ระบบรีสอร์ทเจ้าสัว - ตอนที่ 3 ฉันจะเริ่มทำธุรกิจ
ตอนที่ 3 ฉันจะเริ่มทำธุรกิจ
เมืองที่หลี่หยางอาศัยอยู่นั้นเรียกว่าเมือง จินฉั่ว ซึ่งเป็นเมืองอันดับที่ 4 ของทางตอนเหนือ ครอบครัวของเขาอยู่ในเขตชานเมือง ดังนั้นหลี่หยางจึงไม่ได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่ของเขา แต่อาศัยอยู่ในบ้านเช่าคนเดียว
เมื่อเขากลับถึงบ้านเช่า หลี่หยางก็เริ่มคิดเรื่องแผนของเขาต่ออย่างรอบคอบ แต่เมื่อคิดถึงความจริงที่เขาไม่สามารถปกปิดพ่อกับแม่เรื่องลาออกได้ เขาจึงเลือกจะโทรหาพ่อแม่แล้วอธิบายทุกอย่างตามความเป็นจริง
โดยธรรมชาติแล้ว เขาไม่สามารถจะบอกพ่อแม่เกี่ยวกับระบบนี้ได้ เขาจึงบอกพ่อแม่ไปว่าเขาต้องการจะเริ่มต้นธุรกิจกับเพื่อนของเขา เขาจึงเลือกที่จะลาออก
แม่นั้นเคารพการตัดสินใจของหลี่หยางเสมอ แม้ว่าเธอจะรู้สึกเสียดายที่ลูกของเธอต้องทิ้งงานที่มั่นคงเช่นนี้ไป แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร กลับกันพ่อของเขาเมื่อได้ยินเรื่องการลาออกของหลี่หยาง เขาก็โกรธขึ้นมาทันที “นี่แกคิดจะปิดบังฉันใช่ไหม แกคิดว่าการเริ่มต้นธุรกิจมันง่ายนักรึไง มากับฉันแล้วกลับไปทำงานซะ”
“พ่อ..” หลี่หยางหยุดพูดเล็กน้อย ก่อนจะเรียบเรียงคำพูดใหม่ “พ่อพูดมาตลอดนี่ว่าพ่อไม่อยากให้ผมเป็นเหมือนกับพ่อ พ่อต้องเห็นผู้คนมากมายดิ้นรนจะมีชีวิต นั่นทำให้พ่อส่งผมมาเรียนมหาลัย แต่ชีวิตของผมตอนนี้มันก็ไม่ได้ต่างไปจากพ่อเลย นี่มันไม่ใช่ชีวิตที่ผมต้องการ!”
คำพูดของเขาทำให้พ่อของเขาเงียบลง พ่อเขาอยากจะพูดอะไรบางอย่างแค่หลี่หยางก็พูดขัดขึ้นมาก่อน “พ่อ ครั้งนี้ผมขอเอาแต่ใจซักครั้งได้ไหม ผมไม่ใช่เด็กที่พึ่งเรียนจบนะ ผมตัดสินใจอย่างรอบคอบเป็น ผมยังหนุ่ม ผมไม่อยากจะปล่อยโอกาสนี้ไป ผมไม่อยากจะที่จะต้องมานั่งเสียใจ โปรดเชื่อใจผมซักครั้ง ครั้งนี้ผมจะทำอะไรบางอย่างที่จะต้องสร้างชื่อเสียงให้พ่อแม่ภูมิใจได้อย่างแน่นอน”
หลังจากพูดจบหลี่หยางก็วางสายโดยไม่รอฟังคำตอบของพ่อเขา จมูกของเขาเหมือนจะเจ็บนิดหน่อย เพื่อที่จะพูดความจริงกับพ่อและแม่ของเขา เขารู้ว่าทั้งคู่จะต้องโกรธและเสียใจแต่มันก็ยังทำให้หลี่หยางรู้สึกอึดอัดเช่นเดียวกัน
เขาเป็นคนกตัญญูมาก และไม่ต้องการให้ทั้งพ่อและแม่กังวลเกี่ยวกับเรื่องของเขา เพราะฉะนั้น ในครั้งนี้เขาจึงต้องทำลายชีวิตเก่าของเขาลงและเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้สำเร็จให้ได้
“ปล่อยให้เวลามันพิสูจน์ทุกสิ่ง นี่คือโอกาสที่พระเจ้ามอบมาให้กับฉัน ฉันจะต้องไม่พลาดมันอย่างเด็ดขาด”
หลังจากจัดการกับอารมณ์ของเขาเสร็จ หลี่หยางก็หยิบโทรศัพท์ของเขาและกดเปิดแอพ ผู้ประกอบการรีสอร์ท จากนั้นกดไปที่หน้าต่างภารกิจ หน้าอินเตอร์เฟซนั้นแสดงให้หลี่หยางเห็นถึงประเภทของโรงแรมในทันที
หลี่หยางมองดูโรงแรมแต่ละประเภทอย่างละเอียดและคิดเปรียบเทียบอย่างจริงจังว่าแบบไหนดีกว่ากัน
แต่พูดกันตามตรงแล้ว ความคิดของเขาตอนแรกนั้นคือ สถานที่พักนี่มันอะไรกัน ที่นอน,อาหารเช้าและมันคล้ายกับโรงแรม แต่มันก็ดูไม่ใช่สถานที่ๆคนจะมาพักกัน
โรงแรมนี้ดูเหมือนจะอยู่มาเป็นเวลานานแล้ว ถ้าเขาไม่เคยดูรายการ “โรงแรมที่รัก” มาก่อน เขาก็คงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโรงแรมนี้ยังเปิดอยู่
“และเนื่องจากฉันวางแผนว่าจะเปิดโรงแรมขนาดเล็ก ฉันจึงต้องเข้าใจการจัดการบริหารโรงแรมขนาดเล็กซะก่อน”
เมื่อคิดได้อย่างนั้น หลี่หยางจึงเริ่มตรวจสอบหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตอย่างรอบคอบ แต่ก็พบเพียงข้อมูลผิวเผินและข้อมูลทั่วไป ที่ไม่ค่อยจะมีประโยชน์เท่าไหร่
ตามความเป็นจริง ข้อมูลโรงแรมที่เขากำลังดูอยู่ในตอนนี้ การตกแต่งของมันเหมือนหลุดมาจากวรรณกรรมและเต็มไปด้วยความเป็นศิลป์ เพื่อที่จะสร้างบรรยากาศในสถานที่แห่งนี้ โรงแรมขนาดเล็กแบบนี้นั้นให้ความรู้สึกเหมือนกับอยู่ในเมืองโบราณ แต่โรงแรมนี้มันค่อนข้างโน้มเอียงไปทางเมืองโบราณมากกว่าความเป็นศิลปะ
นอกจากนี้โรงแรมขนาดเล็กหลายแห่ง ยังมีลักษณะเฉพาะตัว เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะ นี่คือเหตุผลที่ระบบให้สิทธิ์หลี่หยางในการเลือกประเภทของสถานที่พัก เพื่อให้เขาได้กำหนดกลุ่มเป้าหลายลูกค้าของเขาเองในอนาคต
“อันไหนดีกว่ากันกันแน่นะ” หลี่หยางรู้สึกว่าตอนนี้เขากำลังใช้ความคิดอย่างรอบคอบเหมือนกับตอนที่เขากรอกข้อมูลอาสาสมัครสมัยยังอยู่มหาลัยเลย เพราะการตัดสินใจทุกครั้งของเขานั้นหมายถึงอนาคตที่จะแตกต่างไปจากเดิมเช่นกัน
เมื่อลองคิดเกี่ยวกับมันเขาก็ได้ลองจินตนาการว่าถ้าเขาเป็นนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาที่พักอยู่ และตัวเลือกแรกที่เขานึกถึงคืออะไร คำตอบก็คือ
“โรงแรมสัตว์เลี้ยง”
หลี่หยางได้คำตอบในใจทันที ตัวเขานั้นชอบสัตว์ขนาดเล็กมาก เขาเลี้ยงทั้งแมวและหมาตั้งแต่ยังเด็ก และเมื่อไม่นานมานี้เขาก็พึ่งจะวางแผนที่จะเลี้ยงแมวเพื่อมาเป็นเพื่อนคู่ใจ ไม่อย่างนั้นเขาคงจะต้องกลับมาถึงห้องแล้วอยู่อย่างเหงาๆคนเดียวทุกคืน
หลี่หยางนั้นรู้สึกเหมือนเขาสามารถตัดสินใจแทนกลุ่มเป้าหมายได้และมันก็มีคนมากมายที่ชอบในสัตว์เลี้ยง ในความเป็นจริงมันมีหลายเคสมากที่ประสบความสำเร็จเช่น คาเฟ่แมว คาเฟ่หมา มันจะต้องไปได้สวยแน่นอนในการเปิดโรงแรมสัตว์เลี้ยง
ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนเขาจะรู้เกี่ยวกับจิตวิทยาของกลุ่มลูกค้าที่ชอบสัตว์เลี้ยงดีกว่ากลุ่มลูกค้าประเภทอื่นๆ เพราะยังไงซะเขาก็เป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายของตัวเอง
เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว หลี่หยางก็กดเลือกไปที่โรงแรมธีมสัตว์เลี้ยงในทันที และพบว่ามันยังคงมีหมวดหมู่แยกย่อยอีกในนั้นเช่น โรงแรมแมว โรงแรมหมา โรงแรมสัตว์เลื้อยคลาน โรงแรมโง่ๆ โรงแรมนกแก้ว โรงแรมโทโทโร่ โรงแรมหนูแฮมสเตอร์ ฯลฯ
หลี่หยางเลือกโรงแรมแมวโดยไม่ต้องคิด หลังจากกดตกลง เสียงประกาศของระบบก็ดังขึ้น “ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ สำหรับความสำเร็จในการคัดเลือก และเริ่มภารกิจในขั้นต่อไป ขอให้โฮสต์สนุกกับความท้าทายที่รออยู่”
ในขณะเดียวกันอินเตอร์เฟซบนหน้าจอโทรศัพท์ของเขาก็ขึ้นว่า
————————————————————
“ขั้นตอนแรกของภารกิจ : การเปิดโรงแรม
ข้อจำกัดของภารกิจ : โรงแรมแห่งนี้จะต้องมีลานกว้างล้อมรอกอาคาร ห้องพักอย่างน้อย 5 ห้องและพื้นที่รับรองส่วนรวมหรือห้องล็อบบี้ที่ชั้นหนึ่ง และต้องมีพื้นที่โดยรวมไม่น้อยกว่า 200 ตารางเมตร
แมวอย่างน้อย 10 ตัวเข้ามาพักในโรงแรม
ข้อจำกัดราคาห้อง : 1,000 หยวน/คืน
รางวัลจากภารกิจ : โอกาสเสี่ยงโชค 3 ครั้ง, ทักษะการฝึกแมว +50,การแบ่งรายได้ 50/50, เพิ่มขอบเขตอำนาจในการใช้งานระบบ
หมายเหตุ : 1. แมวสามารถหาซื้อได้จากระบบร้านค้า และโฮสต์สามารถเลือกแมวหรือสัตว์เลี้ยงตัวอื่นในการจับคู่ได้
2. สามารถเลือกการตกแต่งที่เสร็จสมบูรณ์แล้วได้โดย เลือกที่แอพ และไปที่ฟังก์ชั่นการตกแต่งด้วยคลิกเดียว เพื่อฟังก์ชั่นที่มากกว่านี้โฮสจะต้องค้นหาด้วยตัวเอง
คำแนะนำของระบบ : ควรเปิดโรงแรมในเมืองที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงด้านมรดกวัฒนธรรม และแนะนำให้ใช้ระบบผู้ช่วยร้านค้าในระยะแรก
—————————————————————————-
หลี่หยางมองทุกคำบนหน้าจอโทรศัพท์ของเขาอย่างจริงจัง เขารู้สึกว่านี่มันไม่ใช่ข้อมูลน้อยๆเลย แต่ระบบการซื้อแมวในระบบร้านค้ากับฟังก์ชั่นการตกแต่งด้วยคลิกเดียวนั้นก็เป็นไปตามที่เขาคาดเดาเอาไว้
“ระบบนี้น่าทึ่งจริงๆ ด้วยระบบนี้ฉันไม่จำเป็นต้องกังวลปัญหาอื่นนอกจากปัญหาจากภายนอกเลย”
แต่สิ่งที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่านั้นก็คือ ทักษะในการฝึกแมว ที่เป็นรางวัลจากภารกิจของระบบ
ไม่ต้องคิดถึงเรื่องอื่นอีกเลย เพราะแค่ทักษะการฝึกแมวอย่างเดียวก็สามารถช่วยเขาในการจัดการปัญหาเกี่ยวกับแมวในอนาคตได้ และมันจะดีมากถ้าเขาสามารถฝึกกายกรรมแมวได้ ถ้าคุณสามารถฝึกแมวได้เป็นอย่างดี คุณอาจจะสามารถทำให้แมวมีชื่อเสียงและทำให้โรงแรมของคุณมีชื่อเสียงในอินเตอร์เน็ตจนแทบลุกเป็นไฟตามก็ได้
หลี่หยางเริ่มมีแนวทางความคิดในการพัฒนาโรงแรมของเขาอย่างรวดเร็ว หลังจากเขาได้ทำงานเกี่ยวกับบริษัทสื่อออนไลน์นั้น เขาก็ได้เข้าใจถึงพลังอำนาจของโลกอินเตอร์เน็ตเป็นอย่างดี
“แต่ว่านะ ไอ้ค่าห้อง 1,000 หยวน/คืน.. พระเจ้าช่วย! นี่มันจะไม่เกินราคาของคนธรรมดาเกินไปหน่อยเหรอ”(ประมาณ 4-5 พันต่อคืน)
เงินในกระเป๋าสตางค์ของหลี่หยางได้หยุดยั้งจินตนาการของเขา เขายังคงไม่เข้าใจถึงโลกการใช้เงินของคนรวยอย่างถ่องแท้
หลี่หยางกดตรวจสอบไปยังระบบร้านค้าอีกครั้ง คราวนี้เขาสามารถเข้าดูมันได้แล้ว มันเป็นเหมือนกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ช บางอย่าง มันมีหมวดหมู่สินค้ามากมายและครอบคุมยิ่งกว่าแพลตฟอร์มใดๆที่เขารู้จัก
หลี่หยางพบกับหน้าสินค้าเกี่ยวกับแมวอย่างรวดเร็ว มันมีแมวมากมายหลายชนิด ตั้งแต่แมวบ้านๆธรรมดา ไปจนถึงแมวราคาแพง ซึ่งราคาตั้งแต่ 30,000 ถึง 300,000 หยวน แมวแต่ละตัวมีการอธิบายถึงสายพันธุ์ ,เพศ,อายุ,บุคลิกถาพและอื่นๆ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรแต่ข้อมูลรายละเอียดพวกนี้มันทำให้เขารู้สึกเข้าใจมันดียิ่งกว่าสิ่งที่มันเป้น นั่นก็คือ แมว!
ส่วนระบบลอตเตอรี่นั้นเขายังไม่สามารถเข้าได้ น่าจะเป็นเพราะเขายังไม่ได้รับสิทธิ์ในการเสี่ยงโชคมา
ตอนนี้จึงเหลือแค่เพียงคำถามเดียว
“จะเปิดโรงแรมในเมืองไหนดี?”
อ่านก่อนใครได้ที่ : นอนน้อย โนเวล