หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

ระบบเจ้าสำนัก***(จบแล้ว)*** - ตอนที่  20 : คู่หูสมองหมู

  1. หน้าแรก
  2. ระบบเจ้าสำนัก***(จบแล้ว)***
  3. ตอนที่  20 : คู่หูสมองหมู
Prev
Next
ตอนที่  20 : คู่หูสมองหมู

ใบหน้าของจั่นเฟิงบิดเบี้ยวไป เมื่อเห็นว่าอู่ซินซินยังจะทำการโจมตีอีกครั้ง  เขาอดไม่ได้ที่จะกัดฟันแล้วพูดขึ้นมา “ช้าก่อน !”

 

ใครจะไปรู้ว่าอู่ซินซินไม่ฟังเลยแม้แต่น้อย นางยังคงทำการโจมตีอย่างต่อเนื่อง

 

“หยุดมือ ! ข้าคือจั่นเฟิง รองเจ้าสำนักเฉินกวง เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ !” จั่นเฟิงรีบตะโกนออกมาเสียงดัง

 

เมื่อได้ยินแบบนั้น อู่ซินซินก็หยุดมือทันที โดยที่มือขาวผ่องยังคงค้างอยู่กลางอากาศ ห่างจากตัวจั่นเฟิงไปไม่กี่ฟุต

 

อีกด้านหนึ่ง หลินหมิงและคนอื่นๆเองก็หยุดสู้กับลัวจวิน หลังจากเว้นระยะห่างแล้ว หลินหมิงและคนอื่นๆต่างก็มองไปที่จั่นเฟิง พร้อมกับคอยระวังตัวจากลัวจวิน

 

“ติ๋ง” เมื่อเห็นฝ่ามือที่จ่ออยู่ตรงหน้า เหงื่อเม็ดโตบนหน้าผากของจั่นเฟิงก็หยดลงมา

 

อู่ซินซินมองจั่นเฟิงอย่างสงสัย “รองเจ้าสำนักเฉินกวง?”

 

เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาที่จับจ้องมา จั่นเฟิงก็สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วค่อยๆถอดผ้าดำบนใบหน้าออกเผยให้เห็นใบหน้าของตน

 

เรื่องมาถึงตรงนี้แล้ว เขาไม่มีทางที่จะปกปิดตัวเองได้ มีแค่การเปิดเผยตัวตนออกมาเท่านั้น เขาถึงจะมีโอกาสรอด

 

“นั่นเขา!”

 

“จั่นเฟิง รองเจ้าสำนักเฉินกวง !”

 

“ มันเป็นเขาจริงๆด้วย !”

 

หลินหมิงและคนอื่นๆต่างก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมา

 

พวกเขาเคยเห็นจั่นเฟิงจากที่ไกลๆมาก่อน จึงเป็นธรรมดาที่จะจำได้ทันที

 

 “ดูเหมือนว่าข้าจะเคยเห็นเจ้ามาก่อน….” อู่ซินซินมองไปที่จั่นเฟิงด้วยท่าทีแปลกใจ “งั้นเจ้าก็เป็นรองเจ้าสำนักเฉินกวงจริงๆงั้นรึ?”

 

ตอนนี้เอง เหมาฉางเฟิงก็ขมวดคิ้วและพูดขึ้นมาว่า “ถ้าเจ้าเป็นรองเจ้าสำนักเฉินกวง งั้นเขาก็….” ระหว่างที่พูดนั้นเขาก็มองไปที่ ลัวจวิน

 

“ข้าคือลัวจวิน!” ลัวจวินถอดผ้าสีดำออกอย่างไม่ลังเล เพื่อเปิดเผยตัวตนของตัวเอง “รองเจ้าสำนักหยุนซาน ลัวจวิน”

 

“ไม่ผิดแน่ เขาคือรองเจ้าสำนักหยุนซาน ลัวจวินจริงๆ” เหมาฉางเฟิงพยักหน้า เห็นได้ชัดว่าเขาจำลัวจวินได้

 

จางเฮิงหยางกระซิบออกมาว่า “คนหนึ่งเป็นรองเจ้าสำนักเฉินกวง อีกคนเป็นรองเจ้าสำนักหยุนซาน แล้วสองคนนี้มาทำอะไรที่สำนักคังเฉียง?”

 

หลินหมิงส่งเสียงฮึดฮัดออกมา “ไม่ใช่ว่าพวกเขาเคยพูดไปแล้วรึ ? เป้าหมายของพวกเขาก็คือฆ่าเจ้าสำนัก !”

 

เมื่อได้ยินคำพูดของหลินหมิง ทุกคนก็นึกขึ้นมาได้ว่าลัวจวินเคยพูดแบบนั้นมาก่อน  ใบหน้าของพวกเขาต่างเย็นชาขึ้นมาทันที

 

“กระทั่งพวกเราก็ยังเอาชนะไม่ได้ แต่กลับคิดที่จะสังหารเจ้าสำนัก ไม่รู้ว่าไปเอาความกล้านี้มาจากไหน” จางเฮิงหยางเยาะเย้ยขึ้นมา

 

จั่นเฟิงไม่ได้สนใจคำพูดเสียดสีของจางเฮิงหยาง เขาพูดขึ้นมาอย่างใจเย็นว่า “ข้าผู้เฒ่ายอมรับว่า ประเมิณพวกเจ้าต่ำไปจริงๆ แต่พวกเจ้าก็อย่าได้คืบจะเอาศอก! อย่าลืมสิว่า ข้าผู้เฒ่าคือรองเจ้าสำนักเฉินกวง หากข้าตายที่นี่ เจ้าสำนักเฉินกวงจะต้องมาแก้แค้นให้ข้าแน่!”

 

สำนักเฉินกวงคือแบคอัพที่ใหญ่ที่สุดของเขา มีที่พึ่งที่ใหญ่แบบนี้อยู่ ต่อให้เป็นตัวอู่เฉินเอง ก็ไม่กล้าที่จะจัดการเขาง่ายๆ

 

จั่นเฟิงรู้ว่าเขาไม่อาจเอาชนะอู่ซินซินและกลุ่มหลินหมิงได้ ดังนั้นจึงตั้งใจจะใช้ฐานะของตัวเองข่มขู่อีกฝ่าย

 

ลัวจวินเช็ดเลือดที่มุมปาก พลางกล่าวเสียงเย็นยะเยือกว่า “พวกเจ้าควรคิดดูดีๆ! หากวันนี้พวกเราสองคนตายไป สำนักเฉินกวงและสำนักหยุนซานจะไม่ปล่อยพวกเจ้าไปแน่!”

 

เมื่อได้ยินแบบนั้นทุกคนก็มองหน้ากันด้วยความลังเล

 

จางเฮิงหยางมองไปรอบๆ แล้วถามอย่างลังเลว่า “พวกเราจะทำยังไงกันดี ?”

 

เหมาฉางเฟิงมองไปที่จั่นเฟิงและลัวจวินอย่างครุ่นคิด

 

“ยังจะมัวลังเลอะไรอีก ในความเห็นของข้าแล้ว ต้องฆ่า!” หลินหมิงพูดออกมาอย่างเย็นชา แววตาของเขาไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ “ระหว่างพวกเรากับสองสำนักนั่น มันต้องตายกันไปข้างหนึ่ง!”

 

เมื่อได้ยินแบบนั้น เหมาฉางเฟิงก็ส่ายหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว “ข้าไม่กลัวตาย แต่ถ้าฆ่าสองคนนี้ที่นี่ จะส่งผลกระทบอะไรกับสำนักคังเฉียง?”

 

“นั่นมัน…..” เมื่อได้ยินแบบนั้น หลินหมิงก็นิ่งไป แม้ว่าจะยังแค้นเคือง แต่ใบหน้าของเขาก็แสดงความลังเลออกมา

 

ในใจของหลินหมิงแล้ว สำนักคังเฉียงแห่งนี้คืออีกครอบครัวของเขา เขาไม่กลัวตาย แต่กลัวว่าจะทำให้สำนักคังเฉียงเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น

 

ท่ามกลางแสงสว่างที่สาดออกมาจากห้องเรียน ได้สะท้อนให้เห็นถึงความลังเลบนใบหน้าของเหล่าศิษย์

 

“ได้โอกาสแล้ว !” จั่นเฟิงคิดในใจ จากนั้นก็หันไปกระซิบลัวจวินทันที  “ ไป !”

 

ตอนที่เตือนลัวจวินนั้น จั่นเฟิงได้ก้าวเท้าไปข้างหน้าแล้ว ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขา ทำให้พวกเขาสามารถพุ่งออกจากวงล้อมของพวกหลินหมิงได้ นี่คือโอกาสหนีที่เหมาะสมที่สุด ความจริงแล้ว ในบรรดาเหล่าลูกศิษย์ทั้ง 9 คน มีเพียงอู่ซินซินเท่านั้นที่สามารถไล่ตามความเร็วของพวกเขาทัน ส่วนคนที่เหลือต่อให้คิดจะไล่ตามพวกเขา ก็คงทำไม่ได้ นอกจากนี้แค่อู่ซินซินเพียงคนเดียว ก็ไม่สามารถที่จะขัดขวางพวกเขาทั้งสองคนได้

 

ลัวจวินเองก็มองหาโอกาสที่จะหนีเช่นกัน ตอนที่เห็นจั่นเฟิงเคลื่อนไหว เขาก็รีบพุ่งออกไปทันทีโดยไม่ลังเล

 

เพียงชั่วพริบตา ลัวจวินและจั่นเฟิงก็พุ่งฝ่าวงล้อมออกไปอย่างรวดเร็วดุจสายฟ้าแลบ!

 

กว่าที่พวกหลินหมิงและอู่ซินซินจะตอบสนอง มันก็สายไปเสียแล้ว!

 

หลังจากที่ทิ้งช่วงห่างจากพวกอู่ซินซินแล้ว ลัวจวินก็หยุดวิ่ง ก่อนจะหันกลับมามองแล้วพูดว่า “เด็กน้อย ความอัปยศในวันนี้ ข้าจะจดจำไว้ ! อย่าให้ข้าพบพวกเจ้า หาไม่แล้ว…”

 

“หาไม่แล้วจะทำไม?”

 

จู่ๆก็มีเสียงเอื่อยๆดังขึ้นมาขัดจังหวะการพูดของลัวจวิน

 

ตอนนี้เองประตูห้องเรียนก็ถูกเปิดออก จางหยูยืนกอดอกอยู่ที่หน้าประตูด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ขณะมองไปที่ลัวจวินและจั่นเฟิง เสื้อคลุมสีม่วงบนตัวของจางหยูสะท้อนกับแสงไฟจนเกิดเป็นแสงสว่างที่ดูน่าเกรงขามและลึกลับขึ้นมา  

 

ด้านหลังของจางหยู มีอู่โม่ที่ยืนมองพวกเขาราวกับมองคนโง่อยู่

 

ความจริงแล้วจางหยูรู้สิ่งที่เกิดขึ้นที่นอกห้องเรียนตั้งนานแล้ว ทว่าเขาแค่อยากจะใช้โอกาสนี้ทดสอบความแข็งแกร่งของลูกศิษย์ ดังนั้นจึงไม่รีบร้อนออกมา แต่เมื่อจั่นเฟิงและลัวจวินคิดจะหนี จางหยูไม่อาจทนอยู่เฉยต่อไปได้

 

“ จางหยู !” ลัวจวินหรี่ตาลงมองจางหยูตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วส่งเสียงฮึดฮัดออกมา “วันนี้เจ้าอาจจะโชคดี แต่ครั้งหน้าเจ้าจะไม่โชคดีแบบนี้อีก!”

 

แตกต่างจากทัศนคติที่แสนอวดดีของลัวจวินแล้ว จั่นเฟิงนั้นกลับแสดงสีหน้าที่สงบนิ่ง ในใจของเขาเกิดความสงสัยขึ้นมา “ลมปราณของเด็กคนนี้นี่มัน…” เขาไม่รู้สึกถึงลมปราณในตัวของจางหยูเลยด้วยซ้ำ

 

แปลก !

 

แปลกเกินไปแล้ว !

 

ปกติแล้ว มีแค่สองกรณีเท่านั้นที่เขาไม่สามารถรู้สึกถึงลมปราณจากตัวคนอื่นได้ หนึ่งก็คือคนคนนั้นไม่สามารถก้าวเข้าสู่เส้นทางผู้บ่มเพาะได้ ส่วนอีกหนึ่งก็คือคนคนนั้นมีระดับการบ่มเพาะที่สูงกว่าตัวเอง!

 

จางหยูเป็นคนธรรมดางั้นรึ ?

 

ไม่ใช่อย่างแน่นอน !

 

คำตอบมันชัดเจนอยู่แล้ว !

 

“ เจ้าโง่นี่!” จั่นเฟิงเหลือบมองลัวจวินที่ยังคงหาเรื่องจางหยูอยู่ และอดไม่ได้ที่จะก่นด่าขึ้นมาในใจ เขาสาบานว่าชั่วชีวิตนี้เขาจะไม่ร่วมงานกับลัวจวินอีกต่อไป “ไม่รู้ว่าไอ้โง่นี่ สามารถบ่มเพาะมาถึงขอบเขตฉีซวนขั้นที่9 ได้ยังไง”

 

ถ้าลัวจวินไม่ใช่ลูกชายของเจ้าสำนักหยุนซาน ลัวเยว่ซานล่ะก็  จั่นเฟิงคงทิ้งอีกฝ่ายไปนานแล้ว

 

จั่นเฟิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ขณะที่คอยระวังจางหยู เขาก็พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “พอได้แล้วลัวจวิน นี่ยังอับอายไม่พองั้นรึ? ถ้าเจ้ายังไม่รีบออกจากที่นี่ล่ะก็ ข้าจะทิ้งเจ้าซะ!”

 

“กลัวอะไร ? ไม่ใช่ว่าพวกนั้นไล่ตามพวกเราไม่ทันรึไง ?” ลัวจวินพูดขึ้นมาอย่างภูมิใจ ดูเหมือนว่าเขาจะลืมเรื่องน่าอายก่อนหน้านี้ไป และเริ่มกลับมามั่นใจตัวเองอีกครั้ง

…

จางหยูไม่ได้สนใจจั่นเฟิงและลัวจวิน เขาหันกลับมามองหลินหมิง อู่ซินซิน และคนอื่นๆด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “เวลาช่างผ่านไปไวยิ่งนัก พริบตาเดียวพวกเจ้าก็มาอยู่ที่สำนักคังเฉียงได้เดือนหนึ่งแล้วรึ ? ระหว่างนี้ข้ามัวแต่สอนทักษะในการบ่มเพาะให้กับพวกเจ้า แต่กลับลืมสอนเคล็ดวิชาการต่อสู้ให้กับพวกเจ้า เอาล่ะ งั้นพรุ่งนี้ข้าจะสอนเคล็ดวิชาให้กับพวกเจ้าอย่างหนึ่ง ดังนั้นวันนี้ข้าจะสาธิตถึงความร้ายกาจของมันให้พวกเจ้าดูก่อน”

 

เมื่อได้ยินประโยคนี้ ทุกคนต่างก็ตาเป็นประกายขึ้นมา

 

“ เคล็ดวิชา? เคล็ดวิชาอะไร ?”

 

“เคล็ดวิชาของเจ้าสำนักต้องน่าทึ่งมากแน่ๆ !”

 

“บางทีมันอาจจะเป็นเคล็ดวิชาระดับเทพก็ได้!”

 

ทุกคนตื่นเต้นเป็นอย่างมาก นัยน์ตาของพวกเขาฉายแววคาดหวังออกมา

 

จางหยูหัวเราะออกมาเบาๆ “จะเป็นเคล็ดวิชาอะไรนั้น อีกเดี๋ยวพวกเจ้าก็จะรู้เอง ตอนนี้ข้าบอกพวกเจ้าได้เพียงว่า มันคือเคล็ดวิชาระดับธรรมดาขั้นกลาง ความแข็งแกร่งของมันนั้นน่ากลัวมาก มันแข็งแกร่งเกินกว่าที่พวกเจ้าจินตนาการไว้แน่!”

 

ระดับธรรมดาขั้นกลาง?

 

สีหน้าของทุกคนพลันแข็งทื่อขึ้นมา ดวงตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังก็เปลี่ยนเป็นตกตะลึง

 

“ทำไม หรือว่าพวกเจ้าดูถูกเคล็ดวิชาระดับธรรมดาขั้นกลางงั้นรึ ?” จางหยูเลิกคิ้วสูง ก่อนจะพูดเสียงจริงจังว่า “ข้าไม่ได้โม้นะ เคล็ดวิชาระดับธรรมดาขั้นกลางของข้า มันแข็งแกร่งจริงๆ!”

 

ต่อให้มันแข็งแกร่งแค่ไหน แต่มันก็แค่เคล็ดวิชาระดับธรรมดาขั้นกลางไม่ใช่หรือ ?

 

หลินหมิงหัวเราะออกมา “หึหึ หึหึ…..”

 

จางหยูมองไปที่หลินหมิงแล้วถามขึ้นมาว่า “หลินหมิง ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่เชื่อข้างั้นรึ ?”

 

“เชื่อ ข้าเชื่อทุกอย่างที่เจ้าสำนักพูดมา” แม้ปากของหลินหมิงจะพูดแบบนั้น แต่สีหน้ากลับแสดงออกว่าไม่เชื่อ เขายังคิดว่าเจ้าสำนักคงหยอกล้อพวกเขาเล่น

 

“พวกเจ้า…เฮ้ออ ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าหลบไปก่อน” จางหยูส่ายหน้าแล้วโบกมือ “สองคนนั่นปล่อยให้ข้าจัดการเอง”

 

เขาเงยหน้ามองจั่นเฟิงและลัวจวิน จากนั้นก็ยิ้มออกมา “จั่นเฟิง ลัวจวิน ใช่รึไม่ ? พอดีเลย ข้าเพิ่งพัฒนาเคล็ดวิชาระดับธรรมดาขั้นกลางขึ้นมา ดังนั้นพวกเจ้ามาทดสอบพลังของมันหน่อย หากพวกเจ้าสามารถรับมือกับมันได้ พวกเจ้าก็จะไม่ตาย และข้าก็จะปล่อยพวกเจ้าไป แต่ถ้าพวกเจ้าตาย ก็อย่าได้ตำหนิที่ข้าไม่ให้โอกาสพวกเจ้า”

 

“เคล็ดวิชาระดับธรรมดาขั้นกลาง?” ลัวจวินรู้สึกราวกับว่ากำลังโดนดูถูกอยู่ จึงตะโกนออกมาราวกับคนบ้าว่า “เด็กน้อย อย่ามาดูถูกพวกเรานะ! เชื่อรึไม่ว่าข้าสามารถฆ่าเจ้าได้ด้วยการตบเพียงครั้งเดียว !”

 

คิ้วของจั่นเฟิงขมวดหนักขึ้นไปอีก เขากระซิบขึ้นมาว่า “อย่าใจร้อน ข้ามองการบ่มเพาะของเขาไม่ออก! อีกอย่าง บางทีเขาอาจจะแค่อยากถ่วงเวลาไว้ เพื่อให้เด็กพวกนั้นมาล้อมพวกเราก็ได้!”

 

เขาไม่เคยรู้สึกเหนื่อยขนาดนี้มาก่อน ไม่ใช่แค่ต้องคอยระวังพวกจางหยูเท่านั้น แต่ยังต้องคอยห้ามไม่ให้ลัวจวินทำอะไรโง่ๆอีกด้วย

 

ถ้าเขาไม่รู้ฐานะของลัวจวินล่ะก็ เขาคงสงสัยว่าชายคนนี้ถูกส่งมาจากฝ่ายตรงข้ามไปแล้ว

 

เมื่อได้ยินแบบนั้น ลัวจวินก็เหงื่อตกขึ้นมา “ ใช่แล้ว ข้าลืมพวกปีศาจน้อยพวกนั้นไป !” เขาไม่ได้กลัวจางหยู แต่เขากลัวพวกหลินหมิง เพราะเขาทนรับการโจมตีจากพวกนั้นมาแล้ว จนเกือบต้องเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่

 

เขามองไปที่พวกหลินหมิงด้วยความแค้น ก่อนจะพูดขึ้นอย่างไม่ลังเลว่า “ ไปกันเถอะ !”

 

เมื่อเห็นว่าลัวจวินเลิกหัวรั้น และยอมจากไปแต่โดยดี จั่นเฟิงก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา “ในที่สุดข้าก็จะได้กลับเสียที มันไม่ง่ายเลย !” มีแต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่า เขาเปลืองความคิดไปมากแค่ไหน

 

เมื่อเห็นจั่นเฟิงและลัวจวินกำลังจะออกจากสำนัก  หลินหมิงและคนอื่นๆก็กังวลขึ้นมา  “ เจ้าสำนัก !”

 

จางหยูก้าวเท้าออกไปอย่างไม่รีบร้อน พลางหัวเราะออกมา “ ไม่ต้องกังวล พวกเขาหนีไม่พ้นหรอก !”

 

เมื่อพูดจบ ร่างของจางหยูก็เริ่มพร่ามัว ก่อนจะหายไปจากสายตาของทุกคน พร้อมกันเสียงดัง “ฟิ้ว”

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "ตอนที่  20 : คู่หูสมองหมู"

4.2 5 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

เทพสงครามสายเลือดมังกร
เทพสงครามสายเลือดมังกร
มีนาคม 12, 2022
ชีวิตจริงเสมือนฝัน
ชีวิตจริงเสมือนฝัน
มีนาคม 12, 2022
คัมภีร์มัจจุราช
คัมภีร์มัจจุราช
มีนาคม 12, 2022
กินอาหารผ่านโลกเกม
กินอาหารผ่านโลกเกม
มีนาคม 12, 2022
เถ้าแก่ขั้นเทพ!
เถ้าแก่ขั้นเทพ!
มีนาคม 12, 2022
วงกตปริศนาแห่งดวงจันทร์
วงกตปริศนาแห่งดวงจันทร์
มีนาคม 12, 2022
Tags:
นิยายลิขสิทธิ์
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz