากับเศษหินของอุกกาบาต มันได้เปลี่ยนผู้คนให้กลายเป็น ซอมบี้ เชื้อไวรัสซอมบี้สามารถแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว เพราะการสื่อสารทั้งหมดทุกตัดขาด ก่อนที่พวกเขาจะทันรู้ตัวทุกอย่างมันก็สายเกินไปแล้ว
. . . . . เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมง ก่อนที่หินอุกกาบาตจะพุ่งชนโลก
" รัฐบาลขอประกาศแจ้งเตือนภัย! รัฐบาลขอประกาศให้ประชาชนทุกได้ทราบว่า ขณะนี้ มีเหตุการณ์ร้ายแรงกำลังจะเกิดขึ้น องค์กรอวกาศแห่งชาติได้ตรวจสอบพบเศษหินของอุกกาบาตจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังมุ่งหน้ามายังโลก เศษหินของอุกกาบาตเหล่านี้สามารถสร้างหายนะครั้งใหญ่ให้กับโลก ด้วยความเป็นห่วงในชีวิตของประชาชนทุกคน รัฐบาลขอประกาศอพยพฉุกเฉิน! ขอให้ประชาชนทุกไปที่จุดอำนวยการ กองทัพได้จัดเตรียมรถขนย้ายผู้อพยพทุกคนไปยังศูนย์หลบภัย ขอให้ประชาชนทุกคนตั้งสติอยู่ในความสงบ อย่าแตกตื่น และเดินทางกันด้วยความเป็นระเบียบ "
" ประกาศอีกครั้ง! รัฐบาลขอประกาศแจ้งเตือนภัย! . . . "
เสียงประแจ้งเตือนภัยดังขึ้นอยู่ตลอดเวลา หลังจากองค์กรอวกาศแห่งชาติได้ตรวจสอบพบเศษหินของอุกกาบาตกำลังจะพุ่งมาชนโลกในอีกไม่กี่ชั่วโมง เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ผู้คนทั้งโลกแตกตื่นตกใจ เกิดความวุ่นวายไปทั่วทั้งเมือง กลุ่มคลั่งลัทธิออกมาเคลื่อนไหวสร้างความปั่นป่วนโดยอ้างคำทำนายเรื่องวันสิ้นโลกตามพระคัมภีร์ บางกลุ่มฉวยโอกาสปล้น และเผาทำลายข้าวของ การจราจรบนถนนหลายสายกลายเป็นอัมพาตไม่สามารถเคลื่อนตัวได้ตามปกติ หลายคนเลือกจะเดินเท้าเพื่อมุ่งหน้าไปยังศูนย์อำนวยการ และอีกหลายพันคนเลือกจะขับรถออกไปยังนอกเมือง เพื่ออยู่ให้ห่างจากจุดตกของหินอุกกาบาต
" แฮ่ก! แฮ่ก! " ฟ่านเสียน ชายหนุ่มอายุ 22 ปี มีใบหน้าคมเข้ม ส่วนสูง 175 เขาเป็นหนึ่งในนักกีฬายิงธนูของมหาลัย เขาไว้ผมสั้นสีดำ ชายหนุ่มกำลังวิ่งอย่างกระหืดกระหอบมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน เนื่องจากการจราจรติดขัดทำให้เขาไม่สามารถขับรถยนต์ไปที่ศูนย์อำนวยการได้ ชายหนุ่มเลือกลงจากรถแล้ววิ่งไปที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่อยู่ห่างไปอีกไม่ไกล
" ตู๊ดดด! ตู๊ดดด! " เสียงโทรศัพท์มือถือของ ฟ่านเสียน ดังขึ้น
" ฟ่านเสียน! ทำไมลูกยังมาไม่ถึง! แม่เขาเป็นห่วงลูกมากเลยนะ ตอนนี้ใกล้ถึงคิวที่พ่อกับแม่ต้องขึ้นรถขนย้ายผู้อพยพแล้วนะ " ฟ่านเซิน คุยกับลูกชายของเขาทางโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงกังวล พวกเขาเดินทางมาถึงศูนย์อำนวยการเพื่อจะขึ้นรถไปยังศูนย์หลบภัยตามคำประกาศอพยพ
" พ่อกับแม่ไปรอผมที่ศูนย์หลบภัยก่อนได้เลยครับ! บอกแม่ด้วยว่าผมจะตามไปทีหลังครับ ตอนนี้ผมกำลังไปที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน " ฟ่านเสียน พูดกับพ่อของเขา เนื่องจากชายหนุ่มพักอยู่หอพักใกล้กับมหาลัยเลยไม่ได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่ หลังจากมีประกาศอพยพฉุกเฉินการจราจรในเมืองก็เริ่มวุ่นวาย
" เดี๋ยวพ่อจะบอกกับแม่ให้ ลูกรีบตามมานะ " ฟ่านเซิน รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย ถ้าลูกชายเขานั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาก็จะมาถึงศูนย์อำนวยการพอดี เพราะศูนย์อำนวยการแห่งนี้ตั้งศูนย์บัญชาการอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน
" ที่รัก! ลูกของเราอยู่ไหนแล้ว " ฟ่านหยินเอ๋อ ถามชายผู้เป็นสามีด้วยความร้อนใจ
" เขานั่งรถไฟฟ้ามา! อีกเดี๋ยวก็มาถึง " ฟ่านเสียน กล่าวกับภรรยา
. . . . . . หลังจากนั้น เวลาผ่านไปอีก 1 ชั่วโมง
" ครื้นนนนนนน! ตู้มมมม! "
ทันใดนั้น มีเสียงระเบิดดังกึกก้องขึ้นเหนือท้องฟ้า หินอุกกาบาตจำนวนนับไม่ถ้วนได้ตกลงมา บนท้องฟ้าในเวลานี้ราวกับถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟ มีลูกไฟขนาดเล็กและใหญ่มากมายตกลงมาจากท้องฟ้า บางลูกพุ่งชนทะลุตึกสูงแห่งหนึ่งในเมืองหลังจากนั้นตึกก็ยุบตัวและพังทลายลงมา และมีหลายลูกตกลงมาใส่รถยนต์ที่จอดอยู่บนถนนก่อให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ แรงระเบิดทำให้เศษหินของอุกกาบาตแตกกระจายออกไปรอบๆ สร้างความเสียหายให้กับอาคารบ้านเรืองต่างๆ หลายคนที่เดินอยู่นอกอาคารต่างได้รับบาดเจ็บ บางคนถูกเศษกระจกบาด บางคนถูกสะเก็ดหินอุกกาบาต และเศษหินฝังกระแทกเข้ากับร่าง
ฟ่านเสียน ตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก เขารีบวิ่งลงบันไดของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินอย่างสุดชีวิต เมื่อเห็นลูกไฟจากหินอุกกาบาตตกลงมาใกล้ถึงตัวเขามากขึ้นเรื่อยๆ
" บรึ้มมมมมม! "
หินอุกกาบาตลูกหนึ่งตกลงมาใกล้ๆ บริเวณทางลงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่ ฟ่านเสียน เพิ่งจะวิ่งเข้ามาได้แปบเดียว แรงระเบิดที่รุนแรงทำให้ทางลงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินถูกปิดตาย แรงระเบิดส่งร่างของชายหนุ่มปลิวไปชนกับกำแพงอย่างแรง หลังจากนั้นสติของเขาค่อยๆ เลือนลาง และสลบไป
. . . . . . . . . . . . . . . . . .
หินอุกกาบาตสร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง อาคารหลายแห่งพังถล่มลงมา ผู้คนมากมายยังตกอยู่ในอาการตื่นตระหนก หลายคนกรีดร้องด้วยความตกใจ และหลายคนส่งเสียงโอดคราญเพราะความเจ็บปวด บางคนมีบาดแผลหลายแห่งตามตัวเพราะโดนเศษกระจกบาด และอีกหลายคนกระดูกหักเพราะโดนป้ายล้มทับ หรือโดนเศษหินจากแรงระเบิด
" ช่ะ . . ช่วยยย ช่วยผมด้วยย! แค่ก! ๆ " ชายคนหนึ่งพยายามคลานออกมาจากป้ายโฆษณาที่ล้มทับเพื่อขอความช่วยเหลือ ขาของเขาหักทั้งสองขาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ใบหน้าของเขาซีดขาวบาดแผลของเขาค่อนข้างสาหัสและน่ากลัว
" เฮ้! คุณเป็นยังบ้าง ยังไหวอยู่มั้ย? " ชายหนุ่มอีกคนรีบเขาไปประคองร่างของเขา และพยายามดึงร่างเขาออกมาจากป้ายโฆษณาที่ล้มทับ เขาหันไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ให้มาช่วย เพราะป้ายที่ทับขาชายหนุ่มคนนี้มันหนักเกินไป เขาไม่สามารถยกมันคนเดียวไหว แต่ทันใดนั้นเอง มีบางอย่างเกิดขึ้นกับร่างของหญิงสาวๆ ที่นอนหมดสติอยู่ข้างๆ
ในตอนแรกหญิงสาวนอนคว่ำหน้าหมดสติอยู่ แต่จู่ๆ ร่างของเธอก็กระตุกอย่างแรงแล้วก็ลุกขึ้นมาอยู่ในท่านั่ง ตามร่างกายของเธอมีบาดแผลหลายแห่ง แต่มีหินแปลกๆ ก้อนสีดำขนาดเท่ากำปั้นแทงอยู่ที่หน้าอกของเธอ ผิวหนังของเธอค่อยๆ เปลี่ยนกลายเป็นสีม่วงคล้ำ
" คุณครับ! คะ . . คุณเป็นไงบ้าง? ได้ยินผมหรือเปล่า" ชายหนุ่มอยู่ไม่ไกลจากหญิงสาว เขาถามเธอด้วยความเป็นห่วง แต่ภายในใจของเขารู้สึกกลัวโดยไม่ทราบสาเหตุ
ร่างของหญิงสาวยังสั่นกระตุก ทันทีที่ได้ยินเสียงชายหนุ่มเรียก เธอก็หันหน้ามองไปที่ชายหนุ่มด้วยแววตาที่เหมือนกับสัตว์ป่าที่หิวกระหาย เธอแสยะยิ้มมีของเหลวสีดำไหวออกมาจากมุมปาก เธอลุกขึ้นยืนแล้วก็วิ่งเข้าหาเขาทันทีพร้อมกับกัดแขนของเขา
" อ๊ากกกกกก! " ชายหนุ่ม กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เขาตกใจเป็นอย่างมาก เขาพยายามสลัดเธอให้หลุดออกไป แต่ก็ไม่สำเร็จหญิงสาวกลับยิ่งกัดเขาแรงมากขึ้น เขาเจ็บจนทนไม่ไหวเลยถีบไปร่างของเธออย่างแรง เนื้อบนแขนของเขาหลุดไปพร้อมกับร่างของหญิงสาว
ร่างของหญิงสาวม้วนกลิ้งไปพื้นหลายตะลบก่อนจะหยุดนิ่ง ปากของเธอเละไปด้วยเลือด ดวงตาของเธอจ้องมองมาที่เขาและแสยะยิ้มอีกครั้ง มันเป็นภาพที่น่าสยดสยองเป็นอย่างมาก
ชายหนุ่ม เอามือกุมแผลห้ามเลือดบนแขนของเขาด้วยความสั่นกลัว เขาไม่คิดไม่ถึงว่าหญิงสาวกัดเขาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว เขาตะโกนต่อว่าเธอด้วยน้ำเสียงโกรธ " คุณบ้าไปแล้วหรือไง๊! "
หลายคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันตกตะลึงในพฤติกรรมแปลกๆ ของหญิงสาว พวกเขาสงสัยว่าทำไมเธอถึงต้องทำร้ายเขาด้วย แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้รับคำตอบก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นอีก มีหลายคนที่เป็นเหมือนกับเธอกำลังวิ่งไล่กัดคนอื่นๆ เลือดไหลสาดกระจายออกมาจากบาดแผลราวกับน้ำพุ พวกมันกัดกินร่างของเหยื่อราวสัตว์ป่าที่หิวกระหาย
" พ่ะ พะ พวกเขาไม่ใช่คน! หหนี เร็วเข้า! " ผู้ชายคนหนึ่ง ตะโกนร้องเสียงดัง ก่อนหันหลังแล้ววิ่งหนี
" อ๊ากกกก! อย่ากัดฉานนนน! "
" อ๊ายยยยยยยย! ออกไปนะ! ออกไป! "
เกิดความโกลาหลผู้คนต่างพากันวิ่งหนีวุ่นวายไปหมด คนเหล่านั้นติดเชื้อจากไวรัสที่มากับหินอุกกาบาต พวกเขาเปลี่ยนกลายเป็น ซอมบี้ในช่วงเวลาสั้นๆ แม้จะเป็นเพียงร่างที่ไร้วิญญาณ แต่จิตใต้สำนึกของพวกเขาถูกควบคุมด้วยไวรัส ความต้องการพื้นฐานอย่างเดียวของพวกมันคือ การกิน
. . . . . . .
เวลาผ่านไปเป็นเวลาหลายชั่วโมง ชายหนุ่มค่อยๆ ฟื้นคืนสติ
ฟ่านเสียน ค่อยๆ ลืมตาขึ้น ในตอนแรกสายตาของเขายังพร่ามัว แต่ไม่นานการมองเห็นของเขาก็กลับคืนมาปกติ และมีเสียงสัญญาณเตือนไฟไหม้ดังอยู่ตลอดเวลา เสียงของมันทำให้เขาปวดหัวรุนแรงมากกว่าเดิม เส้นเลือดตรงขมับบวมปูดขึ้นราวกับมันจะแตกออกมา เขาพยายามตั้งสติ
อาการปวดหัวที่รุนแรงทำให้เขาต้องกัดฟันแน่น ความมึนงงและสับสนหลั่งไหลเข้ามาทำให้เขารู้สึกเวียนหัว เขานั่งพักหายใจอยู่ครู่หนึ่งอาการของเขาค่อยๆ ดีขึ้น เขาค่อยๆ ปะติดปะต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
" โอ๊ยย! ซี๊ดด! " เขาเอามือจับแผลบนศีรษะ ดูเหมือนแผลของเขาจะไม่ใหญ่มาก ตอนนี้แผลเริ่มแห้งไม่มีเลือดไหลออกมาแล้ว แรงระเบิดจากหินอุกกาบาตที่ตกลงมา ทำให้ทางออกที่ชายหนุ่มเดินเข้ามาในตอนแรกถูกปิดตาย มีหินถล่มลงมามากมายปิดกั้นทางออกเอาไว้
ฟ่านเสียน เดินตามทางเดินลงไปอีกชั้นของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ทันใดนั้น เขาได้ยินเสียงเอะอะ มีเสียงกรีดร้องดังมาจากชั้นล่าง เสียงกรีดร้องนั้นทำให้เขาตกใจ หัวใจของเขาตอนนี้เต้นแรงเหมือนมันจะหลุดออกมาข้างนอกให้ได้ เขาพยายามข่มใจให้สงบแล้วเดินเข้าไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น
สิ่งที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้ากลับทำให้เขาตกตะลึงจนตัวแข็งทื่อ ร่างของชายคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนร่างของหญิงสาว ปากของเขาเลอะไปด้วยเลือด มือข้างหนึ่งของเขาถือลำไส้พร้อมกับกัดกินอย่างหิวกระหายราวกับสัตว์ป่า กลิ่นคาวเลือดที่รุนแรงลอยตามลมทำให้เขาพะอืดพะอมจนแทบจะอ้วกออกมา
" แย่แล้ว! " ความคิดของเขาดังขึ้นในหัวทันที มันเหมือนกับที่เขาเคยเห็นในหนังมาก่อน แน่นอนว่ามันคือ ซอมบี้ แม้เขาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้เห็นตอนนี้ ซอมบี้ยังไม่ทันสังเกตเห็นเขา เพราะมันกำลังก้มหน้าก้มตากัดกินเนื้อของหญิงสาว เขาค่อยๆ ก้าวถอยหลังด้วยอาการสั่นกลัว ทันทีที่เขาหันตัวกลับเพื่อจะเดิบหลบไปอีกทาง
" แกร๊งงง! "
มือของเขาดันไปเกี่ยวโดนถังขยะสแตนเลสเข้าโดยบังเอิญ ถังขยะล้มลงกระแทกพื้นเสียงดังสนั่น เขาพยายามจากไปอย่างเงียบๆ แต่ไม่คิดว่าเขาจะซุ่มซ่ามในเวลาแบบนี้ หัวใจของเขาตอนนี้เหมือนตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม
" แฮร่รรรร! " ซอมบี้ ส่งเสียงคำราม ก่อนมันจะวิ่งตรงมาหาเขา
ฟ่านเสียน ได้ยินเสียงคำรามของซอมบี้ชายหนุ่มก็ไม่รอช้าอีกต่อไป เขารีบวิ่งหนีอย่างสุดชีวิตโดยมีซอมบี้วิ่งไล่ตามหลังมา ในเวลานี้เขาแทบจะคิดอะไรไม่ออก ชายหนุ่มมองเห็นป้ายห้องน้ำอยู่ด้านหน้า เขาวิ่งเข้าไปในห้องน้ำแล้วรีบปิดประตูทันที ชายหนุ่มใช้ตัวดันประตูเอาไว้เพราะประตูห้องน้ำไม่มีกลอนล็อคประตูจากด้านใน
" โครมมม! " ซอมบี้ พุ่งชนประตูอย่างแรง
ร่างเขาโดนแรงกระแทกจากประตูกลิ้งไถลกับไปพื้นหลายเมตรก่อนจะหยุดลง เขาพยายามเอามือยันตัวลุกขึ้นจากพื้น แม้ตอนนี้เขาเจ็บปวดจนแทบจะลุกไม่ไหว เขาไม่คิดว่าซอมบี้จะมีแรงเยอะขนาดนี้ ดูเหมือนชะตาชีวิตของเขาคงจบลงตรงนี้