หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

ระบบเจ้าสำนัก***(จบแล้ว)*** - ตอนที่  22 : ทวงหนี้แค้น (I)

  1. หน้าแรก
  2. ระบบเจ้าสำนัก***(จบแล้ว)***
  3. ตอนที่  22 : ทวงหนี้แค้น (I)
Prev
Next
ตอนที่  22 : ทวงหนี้แค้น (I)

จางหยูรู้สึกพอใจกับท่าทีเคารพเลื่อมใสของเหล่าลูกศิษย์ แต่เขาก็แสร้งทำสีหน้าไร้อารมณ์ออกมา เพื่อให้ภาพลักษณ์ของเขาดูเท่

 

“เป็นยังไง เห็นกันชัดเจนรึไม่ ?” จางหยูยืนเอามือไพล่หลังแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย

 

เมื่อได้ยินแบบนั้น อู่โม่, อู่ซินซิน, หลินหมิงและคนอื่นๆ ต่างก็พยักหน้าด้วยท่าทีตื่นเต้น  อู่โม่ถามอย่างเคร่งเครียดว่า “ท่านเจ้าสำนัก เคล็ดวิชาที่ร้ายกาจเช่นนี้ เป็นแค่เคล็ดวิชาระดับธรรมดาขั้นกลางจริงๆรึ ? “ แม้ว่าชื่อของมันจะดูเรียบง่าย แต่พลังของมันกลับน่ากลัวเป็นอย่างมาก ศิษย์ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนประจักษ์แก่สายตา และอยากที่จะเรียนรู้มัน

 

พวกเขาไม่หวังว่าหลังจากที่เรียนรู้แล้ว จะสามารถใช้มันได้อย่างทรงพลังเหมือนกับจางหยู ขอแค่ได้สัก 1/10 พวกเขาก็พอใจแล้ว

 

เคล็ดวิชาแบบนี้ หากไม่เรียนรู้คงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต !

 

“ใช่แล้วเจ้าสำนัก ในความเห็นของข้า เคล็ดวิชานี้ควรอยู่ระดับวิญญาณขั้นกลางหรือขั้นสูงมากกว่า" หลินหมิงพูดขึ้นมา “ยิ่งไปกว่านั้น ชื่อของมันก็เรียบง่ายเกินไป ทำไมท่านไม่ตั้งชื่อให้ดูน่าเกรงขามกว่านี้ล่ะ? อย่างเช่นสับสายลม พายุแห่งความตาย…” ขณะพูดหลินหมิงก็วาดไม้วาดมือตามไปด้วย “ชื่อแบบนี้ดูดีจะตาย!”

 

จางหยูส่ายหน้ายิ้มๆ “ชื่อก็เป็นเพียงแค่ตัวเรียกเท่านั้น มันไม่สำคัญว่าจะถูกเรียกว่าอะไร สิ่งที่สำคัญก็คือพลังของมันต่างหาก ก็อย่างที่เจ้าพูด เคล็ดวิชานี้ทรงพลังไม่แพ้ระดับวิญญาณขั้นสูงเลยสักนิด”

 

นอกจากจางหยูแล้ว ไม่มีใครรู้ที่มาของคำว่า “ฟัน” และยิ่งไม่มีใครรู้ว่าพลังของ “ฟัน” นั้นแข็งแกร่งเพียงใด

 

ก็เหมือนกับ “ทักษะจี๋อู่” เคล็ดวิชา “ฟัน” คือเคล็ดวิชาที่ผ่านการดัดแปลงมาจากการมองทะลุของจางหยู จนมันกลายเป็นเคล็ดวิชาที่สมบูรณ์แบบ เดิมทีมันคือ “ฝ่ามือพายุ” เคล็ดวิชาระดับธรรมดาขั้นกลาง ซึ่งมีข้อผิดพลาด 573 จุด จางหยูใช้พลังไปมากกับการอ่านเคล็ดวิชาประเภทฝ่ามือนับร้อยๆเล่ม ทั้งยังนำจุดที่ถูกต้องในเคล็ดวิชาเหล่านั้นมาหลอมรวมเข้าด้วยกัน และสร้างเป็นเคล็ดวิชา “ฟัน” เคล็ดวิชาที่สมบูรณ์แบบที่สุดในเคล็ดวิชาระดับธรรมดาขั้นกลาง

 

[เคล็ดวิชา : ฟัน (ระดับธรรมดาขั้นกลาง มีข้อผิดพลาด 0 จุด)]

 

พลังของเคล็ดวิชานี้ไม่ทำให้จางหยูต้องผิดหวัง ความจริงได้พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า พลังของมันแข็งแกร่งยิ่งกว่าเคล็ดวิชามังกรคชสารและกระบี่ใบไม้ร่วง ที่เป็นเคล็ดวิชาระดับวิญญาณเสียอีก ตามการคาดเดาของเขา พลังของมันเทียบเท่าได้กับเคล็ดวิชาระดับวิญญาณขั้นสูง ไม่สิมันอาจจะแข็งแกร่งกว่านั้นเล็กน้อย

 

ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา นอกจากจางหยูจะสอน “ทักษะจี๋อู่” ฉบับดัดแปลง และสอนการปรุงยาให้กับอู่โม่แล้ว เวลาส่วนใหญ่ที่เหลือ จางหยูก็ทุ่มให้กับการบ่มเพาะและฝึกฝนเคล็ดวิชาต่างๆ นอกจากเคล็ดวิชา “ฟัน” แล้ว เขายังได้แก้ไขเคล็ดวิชาอื่นๆให้สมบูรณ์แบบ ทว่าในบรรดาเคล็ดวิชาที่สมบูรณ์แบบเหล่านั้น “ฟัน” คือเคล็ดวิชาที่ทรงพลังที่สุดแล้ว และมันมีคุณสมบัติที่จะกลายเป็นสัญลักษณ์ของสำนักคังเฉียง

 

“ทักษะจี๋อู่” บวกกับ “ฟัน” รอจนลูกศิษย์กลุ่มนี้เติบโตขึ้น แต่ละคนก็จะมีจุดยืนเป็นของตัวเอง

 

“ไม่ได้ด้อยไปกว่าเคล็ดวิชาระดับวิญญาณขั้นสูง…” หลินหมิงและคนอื่นๆต่างเบิกตากว้าง พร้อมกับหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง

 

แม้แต่อู่โม่และอู่ซินซินก็แสดงสายตาที่คาดหวังออกมา พวกเขามองไปที่จางหยูอย่างกระหายใคร่รู้ แทบจะอดใจไม่ไหวอยากจะเรียนรู้เคล็ดวิชา “ฟัน” ในตอนนี้เลย

 

พวกเขาไม่รู้ว่าในเมืองทะเลทรายแห่งนี้ มีเคล็ดวิชาระดับวิญญาณขั้นสูงหรือไม่ บางทีอาจจะมี หรือไม่มี แต่ไม่ว่าจะมีหรือไม่ มันก็ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา เพราะพวกเขาก็ไม่เคยได้ยินหรือเคยเห็นมันมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาคงไม่มีโอกาสได้เรียนเคล็ดวิชานั้นแน่

 

แต่ตอนนี้ พวกเขาได้มีโอกาสเรียนรู้เคล็ดวิชาที่มีพลังเทียบเท่ากับเคล็ดวิชาระดับวิญญาณขั้นสูง จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงตื่นเต้นขนาดนี้

 

“ ไม่ต้องรีบ” เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาคาดหวังจากเหล่าลูกศิษย์ จางหยูก็พูดขึ้นอย่างช้าๆว่า “ในเมื่อข้าเคยบอกว่าจะสอนพวกเจ้า ดังนั้นข้าไม่ผิดคำพูดหรอก แต่ว่าตอนนี้ข้ามีธุระอื่นที่ต้องทำ”

 

ในระหว่างที่พูด เขาก็ละสายตาจากศิษย์มองไปยังศพของจั่นเฟิงและลัวจวินที่ฝังอยู่ใต้เศษหิน พร้อมกับความทรงจำมากมายที่ไหลเข้ามาในหัวเขา

 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้พบจั่นเฟิงและลัวจวิน  อันที่จริงแล้วเขาเคยเจอกับพวกนี้เมื่อ 7 ปีก่อน

 

จางหยูไม่มีทางลืมได้  วันนั้นเมื่อ 7 ปีก่อน ท่ามกลางไฟแห่งความโกลาหล มีคนมากมายแห่กันเข้ามาในสำนักคังเฉียงเพื่อปล้นและทำลายทุกอย่างในสำนักคังเฉียง ในตอนนั้นเขายังอ่อนแอ จึงทำได้เพียงเฝ้ามองทุกอย่างที่เกิดด้วยความสิ้นหวัง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ฝังลึกอยู่ในใจเขา จนกระทั่งวันนี้จางหยูก็ไม่อาจจะลืมเลือนมันได้

 

และจั่นเฟิงกับลัวจวิน ก็คือผู้นำกลุ่มที่บุกเข้ามาในปีนั้น

 

นอกจากสองคนนี้แล้ว ยังมีผู้นำคนอื่นๆอีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็นหลินไห่หยา เจ้าสำนักเฉินกวง, ลัวเยว่ซาน เจ้าสำนักหยุนซาน, ตู้รั่วหยุน อดีตรองเจ้าสำนักคังเฉียง, โม่เทียนโฉว อดีตครูฝึกสำนักคังเฉียง และยังมีผู้นำตระกูลเติ้ง เติ้งเป่ยเซียว, ผู้นำตระกูลลวี่ สวี่หยาง และผู้นำตระกูลฮั้ว ฮั้วคุน  หรือในอีกความหมายหนึ่งก็คือ 9 คนนี้ คือผู้ที่วางแผนสร้างความวุ่นวายให้กับสำนักคังเฉียง !

 

ความจำของจางหยูไม่ได้ดีนัก ดังนั้นจึงจำคนอื่นไม่ได้นอกจาก 9 คนที่เป็นผู้นำในครั้งนั้น

 

“ตายไปแบบนี้ก็สมควรแล้ว” เดิมทีจางหยูก็คิดว่าจะไปเยือนที่สำนักเฉินกวงและสำนักหยุนซาน แต่พอเกิดเรื่องในเย็นนี้ขึ้น เขาก็เปลี่ยนใจขึ้นมา เขาเงยหน้าขึ้นและมองยังทิศที่สำนักเฉินกวงและสำนักหยุนชานตั้งอยู่  “ บางทีคงได้เวลาที่จะไปหาพวกนั้นแล้ว !”

 

จางหยูส่ายหน้าและหันกลับมาพูดกับอู่โม่, อู่ซินซิน, หลินหมิง และคนอื่นๆว่า “เอาล่ะ นี่มันดึกแล้ว พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว”

 

แม้พวกลูกศิษย์จะสงสัยว่าจางหยูคิดจะทำอะไรต่อ แต่ในเมื่อจางหยูไม่พูด ก็ไม่มีใครกล้าถาม แต่ละคนพากันออกไปจากสำนักอย่างเชื่อฟัง

 

หลังจากที่ศิษย์ทุกคนกลับไปแล้ว จางหยูก็ล้วงถุงผ้าสีเทาออกมาจากแขนเสื้อ และเดินไปที่ประตูสำนัก

 

ภายใต้แสงจันทร์สลัว เงาของจางหยูยืดยาวออกไปทุกทีๆ ท่ามกลางความมืดได้ซุกซ่อนจิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัวเอาไว้!

…

หลังจากนั้นไม่นาน ณ.ประตูใหญ่ของสำนักเฉินกวง มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีลักษณะประหนึ่งคมในฝักและท่าทางที่สงบนิ่งยืนอยู่ด้านหน้า ในมือของเขาถือถุงผ้าสีเทา ขณะที่ในปากก็กำลังเคี้ยวอะไรบางอย่างเป็นของทานเล่น

 

ขณะที่ปากกำลังเคี้ยว สายตาของเขาก็จ้องมองไปที่ด้านในของสำนักเฉินกวง

 

สำนักเฉินกวงในยามค่ำคืนช่างเงียบสงัด นอกจากครูฝึกกับศิษย์ไม่กี่คนที่พักในสำนักแล้ว ศิษย์ส่วนมากจะกลับบ้านของตัวเอง

 

จางหยูกลืนยาฉีซวนเข้าไป จากนั้นก็ก้าวเท้าตรงไปที่สำนักเฉินกวง

 

“ หยุด !” ก่อนที่จางหยูจะได้ผ่านประตูเข้าไป ก็มียามวัยกลางคนตะโกนออกมา จากนั้นก็ถามเสียงดังว่า “เจ้าอยู่ชั้นเรียนไหน ? ก่อนจะเข้าสำนักต้องแสดงตราประจำตัวของเจ้าก่อน กฎนี้ไม่อาจจะฝ่าฝืนได้เข้าใจใช่ไหม?” เขามองไปที่จางหยูด้วยท่าทีไม่พอใจ โดยคิดว่า จางหยูเป็นศิษย์ของสำนักเฉินกวง

 

สำนักเฉินกวงคือ 1 ใน 2 สำนักที่ดีที่สุดในเมืองทะเลทราย มีศิษย์หลายพันคน ดังนั้นมันย่อมเป็นไปไม่ได้ที่ยามจะรู้จักทุกคน

 

จางหยูมองไปที่ยามวัยกลางคน ก่อนจะละสายตาแล้วเดินเข้าไปต่อ

 

ในเมื่อเขาตัดสินใจที่จะทวงแค้น ดังนั้นเขาไม่จำเป็นที่จะต้องอ่อนน้อมอีกต่อไป แต่เกี่ยวกับยามอะไรนี่ หลังจากนี้เขาจะต้องจัดหายามให้กับสำนักคังเฉียง เพื่อที่จะทำให้สำนักดูน่าเชื่อถือมากกว่านี้

 

“เจ้า…” ยามวัยกลางคนรู้สึกเหมือนกำลังโดนท้าทาย ดังนั้นเขาจึงโมโหขึ้นมา ขณะกำลังจะต่อว่าจางหยู จู่ๆร่างของจางหยูก็หายไปต่อหน้าต่อตาราวกับเป็นภูติผีก็ไม่ปาน

 

รูม่านตาของยามพลันหดเล็กลง สีหน้าของเขาเริ่มซีดเผือด ฟันกระทบกันดังกึกๆ ก่อนจะแหกปากร้องอย่างสิ้นหวังว่า “ ผี ผี !”

 

จางหยูที่โผล่ห่างจากตรงจุดเดิมหลายสิบฟุต ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของยามจากทางด้านหลัง เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ผี? บนโลกนี้มีผีด้วยรึ ?” เขาส่ายหน้า ก่อนจะซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด เพื่อคอยสังเกตสถานการ์โดยรอบ

 

หลังจากนั้นสักพัก เหล่าครูฝึกก็ตื่นขึ้นเพราะเสียงกรีดร้องของยาม พวกเขาพากันมารวมตัวกันที่นี่เพื่อสอบถามสิ่งที่เกิดขึ้น

 

เมื่อได้ยินสิ่งที่ยามวัยกลางคนอธิบาย แต่ละคนก็พ่นลมหายใจออกมา “ ผี ? มีผีในโลกนี้ที่ไหนกัน  !”

 

“ เงียบก่อน” ในหมู่ผู้คน มีครูฝึกวัยกลางคนที่ดูน่าเกรงขามพูดขึ้นมาด้วยเสียงที่เคร่งขรึม “ผีน่ะไม่มีหรอก แต่ข้าเชื่อว่าหลี่เทียนหยงไม่ได้โกหก ดังนั้น…”

 

ครูฝึกอีกคนตอบกลับ  “ เจ้าหมายความว่ามีผู้บุกรุก….”

 

ทันทีที่คำพูดนี้ดังขึ้นมา ทุกคนก็ตื่นตัวทันทีพร้อมกับแสดงท่าทีเหลือเชื่อออกมา สำนักเฉินกวงคือ 1 ใน 2 สำนักที่ใหญ่ที่สุดในเมืองทะเลทราย ใครกันที่กล้ามาก่อความวุ่นวายในสำนักเฉินกวงได้ ?

 

“ ออกค้นหา !” ไม่รู้ว่าครูฝึกวัยกลางคนที่ดูมีอำนาจกำลังคิดอะไรอยู่ ถึงได้รีบร้อยสั่งการออกมา “ออกค้นหาตัวผู้บุกรุกทันที ต่อให้ต้องขุดดินลึกลงไปสามฉื่อ ก็ต้องลากตัวมันออกมาให้ได้!”

 

ด้านหลังต้นไม้ใหญ่ จางหยูจับตามองครูฝึกวัยกลางคนผู้นั้นอย่างไม่ละสายตา แววตาของเขาวาวโรจน์ขึ้นมาเล็กน้อย “ นั่นเขา!”

 

จางหยูไม่เพียงแค่จำชายคนนี้ได้ แต่ยังจำได้ดีอีกด้วย  

 

โม่เทียนโฉว คือหนึ่งในตัวการที่อยู่เบื้องหลังในการสร้างความวุ่นวายให้กับสำนักคังเฉียง เขายังเป็นอดีตครูฝึกของสำนักคังเฉียงอีกด้วย แต่ตอนนี้เขาได้เปลี่ยนสถานะเป็นครูฝึกของสำนักเฉินกวงแล้ว และยังดูเหมือนจะมีตำแหน่งที่สูงพอสมควร

 

“ดูเหมือนโชคของข้าจะไม่เลวเลย ถึงได้เจอหนึ่งในเป้าหมายเร็วขนาดนี้” รอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของจางหยู เขาอารมณ์ดีขึ้นมาทันที จนอดไม่ไหวต้องหยิบยาฉีซวนในถุงผ้าขึ้นมากิน และเคี้ยวยาอย่างผ่อนคลาย

 

ตอนที่เคี้ยวยาอยู่นั้น จางหยูก็ก้าวเท้าออกมาจากหลังต้นไม้และปรากฏตัวต่อหน้าผู้คน พร้อมกับทักทายด้วยรอยยิ้ม “อวกเอ้าอามอาอ้าอู่อึ?” เนื่องจากยังกินยาฉีซวนในปากไม่หมด คำพูดจึงดูแปลกๆไปบ้าง แต่หลังจากที่กลืนมันเรียบร้อยแล้ว เขาก็พูดซ้ำขึ้นมาอีกรอบ “พวกเจ้าตามหาข้าอยู่รึ ?”

 

การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของจางหยูได้สร้างความตกใจให้กับฝูงชน หลังจากที่เห็นจางหยูอย่างชัดเจน ครูฝึกวัยกลางคนที่มีอำนาจมากที่สุด หรือคนที่จางหยูเรียกว่าโม่เทียนโฉว ก็แสดงท่าทีตกตะลึงออกมา จากนั้นก็เอ่ยถามเสียงขรึมว่า “จางหยู ? เจ้ามาที่นี่ทำไม?”

 

รอยยิ้มขี้เล่นปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าจางหยู  “ ทำไมข้าจะมาที่นี่ไม่ได้ ?”

 

ระหว่างที่พูดคุยกันอยู่นั้น นิ้วของเขาก็ล้วงเข้าไปในถุงสีเทา และหยิบยาฉีซวนขึ้นมากินต่อหน้าทุกคน ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงัด เสียงเคี้ยวของจางหยูจึงดังอย่างชัดเจน

 

“หรือว่า…” สีหน้าของโม่เทียนโฉวพลันเปลี่ยนไป เมื่อนึกขึ้นได้ว่าจั่นเฟิงและลัวจวินยังไม่กลับมา ในใจก็เต้นไม่เป็นส่ำ “หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา…” จั่นเฟิงและลัวจวินถูกส่งไปลอบสังหารจางหยูเมื่อช่วงบ่าย แต่ตอนนี้จางหยูกลับปรากฏตัวขึ้นที่นี่อย่างปลอดภัย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสองคนนั้นทำภารกิจล้มเหลว

 

ในสายตาของโม่เทียนโฉวแฝงไปด้วยความกังวล สีหน้าจึงดูเคร่งเครียดขึ้นมา เขาหันไปสั่งครูฝึกที่อยู่ข้างกายว่า “ไปที่สำนักคังเฉียง…”

 

ครูฝึกต่างก็พยักหน้า แต่ตอนที่จะแยกย้ายออกไปนั้น

 

“ ไม่ต้องไปหรอก “

 

จางหยูยิ้มน้อยๆออกมา เขายังคงจ้องมองไปที่โม่เทียนโฉวแล้วพูดขึ้นอย่างช้าๆว่า “ไม่ต้องเสียเวลาส่งคนไปสืบข่าวหรอก จั่นเฟิงและลัวจวินตายแล้ว อีกอย่างพวกนั้นฝากข้ามาบอกเจ้าว่า ในนรกน่ะโดดเดี่ยวเกินไป และหวังจะให้ข้าช่วยส่งเจ้าลงไปหาพวกเขา”

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "ตอนที่  22 : ทวงหนี้แค้น (I)"

4.2 5 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

เถ้าแก่ขั้นเทพ!
เถ้าแก่ขั้นเทพ!
มีนาคม 12, 2022
วันสิ้นโลก
วันสิ้นโลก
มีนาคม 12, 2022
ข้ามเวลาล่าฝัน!
ข้ามเวลาล่าฝัน!
มีนาคม 12, 2022
เทพสงครามสายเลือดมังกร
เทพสงครามสายเลือดมังกร
มีนาคม 12, 2022
กระทะเหล็กกู้โลก
กระทะเหล็กกู้โลก
มีนาคม 12, 2022
คัมภีร์มัจจุราช
คัมภีร์มัจจุราช
มีนาคม 12, 2022
Tags:
นิยายลิขสิทธิ์
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz