ระบบรีสอร์ทเจ้าสัว - ตอนที่ 11 การเสี่ยงโชค
ตอนที่ 11 การเสี่ยงโชค
ตัวที่สองที่เขาเลือกจะทำวิดิโอนั้นก็คือ เจ้าส้ม ตราบใดที่เขามีอะไรให้มันกิน มันก็จะยอมทำทุกอย่างตามที่เขาบอกอย่างให้ความร่วมมือและกระบวนการถ่ายทำก็ผ่านไปได้อย่างราบรื่น
หลังจากถ่านยวิดิโอของเจ้าส้มเสร็จเขาก็ได้ยินเสียงหมาเห่าจากตรงด้านนอกประตูทางเข้า หลี่หยางหันไปมองทางเจ้าหมาวแค่ก็พบว่ามันไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว เขารีบหยิบโทรศัพท์และวิ่งออกไปยังด้านนอกของโรงแรม และก็ได้พบเจ้าหมาวกำลังนั่งยองๆอยู่บนคานหน้าโรงแรม
ข้างใต้คานหน้าโรงแรมหลี่หยางก็พบกับหมากำลังเห่าใส่กันกับเจ้าหมาว เสียงเห่าทั้งหมดที่เขาได้ยินนั้น มันมาจากเจ้าหมาวกับหมาตัวนี้นี่เอง
หลี่หยางรู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้เล็กน้อยที่เขาไม่สามารถบันทึกวิดิโอได้ทัน ในขณะที่เขากำลังจะเก็บโทรศัพท์เขาก็ได้ยินเสียงเจ้าหมาวเห่าสองสามครั้ง มันไม่สำคัญว่ามันจะเปิดปากกว้างแค่ไหน แต่เมื่อปากของมันปิดลง เจ้าหมาที่เห่าอยู่ตอนแรกนั้นก็มองดูอย่างตกตะลึง หลี่หยางเดาว่ามันคงจะรู้สึกว่าเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กัน
ตอนนี้มันนั่งมองเจ้าหมาวอย่างนั่งเงียบ
ดูเหมือนว่าเจ้าหมาวจะภูมิใจกับการกระทำของตัวเอง มันเริ่มที่จะเห่าอีกรอบ เจ้าหมาเริ่มก้าวถอยหลังเล็กน้อยด้วยความตกใจ และเริ่มเห่ากลับด้วยเสียงที่อ่อนแอกว่า แต่เจ้าหมาวไม่สนใจ มันยังคงเห่าใส่เจ้าหมาอย่างไม่ลดละ
หลี่หยางรู้สึกดีใจกับเรื่องนี้เล็กน้อย เขาสามารถถ่ายของเจ้าหมาวที่เขาต้องการในตอนแรกได้แล้ว หลังจากนั้นเจ้าของของเจ้าหมาก็มาเห็นและได้เรียกหมาของตนเองกลับไป
“ฮ่าๆ.. หมาว ต่อไปนี้หน้าประตูแห่งนี้เป็นของแกแล้วนะ” หลี่หยางหยิบเจ้าหมาวขึ้นมาและพูดกับมัน เขาลูบหัวชมมันเล็กน้อย และเจ้าหมาวก็ดูเหมือนจะชอบที่ถูกหลี่หยางชมและลูปหัวเช่นกัน
“แกทำได้ดีมาก นี่รางวัลของแก” หลี่หยางเอาปลาตากแห้งตัวเล็กๆให้กับเจ้าหมาว
เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกอดขึ้นเมื่อครู่ เขาก็รู้สึกว่าเขาควรที่จะซื้อหมามาเพิ่มในโรงแรมซักหน่อยเพื่อกระตุ้นให้แขกได้ยินเสียงเห่าของเจ้าหมาวบ้าง และเข้าจะสามารถรับรองลูกค้าคนชราได้ด้วย มันจะทำให้โรงแรมของเขามีสีสันและความต่างเพิ่มมากขึ้น
แต่หมาพันธุ์ไหนกันละที่เขาควรซื้อมาไว้ หมาที่กำลังเป็นที่แนะนำอยู่ในอินเตอร์เน็ตตอนนี้ก็คือ เอลฮา มันเป็นหมาที่มีความเป็นธรรมชาติ และร่าเริง นั่นแหละคือหมาที่หลี่หยางต้องการจะเลี้ยง
แต่เจ้าหมาตัวนี้ก็ดูเหมือนจะไม่ชอบเห่า มันชอบที่จะหอนซะมากกว่า “ดูเหมือนว่าฉันจะต้องขอผ่าน” สำหรับหมาตัวอื่นๆที่เขาดูนั้นมันเป็นสุนัขลากเลื่อนมันขึ้งมีขนาดใหญ่และเลี้ยงยากเกินไปสำหรับเขา เขาจึงไม่คิดจะเลี้ยงมัน
หลังจากที่หลี่หยางคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่นานเขาก็ได้นึกถึงสุนัขที่เหมาะสมกับโรงแรมของเขาออก ในด้านการแสดงออกมันไม่ได้ด้อยไปกว่าเอลอาเลย และมันก็นับเป็นสุนัขขนาดกลาง มันคือ หมาพันธุ์ชิบะ
หลี่หยางมองไปยังราคาของระบบร้านค้า ลูกหมาชิบะมีราคาถูกที่สุดคือ 2,000 หยวน ส่วนตัวที่ฉลาดและโตเต็มวัยมีราคาอยู่ที่ 10,000 หยวน
“มันคงดีกว่าที่จะรีบเอาพวกมันทั้งหมดมาอยู่ด้วยกัน พวกมันจะได้รีบปรับตัวเข้าหากันได้ง่ายๆ” หลี่หยางตัดสินใจกดซื้อทันทีหลังจากคิดอยุ่ชั่วครู่
หลังจากนั้นเขาก็วางโทรศัพท์ไว้และเริ่มนำเอาวิดิโอมาตัดต่อและแก้ไข
เมื่อเขาแก้ไขตัดต่อวิดิโอของเจ้าส้มเสร็จ เขาก็ตัดสินใจอัปโหลดคลิปลงบนอินเตอร์เน็ต โดยการใส่เพลงประกอบกับเสียงเอฟเฟคฮาๆ และใส่ข้อมูลที่ตั้งของโรงแรมในโพสและกดคลิกเผยแพร่
เมื่อเผยแพร่วิดิโอของเสร็จ หลี่หยางก็เริ่มจินตาการถึงเสียงตอบรับจากคลิปของเจ้าส้ม เขาจะต้องได้รับยอดไลค์เป็นแสนและแฟนคลับมาในจำนวนมากแน่นอน
อย่างไรก็ตามจินตนาการก็คือจินตนาการ…
หลี่หยางกดรีเฟรชทุกๆสิบวินาทีเพื่อเช็คเสียงตอบรับของผูเคน แต่อัตราการตอบรับมันก็ช้ามาก มันเพิ่มขึ้นอยู่แค่ในจำนวนหลักหน่วย สำหลับข้อคิดเห็นนั้น มันก็มีเพียงแต่เพื่อนๆของเขา
ในวันที่สองเสียงตอบรับก็หยุดนิ่ง
เมื่อเห็นดังนั้นหลี่หยางก็รู้สึกท้อแท้เล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ท้อถอย เขายังคงเชื่อมั่นในกลยุทธของเขาว่าหากเขาอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ เขาก็จะสามารถได้รับคำแนะนำและโอกาสในการเผยแพร่ข้อมูลที่มากขึ้น
ตราบใดที่คุณรักษาเสถียรภาพในการอัปเดตข้อมูลที่มีคุณภาย มันก็สามารถที่จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในเชิงคุณภาพด้วยเช่นกัน
ดังนั้นหลี่หยางจึงลงมือแก้ไขอัปเดตวิดิโออย่างระมัดระวัง หลังจากผ่านไปหนึ่งวัน เขาก็เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น แต่ยอดรับชมมันก็ยังไม่เยอะมาก มันยังอยู่แค่ในหลักพัน
เมื่อถึงวันจันทร์หลี่หยางก็ไปขอใบอนุยาติประกอบธุรกิจ ระหว่างรอต่อคิว หลี่หยางก็ทำการอัปโหลดวิดิโอของเม่ยเม่ยและออสก้าลงบนเน็ต
ในช่วงสองวันที่ผ่านมา หลี่หยางก็ยุ่งอยู่กับการเดินเรื่องขออนุญาติเปิดโรงแรมจนในที่สุด หลี่หยางก็สามารถที่จะเปิดโรงแรมของเขาได้อย่างเป็นทางการ
เมื่อหลี่หยางได้ทำขั้นตอนขั้นสุดท้ายเสร็จเขาก็ได้ยินเสียงระบบแจ้งเตือนขึ้นมาว่าเขาได้ทำภารกิจในขึ้นแรกเสร็จและ และต้องการที่จะรับรางวัลเลยหรือไม่
หลี่หยางไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขากดรับรางวัลทันที ในเวลาเดียวกัน คำแนะนำเกี่ยวกับทักษะการฝึกแมวก็เด้งขึ้นมาในหน้าจอดทรศัพท์ของเขา
สกิล : ทักษะการฝึกแมว
วิธีการใช้งาน : มองไปยังแมวที่เป็นเป้าหมายและ*ร้องเพลง* “มาเรียนรู้การเป็นแมวกันเถอะ เหมียว เหมียว เหมียว เหมียว เหมียว!” ในเวลาเดียวกันให้เต้นซ้ำสามครั้ง สามารถดูวิดิโอการสอนเต้นได้
*Learn To Meow (Official EDM Ver.)*
มุมปากของหลี่หยางกระตุกเล็กน้อย เขากำลังสงสัยว่าไอ้ทักษะนี่มันคืออะไรกัน
ให้ฉันร้องเพลงอย่างนั้นหรือ แค่คิดถึงมันก็ซาบซึ้งในใจแล้ว
“นี่มันจริงจังไหมเนี่ย ถ้าฉันทำแบบนี้ฉันจะไม่ถูกแมวมองว่าโง่รึไงกัน”
ท้ายที่สุดหลี่หยางก็ตัดสินใจที่จะทนทำไป เพราะยังไงซะทักษะนี้มันก็เป็นประโยชน์มากกจริงๆ
เขาจะไม่ต้องใช้อาหารล่อพวกมันอีกต่อไป สิ่งที่เขาต้องทำก็มีแค่ฝึกร้องเพลงและซ้อมเต้นก็เท่านั้น
ระบบจะสร้างการสะกดจิตที่ยอดเยี่ยมกับเหล่าแมวเพื่อทำให้พวกมันเข้าใจในเจตนาของเขา
หากคุณสามารถฝึกมันและทำสัญลักษณ์กับมัน เมื่อมันเห็นสัญลักษณ์นั้นมันก็จะสามารถที่จะทำตามคำสั่งของคุณได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องร้องเพลง
“เพื่อผลประโยชน์เหล่านี้ ฉันจะแบกรับปัญหาเหล่านี้ไว้เอง” หลี่หยางเลือกที่จะยอมทำตามความต้องการของระบบ แม้ว่าวิธีนั้นจะเป็นอะไรที่ทำให้เขาต้องอับอาย แต่อย่างน้อยมันก็จะมีแค่แมวเท่านั้นที่เห็นเขาทำอะไรแบบนี้
“ทีนี้มองลองดูระบบลอตเตอรี่กันดีกว่า” หลี่หยางรอคอยโอกาสนี้มาอย่างยาวนาน ตอนนี้เขาอยากรู้ใจจะขาดว่าเขาจะสุ่มได้อะไร
เขากดเข้าสู่ระบบลอตเตอรี่อย่างรวดเร็ว มันดูเป็นแพลตฟอร์มที่ไม่ค่อยอลังเท่าไหร่ แต่หลี่หยางก็ยังคงมีความหวังอย่างเต็มเปี่ยม
เขากดปุ่มเสี่ยงโชคอย่างรวดเร็ว กงล้อเริ่มหมุนและไปหยุดอยู่ที่ช่องๆหนึ่ง หลี่หยางรู้สึกประหม่าเป็นอย่างมาก
เสียงของระบบดังขึ้นและประกาศว่า “ขอบคุณที่เข้าร่วม”
“นี่มันเหี้ยอะไรเนี่ย มันมีรางวัลที่ไม่มอบเหี้ยอะไรให้ด้วยหรอวะเนี่ย
หลี่หยางรู้สึกหมดศรัทธาในระบบนี้ และเขาก็เลิกรู้สึกขอบคุณระบบที่ให้โอกาสเขา 3 ครั้งในการเสี่ยงโชค หลี่หยางกดเสี่ยงดูอีกครั้ง
ระบบก็ขึ้นว่า “ขอบคุณที่เข้าร่วม”
“ไอ้******เอ้ย” หัวใจของหลี่หยางเย็นเฉียบ เขาเดาว่าไอ้ระบบนี้มันจะต้องล็อคผลไว้แล้วแน่ๆเลยเมื่อเขารู้แบบนั้นเขาก็เริ่มที่จะสงบใจได้
แต่เมื่อเขาได้เห็นผลลัพธ์ในครั้งนี้มันก็ทำให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย
“ติ้ง.. ขอแสดงความยินดีด้วย คุณได้รับการ์ดความงานเป็นของรางวัล”
“การ์ดความงาม?” หลี่หยางรีบดูรายละเอียดของการ์ดในทันทีและเมื่ออ่านเสร็จมันก็ทำให้หน้าของเขาเบ่งบานด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข
“ฉันพอแล้วกับไอ้ระบบเวรนี่ นี่มันแย่เกินไปสำหรับฉัน มันมีเพียงแค่สิ่งนี้สิ่งเดียวเท่านั้นที่มีประโยชน์กับฉัน”
ตามคำอธิบายของระบบ มันบอกวาสการ์ดความงามนี้สามารถช่วยผู้ใช้ในการปรับปรุงโครงสร้างหน้าตาที่บกพร่องของเขาได้ คล้ายๆกับแอพแต่งรูปแต่แทนที่มันจะมีผบแค่ในรูปภาพ การ์ดความงามสามารถที่จะนำไปใช้กับร่างกายได้โดยตรงเหมือนกับการทำศัลยกรรม มันจะคงอยู่อย่างถาวรเหมือนกับเขาเกิดมาหน้าตาแบบนี้
อ่านก่อนใครได้ที่ เพจ FB : นอนน้อยโนเวล